เมื่อสิ่งที่ตามองเห็นไม่เป็นอย่างที่สมองคิด ความเป็นจริงจึงอยู่เหนือการคาดเดา
ลึกลับ,ระทึกขวัญ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
กระจกเงาห้องตรงข้าม (รวมเรื่องสั้นระทึกขวัญ...หักมุมตอนจบ)เมื่อสิ่งที่ตามองเห็นไม่เป็นอย่างที่สมองคิด ความเป็นจริงจึงอยู่เหนือการคาดเดา
รวมเรื่องสั้นระทึกขวัญ...หักมุมตอนจบหลายรูปแบบ เช่น ฆาตกรรมซ่อนเงื่อน ผีและวิญญาณ โลกต่างมิติ เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด หลอกหลอน...ซ่อนผวาจนขนหัวลุก
เพียงแค่ขยับลูกบิดประตูเท่านั้น เขตต์กิจก็สามารถเปิดมันออกได้อย่างไม่แปลกใจนัก เพราะเขาสังเกตมาหลายครั้งแล้วว่าเจ้าของห้องนี้ไม่เคยล็อกประตูห้องเลย ไม่ว่าจะเป็นตอนกลางวันที่ออกไปทำงาน หรือแม้กระทั่งตอนกลางคืนที่ออกไปทำธุระข้างนอก
กลิ่นเหม็นอับลอยมาปะทะกับจมูกเข้าอย่างจัง จนต้องเบือนหน้าหนี ชายหนุ่มค่อยๆ กวาดสายตาไปตามพื้นห้องที่เหลือพื้นที่ว่างเพียงน้อยนิด เนื่องจากเนื้อที่ส่วนใหญ่ถูกปกคลุมไปด้วยเสื้อผ้าที่วางกระจัดกระจาย จนอยากจะเข้าไปเก็บเข้าที่ให้มันโล่งตามากขึ้นกว่านี้ แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าไม่ใช่ห้องของตัวเอง ลำพังแอบเข้ามาในห้องของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตแบบนี้ก็ไม่มีสิทธิ์แล้ว ขืนบังอาจไปจัดห้องที่รกเหมือนรังหนู ให้กลายเป็นระเบียบเรียบร้อยราวกับโรงแรมหรูระดับห้าดาว เดี๋ยวเจ้าของห้องจะรู้สึกขอบคุณจนช็อกตายไปเสียเปล่าๆ
เขตต์กิจเอื้อมมือไปกดเปิดสวิตช์ไฟที่ข้างประตูห้อง แสงวูบวาบของหลอดไฟนีออนบนเพดาน พอส่องให้เห็นสภาพห้องได้คร่าวๆ ก่อนที่แสงไฟจะดันตัวหลอดให้สว่างจ้าส่องอาบพื้นที่ในห้องนั้น ชายหนุ่มลดสายตาจากหลอดไฟลงมาตามพื้น
พลันก็เหลือบไปเห็นกระดาษนามบัตรแผ่นเล็กๆ ที่เกาะติดอยู่กับขากางเกงยีนส์ตัวหนึ่ง เขาค่อยๆ ก้มลงเอื้อมมือขวาลงไปหยิบมันขึ้นมาและใช้มือซ้ายดันปิดประตูห้อง
ที่กล้าเข้ามาในห้องของคนอื่นตอนดึกแบบนี้ เพราะก่อนหน้านี้ไม่ถึงห้านาที ตอนที่เดินสวนทางกันที่หน้าหอพัก เขตต์กิจแอบได้ยินเจ้าของห้อง คุยโทรศัพท์กับปลายสายว่าจะกลับบ้านต่างจังหวัดสามวัน ก่อนที่เขาจะขับรถยนต์บึ่งออกไป ครั้นพอเขตต์กิจเดินมาถึงหน้าห้องของตัวเอง เขาก็ทำนามบัตรที่ดึงจากเสาไฟฟ้าหน้าปากซอย หล่นจากมือลงไปบนพื้น แล้วมันก็ถูกลมพัดปลิวผลุบหายเข้าไปตรงช่องลมประตูของห้องตรงข้าม เขารู้ดีว่าเจ้าของห้องไม่เคยล็อกห้องเลย จึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปหานามบัตรใบนั้น
ให้ตายเถอะ!!! เขตต์กิจแทบไม่แปลกใจเลย ว่าทำไมไอ้หมอนี่มันถึงไม่ล็อกประตูห้องเลยตอนที่ออกไปข้างนอก เพราะสภาพห้องที่เห็นคาตาตรงนี้ แทบจะไม่มีสมบัติพัสถานอันมีค่าใดๆ พอจะให้หัวขโมยที่มันเสียเวลาเข้ามาค้นห้อง ได้อะไรไปแม้แต่ชิ้นเดียว และมันก็คงหมายความรวมถึงเขาด้วย อุตส่าห์เข้ามาถึงในห้องแล้ว พ่อก็ยังใจจืดใจดำ ไม่เหลืออะไรให้หยิบจับติดไม้ติดมือพอหอมปากหอมแม้แต่ชิ้นเดียว เอาวะ...อย่างน้อยก็ไอ้กางเกงยีนส์ตัวนี้แหละ คงขายได้หลายตังค์อยู่หรอก ว่าจบก็รีบก้มลงไปคว้ากางเกงยีนส์ตัวนั้นแล้วหมายจะเปิดประตูก้าวออกจากห้องไป
แต่ทันใดนั้นประตูห้องก็ถูกเปิดผางเข้ามาจากด้านนอก เขตต์กิจตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ซวยล่ะสิ ไหนมันบอกว่าจะไปต่างจังหวัด ไหงกลับมาเอาเสียดื้อๆ หรือเขาจะจัดการเก็บมันคาห้องนี่ซะเลย เพราะหอพักเก่าๆ ที่ทำด้วยไม้ทั้งหลังแห่งนี้ก็ไม่มีกล้องวงจรปิดอยู่แล้ว ถือว่าเข้าทางโจร แต่ถึงแม้จะมีมันก็คงใช้การไม่ได้หรอก เขาได้ยินข่าวเสมอๆ ว่ากล้องวงจรปิดมักจะเสียบ่อยๆ โดยเฉพาะตอนที่มีคนร้ายเข้ามาก่อเหตุ
"อ้าว... ไหนคุณบอกว่าจะไปต่างจังหวัดไม่ใช่เหรอคะ นึกแล้วว่าคุณต้องหลอกดาว ดาวโทรหาตามนามบัตรที่ได้จากเพื่อนดาวมาน่ะ เสียงหล่อๆ ของคุณโกหกไม่เนียนเอาซะเลย รู้มั้ยคะ... แค่ได้ยินเสียงของคุณ ดาวก็อยากเจอขึ้นมาทันที และก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ด้วย" แขกยามวิกาลเอ่ยขึ้น เมื่อเปิดประตูเข้ามาเจอคนที่อยู่ในห้อง ท่าทางของเธอดูหิวกระหายอะไรสักอย่าง จีบปากจีบคอพูดจนเขตต์กิจรู้สึกขนลุกปนสยิว
"คือ..ผม...ผม...ไม่...ไม่..." ชายหนุ่มติดอ่างขึ้นมาทันที กำลังคิดอยู่ว่าจะแก้ตัวอย่างไรดี
"แหมๆๆ ไม่ต้องพูดอะไรหรอกค่ะ ดาวให้อภัย อย่างน้อยดาวก็เจอคุณแล้วนี่ไง หล่อๆ ล่ำๆ แบบนี้ ทุ่มเท่าไหร่ดาวไม่อั้น ขอให้คุณบริการดาวให้เต็มที่แบบจัดหนักสักสามดอกทั้งคืนเลยเป็นไง" ว่าจบก็รีบปิดประตูห้อง แล้วเยื้องกรายเข้ามาจับลูบไล้ท่อนแขนอันกำยำของชายหนุ่ม จนเขารู้สึกเคลิบเคลิ้มไปตามการกระทำของเธอ
แม่เจ้าโว้ย!!! ก็นึกว่าไอ้รูปหล่อนั่นมันทำงานอะไร ที่ไหนได้ ใช้น้องชายตัวเองทำมาหากินนี่เอง มิน่ามันถึงไม่ล็อกประตูห้อง แล้วก็มีผู้หญิงแวะเวียนมาหาไม่ขาด ทั้งกลางวัน กลางคืนและกลางดึก จนเขานึกอิจฉามันมาตลอดว่าทำบุญด้วยอะไรหนอ ถึงมีสาวๆ มาให้จัดหนักไม่เว้นแต่ละวัน แล้วคราวนี้ก็ถึงบางอ้อ...
เอาวะ...มีของมาให้กินฟรีถึงที่ แถมได้เงินติดกระเป๋าใช้ไปหลายวัน ไม่เอาก็โง่แล้ว ไหนๆ ไอ้หมอนั่นมันก็ไปต่างจังหวัดแล้ว สวมรอยเป็นมันไปเสียเลย รูปร่างหน้าตาของเราก็หล่อเหลาไม่ต่างจากมันเท่าไหร่เลยนี่ เขตต์กิจคิดในใจ หรือว่าจะทำงานแบบมันดี เงินก็มีใช้ แถมได้สนุกอีกต่างหาก
หญิงสาวยามวิกาลผลักเขตต์กิจลงบนเตียงนอน กลิ่นเหม็นอับในห้องไม่อาจทำลายตัณหาราคะของคนทั้งสองได้ บทเพลงหฤหรรษ์บรรเลงอย่างเร่าร้อนในค่ำคืนดึกสงัด...
..........................................................................
เขตต์กิจมองดูเงินจำนวนหลายหมื่นบาท ที่กองวางอยู่บนเตียงนอนของเขา มันมากพอที่จะไม่ต้องให้เขาเดินลากขาเตร็ดเตร่ออกไปหางานทำ ท่ามกลางอากาศอันร้อนอบอ้าวไปได้อีกเป็นเดือนเลยทีเดียว ตราบใดที่โลกนี้มีผู้หญิง ผู้ชายทั้งหลายก็จะไม่ลำบาก เช่นเดียวกันผู้ชายนักเที่ยว ที่ยังคงหาเศษหาเลยกับผู้หญิงนอกบ้านเป็นตำนานอยู่อย่างนี้ตลอดไปไม่รู้จักจบสิ้น
นี่ก็เป็นวันที่สามแล้ว ที่เพื่อนร่วมหอพักห้องตรงข้ามของเขากลับบ้านที่ต่างจังหวัด เขตต์กิจไม่ต้องสะดุ้งตื่นทุกครั้ง ที่มีพวกผู้หญิงหลายสาขาอาชีพ ทั้งสาว แก่ แม่หม้าย มาเคาะประตูห้องไอ้หมอนั่น จนเขานับได้ว่าวันหนึ่งไม่ต่ำกว่าห้ารอบ ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นวันนี้ จนไปขึ้นอีกทีในวันต่อไป ทีแรกเขากะว่าจะลองยึดอาชีพแบบนี้ทำดูบ้าง เพราะคงได้เงินทองมาใช้ไม่ขาดมือ แต่คิดไปคิดมา เขาคงต้องหมดเรี่ยวแรง จนลุกขึ้นจากเตียงออกไปไหนต่อไหนไม่ไหวแน่ๆ
เขตต์กิจเหลือบมองดูนาฬิกาที่ผนังห้อง มันบอกเวลาเที่ยงคืนกับอีกหนึ่งนาที...
เสียงย่ำเท้าของใครบางคน ดังขึ้นจนมาหยุดอยู่ตรงหน้าห้อง เสียงเปิดประตูห้องตรงข้าม ทำให้ชายหนุ่มแง้มผ้าม่านตรงหน้าต่างห้องออกเล็กน้อยพอให้เห็นเจ้าของฝีเท้าได้ ก่อนที่ใครคนนั้นจะผลุบหายเข้าไปในห้องของตัวเอง มันจะรู้ไหมนะ...ว่าเขาแอบไปทำอะไรสนุกๆ กับลูกค้าของมันในห้องนั้น แต่คิดดูแล้ว มันคงไม่สังเกตหรือดูไม่ออกหรอกว่ามีใครเข้าไปหรือเปล่า เพราะข้าวของไม่มีค่าและเสื้อผ้าระเกะระกะเกลื่อนห้องแบบนั้น มันยิ่งกว่าถูกพวกขโมยรื้อค้นกระจุยกระจายเสียอีก ซึ่งมันยังจะดูดีกว่าสภาพห้องของไอ้หมอนั่นตอนนี้
เขตต์กิจนึกถึงวันแรกที่เขาเข้ามาอยู่หอพักนี้ ขณะหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าขึ้นมาบนชั้นสอง
"สวัสดีครับ เพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่เหรอ ผมชื่อพลกฤต… ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ" ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งทักทายเขตต์กิจ มองปราดแรกนึกว่าไปทำศัลยกรรมใบหน้าที่เกาหลีมา เพราะเขาหล่อเหลาคมเข้มเกินกว่าจะที่คิดว่าพ่อกับแม่ให้มาตั้งแต่เกิด หรือว่าเขาอาจจะไปโมดิฟาย (Modify) หน้าใหม่มาเพื่อหนีคดีร้ายแรงอยู่ก็เป็นได้ คนสมัยนี้ดูที่หน้าตาอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ต้องดูลูกที่ออกมาว่าหน้าจะเหมือนพ่อกับแม่หรือเปล่า ถ้าออกมาไม่เหมือน นี่ก็ไม่ต้องไปจินตนาการนะว่าจะเป็นลูกของคนข้างบ้านหรือเปล่า เป็นลูกมันนั่นแหละ แต่ตัวลูกคงจะสงสัยเสียเองว่า เฮ้ย! นี่พ่อกับแม่ไปเก็บกูมาจากกองขยะกองไหนหรือเปล่าวะเนี่ย...
"ผมชื่อเขตต์กิจ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ ว่าแต่คุณอยู่ที่นี่มานานแล้วเหรอครับ" เขตต์กิจตอบรับตามมารยาท เพื่อนใหม่ในชุดเสื้อกล้ามสีขาวกับผ้าขนหนูที่พันท่อนล่างอยู่ กำลังเกาหว่างขาแกรกๆ แบบไม่แคร์สายตาชายหนุ่ม ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้ชายเหมือนกัน เขาก็ควรจะรักษามารยาทมากกว่านี้ ไม่ใช่ว่าคันอะไรตรงไหนก็จะมาแกะมาเกาโชว์เอาเสียดื้อๆ เจอกันครั้งแรกเขตต์กิจก็รู้สึกไม่ชอบขี้มันหน้าเสียแล้ว
(จบตอนที่ 1)