เมื่อสิ่งที่ตามองเห็นไม่เป็นอย่างที่สมองคิด ความเป็นจริงจึงอยู่เหนือการคาดเดา
ลึกลับ,ระทึกขวัญ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
กระจกเงาห้องตรงข้าม (รวมเรื่องสั้นระทึกขวัญ...หักมุมตอนจบ)เมื่อสิ่งที่ตามองเห็นไม่เป็นอย่างที่สมองคิด ความเป็นจริงจึงอยู่เหนือการคาดเดา
รวมเรื่องสั้นระทึกขวัญ...หักมุมตอนจบหลายรูปแบบ เช่น ฆาตกรรมซ่อนเงื่อน ผีและวิญญาณ โลกต่างมิติ เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด หลอกหลอน...ซ่อนผวาจนขนหัวลุก
ภูมินทร์ขับรถมาตามเส้นทางที่ปกคลุมไปด้วยฝุ่นผงของเหล่าก้อนดินลูกรัง สองข้างทางถูกเข้ายึดพื้นที่ด้วยเหล่าวัชพืชไร้ค่าในสายตาของมนุษย์ และต้นไม้ใหญ่ที่ยืนต้นเรียงรายเป็นระยะๆ เหมือนไม่มีที่สิ้นสุด
แสงไฟหน้ารถส่องกระทบกับกลุ่มฝุ่นผงที่เสนอตัวลอยขึ้นมาอย่างที่ไม่มีใครเชื้อเชิญ มองผิวเผินเหมือนอยู่ท่ามกลางกลุ่มเมฆหมอกหนาทึบในดินแดนสนธยา มีบางส่วนที่สามัคคีกันถาโถมเข้ามาในรถปะทะใบหน้าคนขับเข้าเต็ม ๆ
ชายหนุ่มรีบกดระบบกระจกอัตโนมัติให้เลื่อนปิด ก่อนจะยกมือขึ้นขยี้ตาหวังจะให้สิ่งแปลกปลอมหลุดออกไป พลางไอแค่ก ๆ เหมือนคนป่วยเป็นวัณโรค
"ให้ตายเถอะ ทำไมฉันต้องมาเช่าบ้านอยู่ในหมู่บ้านที่ทุรกันดารอย่างนี้ด้วย ในเมืองกับในป่ามันอยู่ใกล้กันขนาดนี้เลยเหรอ" ภูมินทร์อดที่จะสบถกับตัวเองไม่ได้ พลางคิดข้องใจกับสภาพแวดล้อมในเมืองที่คลาคล่ำไปด้วยตึกรามบ้านช่อง อาคารพาณิชย์ สถานประกอบการหลากหลายสาขาอาชีพ รวมทั้งแสงสว่างของไฟนีออนจับตาจับใจ จนเขาคิดว่ามันเป็นกรุงเทพฯ เสียอีก
แต่พอห่างออกมาแถวชานเมือง แม่เจ้าโว้ย... เหมือนจับรถเข้าป่าดงดิบอย่างไรอย่างนั้น ต่างกันลิบลับราวสวรรค์กับนรกเลยทีเดียว (ว่าเข้าไปนั่น)
แสดงว่างบประมาณพัฒนาประเทศของรัฐบาล ได้ถูกกักเก็บไว้ตรงส่วนนั้นหมด ที่เล็ดลอดออกมาได้ก็เป็นเพียงเสี้ยวของเศษเงินเท่านั้น
เมื่อไหร่หนอ...จะมีรัฐบาลในอุดมคติของใครหลายๆ คน ที่จะแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำของสังคมได้ตรงจุดเสียที ชายหนุ่มครุ่นคิด
ส่วนไอ้เรื่องที่ว่า จะให้เช่าบ้านหรืออยู่บ้านจัดสรรที่ใกล้ร้านถ่ายเอกสารที่เขาเพิ่งมาเปิดใหม่สดๆ ร้อนๆ ได้เพียงสามเดือนแล้วล่ะก็ อย่าเพิ่งหวังลมๆ แล้งๆ อะไรกับมันนักเลย ค่าเช่าก็แพงแสนแพง แถมสภาพอุดอู้เหมือนมุดอยู่ในพื้นที่ครึ่งหนึ่งของรูหนูยิ่งแล้วใหญ่
ดังนั้น... เขาจึงเลือกที่จะเช่าบ้านในหมู่บ้านทุรกันดารแห่งนี้
ถึงแม้มันจะดูโลโซไม่เวิลด์คลาสเอาเสียเลย แต่ในสภาพเศรษฐกิจเหี่ยวเฉาแบบนี้ ผู้ชายคนเดียวและกระเป๋าแห้งแฟบอย่างเขาคงต้องขอยอมจำนนฟ้าดินแล้วล่ะ
แสงไฟหน้ารถส่องกระทบร่างของใครคนหนึ่ง เธอสวมชุดนักศึกษากางแขนกางขายืนขวางทางอยู่
ภูมินทร์กระทืบเบรกอย่างแรงดังเอี๊ยดใหญ่ แม่หนูนั่นคงเสียสติไปแล้วที่มายืนขวางทางรถดึกๆ ดื่นๆ อยู่แถวนี้
"พี่คะ ช่วยหนูด้วย มีคนจะข่มขืนหนูค่ะ โชคดีที่หนูวิ่งหนีจากพวกมันมาได้ พี่ช่วยขับรถไปส่งหนูในเมืองได้ไหมคะ เร็วๆ สิพี่ เดี๋ยวพวกมันก็ตามมาทันหรอก" เด็กสาววิ่งมาเคาะกระจกรถ เขาเลื่อนเปิดออกแล้วรับฟังคำบอกเล่าของเธอโดยไม่ได้พูดอะไรสักคำ ลนลานรีบเปิดประตูให้เธอเป็นการใหญ่
ภูมินทร์ขับรถกลับเข้าไปในเมืองตามคำร้องขอของเด็กสาวแปลกหน้า
"มันหลอกพาหนูมาที่นี่ค่ะพี่ บอกว่าจะพามาดูของแปลก รู้ไหมคะ...พอไปถึง ไอ้ของที่ว่าแปลกน่ะคืออะไร มันถอดกางเกงออกให้หนูดูไอ้นั่นของมัน แล้วมันแปลกตรงไหนกันล่ะคะพี่ หนูเห็นมันออกบ่อยไป เอ๊ย... ไม่ใช่ คือหนูจะบอกว่า ผู้ชายคนไหนเขาก็มีเหมือนกัน ไม่เห็นแปลกเลยจริงไหมคะ" เด็กสาวเล่าให้เขาฟังอย่างออกรส เหมือนตื่นเต้นมากกว่าจะหวาดกลัวด้วยซ้ำ
ภูมินทร์แอบก้มหน้าอมยิ้ม ไม่ใช่ยิ้มเยาะที่เธอถูกไอ้บ้ากามหลอกพามาข่มขืน แต่อดขำท่าทางที่เหมือนเสแสร้งของเธอไม่ได้ต่างหาก หรือถ้าไม่อย่างนั้น เธอก็อาจจะประสบพบเจอกับเรื่องอย่างนี้มาจนชินแล้วก็ได้ คนเกิดมาสวยก็ต้องระมัดระวังมากกว่าคนไม่สวยอยู่แล้ว
คิดแล้วก็ตบศีรษะตัวเองเสียฉาดใหญ่ ไปคิดอะไรแบบนั้นกับผู้หญิงได้ยังไง เธออาจจะหวาดกลัวจนไม่รู้จะอธิบายให้เขาฟังยังไงก็ได้
"พี่เป็นอะไรไปคะ ตบหัวตัวเองทำไม" เด็กสาวถามอย่างสงสัย
"เอ่อ...คือ...คือพี่ปวดหัวนิดหน่อยน่ะครับ มันปวดตุบๆ อยู่ข้างใน จึงตบกระตุ้นมันหน่อยเผื่อจะดีขึ้น อย่างที่เขาพูดกันว่าหนามยอกต้องเอาหนามบ่งน่ะจ้ะ" ชายหนุ่มตอบตามน้ำหน้าตาเฉย ทำเอาเด็กสาวออกอาการงงเป็นไก่ตาแตก
"แล้วพวกมันไปไหนกันหมดล่ะน้อง พี่ไม่เห็นใครวิ่งตามออกมาจากในป่าเลย" ภูมินทร์ตั้งข้อสังเกต
"พี่ก็ดูป่านั่นสิคะ หนาทึบรกเรื้อออกอย่างนั้น... ลำพังหนูเองกว่าจะหาทางออกมาได้ก็แทบตาย หนูว่าตอนนี้พวกมันสามคนคงหลงอยู่ในนั้นแน่ๆ เลยค่ะ" เด็กสาวหันหน้ามาตอบภูมินทร์ ก่อนจะหันหลังชะเง้อมองข้างทางที่รถแล่นผ่านมาแล้ว
ภูมินทร์ขับรถมาใกล้จะถึงหน้าโรงพยาบาลในตัวเมือง เด็กสาวก็บอกให้เขาจอดรถตรงประตูทางเข้า บอกว่าจะเดินเข้าไปในโรงพยาบาลแล้วบอกให้พ่อมารับทีหลัง
(จบตอนที่ 1)