เมื่อสิ่งที่ตามองเห็นไม่เป็นอย่างที่สมองคิด ความเป็นจริงจึงอยู่เหนือการคาดเดา
ลึกลับ,ระทึกขวัญ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
กระจกเงาห้องตรงข้าม (รวมเรื่องสั้นระทึกขวัญ...หักมุมตอนจบ)เมื่อสิ่งที่ตามองเห็นไม่เป็นอย่างที่สมองคิด ความเป็นจริงจึงอยู่เหนือการคาดเดา
รวมเรื่องสั้นระทึกขวัญ...หักมุมตอนจบหลายรูปแบบ เช่น ฆาตกรรมซ่อนเงื่อน ผีและวิญญาณ โลกต่างมิติ เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด หลอกหลอน...ซ่อนผวาจนขนหัวลุก
“มันไม่ใช่ของฉันนะไอ้เนม แกอย่ามาใส่ร้าย แล้วมาหาถึงห้องมีเรื่องอะไร อย่าบอกนะว่าแม่ให้มาค้นของอะไรในกระเป๋าฉันอีก มันไม่มีหรอกน่า แค่นี้ฉันก็งงเต็มทีแล้วว่ามันมาได้ยังไง” นัทวิทย์ตอบน้องชาย ก่อนจะล้วงหยิบกล่องถุงยางอนามัยจากกระเป๋ากางเกงด้านข้างมาปาใส่หน้ามัน เจ้าตัวรีบตะครุบไว้ได้ที่ระหว่างคิ้วก่อนที่มันจะร่วงตกบนเตียงเสียก่อน
“กลิ่นสตรอว์เบอร์รีเหรอพี่ เลือกได้ดีนี่เรา สาวๆ น่าจะชอบอยู่นะ ฮ่า...ฮ่า...” ว่าพลางกลั้วหัวเราะพี่ชาย พอเห็นตาเขียวปั๊ดจ้องมาก็รีบเงียบเสียงโดยพลัน แต่ก็ยังอดอมยิ้มเล็กๆ ไม่ได้
“แล้วนั่นถือกระดาษอะไรมาอีกล่ะ แกจะมาขออะไรฉัน วันเกิดแกฉันไม่มีอะไรให้หรอกนะ มีแต่ไอ้ถุงยางในมือแก ฉันยกให้เอาไปบูชาบนหัวเตียงเลยอ่ะ” ว่าประชดก่อนจะยื่นมือไปดึงกระดาษขาวจากมือซ้ายของน้องชายขึ้นมาดู
“แหม... พี่นัทนี่รู้ทันตลอด แต่ก็ไม่เคยมีอะไรให้น้องตลอดเหมือนกัน” เพราะเป็นน้อง เนมก็เลยอยากได้ของขวัญวันเกิดจากพี่ชายสักครั้ง แม้จะรู้ว่าปีนี้ก็คงได้แห้วกลับมาแทนเหมือนเช่นเดิมทุกปี
นัทวิทย์มองดูรูปภาพโมเดลหุ่นยนต์ทรานส์ฟอร์เมอร์สภาคล่าสุดในกระดาษที่น้องชายถือเข้ามาในห้อง ก่อนจะหันกลับไปปล่อยขำก๊ากใส่หน้ามันอย่างกลั้นไว้ไม่ได้ น้ำหูน้ำตาไหลจนต้องยกมือปาดเป็นพัลวัน
ที่จริงไอ้เนมมันก็อายุน้อยกว่าเขาแค่ปีเดียวเอง ถ้าเรียกมึงกูอย่างกับเพื่อนที่อายุเท่ากันก็คงไม่แปลก แต่แม่ดันให้มันเรียกเขาว่าพี่ มันเลยมีอภิสิทธิ์หลายอย่างในฐานะน้องชาย ไม่ว่าจะจากพ่อหรือแม่ก็ตาม และตอนนี้มันก็กำลังจะมาทวงสิทธิ์นั้นจากพี่ชายอย่างเขา แล้วก็รู้อยู่แก่ใจว่ามันไม่เคยได้สิทธิ์บ้าบออะไรนั่นจากเขาไปเลยสักครั้ง
“แกก็ไปขอพ่อสิ ลูกรักอย่างแกอ้อนนิดอ้อนหน่อยก็ได้ของเล่นใหม่ไว้ผลาญเล่นแล้ว จะมาขอฉันให้ยุ่งยากทำไม” ตอบประชดแถมปฏิเสธกลายๆ เวลาที่เขาเข้าไปในห้องนอนของมันทีไร ก็ต้องหลอนจนกลัวว่าหุ่นยนต์ที่ยืนจังก้าอยู่เต็มพื้นห้องหลายสิบตัว จะกระโดดเข้ามาหักคอตายเข้าสักวัน
“ก็พ่อให้ผมมาลองขอพี่ดู เงินเก็บพี่ก็ตั้งมากมาย ของแค่นี้ซื้อให้น้องเป็นของขวัญวันเกิดสักปี ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอกน่า” น้องชายยังคงคะยั้นคะยอนัทวิทย์ไม่ยอมหยุด เหมือนเจ้าเหมียวอ้อนเจ้าของให้หาปลาทูตัวใหญ่มาให้เป็นอาหารจานโปรด
“แหม... แล้วขอของขวัญวันเกิดนี่ต้องเอารูปมาให้เจาะจงว่าเป็นอันนั้นอันนี้เลยเหรอ แบบนี้มันมัดมือชกนี่หว่า ไม่มีคิดจะตั้งตัวรับเซอร์ไพรส์จากคนให้เลยว่างั้น” พี่ชายยังคงว่าเหน็บไม่หยุด มีอย่างที่ไหน... ขอของที่ตัวเองอยากได้ในวันเกิดโดยไม่ให้คนให้ได้คิดอะไรเลย ที่จริงคนให้ต้องเป็นคนคิดเองสิว่าจะให้อะไรเป็นของขวัญ
“โธ่...พี่นัท ก็ผมอยากได้นี่นา ไม่รู้ล่ะ ปีนี้พี่ต้องซื้อให้ผม ไม่งั้นเดี๋ยวจะงอนให้ดู” เจ้าของวันเกิดงัดไม้เด็ด ไม่ใช่ว่านัทวิทย์กลัวมันงอนจริงๆ หรอก แต่เขาชักจะเริ่มรำคาญน้องชายเต็มทีแล้ว
“เออ...ก็ได้ไอ้น้อง แต่ว่าวันเสาร์นี้แกต้องเฝ้าร้านแทนฉันนะ ไอ้เฟยมันจะมาทำโครงงานส่งอาจารย์ที่บ้านเรา ฉันจะได้ช่วยมันทำด้วยเพราะอยู่กลุ่มเดียวกัน” พอเห็นช่องทางก็หาข้อแลกเปลี่ยนทันที มีหรือที่เขาจะให้ของขวัญวันเกิดมันฟรีๆ อยากได้ก็ต้องเอาอะไรมาแลกถึงจะสมน้ำสมเนื้อ
“เรื่องแค่นี้เอง วันเสาร์ผมว่างพอดี พี่ทำงานกับเพื่อนตามสบายเลย มีอะไรให้น้องช่วยก็บอกได้” น้องชายตอบพลางฉีกยิ้มกว้าง กว่าจะได้ของขวัญจากพี่ชายสักอันถึงขนาดต้องแลกด้วยชีวิต... ชีวิตอิสระที่จะได้ไปเที่ยวกับเพื่อนในวันหยุดก็เลยหายไปอีกวัน แต่เอาเถอะ แค่วันเดียวมันคุ้มกว่าเป็นไหนๆ ที่จะแลกกับของที่เขาอยากได้ในวันเกิด
“ฉันขอแกอีกอย่างนะ แล้ววันนั้นก็อย่าปล่อยแมวแกมายุ่งข้างล่างล่ะ ขังมันไว้ในห้องให้ดีเลย ไม่งั้นเดี๋ยวมันจะมาพังงานฉันเสียหายหมด แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบแมว ถ้าขืนเห็นมันมาเดินเพ่นพ่าน ระวังจะโดนจับใส่หม้อถ่วงน้ำแทนแม่นาคไม่รู้ด้วยนะ” ว่าพลางเหลือบไปมองตรงหน้าประตู เพราะเหมือนเห็นอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่รำไรในหางตา
เจ้าแมวเหมียวลายสลิดตัวเขื่องแอบย่องเข้ามาพ้นขอบประตูได้เพียงก้าวเดียว สงสัยมันจะแอบเดินตามเจ้าของมา แต่พอเห็นเจ้าของห้องผู้ไม่ชอบแมวอย่างเขาชี้นิ้วใส่ มันก็ส่งเสียงร้องกลัวเกรงอย่างรู้ทัน ก่อนจะถอยหลังไปนั่งรออยู่หน้าประตูอย่างสงบเสงี่ยม เพื่อรอเจ้าของออกมาหา เพราะถ้าขืนมันเดินมาคลอเคลียเจ้าเนมตอนนี้ มีหวังโดนเขาไล่ตะเพิดออกจากห้องทั้งคนทั้งแมว
“อย่าว่าน้องสิ น้องน่ารักจะตาย ดูสิ...พอโดนส่งสายตาพิฆาตก็ทำท่าเรียบร้อยขึ้นมาเชียว ทั้งบ้านนี่มันกลัวแต่พี่คนเดียวนะรู้มั้ย จากที่ว่าวิ่งวนรอบบ้าน พอเห็นพี่เข้าก็วิ่งหางจุกตูดไปหลบในซอกตู้เย็นตลอด” น้องชายหันไปมองเจ้าเหมียวที่นั่งรอเขาอยู่หน้าห้องพี่ชายเหมือนเด็กน้อยทำความผิดแล้วทำท่าเจียมเนื้อเจียมตัว
นัทวิทย์ยืนมองน้องชายลุกขึ้นไปอุ้มแมวแล้วเดินกลับเข้าห้องตัวเองไป แมวของเจ้าเนมเคยทำมือถือสุดโปรดของเขาตกแตกจากหลังตู้เย็นมาแล้ว จากนั้นมาเขาเลยคอยหาเรื่องเจ้าเหมียวไม่หยุด จนมันหวาดระแวงทุกครั้งที่เห็น และวิ่งหนีหายไปไหนต่อไหนทุกครั้งที่เขาจ้องมองหน้ามัน คิดเล่นๆ ว่าสักวันจะแอบเอาไปปล่อยที่ป่าช้าหลังวัดให้หาทางกลับบ้านไม่ถูกเลยทีเดียว
ก่อนเข้านอนเด็กหนุ่มยังคิดถึงเรื่องถุงยางอนามัยกล่องนั้นไม่หาย ใครนะช่างเลือกขนาดได้ถูกกับการใช้งานของเขาเสียด้วย แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน ในเมื่อเขาไม่เคยแก้ผ้าถลกกางเกงในให้เพื่อนคนไหนดูสักครั้ง หรือแม้แต่หมอก็เถอะ เคยแค่ครั้งเดียวตอนที่ไปขลิบปลายอวัยวะเพศเมื่อหลายเดือนก่อนแค่นั้นเอง
ใช่แล้ว... นัทวิทย์นึกอะไรขึ้นมาได้ ก่อนที่จะไปขลิบน้องชายตอนนั้น เขารวบรวมความกล้าอยู่หลายครั้งที่จะหอบเอาหนอนตัวเป่งๆ เพราะความเจ็บปวดไปหาพ่อเพื่อจะปรึกษาปัญหาของลูกผู้ชายกันตามลำพังสองคน แต่พอเดินไปหาทีไรก็เห็นอยู่กับแม่ตลอดเลยไม่กล้า พอเห็นโอกาสเหมาะในวันหยุดวันหนึ่ง วันนั้นแม่ไม่อยู่บ้านพอดีจึงเป็นโชคดีของเขา
ทันทีที่เขาเปิดหนอนน้อยให้ดู พ่อก็ร้องจ๊ากออกมาราวกับจะรู้สึกเจ็บแทน แล้วด่าเขาว่าทำไมไม่บอกตั้งแต่มีอาการแรกๆ จะได้พาไปหาหมอตั้งแต่เนิ่นๆ ทนเจ็บปวดอยู่ได้ตั้งนาน เขาก็ตอบไปว่าอายลูกเดียว เพราะมันคงไม่น่าภูมิใจหรอกนะ ถ้าอยู่ๆ จะไปบอกใครต่อใครว่าเขาหลบอยู่ในหลังคาบ้านของตัวเองมาตั้งนานแล้ว ไม่เคยจะได้ออกไปโชว์ตัวอยู่ข้างนอกบ้านเลยสักครั้ง
แต่พอได้พาน้องชายออกข้างนอกครั้งแรกก็โล่งอกขึ้นมาทันที ได้เจอประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ผู้ชายส่วนใหญ่ก็คงรู้สึกดีไม่แพ้กันกับเขา การทำกิจกรรมต่างๆ ก็สะดวกสบายขึ้น พ่อคงรู้ดีสินะ ถึงได้จัดการหาอะไรมาช่วยอำนวยความสะดวกให้เขาอย่างเงียบๆ เงียบขนาดที่ว่าถูกแม่จับได้คาหนังคาเขาก็ยังแถไปต่อได้ ไม่ยอมพูดความจริงว่าตัวเองเป็นตัวตั้งตัวตีให้ลูกชายมีอาวุธไว้สู้รบกับสาวๆ ยามฉุกเฉิน คงไม่รู้จะหาข้อแก้ตัวอะไรให้ลูก
เพราะตัวเองก็มีส่วนในการจัดหาวัตถุต้องสงสัยนั้นเหมือนกัน ฮ่า...ฮ่า... วิธีที่ดีที่สุดก็คือปล่อยให้เรื่องเลยตามเลยก็คงจะเข้าท่ากว่า แต่ก็ยังดีที่ช่วยเขาแก้ต่างนิดหน่อยเวลาที่ถูกแม่จับได้ตอนเย็นนี้ ที่จริงพ่อน่าจะบอกเขาสักนิดก็ยังดี จะได้ระวังตัวเอามันออกจากกางเกงก่อนที่แม่จะเอาเสื้อผ้าไปซักตามปกติ แต่ช่างมันเถอะ ถือว่าเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตก็แล้วกัน
เสียงเคาะประตูห้องนอนของนัทวิทย์ดังขึ้นอีกครั้ง ถ้าเป็นพ่อหรือแม่มาเคาะเรียกเขาจะแกล้งทำเป็นว่านอนหลับไปแล้ว ยังอายแม่อยู่ที่ถูกจับได้ว่าแอบไปซื้อถุงยางอนามัยมาใช้ตอนที่ยังเรียนไม่จบมัธยมปลาย ทั้งที่พ่อนั่นแหละแอบเอามาให้เขาใช้โดยไม่บอกไม่กล่าว ปล่อยให้เขายืนงงเป็นไก่ตาแตก ค้นหาต้นสายปลายเหตุไม่เจอกันไป และก็ยังงอนพ่ออยู่ที่ไม่ยอมช่วยลูกชายด้วยการอธิบายว่าความจริงมันเป็นยังไง ทั้งที่เป็นความผิดของตัวเอง ถึงจะยอมสำนึกผิดมาขอโทษลูกตอนนี้ก็สายไปแล้ว
รอให้เขาหายงอนก่อนนะแล้วจะยอมคุยกับพ่อ วางแผนดีนักก็ต้องให้ง้อบ่อยๆ ถึงจะหายโกรธ
(จบตอนที่ 2)