เด็กเเฝดดวงตาสีเทาผมสีดำนั้นเป็นการเตือนถึงสิ่งชั่วร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น สองเเฝดเกิดมาก็มีดวงชะตาที่ยากลำบากถูกขายให้เป็นทาสเเต่ทว่าโชคยังเข้าข้างสองเเฝดจนได้เป็นลูกบุญธรรมของตระกูลดยุก
แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,ตะวันตก,แอคชั่น,เเก้เเค้น,เลือด,ราชวงศ์,ละอองหมึก,ขุนนาง,ปีศาจ,เเฝด,พีเรียดตะวันตก,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่อาจรู้ได้ เเฝดผู้พี่ตื่นขึ้นมาอีกครั้งในเวลากลางดึก เธอหันไปหาน้องสาวที่กำลังหลับอยู่ ทันทีที่เห็นน้องสาวนั้นหลับสบายเธอก็ยิ้มอย่างมีความสุข
เช้าวันรุ่งขึ้น เเอ๊ด เสียงประตูเปิดออกพร้อมสาวใช้ที่เดินเข้ามา สาวใช้แนะนำตัวอย่างสดใส
“สวัสดีค่ะคุณหนู ฉันคือสาวใช้ของคุณหนูทั้งสอง เรียกดิฉันว่าเเอนก็ได้ค่ะ”
พี่สาวมองหน้าพี่ด้วยความกังวล พี่นั้นพยักหน้าส่งสัญญาณว่าไม่เป็นไร
“..คือว่าพี่สาวใช้ฉันขอนอนกับพี่สาวได้ไหม ฉันไม่อยาอยู่ห่างจากพี่มาก..”
“ได้ค่ะคุณหนู”
สาวใช้ให้คนเข้ามา อุ้มสองเเฝดพี่น้อง ไปรออีกห้องหนึ่งในระหว่างเปลี่ยนเตียง สองเเฝดถูกอุ้มไปที่ห้องโถงใหญ่โต ในห้องโถงมีชาวที่ใส่เสื้อกาวน์เเละดยุกลูอันรออยู่ ผู้ชายใส่เสื้อกาวน์เดินเข้ามาหาสองเเฝดด้วยหน้าตาที่ยิ้มเเย้ม
“ผมขอตรวจร่างกายคุณหนูหน่อยนะครับ”
ชายสวมเสื้อกาวน์นั้นคือหมอ เขารับไปที่เเขนเเละมือเพื่อตรวจร่างกายของสองเเฝด เขาทำสีหน้ากังวลใจเล็กน้อย เพราะร่างกายของสองเเฝดนั้นขาดสารอาหารอย่างรุนแรง เเถมยังผอมมากเเละความสูงนั้นช้ากว่าเด็กผู้หญิงรุ่นเดียวกัน การฟื้นฟูร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บอย่างนักนั้นจึงเป็นไปได้ช้า
เเต่หมอก็ต้องตกตะลึง การฟื้นฟูของเเฝดสองพี่น้องนั้นเร็วมาก บาดเเผลที่สาหัสนั้นกลับเป็นบาดเเผลระดับกลาง รักษาอีกไม่กี่อาทิตย์ก็จะหายดี
“ผมพึ่งเคยเจอคนที่เเผลสาหัสหายเร็วเเบบนี้”
หลังจากคำพูดหมอจบลง ดยุกยิ้ม ลูอันบอกให้สาวใช้เเละหมอออกไปจากห้อง เหลือสองเเฝดกับเขาในห้องโถง
ดยุกลูอันพูดอย่างไม่อ้อมค้อม
“เข้าเรื่องเลยเเล้วกัน เธอรู้ตัวไหมว่ามีพลังปีศาจ”
ดยุกถามผู้เป็นพี่อย่างจริงจัง สิ้นสุดคำพูดนั้นสองเเฝดเงียบเเละยังไม่ตอบอะไร ดยุกจึงพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ
“ตอนนั้นที่ฉันไปช่วยเเฝดคนพี่น่ะ ตาเปลี่ยนเป็นสีเเดงนั้นคือพลังปีศาจ เธอทำยังไงถึงมีพลังนั้น”
เเฝดผู้พี่นั้นยิ้ม เเละเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับพวกเธอสองพี่น้อง ชีวิตที่ยากลำบากเพราะเกิดมาเป็นลูกเเฝดที่ในตระกูลเชื่อว่าเป็นสัญญาณเเห่งโชคร้าย ดยุกได้ฟังเรื่องราวนั้นจึงเล่า คำทำนายของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ให้สองเเฝดฟัง
..คำทำนายเเห่งโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ บาทหลวงที่ได้นามว่ามีความใกล้ชิดกับพระผู้เป็นเจ้ามากที่สุดทำนายว่า จะมีเด็กเเฝดเกิดขึ้นในตระกูลหนึ่ง เเฝดนั้นจะมีดวงตาสีเทา ผมสีดำ จะช่วยผู้มีตาสีเลือด เพื่อทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย โดยพลังของปีศาจ
คิคิ เสียงเล็กจากลำคอ ผู้น้องขำถึงคำทำนายที่ไร้สาระ เเฝดผู้พี่กูยิ้มเยาะหัวเราะลั่นออกมา พร้อมถามสิ่งที่ ดยุกต้องการ
“ฮ่าฮ่า ดยุกท่านต้องการให้ใช้พลังของฉันเพราะอยากให้จักรวรรดิวุ่นวายเพื่อครองบัลลังก์สินะ”
สิ้นเสียงผู้พี่ในห้องนั้นเงียบสงัด น้องสาวมองพี่ด้วยความตกใจ เเต่ดยุกนั้นกลับยิ้มออกมาด้วยความพอใจ
“ไม่ใช่เเค่เธอ น้องสาวเธอด้วย”
ผู้พี่รีบร้อนคัดค้านดยุกด้วยความกล้าหาญ ไม่หวาดกลัวดยุกเเม้เเต่น้อย พร้อมพูดปกป้องน้องสาวของตน
“น้องสาวฉันไม่เกี่ยว..”
น้ำเสียงเเละสี่หน้าที่เย็นชา ตอบดยุกลูอัน เเต่ผู้น้องกลับตอบผู้เป็นพี่
“พี่ไม่เป็นไร น้องอยากช่วย”
“ไม่มันอันตรายเกินไป”
พี่สาวพูดพร้อมใบหน้าที่เป็นห่วงผู้น้อง ในความคิดของผู้เป็นพี่นั้นเธอจะถูกใช้เป็นเครื่องมือเธอก็ยอมเเต่น้องสาวนั้นต้องใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย
“เอาเถอะ ฉันไม่รีบร้อน รอพวกเธอโตค่อยทำข้อตกลงกันก็ได้ เพราะงั้นใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในตระกูลดยุกเถอะนะ”
ดยุกเเสดงให้เห็นถึงความเมตตา เเต่สองเเฝดนั้นก็ยังไม่ไว้ใจดยุกลูอันอยู่ดี
การสนทนานั้นจบลง สองเเฝดถูกอุ้มไปที่ห้องอาหาร โต้ะที่ยาวพร้อมอาหารที่หรูหราน่ากัน สองเเฝดมองด้วยสายตาที่เเวววาว
“พี่ดูนั้นสิ เนื้อเเหละ!”
สองพี่น้องนั่งบนเก้าอี้เบื่อหน้าเป็นโต๊ะอาหาร ทั้งสองเคี้ยวสองเเก้มตุ้ย ดยุกมองเเละยิ้มอ่อน ท่าทางของเขานั้นมองสองเเฝดด้วยสายตาที่อบอุ่น
“ว่าเเต่ดยุก คุณมองพวกเรายังกับไม่เคยเห็น”
ดยุกยิ้มเเละตอบ เเฝดผู้พี่ถามด้วยท่าทางที่ร่าเริง เพราะอารมณ์ดีกับอาหารที่อร่อย
“ไม่เคยเห็นสิ พวกเธอกินยังกับไม่เคยกินมาก่อนนิ”
หลังจากคำพูดนั้นพี่ทำหน้าเศร้าเล็กน้อยเเต่น้องสาวกับตอบด้วยท่าทางที่เป็นเรื่องปกติ
“ก็ไม่เคยน่ะสิ”
เมื่อดยุกได้ยินในสิ่งที่ทั้งสองเเฝดคำพูดนั้นใบหน้าของดยุกที่ยิ้มกลับเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่เย็นชาในทันที เขาเอาเเต่คิดโทษตัวเองที่มาช่วยทั้งสองเเฝดช้าขนาดนี้
มื้ออาหารจบลงสองพี่น้องกลับไปในห้องที่ตัดเตรียมเตียงเดียวที่ใหญ่โตสำหรับสองพี่น้อง เเต่หลังจากที่เเยกกับเเฝดดยุกลูอันได้สั่งให้คนไปสืบต้นตระกูลของสองเเฝด
“เป็นไปได้ฆ่าให้หมด”
ดยุกพูดสั่งคนที่ให้ไปสืบด้วยท่าทางที่เย็นชา
จากเเสงตะวันเปลี่ยนเป็นความมืดมิด เเฝดผู้น้องนั้นหลับใหลอย่างมีความสุข เเต่เเฝดผู้พี่นั้นเดินไปทางห้องโถงที่ดยุกนั้นทำงานอยู่ ก๊อกๆ เสียงประตูดังขึ้นอีกฝั่งของประตูตอบรับโดยทันที
“เข้ามาสิ”
เเฝดผู้พี่เข้ามาด้วยท่าทางที่น่าขนลุก ในห้องที่มืดมิดนั้นมีเเค่เเสงเทียนที่ส่องสว่าง ส่องให้เห็นดวงตาสีเเดง
“ดยุกลูอัน ต้นตระกูลของฉันน่ะ เดี๋ยวสักวันฉันจะจัดการเองไม่ต้องเปลืองเเรงคุณหรอก”
ดยุกยิ้มพร้อมพยักหน้า
“ควรสอนให้ควบคุมพลังปีศาจเเล้วสิ”
เช้าวันที่สดใส เเอนสาวใช้ได้เข้ามาเปิดหน้าต่างยามเช้า เสียงนกร้องกับเเสงเเดดฤดูใบไม้ผลิที่สดใสทำให้สองเเฝดตื่นขึ้นมาด้วยท่าทางที่ยิ้มเเย้ม ผู้เป็นน้องพูดด้วยความสดใส
“ในที่สุดก็หมดฤดูหนาวสักที ทำไมที่นี่หนาวนานละเเอน”
“เพราะว่าเขตเเดนที่ท่านดยุกปกครองเป็นทางเหนือค่ะ ฤดูหนาวจึงนานมาก”
เเอนตอบพร้อมยกมื้อเช้าเข้า เเอนสาวใช้บอกว่าสองเเฝดนั้นผอมจนเกินไปควรกินเยอะๆ หลังจากนั้นสองพี่น้องได้อาบน้ำเเละเปลี่ยนชุดเป็นชุดเดรสที่สวยงาม
สองเเฝดสวมใส่ชุดที่ดูสวยงามเเต่ทว่าใบหน้าของสองเเฝดยังดูตอบเเละผอมเเห้งอยู่
“คุณหนูทั้งสองยังดูผอม.. ต้องทานเยอะๆ นะคะ”
เเอนพูดด้วยความเป็นห่วง ทั้งสองเเฝดยังนิ่งเงียบไม่พูดกับผู้ใดเพราะยังไม่ไว้เนื้อเชื่อใจคนอื่นยกเว้นพี่น้องตน
เวลาผ่านไปสักพักเสียงฝีเท้าดังขึ้นนอกห้องเเละเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“ฉันเอง ขอเข้าไปที”
เสียงทุ้มต่ำของดยุกลูอันดังขึ้นจากอีกฝั่งของประตู สาวใช้ในห้องรีบเปิดประตูบานใหญ่ชายร่างสูงใหญ่เดินเข้ามา เหล่าสาวใช้รีบโค้งคำนับผู้เป็นเจ้านาย เเฝดผู้น้องรีบหลบหลังผู้เป็นพี่สาว ผู้เป็นพี่จับมือเล็กๆ ของน้องส่งสัญญาณว่าไม่เป็นไร ตาของดยุกลูอันมองเเฝดด้วยเเละยิ้มมุมปาก
“ชุดดูตกยุคไปนะ ครั้งหน้าจะชุดที่ดีกว่านี้ให้”
“ขอบคุณ เเค่นี้ก็ดีมากเเล้ว”
ผู้พี่ตอบ พลันนั่งลงบนโซฟาสีน้ำตาที่นุ่มนิ่ม เหล้าสาวใช้จัดเตรียมชาเเละของว่างให้กับพวกเขา ดยุกถามคำถามด้วยความสงสัยกับสองเเฝด
“ว่าเเต่ ยังไม่รู้ชื่อพวกเธอเลยนิ ชื่ออะไร?”
สองพี่น้องชะงักไปสักครู่ใหญ่ ผู้เป็นน้องมองหน้าผู้เป็นพี่ เเต่ผู้เป็นพี่นั้นมีท่าทางเหม่อลอย มือน้อยกำเเขนเสื้อเเน้น ดูท่าทางอึดอัดที่จะพูดออกมา ผู้เป็นน้องเห็นท่าทีของพี่สาวเธอตึงตอบคำถามนั้นด้วยตัวของเธอเอง
“คือว่า..ไม่มี..พวกเราไม่มีชื่อ..”
สายตาของดยุกลูอันเปิดกว้างทันทีที่ได้ยินคำตอบนั้น เหล่าสาวใช้ในห้องต่างทำหน้าตกใจ บางคนก็ทำท่าทีที่จะร้องไห้ ในใจคิดถึงความยากลำบากที่สองเเฝดจะได้เจอ