เด็กเเฝดดวงตาสีเทาผมสีดำนั้นเป็นการเตือนถึงสิ่งชั่วร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น สองเเฝดเกิดมาก็มีดวงชะตาที่ยากลำบากถูกขายให้เป็นทาสเเต่ทว่าโชคยังเข้าข้างสองเเฝดจนได้เป็นลูกบุญธรรมของตระกูลดยุก
แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,ตะวันตก,แอคชั่น,เเก้เเค้น,เลือด,ราชวงศ์,ละอองหมึก,ขุนนาง,ปีศาจ,เเฝด,พีเรียดตะวันตก,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
สองพี่น้องชะงักไปสักครู่ใหญ่ ผู้เป็นน้องมองหน้าผู้เป็นพี่ เเต่ผู้เป็นพี่นั้นมีท่าทางเหม่อลอย มือน้อยกำเเขนเสื้อเเน้น ดูท่าทางอึดอัดที่จะพูดออกมา ผู้เป็นน้องเห็นท่าทีของพี่สาวเธอตึงตอบคำถามนั้นด้วยตัวของเธอเอง
“คือว่า..ไม่มี..พวกเราไม่มีชื่อ..”
สายตาของดยุกลูอันเปิดกว้างทันทีที่ได้ยินคำตอบนั้น เหล่าสาวใช้ในห้องต่างทำหน้าตก บางคนก็ทำท่าทีที่จะร้องไห้ ในใจคิดถึงความยากลำบากที่สองเเฝดได้เจอ
“งั้นพรุ่งนี้เตรียมตัวให้คุณหนูของพวกเจ้าด้วย พรุ่งนี้จะไปตั้งชื่อที่วิหารศักดิ์สิทธิ์”
ลูอันพูดจบพร้อมเดินออกไปจากห้อง สองเเฝดจับมือเเน้นทำสีหน้าดูเศร้า กับเหตุการณ์ก่อนหน้า เหล่าสาวใช้มองสองเเฝดด้วยสีหน้าที่สงสารจับใจ
เวลายามค่ำคืนได้มาถึง สองเเฝดนอนในห้องที่มืดมีเเค่เเสงจันทร์ส่องสว่างผ่านหน้าต่าง สองเเฝดนอนไม่รับพลันลุกขึ้นนั้นเพื่อคุยกัน
“พี่ไม่เป็นไรใช่ไหม”
น้องสาวถามด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง ผู้เป็นพี่สาว เธอนั่งกอดเข่าน้ำตาอาบเเก้มของผู้เป็นพี่ พี่ที่ดูเข้มเเข็งตลอดกลับร้องไห้ออกมา น้องสาวเห็นดังนั้นจึงเข้าไปโอบกอดผู้พี่พร้อมตบหลังเบาเหมือนตอนที่พี่สาวของเธอนั้นทำตอนที่อยู่ในสถานที่ค้าทาส
เช้าวันสดใสที่มีเเสงเเดด เสียงนกร้องดังอย่างไพเราะ เเอนสาวใช้ เคาะประตูเบาๆพร้อมเดินเข้ามา เปิดหน้าต่างออก สองเเฝดได้ตื่นขึ้นมา
“ตื่นเเล้วหรือคะคุณหนู ตายจริง!? ทำไมตาของคุณหนูใหญ่บวมเเบบนั้นละคะ??”
เเอนถามด้วยความตกใจ เเต่ผู้พี่นั้นก็ไม่ได้ตอบกลับอะไรไป เเอนจึงรีบหาสมุนไพรมาประคบดวงตาของผู้เป็นพี่ เเละรีบจัดเตรีบชุดที่ดูสวยงามมาให้เเฝดทั้งสองเเฝด
สองเเฝดเเต่งตัวด้วยชุดที่หรูหราเเละฟูฟ่อง สองเท้าของสองเเฝดก้าวออกจากห้องไปยังที่รถม้าที่ใหญ่โต
“ชุดยังเรียบง่ายอยู่นะ กลับจากวิหารต้องเรียกคนมาตัดชุดสินะ”
ดยุกพูดพร้อมมองไปที่เสื้อของสองเเฝด ก่อนขึ้นรถม้าดยุกยื่นมือมาทางสองเเฝด สองพี่น้องทำหน้าเเปลกใจ เเฝดทั้งสองลังเลเล็กน้อยก่อนจับมือดยุกลูอัน
ถึงวิหารศักดิ์สิทธิ์ สองเท้าเล็กก้าวลงจากรถม้า ตรงหน้าเผยให้วิหารสีขาวใหญ่โตโอ่อ่าจนทำทั้งสองเเฝดต้องตะลึง วิหารที่ใหญ่โตนั้นกลับไม่มีเเม้เเต่ผู้คนเลยนอกจากพวกของดยุก
“ทำไมที่นี่ไม่มีคนงั้นหรอพี่?? ”
ผู้เป็นน้องถามผู้พี่ด้วยความสงสัย ผู้พี่ส่ายหน้าด้วยความไม่รู้ เเต่ดยุกลูอันก็ตอบคำนั้นเอง
“ฉันสั่งไว้น่ะ”
“คุณสั่งคนในวิหารได้ด้วยหรือ??”ผู้พี่ถาม
“ได้สิก็ที่นี่เป็นเขตปกครองตนของโอเรียน”
เขาตอบด้วยท่าทางที่ดูภูมิใจ เเละเดินนำหน้าสองเเฝดเข้าไปในวิหาร ผู้พี่ทำหน้าเบื่อหน่ายเเละพูดหยอกล้อดยุกลูอัน
“เก๊กหล่อหรอ..”
เธอพูดเสียงเบาๆพร้อมยิ้ม น้องสาวทำหน้าตกใจเล็กน้อย เพราะไม่เคยเห็นพี่ท่าทางเเบบนี้มาก่อน
ทั้งสามเดินเข้าไปในวิหาร ข้างในเผยให้เห็นนักบวชหญิงสองคนที่ยืนรออยู่ นักบวชกล่าวทักทายดยุกเเละเเฝดทั้งสอง
“สวัสดีค่ะท่านดยุก คุณหนูทั้งสอง”
นักบวชหญิงที่ดูอาวุโสทักทายเเฝดด้วยท่าทางที่ยิ้มเเย้ม
“ทั้งสองน่าจะมีพลังของปีศาจ ตั้งชื่อศักดิ์สิทธิ์ได้ไหม?”
ดยุกถามด้วยท่าทางที่เป็นกังวลเล็กน้อย
“เเน่นอนค่ะ ไม่มีปัญหา”
สองมือของนักบวชหญิงค่อยๆประทับลงที่หน้าผากเพื่ออวยพรสองเเฝด ร่างกายของสองเเฝดส่องเเสงเล็ก พลังศักดิ์สิทธิ์ทำให้พวกเข้ารับรู้ถึงความอบอุ่นที่ไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อนเเละร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บจากพ่อค้าทาสได้รับการรักษา
มุมปากเล็กๆของสองเเฝดยกขึ้นเล็กน้อย ทำให้ดยุกตาเปิดกว้างอย่างเเปลกใจเขาพึ่งเคยเห็นสองเเฝดยิ้มเป็นครั้งเเรก ทำให้ดยุกเผลอยิ้มตามรอยยิ้มที่น่ารักนั้น
นักบวชหญิงเอ่ยนามของสองเเฝด โดยเริ่มจากผู้พี่ “ไอริส” ตามด้วยชื่อของเเฝดผู้น้อง “โรสเเมรี่”
พิธีตั้งชื่อได้เสร็จสิ้นลง สองพี่น้องนั่งรถมาไปยังที่ที่หนึ่ง รถม้าจอดอยู่หน้าร้านเสื้อผ้าที่ดูใหญ่โตจนน่าเเปลกใจ สองเเฝดมองหน้าดยุกลูอันด้วยความสงสัย เเต่ยังไม่ทันตั้งคำถามลูกฉันก็ตอบด้วยท่าทีที่สงบ
“ไม่ต้องลงไปหรอกที่นี่คนเยอะเกินไป ฉันจะไปคุยเอง”
ดยุกพูดยังกับอ่านใจสองได้เป็นอย่างดี เขาลงจากรถม้าเเละเข้าไปยังร้านนั้น เจ้าของร้านรีบมาต้อนรับเป็นอย่างดี ชายหนวดยาวเเต่งตัวด้วยเดรสยาวสีสันฉูดฉาด ผู้เป็นเจ้าของร้านรีบเข้ามาทักทายดยุก เเต่สำเนียงการพูดดูเเตกต่างจาก รูปลักษณ์ภายนอก
“เเหม..ท่านดยุกลมอะไรหมอบมาคะ ถึงมาถึงที่นี่”
ท่าทางของเจ้าของร้านมองใบหน้าที่หล่อเหลาของดยุกลูอัน ใบหน้าเเดงฉายราวกับหญิงสาวที่เขินอายชายหนุ่มที่เป็นรักเเรกของตน ดยุกพูดกับเจ้าของร้านด้วยท่าทางที่นิ่งไม่เเสดงสีหน้าใดๆออกมา
“วันพรุ่งนี้ ฉันจะส่งไซซ์สำหรับชุดเดรสมาให้ เอาเดรสทั้งหมดที่ไซซ์เดียวกับที่ฉันให้ส่งไปที่ ตระกูลดยุกภายใน3วัน”
เจ้าของร้านสีหน้าเปลี่ยนทันทีที่ได้ยินคำพูดของลูอัน เขานั้นน้ำตาคลอ เขากำลังถามดยุก เเต่ก็โดนดยุกลูอันขัดจังหวะที่จะถาม
“ฉันเอาไปบริจาค ขอชุดที่หรูหราที่สุดด้วย”
คำตอบนั้นทำให้เจ้าของร้านกลับมายิ้มอีกครั้งเเละพยักหน้าตกลงด้วยความเต็มใจ เเต่ดยุก นั้นก็ยังทำสีหน้าที่เย็นชา เเละเดินออกไปจากร้านเสื้อนั้น
คิคิ เสียงหัวเราะคิกคักดังออกมาจากรถม้า ทำให้ดยุกลูอันเเปลกใจ เขารีบเปิดประตูรถม้าออกมาพบว่าสองเเฝดนั้นกำลังหัวเราะเบาๆกับเเอนสาวใช้ของพวกเธอ ดยุกลูอันก้าวขาขึ้นรถม้าเพราะกลัวมีผู้ใดนั้นเห็นสองเเฝด
“เมื่อตอนฉันไม่อยู่ หัวเราะอะไรกันหรอ?”
สองเเฝดกั้นขำจนหน้าเเดงเเต่ต่อมาพวกเธอก็กั้นเสียงหัวเราะนั้นได้จริงๆ ฮ่าฮ่าฮ่า เสียงหัวเราะ เจี๊ยวจ๊าวจากสองเเฝดดังขึ้นเเต่ดูท่าเเล้วเสียงของคนผู้พี่นั้ยดังกว่าเป็นไหนๆ ผู้เป็นน้องรีบสะกิดผู้พี่พร้องส่งสัญญาณให้เบาเสียง
“ดยุกไปพบคนรักมาหรอ?”
เสียงผู้น้องตั้งคำถามขึ้นด้วยความไร้เดียงสา ทำให้ผู้พี่ขำน้ำตาเล็ด ดยุกเปิดตากว้างตกใจเเละเเปลกใจกับคำถามของผู้น้อง เขารีบพูดเเบะทำท่าเป็นดูไม่พอใจ ทำท่าที่เหมือนดุสองเเฝด เเต่ใจจริงนั้นกลับเต็มไปด้วยความเอ็นดูเด็กน้องสองคนตรงหน้าเขา
“ไร้สาระนะพวกเธอน่ะ”
เเฝดผู้พี่ขำขันจนเเทบหายใจไม่ทัน ส่งสวนผู้น้องนั้นหัวเราะเบาๆออกมา ท่าสองเเฝดที่ดยุก ลูอันไม่เคยที่ไหนมาก่อนทำให้ดยุกลูอันเเปลกใจเเละสบายใจที่ได้เห็นสองเเฝดนั้นได้ยิ้มเเละหัวเราะ
ถึงคฤหาสน์ที่ใหญ่โตของดยุก สองเท้าเล็กก้าวลงจากรถม้าสองเม็ดกำลังจะเดินเข้าไปในคฤหาสน์เเต่กับถูกดยุกลูอันนั้นหยุดไว้
“เดี๋ยว..”
สองเเฝดหน้าหันไปมองดยุกเขาทำท่าทีที่เงอะงะอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผู้พี่รีบปลอบใจ ดยุกด้วยท่าทีที่เห็นใจ
“ถึงพวกเราจะหัวเราะ เเต่ไม่ได้เเปลว่าเราดูถูกคุณนะดยุกลูอันเจ้าของร้านเสื้อนั้นนางก็เป็นคน คุณจะชอบก็ชอบไปเถอะ”
หลังจากคำพูดนั้นดยุกทำหน้าเอื้อม เเละรีบพูดในสิ่งที่คิดทันที
“ไม่ต้องเรียกดยุก เรียกพ่อเถอะ ทั้งโรส เเละก็ไอริสด้วย”
คำพูดนั้นจบลงดยุกรีบหันหลังกลับทันทีด้วยความเขินอาย ทิ้งให้สองพี่น้องทำหน้าเเปลกใจ สองคนเปิดตา กว้างมองหน้ากันในใจคิดตั้งคำถามมากมาย มันใช้ความจริงหรือ? เเต่ทว่าความรู้สึกได้แลกใจของสองพี่น้องนั้นทำให้รู้สึกว่ากันชงใจนั้นอบอุ่นเเละหัวใจนั้นเต้นตุบตับ