เด็กเเฝดดวงตาสีเทาผมสีดำนั้นเป็นการเตือนถึงสิ่งชั่วร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น สองเเฝดเกิดมาก็มีดวงชะตาที่ยากลำบากถูกขายให้เป็นทาสเเต่ทว่าโชคยังเข้าข้างสองเเฝดจนได้เป็นลูกบุญธรรมของตระกูลดยุก

ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น - ตอน1 ขายทาส โดย ละอองหมึก @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,ตะวันตก,แอคชั่น,เเก้เเค้น,เลือด,ราชวงศ์,ละอองหมึก,ขุนนาง,ปีศาจ,เเฝด,พีเรียดตะวันตก,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,ตะวันตก,แอคชั่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

เเก้เเค้น,เลือด,ราชวงศ์,ละอองหมึก,ขุนนาง,ปีศาจ,เเฝด,พีเรียดตะวันตก,แฟนตาซี

รายละเอียด

เด็กเเฝดดวงตาสีเทาผมสีดำนั้นเป็นการเตือนถึงสิ่งชั่วร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น สองเเฝดเกิดมาก็มีดวงชะตาที่ยากลำบากถูกขายให้เป็นทาสเเต่ทว่าโชคยังเข้าข้างสองเเฝดจนได้เป็นลูกบุญธรรมของตระกูลดยุก

ผู้แต่ง

ละอองหมึก

เรื่องย่อ

เด็กเเฝดดวงตาสีเเดงผมสีเทานั้นเป็นการเตือนถึงสิ่งชั่วร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น สองเเฝดเกิดมาก็มีดวงชะตาที่ยาก ลำบากถูกขายให้เป็นทาส เเต่ทว่าโชคยังเข้าข้างสองเเฝดจนได้เป็นลูกบุญธรรมของตระกูลดยุก


ณ  จักรวรรดิออสติน ความเชื่อนี้ได้ถูกสืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น ในตระกูลออทิสลี่และคำทำนายจากวิหารศักดิ์สิทธิ์

ลูกแฝดถือเป็นความเชื่อที่ว่าเป็นสัญญาณของโชคร้าย มันเหมือนกับเสียงระฆังที่ดังขึ้นเพื่อเตือนถึงความทุกข์ทรมานที่กำลังจะมาถึง โดยเฉพาะลูกแฝดเป็นหญิงที่มีผมและตาสีเทา จะนำพาความทุกข์ระทม

เด็กอายุเพียง 5 ขวบต้องถูกขายมาเป็นทาส จนพวกเธอต้องทุกข์ทรมานแสนสาหัส จนกระทั่งมีชายคนหนึ่งได้ช่วยพวกเธอเอาไว้ จนสองเเฝดได้เป็นบุตรบุญธรรมของตระกูล ดยุกโอเรียน แต่เส้นทางนั้นกลับไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด

“เราจะเลี้ยงพวกเขาไปจนถึงอายุห้าขวบ จากนั้นจะขายเป็นทาส!!”

สารบัญ

ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน1 ขายทาส,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน2 ข้อเสนอ,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน3 ไร้นาม,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน4 เสียงหัวเราะเเละความอบอุ่น,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน5 ชายใส่ชุดดำ,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน6 บาดเจ็บหนัก,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน7 ราชวัง,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน8 โอบกอด,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน9 ยาพิษ,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน10 ตระกูลผู้ให้กำเนิด,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน11 จักรพรรดินี,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน12 คนอยู่เบื้องหลังการรอบสังหาร,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน13 ความสงสัยที่อยู่ในใจ,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน14 ผิดหวัง,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน15 ในคุกใต้ดิน,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน16 ข้อเสนอที่น่าสนใจ,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน17 กำจัดพ่อค้าทาส,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน18 เสียบประจานข้างกำแพง,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน19 วันเกิด,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน20 ต่างคนต่างวางแผน,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน21 มิตรภาพ,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน22 งานเดบูตองส์ ,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน23 การตัดสินใจ,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน24 ยาพิษ,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน25 ความจริงเเละพลังปีศาจ,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน26 การต่อสู้กับปีศาจ,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน27 ประชุมขุนนาง

เนื้อหา

ตอน1 ขายทาส

ณ จักรวรรดิออสติน ความเชื่อนี้ได้ถูกสืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น ในตระกูลออทิสลี่ และคำทำนายจากวิหารศักดิ์สิทธิ์

ลูกแฝดถือเป็นความเชื่อที่ว่าเป็นสัญญาณของโชคร้าย มันเหมือนกับเสียงระฆังที่ดังขึ้นเพื่อเตือนถึงความทุกข์ทรมานที่กำลังจะมาถึง โดยเฉพาะลูกแฝดเป็นหญิงที่มีผมและตาสีเทา จะนำพาความทุกข์ระทม

ช่วงเย็นที่คฤหาสน์ความวุ่นวายได้เติบโตขึ้นเมื่อเสียงร้องของทารกแฝดที่เพิ่งเกิดดังลั่นทั่วห้องคลอด เหล่าสาวใช้รีบวิ่งไปมาด้วยความวุ่นวายเเละพูดด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“ยินดีด้วยค่ะเป็นแฝด!”

หลังจากคำนั้นสิ้นสุดลงบนใบหน้าของพ่อเเละแม่นั้นไม่มีรอยยิ้มเเม้เเต่เล็กน้อย แสงสว่างที่ผ่านหน้าต่างส่องลงบนใบหน้าที่เปราะบางของภรรยา ผู้เป็นภรรยาพลันหันมองหน้าสามีของตน ใบหน้านั้นบ่งบอกถึงความผิดหวังเเละโกรธ

ผู้เป็นภรรยาตัวสั่นเทา ใบหน้าซีดเซียว สามีพลันถอนหายใจ เอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

“เธอรักษาตัวเถอะ ค่อยคุยกัน”

สามีสองเท้าก้าวย่างเดินออกจากห้องคลอด ประตูปิดลงด้วยเสียงดังที่สะท้อนไปทั่วห้อง ทิ้งให้ภรรยาอยู่คนเดียวพร้อมลูกเเฝด

หลังเดินออกจากห้องด้วยความเกรี้ยวกราด สามีเดินลงชั้นบนของบ้าน เร่งรีบขึ้นม้า เท้าม้าเสียงดัง กรับๆ เร่งรีบออกตัวไปจากคฤหาสน์ อย่างเร็วผ่านถนนที่เงียบสงบ ทุกความคิดเต็มไปด้วยภาพลูกแฝดที่อยู่ในหัว

เมื่อถึงบ้านหลังใหญ่โต ผู้เป็นสามีเท้าก้าวรีบเข้าไปในบ้าน เพื่อพบกับแม่ของเขาที่กำลังยืนอยู่ในห้องนั่งเล่นรอฟังข่าวดีจากผู้เป็นลูกชาย เเม่มองหน้าเขาด้วยความสงสัย ทำไมถึงรีบร้อนเช่นนี้ แม่ของเขาถาม สายตาเต็มไปด้วยความกังวล

“ทำไมกลับมาบ้านละ? มีอะไรด่วนหรือหน้าตาตื่นมาเลย”

ผู้เป็นลูกชายหายใจลึก ๆ แล้วตอบ

“มาดามผมคลอดลูกแฝดครับ ท่านแม่”

ผู้เป็นแม่เปิดตากว้างด้วยประหลาดใจ สองขาของผู้เป็นเเม่อ่อนเเรง เธอนั่งลงบนโซฟามือพลันจับหน้าผาก แม่ของเขาหันมองผู้เป็นลูกชาย สายตาของเธอเต็มไปด้วยความเศร้าสลด

“ลูกแฝด...”







“รีบพาเเม่ไปที่คฤหาสน์ เราควรรีบเเก้ไขเรื่องนี้”

เเม่พูดพลันสองเท้าก้าว เร่งรีบขึ้นบนห้องคลอด แม่และลูกชายรีบกลับไปยังไปคฤหาสน์ของลูกชายเเละตรงดิ่งไปที่ห้องคลอด ความรู้สึกของความซับซ้อนเกิดขึ้นในใจของแม่ เขามองลงไปที่ลูกแฝดที่นอนอยู่บนเตียงคลอด ผู้เป็นย่าของเด็กหางคิ้วขมวดความรู้สึกที่ควรยินดีที่ได้หลาน กับถูกแทนที่ด้วยความกลัวและความเกลียดชัง

ย่าของเด็กมองลงไปที่ลูกแฝดที่นอนอยู่บนเตียงคลอด ความเกลียดชังที่เต็มใจในสายตาของเธอ พลันกล่าวคำพูดที่น่าสะเทือนใจ

“เราจะเลี้ยงพวกเขาไปจนถึงอายุห้าขวบ จากนั้นจะขายเป็นทาส”

เเม่หยิบมือของลูกเเฝดขึ้นมา สายตาของเธอเต็มไปด้วยความเด็ดขาด แม้ว่าความคิดนั้นจะดูโหดร้าย แต่ในตระกูล ออทิสลี่ ที่เชื่อว่าลูกแฝดเป็นสัญญาณของโชคร้าย การตัดสินใจนี้อาจจะเป็นวิธีเดียวที่จะปกป้องครอบครัวของเขาจากความทุกข์ทรมาน

สามวันต่อมาสามีภรรยาเเละย่าของเด็กเดินทางกลับบ้าน สภาพแวดล้อมในบ้านของตระกูล ออทิสลี่กลับเป็นเช่นเดิม แต่ความเงียบที่ซับซ้อนอยู่ในบ้าน ความรู้สึกที่อึดอัดของสมาชิกครอบครัวทุกคนเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน ทารกแฝดยังคงนอนอยู่ในห้องนอนขนาดเล็กที่ถูกจัดเตรียมไว้สำหรับพวกเขา

ในตอนกลางคืน แม่เด็กนั่งอยู่ที่ข้างเตียงนอน มองลงไปที่ทารกแฝดที่นอนอยู่บนเตียงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าสลด

“เราต้องทำอย่างนี้จริงๆ หรือ?”

เธอถามสามีของตน มือของเธอกำลังสั่นจนทำของเล่นที่เตรียมไว้สำหรับทารกแฝดหล่น สามีหายใจลึก ๆ แล้วไม่ตอบกลับอะไร แต่ในใจสามี เขารู้สึกผิดหวังที่ภรรยาให้กำเนิดลูกเเฝด แต่สามีรู้ดีว่าเขาต้องทำเพราะถ้าไม่ทำครอบครัวของเขาจะตกอยู่ในความทุกข์ทรมาน

ทารกแฝดถูกส่งไปยังพี่เลี้ยงเด็กที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับครอบครัวออทิสลี่ สภาพแวดล้อมที่เเฝดเติบโตขึ้นมา ไม่เป็นไปตามที่ควรจะเป็นสำหรับเด็กที่เพิ่งเกิด การดูแลของพวกเขาปราศจากความรักและความอบอุ่น การเลี้ยงดูเป็นเรื่องที่ยากลำบาก แม้ว่าพวกเขาจะยังเป็นทารกแต่พวกเขาเเต่ก็ต้องเผชิญหน้ากับอดยาก

เมื่อเด็กหย่านม อาหารขอเเต่ละวันนั้นเป็นเพียงขนมปังที่เเข็งกระด้าง กับนมที่เกือบจะเน่าเสีย บางครั้งก็มีเพียงน้ำเปล่า เด็กเเฝดนั้นไม่มีเเม้เเต่ชื่อ เด็กสองคนเนื้อตัวมอมเเมม สวมเสื้อผ้าที่ดูเรียบง่าย

ผ่านไปห้าปีถึงเวลาที่จะขับไล่เด็กออกจากตระกูล ลูกแฝดที่เคยเป็นทารกน่ารักกลายเป็นเด็กผอมแห้งที่เติบโตขึ้นในสภาพที่ขาดแคลนสารอาหาร เเม่นมที่ดูเเลเด็กนั้นไม่มีทางเลือกเพราะตระกูล ออทิสลี่ขมขู่เธอไว้เธอไม่มีทางเลือกจึงตามคำสั่งของครอบครัวนั้นของพวกเขา เลยต้องขายสองเเฝดในตลาดมืด สถานที่ที่เต็มไปด้วยความอันตราย ความเป็นครอบครัวที่พวกเขาเคยรู้จักและความรักที่พวกเขาเคยมีกลับกลายเป็นความทรมานที่ไม่สิ้นสุด

เด็กเเฝดถูกชายเเปลกหน้าลากออกจากบ้านหลังใหญ่ เด็กสองคนน้ำตาอาบแก้ม ร่ำร้องด้วยเสียงที่ดังสนั่น สองเเฝดพยายามออกเเรงสู้ เเต่ก็ไม่สามารถสู้เเรงของผู้ชายตัวสูงใหญ่ได้

“ปล่อยนะ! พี่คะ พี่!!”

ผู้เป็นน้องสาวส่งเสียงตะโกนเรียกผู้เป็นพี่ พลันออกแรงดึงแขนที่ผอมแห้งของผู้เป็นพี่เข้าหาตัวเอง แต่ชายร่างใหญ่นั้นดึงเด็กแฝดทั้งสองขึ้นรถม้าที่ซ้อมซ่อน

รถม้าวิ่งไปที่ถนนที่เปียกชื้น เสียงร้องของเด็กแฝดดังขึ้นทั่วถนน ความหวาดกลัวและความสับสนทำให้พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย

“ฮือ ฮือหนูกลัว”

ผู้เป็นน้องร่ำร้องด้วยความสิ้นหวัง พี่สาวน้ำตาอาบเเก้ม สองแขนโอบกอดน้องด้วยความรัก พลันตบหลังเบาๆ เพื่อปลอบผู้เป็นน้องสาว สายตาของพี่มองไปที่ท้องฟ้าที่เริ่มมืดลง กลางวันเปลี่ยนแปลงเป็นคืน

รถม้าวิ่งไปที่ถนนที่เปียกชื้น แสงจากดวงดาวยังสว่างอยู่บนท้องฟ้า แต่ความหวาดกลัวในใจของเด็กแฝดที่ถูกขับไล่ออกจากบ้านและถูกขายเป็นทาสในตลาดมืดทำให้ทุกอย่างดูมืดมิดและหนาวเหน็บ สองพี่น้องไม่เหลือใครในชีวิตพวกเขาก็ยังมีกันและกันเท่านั้น

เมื่อรถม้าถึงตลาดค้าทาสสองเด็กแฝดถูกลากลงมาจากรถม้าและถูกนำไปยังเวทีซื้อขาย มีคนมาจากทั่วทุกทิศทาง สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความต้องการ

ผู้เป็นพี่สาวยังคงโอบกอดน้องสาวของเธอ ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยในอ้อมแขนของเธอ แม้ว่าเธอจะรู้สึกกลัว แต่เธอยังคงสู้ต่อไปเพื่อน้องสาวของเธอ

ชายที่ขายทาสเริ่มประมูลราคาสองเด็กแฝด มีผู้ที่สนใจมายืนล้อมเพื่อประมูล

“ทาสเด็กมาใหม่เริ่ม1,000c”

เสียงระฆังของการประมูลดังขึ้น ราคาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ 2,000c 5,000c จนกระทั่งชายใส่หน้ากากที่มาอย่างลึกลับและไม่เปิดเผยตัวตน ยกมือขึ้นและให้ราคาที่น่าตกใจ

“100,000c.”

เสียงที่เงียบลงมาหลังจากคำเสนอราคานั้นทำให้ทุกคนที่มาประมูลตกใจ ไม่มีใครกล้ายกมือมูลต่อ และสุดท้ายชายที่สวมหน้ากากก็ชนะการประมูลไป

ชายสวมหน้ากากที่ชนะการประมูลเดินเข้ามาหยิบเงิน 100,000c จากกระเป๋าหนังสัตว์ที่ดูราคาแพง เขาเอ่ยปากสั่งพ่อค้าทาส

“เลี้ยงเด็กแฝดเหล่านี้ให้ดี เมื่อพวกเขาโตขึ้นฉันจะมารับ และฉันจะมอบรางวัลเป็นเงินมหาศาล”

พ่อค้าทาสยิ้มด้วยความดีใจและพยักหน้าตอบอย่างรวดเร็ว แต่หลังจากที่ชายสวมหน้ากากก้าวเท้าออกไป สีหน้าที่ยิ้มแย้มของพ่อค้าทาสกลับเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่ไปบูดบึ้ง เขาลากตัวสองแฝดเข้าไปในห้องแคบๆ ผนังห้องเต็มไปด้วยเชื้อราสีดำ และประตูถูกล็อกไว้

สองเด็กแฝดถูกขังอยู่ในห้อง ความรู้สึกหนาวจากความชื้นในห้อง แสงจันทร์ที่ส่องเข้ามาในห้องมาจากช่องเล็กๆ น้องสาวที่ผอมเเห้งนั้นหลับลงในอ้อมเเขนของผู้เป็นพี่ เเฝดกอดซึ่งกันเพื่อหวังบรรเทาความหนาวได้

เช้าวันรุ่งขึ้น พ่อค้าทาสเข้ามาในห้องแคบๆ เด็กแฝดเหล่านี้เห็นพ่อค้าทาสเข้ามา ในใจหวังว่าจะมีอาหารดีๆ สักมือ เเต่อาหารที่เขานำมาให้เป็นขนมปังเเข็งที่มีราเข้าไปด้วย อาหารที่พวกเขาได้รับแต่ละวันก็แค่ก้อนน้ำตาลและก้อนขนมปังที่ขึ้นรา

เมื่อพ่อค้าทาสออกไป พวกเขาเริ่มกินขนมปังเเข็งที่มีราด้วยความหิวโหย

เเค่กๆ — น้องสาวไอเสียงเเหบเเห้ง ผู้พี่สาวจึงยื่นน้ำให้ของผู้เป็นน้องอย่างรวดเร็ว น้องสาวรีบรับน้ำและดื่มอย่างกระหาย

“ไม่เป็นไรใช่ไหม”

ผู้เป็นพี่ถามด้วยความเป็นห่วง น้องพลันพยักหน้า ทั้งสองมองหน้าที่ผอมเเห้งพร้อมกอดกันเพื่อให้ความอบอุ่น

“พี่หนูอยากออกไปจากที่นี่”

น้องสาวเอ่ยปากพูดด้วยความไร้เดียงสา พี่ชะงักเล็กน้อยกับคำพูดนั้น เธอเงยหน้ามองไปทางหน้าต่างที่หิมะกำลังโปรยปรายลงมาและคิดว่าการออกไปในสภาพอากาศเย็นจะเป็นเรื่องที่ไม่ปลอดภัย เเต่เธอนั้นยังไม่พูดอะไรเเละพยักหน้ารับ

ฤดูผลัดเปลี่ยนไป เเต่อากาศยังคงหนาวเหน็บเช่นเดิม ความคิดที่อยากจะหนีได้เปลี่ยนไป เด็กเเฝดรู้ว่าถ้าหนีในตอนนี้พวกเขาคงหนาวตายเเน่นอน เเต่ในความสิ้นหวังนั้นก็เปลี่ยนไปเป็นความหวังเมื่อวันหนึ่งหิมะที่โปรยปรายนั้นได้หยุดลง

“หิมะ..หยุดลงเเล้ว!”

น้องสาวพูดกลับพี่ด้วยความดีอกดีใจ พี่สาวเธอรีบนำมืดปิดปากน้องสาว นิ้วชี้มุมปาก บ่งบอกว่าอย่าเสียงดัง จากนั้นเธอชี้ไปที่หน้าต่างบานเล็กที่อยู่สูงจากผนัง

“ขี่คอพี่ขึ้นไป ขนาดตัวเธอน่าจะออกจากหน้าต่างนั้นได้”

“เเล้วพี่ละ..”

ผู้เป็นน้องทำสีหน้ากังวลเเละเป็นห่วง พี่สาวเห็นความกังวลของผู้เป็นน้องเเละก็จับมือเธอเพื่อให้ความมั่นใจ พลันอุ้มน้องขึ้นขี่คอในระหว่างหนี เสียงฝีเท้าใหญ่ดังขึ้นนอกประตู เธอจึงบอกน้องสาวให้รีบขึ้นไป เสียงประตูแง้มออกมาเผยให้เห็นพ่อค้าทาสยืนอีกฝั่ง สีหน้าของเเฝดซีดเผือดคนเป็นพี่รีบดันน้องให้ถึงหน้าต่าง พ่อค้าทาสเห็นจึงรีบเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นผู้เป็นน้องขึ้นไปสำเร็จเหมือนพี่สาวอยู่

พี่สาวรีบยื่นขัดขวางพ่อค้าทาส ชายร่างสูงสีหน้าบ่งบอกได้ถึงความโกรธ ฝ่ามือของชายร่างใหญ่ประกบลงไปที่ข้างเเก้มของพี่สาวที่ขวางทาง พี่สาวตัวผอมเเห้งเธอล่มลงทันที

“พี่!!”

ผู้เป็นน้องตะโกนเรียกพี่ พลันน้ำตาคลอ มองลงมาด้วยความเป็นห่วง ผู้เป็นพี่ตะโกนกลับด้วยความโกรธเกรี้ยว

“รีบไปสิ! ไม่ต้องรอพี่ ไป!!!”

ชายร่างสูงเห็นว่าน้องจะหนี พลันมือรีบคว้าขาของน้องสาว พี่สาวเห็นเเบบนั้นจึงรีบกัดขาพ่อค้าทาส

“โอ๊ย”

เสียงพ่อค้าทาสดังขึ้นด้วยความเจ็บปวด เปิดโอกาสให้น้องสาวนี้ออกไปได้