เมื่อชายหนุ่มได้มาเกิดใหม่ในโลกแห่งเวทมนตร์ โดยเขาตายเพราะช่วยคุณยายข้ามถนนแล้วถูกรถชน เขาจะใช้ชีวิตในโลกใบใหม่ต่อไปอย่างไร!

เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! - บทที่ 17 สู่เมืองหลวง โดย MIN-G @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ผจญภัย,ไซไฟ,แอคชั่น,นิยายแฟนตาซี,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,ต่างโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย,ไซไฟ,แอคชั่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

นิยายแฟนตาซี,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,ต่างโลก

รายละเอียด

เมื่อชายหนุ่มได้มาเกิดใหม่ในโลกแห่งเวทมนตร์ โดยเขาตายเพราะช่วยคุณยายข้ามถนนแล้วถูกรถชน เขาจะใช้ชีวิตในโลกใบใหม่ต่อไปอย่างไร!

ผู้แต่ง

MIN-G

เรื่องย่อ

เมื่อชายหนุ่มได้มาเกิดใหม่ในโลกแห่งเวทมนตร์ โดยเขาตายเพราะช่วยคุณยายข้ามถนนแล้วถูกรถชน เขาจะใช้ชีวิตในโลกใบใหม่ต่อไปอย่างไร!


จะเป็นอย่างไร... เมื่อความตายนั้นยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิต?

ชายวัย 31 ปีที่ทำแต่ความดีมาโดยตลอดเพราะเชื่อในเรื่องของสวรรค์และนรก แต่กลับต้องมาจบชีวิตลงเพราะการทำความดี ซึ่งดวงวิญญาณของเขากลับไม่ไปบนสวรรค์ดั่งหวัง แต่ได้ไปเกิดใหม่ยังโลกแห่งเวทมนตร์และพลังเหนือธรรมชาติในชื่อ “คาอิดะ อาคุมุ” ลูกคนสุดท้ายของตระกูลคาอิดะ เขาจะทำอย่างไรเมื่อได้มาเกิดใหม่อีกครั้งในโลกใหม่และชีวิตใหม่!!

“ถ้าเป็นคนดีแล้วไม่ได้ไปสวรรค์…” 

“...แสดงว่าสวรรค์ไม่มีอยู่จริง”

“แล้วฉันจะทำความดีทำไมกันเล่า!!!” 



---------------------------------------------------

หมายเหตุ : นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่ง มิได้เจตนาพาดพิงถึงผู้ใดและไม่อนุญาตให้นำไปเผยแพร่

หมายเหตุ 2 : ชื่อสิ่งต่าง ๆ ในนิยายเรื่องนี้เช่น สถานที่ เป็นชื่อที่เกิดจากจินตนาการของผู้แต่ง ไม่ได้มีจริงแต่อย่างใด

หมายเหตุ 3 : เครื่องหมายคำพูด (“ ”) คือการพูดปกติ 
เครื่องหมายคำพูด (‘ ’) คือการคิดในใจ

----------------------------------------------


ระดับของนักเวท
นักเวทระดับ 1
นักเวทระดับ 2
นักเวทระดับ 3
จอมเวทระดับ 1
จอมเวทระดับ 2
จอมเวทระดับ 3
ราชันจอมเวทระดับ 1 ดาว
ราชันจอมเวทระดับ 2 ดาว
ราชันจอมเวทระดับ 3 ดาว


ระดับของปีศาจเวทมนตร์
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 1
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 2
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 3
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 4
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 5
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 6
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 1 ดาว
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 2 ดาว
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 3 ดาว


สารบัญ

เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!-บทที่ 0 บทนำ,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!-บทที่ 1 เกิดใหม่,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!-บทที่ 2 ข้อมูลพื้นฐาน,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!-บทที่ 3 ผู้ใช้พลังปีศาจคนที่13?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!-บทที่ 4 ฝึกการร่ายเวท,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!-บทที่ 5 องค์ชาย?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!-บทที่ 6 การพัฒนาของวงแหวนเวท,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!-บทที่ 7 ขุมทรัพย์,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!-บทที่ 8 การประลอง?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!-บทที่ 9 บุคคลปริศนา,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!-บทที่ 10 พี่ชายที่แสนดี,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!-บทที่ 11 เรื่องแปลกประหลาด,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!-บทที่ 12 ทหารราบ?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!-บทที่ 13 ปราการชั้นแรก,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!-บทที่ 14 หัวเราะทีหลังดังกว่า,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!-บทที่ 15 ผิดแผน,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!-บทที่ 16 สิ้นสุดข้อเสนอ,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!-บทที่ 17 สู่เมืองหลวง,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!-บทที่ 18 พันธมิตรชั่วคราว?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!-บทที่ 19 การช่วยเหลือ,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!-บทที่ 20 ส่วนหนึ่งของความจริง,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!-บทที่ 21 ทักษะระดับสูง,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!-บทที่ 22 ควบคุมวงแหวนเวท,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!-บทที่ 23 ร้อนวิชา,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!-บทที่ 24 ความประมาท,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!-บทที่ 25 อยากพบ?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!-บทที่ 26 ทรยศ,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!-บทที่ 27 การต่อสู้ในสถานที่ฝึกฝน,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!-บทที่ 28 บาดแผล,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!-บทที่ 29 สถานที่แห่งเลือด,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!-บทที่ 30 เขตแดนพลังเวท? (จบเล่ม 1)

เนื้อหา

บทที่ 17 สู่เมืองหลวง

บทที่ 17 : สู่เมืองหลวง

“เราไปกันเถอะครับ” อาคุมุกล่าว เรย์และเหล่าทหารจึงเอามือลงและหันกลับมา

“เรียบร้อยแล้วสินะ งั้นเราก็เริ่มเดินทางได้” ว่าแล้วก็หันกลับไปหาทหารในหน่วยของเขา

“อาสา 3 คน มาขับรถม้า!!”

“รับทราบครับ!” ทหารหนุ่ม 3 นายได้เดินออกมาจากแถว และขึ้นไปนั่งข้างหน้าเตรียมควบคุมรถม้า อาคุมุและคนอื่น ๆ ก็เดินขึ้นไปบริเวณตัวรถในทันที

“ไปได้!”

รถม้าเคลื่อนแล้ว ซึ่งเส้นทางที่ใช้นั้นจะเป็นเส้นทางไหนก็ไม่อาจทราบได้ เนื่องจากตอนนี้อาคุมุไม่รู้อะไรเลยแม้แต่น้อย เขารู้แค่จากการดูแผนที่โดยใช้เวลาเพียงไม่นานว่าเมืองใหญ่นั้นอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเมืองใหญ่นั้นคงจะเป็นเมืองหลวงอย่างแน่นอน

“ว่าแต่นายเป็นใครกันแน่เนี่ยเจ้าหนู?” เรย์เอ่ยปากถามกับอาคุมุ นี่คงจะเป็นสิ่งที่ทั้งเรย์และทหารอยากจะรู้มากที่สุด

“ก็.. ผมเป็นคนที่มีพลังเวทครับ” นั่นคือประโยคแรกที่อาคุมุตอบกลับแล้วหยุดไป หลังจากนั้นจึงพูดต่อ

“พลังเวทของผมเป็นประเภทที่หายากมากซึ่งก็คือพลังมังกรสายฟ้า” อาคุมุยังไม่ทันได้พูดต่อ เรย์ก็พูดขึ้นมาในทันที

“สรุปว่านายมาจากตระกูลคาอิดะจริง ๆ ใช่ไหม?”

“ใช่ครับ”

ทันทีที่อาคุมุตอบกลับไป แต่ละคนต่างก็ตกใจกันไปตาม ๆ กัน เพราะพวกเขาเหล่านั้นไม่คิดเลยว่าบุคคลจากตระกูลที่เคยยิ่งใหญ่และมีอิทธิพล จะมาอยู่ ณ ตรงนี้ต่อหน้าพวกเขา ทั้งที่พวกเขาทุกคนคือทหาร และยังให้การช่วยเหลือเหล่าทหารอีก

“ทำไมต้องตกใจถึงขนาดนั้นด้วยล่ะครับเนี่ย ตอนที่ผมสู้กับ 3 คนนั้นก็น่าจะได้ยินหมดแล้วไม่ใช่หรือไงครับ?”

“ก็ตอนนั้นเราไม่เชื่อน่ะสิ อยากฟังโดยตรงแบบนี้ถึงจะน่าเชื่อถือมากกว่า แล้วก็.. ไม่เคยมีใครคิดจะช่วยพวกเราแบบนี้มาก่อนเลย”

สำหรับนักเวทแล้วนั้น ทหารไม่ต่างจากเบี้ยล่างเลยแม้แต่น้อย ทั้งยังเป็นตัวตายตัวแทน มีทหารก็เปรียบเสมือนมีโล่กำบังป้องกันตนเอง จะมีทหารสักกี่ร้อยกี่พันนายก็ไม่สามารถที่จะต่อกรกับนักเวทได้

หลังจากที่มีการปกครองของจักรพรรดิเพียงพระองค์เดียว นักเวทในจักรวรรดิก็มีความหยิ่งในศักดิ์ศรี ยกระดับนักเวทด้วยกันเองอยู่เหนือทุกสิ่งอย่างภายใต้การปกครองที่ไม่มีความยุติธรรม ภายใต้ตำแหน่งของจักรพรรดิ ว่าคนเหล่านั้นคือนักเวทที่ยิ่งใหญ่ขององค์จักรพรรดิ

“ที่ผมอยากช่วย เพราะว่าในจักรวรรดินี้ผมก็มีเป้าหมายใหญ่อยู่เหมือนกันน่ะครับ” อาคุมุตอบกล้บ

“เป้าหมายใหญ่ในจักรวรรดิ?” เรย์ที่ได้ยินอย่างนั้นก็อยากรู้ขึ้นมาอีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้อาคุมุเคยบอกเขาไว้ แต่อาคุมุยังไม่ได้พูดอะไรมากมาย เพียงแต่ให้คำมั่นว่าสามารถช่วยเรย์และทหารราบได้เท่านั้น

“ก็.. ใหญ่ที่สุดในจักรวรรดิเลยน่ะครับ จะเป็นอะไรไปได้นอกจากองค์จักรพรรดิ คือผมต้องการฆ่าจักรพรรดิครับ นั่นแหละครับเป้าหมายใหญ่ของผมในตอนนี้”

เรย์และเหล่าทหารที่ได้ยินอย่างนั้นต่างกลืนน้ำลายลงไปอึกใหญ่ พวกเขาไม่คิดเลยว่าเด็กคนนี้จะมีแต่อะไรที่ทำให้ตกใจได้ตลอด อีกทั้งตัวตนของเด็กคนนี้ก็ยังไม่สามารถรู้อย่างชัดเจนว่าเป็นมายังไงกันแน่

“จะว่าไป ทำไมนายถึงตั้งเป้าหมายแบบนั้นล่ะ?” เรย์ถามกลับไป อาคุมุเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่ตอบกลับ

“ผมแค่คิดว่าองค์จักรพรรดิมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่พ่อผมต้องมาจบชีวิตลงครับ”

“พ่อนาย... คุณอิซามุน่ะเหรอ? นี่เขาเสียชีวิตแล้วงั้นเหรอ?” เรย์ถามกลับด้วยท่าทางที่ดูแปลกไป ราวกับว่าตัวเขากำลังกลัวและคาดไม่ถึงอยู่ในตอนนี้

“ใช่ครับ แล้วรู้จักพ่อผมด้วยเหรอครับ? แล้วพ่อผม.. มีอะไรเหรอครับ?” อาคุมุที่ได้ยินอย่างน้้นก็อยากรู้ขึ้นมาในทันที เพราะนี่อาจเป็นหนึ่งในสิ่งที่เขายังไม่รู้ก็เป็นได้

เนื่องจากเขาไม่ค่อยจะรู้เกี่ยวกับตัวตนของพ่อเขาเลย ด้วยความที่ก่อนหน้านี้เขาคิดถามอะไรที่เกี่ยวกับพ่อของเขา เพื่อรู้ถึงเรื่องบางอย่างที่มันอาจจะลึกซึ้งและดูเหมือนเป็นความลับ พ่อของเขาก็จะเข้าเรื่องอื่นทุกครั้ง จึงทำให้รู้แค่เรื่องที่รู้ในปัจจุบัน

“ก็พ่อของนายน่ะ เป็นคนที่มีชื่อเสียงมากพอสมควรเลยนะ เป็นเหมือนวีรบุรุษของจักรวรรดิเลยล่ะ แต่ว่า... อย่าโกรธฉันนะ มีข่าวลือมาว่าเขาดูเหมือนไม่ใช่คนธรรมดาและดูเหมือนไม่ใช่คนในจักรวรรดิ ฉันไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่แต่พ่อของนายเสียชีวิตแล้วจริง ๆ เหรอ?”

สิ่งที่เรย์ตอบกลับมานั้น ก็ทำให้อาคุมุเกิดคำถามมากมายขึ้นมาในหัวอย่างนับไม่ถ้วน

‘มีชื่อเสียง เป็นเหมือนวีรบุรุษ ไม่ใช่คนธรรมดา ไม่ใช่คนในจักรวรรดิ... อะไรกันเนี่ย?’

“ใช่ครับ เขาเสียชีวิตแล้ว”

‘ถึงแม้ฉันจะคิดเหมือนเดิมว่าพ่อยังไม่ตายก็เถอะ แล้วก็ทำไมเขาถึงต้องให้ฉันไปเมืองใหญ่ด้วยเนี่ยสิ ฉันยังไม่รู้คำตอบอะไรเลยสักอย่างเดียว ฉันต้องหาที่อยู่ที่ปลอดภัยแล้วฝึกให้ได้ก่อนสินะ ส่วนการประลอง.. อ๋อใช่! ถ้าไปเมืองหลวงก็คงจะได้พบองค์ชาย งั้นก็คงไม่ยากแล้วล่ะ’

ตอนนี้อย่างแรกที่อาคุมุต้องทำให้สำเร็จให้ได้เลยก็คือต้องไปถึงเมืองหลวง หลังจากนั้นเขาจะต้องหาที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่งให้ได้โดยเร็ว

สิ่งที่สำคัญคือเขาต้องหาสถานที่ที่เอื้ออำนวยต่อการฝึก เพราะอาคุมุนั้นต้องแข็งแกร่งขึ้นและมีทักษะด้านต่าง ๆ มากกว่านี้ สิ่งที่มากไปกว่านั้นคือต้องชำนาญการใช้ทักษะหลาย ๆ อย่างให้เร็วที่สุด 

ส่วนเรื่องวันที่เริ่มการประลองคงจะไม่มีปัญหา เพราะไม่ว่ายังไงก็อยู่ในเมืองหลวง ต้องมีโอกาสที่จะได้เจอกับองค์ชายชูยะอย่างแน่นอน และด้วยความที่ได้รู้จักกับองค์ชาย อาคุมุอาจจะได้รับรู้อะไรอีกหลายสิ่งหลายอย่างก็เป็นได้

“แล้ว.. ลุงเรย์รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับพ่อผมอีกไหมครับ?” อาคุมุถามกลับไป แน่นอนว่าเขามีความอยากรู้เป็นอย่างยิ่ง

“ก็รู้แค่ว่าเขาเป็นคนที่ไม่ธรรมดาน่ะนะ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขามาจากตระกูลคาอิดะจริงหรือเปล่า”

“อะไรนะครับ?” นั่นคือสิ่งที่อาคุมุตกใจเป็นอย่างมาก เพราะถ้าอิซามุไม่ใช่คนของตระกูลคาอิดะ แล้วเขาจะเป็นใคร ยิ่งถามมากเท่าไรก็มีแต่เรื่องที่ทำให้เขาต้องคิดเพิ่ม

“มันเป็นเรื่องที่ยังไม่รู้คำตอบแน่ชัดน่ะ ไม่ต้องไปสนใจหรอก” เรย์ตอบกลับไป

“จะว่าไป ไม่ใช่ว่ามันจะเช้าแล้วเหรอครับ นี่ผ่านมานานแค่ไหนแล้วนะตั้งแต่ออกมา” ออกมาจากเมืองชิโตเสะตอนที่ท้องฟ้ามืดพอสมควร ทั้งยังติดกับของนักเวทและต้องมาสู้กับนักเวท ทั้งหมดจึงใช้เวลาไปค่อนข้างนาน

“ตั้งแต่ออกจากเมืองก็ผ่านมา 3 ชั่วโมงแล้ว เป็นเด็กเป็นเล็กไม่ง่วงเลยหรือไง? นายสู้กับเจ้าพวกนั้นด้วยนะเจ้าหนู”

‘นั่นสินะ ถึงฉันจะเคยใช้ชีวิตมาแล้วก็เถอะ แต่ว่าตอนนี้ฉันคือเด็ก 6 ขวบ’

“ที่ผมพูดขึ้นมาก็เพราะว่าผมง่วงนี่แหละครับ” อาคุมุพูดออกมา ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ เคลิ้มและหลับไป

“ไม่หลับสิแปลก คงจะเหนื่อยน่าดู”

...

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไรแล้ว ขณะนี้อาคุมุเริ่มขยับตัวและลืมตาขึ้นช้า ๆ แน่นอนว่าเขาหลับสนิทตลอดการเดินทาง ท้ายที่สุดก็กำลังจะมาถึงเมืองหลวงในช่วงเช้าที่ท้องฟ้าสุดแสนจะสว่างและแจ่มใส

“ตื่นแล้วเหรอเจ้าหนู? เรากำลังจะถึงแล้วล่ะนะ.. เมืองหลวงน่ะ”