เด็กเเฝดดวงตาสีเทาผมสีดำนั้นเป็นการเตือนถึงสิ่งชั่วร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น สองเเฝดเกิดมาก็มีดวงชะตาที่ยากลำบากถูกขายให้เป็นทาสเเต่ทว่าโชคยังเข้าข้างสองเเฝดจนได้เป็นลูกบุญธรรมของตระกูลดยุก
แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,ตะวันตก,แอคชั่น,เเก้เเค้น,เลือด,ราชวงศ์,ละอองหมึก,ขุนนาง,ปีศาจ,เเฝด,พีเรียดตะวันตก,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
“คะ..คุณหนูทั้งสองคนไปที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ค่ะ ไปกลับเเอน”
ดยุกรีบย่างก้าวขึ้นหลังมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงนั้น เเต่ทว่าพลังเเห่งปีศาจของสองเเฝดกำลังจะตื่นขึ้นโดยสมบูรณ์
ก่อนหน้านี้ในวิหารศักดิ์สิทธิ์
เเฝดผู้น้องถามเเฝดผู้พี่ด้วยความสงสัย
“พี่ไม่ตกใจที่จะต้องเข้าวังหรอ?”
ไอริสเเฝดผู้พี่นั้นตอบกลับเเฝดผู้น้องด้วยความสงบเเละเยือกเย็น เเต่ก็ต้องชะงักเล็กน้อยพร้อมไล่เหล่าสาวใช้ออกไปเหลือเเต่เเอน
“โรสเธอก็รู้นิ..พี่ๆสาวใช้ออกไปก่อนเถอะ”
เหล่าสาวใช้โค้งคำนับเล็กน้อย เเละพากันเดินออกไป เเฝดผู้พี่เริ่มพูดต่อทันที
“พี่รู้สึกว่าพลังนั้นโดนกดไว้ตั้งเเต่ตอนที่ไปตั้งชื่อที่วิหาร พี่รู้ว่าทุกคนนั้นกลัวพลังของพวกเรานั้นอาจจะรวมดยุกด้วย”
“คุณหนูคะ ท่านดยุกน่ะ—”
เเอนรีบพูดขัดขึ้นมาจนทำให้ไอริสผู้พี่นั้นหันมามองด้วยสายเปลี่ยนเป็นสีเเดงฉาน ทำให้เเอนนั้นคุกเข่าลงโดยทันที
เเฝดผู้พี่นั้นหันไปพูดกับผู้เป็นน้องสาวต่อ เธอกว่าวถึงเหตุการที่เกิดขึ้นตอนนั้น
“ตอนนั้นดยุก ลูอันนั้นบอกคนที่วิหารเป็นคนของตน นั้นเป็นไปได้ว่าเขาอาจจะรู้เห็นด้วย ไม่เเน่เรื่องราวที่ดยึกต้องเขาวังอาจจะเกี่ยวข้องกับจักพรรดิ”
“พี่เรื่องนี้เราจะเเน่ใจได้ยังไง?”
“ไปที่วิหารอีกครั้ง”
เเอนทำหน้าเป็นห่วงทันที่เเต่เธอนั้นก็ไม่ได้เอ่ยปากพูดออกมา ทำได้เเค่เพียงตามทั้งสองเเฝดไป
ณ วิหารศักดิ์สิทธิ์
รถม้าคันโตที่ดูหรูหราหยุดจอดหน้าวิหารที่ใหญ่โต เเฝกผู้พี่นั้นให้เหล่าคนติดตามรวมถึงเเอนนั้นรออยู่ด้านนอก
เหล่านักบวชหญิงเห็นตราของตระกูลโอนเรียนจึงรีบเร่งวิ่งหน้าตื่นไปรายงาน นักบวชหญิงอาวุโส
“เเย่เเล้วๆ ดูเหมือนว่าตระกูลโอเรียนจะ—”
เเต่นักบวชที่มารายงานนั้นยังไม่ทันพูดจบ สองเเฝดก็ได้เข้ามาในวิหารเสียเเล้ว
“เเตกตื่นอะไรกัน พวกเรามาเเล้วทำไมหรอ?”
ไอริสผู้พี่พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก พร้อมสาวตาสีเเดงราวกับสีของเลือดสดบ่งบอกถึงพลังปีศาจที่กนะหายเลือดเเละกำลังจะตื่นขึ้นมา จนทำให้เหล่านักบวชนั้นเหงื่อตกไปตามๆกัน
“ท่านนักบวช ผนึกพลังของฉันด้วยเวทย์ศักสิทธิ์ จะรับผิดชอบยังไง”
ออร่าสีเเดงของผู้พี่นั้นเเท้จะระเบิดออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว เหล่านักบวชไม่มีทางเลือกจึงโจมตีด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์
“อย่าเข้ามานะ! พวกปีศาจ!”
“ใจเย็นๆหน่อย ฉันไม่ทำอะไรหากพวกคุณบอกใครอยู่เบื้องหลัง”
คำถามของเเฝดผู้พี่นั้นทำให้นักบวชต้องมองหน้ากันเเละกัน พลันเหงื่อตกด้วยความหวาดกลัวจนไม่กล้าพูดอะไรออกมา
“เป็นคนที่มีอำนาจจริงๆเเม้เเต่วิหารศักดิ์สิทธิ์ยังควบคุมได้”
ไอริสเเฝดผู้พี่นั้นอ่ามือพร้อมโจมตีเหล่านักบวชเพื่อหาคำตอบเเต่ทว่าเสียงกรี๊ดของผู้เป็นน้องสาวต้องทำให้ผู้พี่นั้นต้องหยุดลง
“อย่าเข้ามานะ! ถ้าเข้ามาน้องเเกตายเเน่!”
นักบวชผู้หนึ่งจับตัวผูัเป็นน้องสาวไว้ พร้อมข่มขู่เเฝดผู้พี่ เเต่ทว่าเเฝดพี่นั้นไม่เกรงกลัวกลับกันผู้เป็นพี่สาวค่อยเดินไปหานักบวชผู้นั้น
“ไม่กลัวน้องตายรึไง!”
กร๊อบ เเฝดผู้น้องกระดูกข้อมือด้านขวาหัก ของนักบวชที่จับตัวเธอไว้ อ๊ากกกก เสียงร้องคล้ำควร อย่างเจ็บปวดดังขึ้นช่างน่าเวทนา ความเจ็บปวดทำให้เขาบ่อยมือจากเด็กหญิงโดยทันที เขาลงไปนั่งคุกเข่าพลันกำข้อมือของตนที่บิดเบี้ยวนั้น
“เอามือสกปรกออกไป”
เเฝดผู้น้องพูดด้วยท่าทางที่เย็นชา ตาสีเเดงฉานของเธอมองลงมาที่นักบวช
“ตอนเเรกเเค่มาดูจุดจบของคนที่กล้าสกดพลังพี่สาว เเต่เธอน่ะหาที่ตายเองนะ”
กร๊อบ! เสียงกระดูกข้อมือหักเป็นครั้งที่สอง ครั้งนี้นั้นนักบวชไม่มีเเรงเเม้เเต่จะส่งสียงออกมา ได้เเต่ร่ำไห้ด้วยความเจ็บปวด เธอนั้นไม่เเม้จะกล้าชายตามองสภาพข้อมือของตน
เหล่าเพื่อนๆนักบวชก็ได้เพียงเฝ้ามอง ด้วยความน่าเวทนานี้เท่านั้นเเต่กลับไม่สามารถช่วยเหลือได้
“พี่ที่เหลือจัดการเองเถอะน้องเหนื่อย”
โรสเเฝดน้องหันไปพูดกับไอริสเเฝดพี่
“ได้สิ”
ผู้พี่ตอบน้อวด้วยท่าที่ที่ยอ้มเเย้ม เเต่กลับกันเมื่อเขามองไปหานักบวชที่ข้อมือบิดเบี้ยวนั้นกลับเปลี่ยนเป็นทำสีหน้าที่เย็นชา
“ฉันจะถามนะ ใครอยู่เบื้องหลัง”
นักบวชหญิงได้เพียงเเค่สายหน้า พร้อมน้ำตาที่อาบเเก้ม ตัวของเธอสั่นยังหลับกว้างน้อยที่ถูกล่า
“ขาด้านซ้ายยังอยากเก็บไว้ใช้ไหม”
คำพูดของผู้เป็นพี่ทำให้นักบวชเสียวสันหลังโดยทันที เธอรีบอ่าปากพูดทันที
“ดยุกไม่ได้เกี่ยวข้องค่ะ! วิหารเรารับเงินมาจำนวณมากจากตระกูบออทิสลี่!”
*ตระกูลพ่อเเม่ที่ขายสองเเฝด*
สองเเฝดเปิดตากว้างเมื่อรู้ความจริง พวกเธอนั้นมองหน้ากันด้วยสายตาที่ตกตะลึง
“สงสัยต้องกลับไปเยี่ยมท่านพ่อกับท่านเเม่หน่อยสินะ”
“ไปกันเเอน เราต้องไปเยี่ยมตระกูลออทิสลี่”
ปัจจุบัน
สองเเฝดนั้นก้าวเท้าเตรียมพร้อมออกจากรั้ววิหาร พวกเธอนั้นมีออร่าสีเเดงล้อมรอบตัวด้วยความโกรธ เเต่ทว่าพวกเธอก็ต้องหยุดลงเพราะมีคนมาขวางสองเเฝดไว้ นั้นก็คือดยุกลูอัน
“โรส ไอริส!”
ดยุกดูท่าทางที่รีบร้อนผิดหูผิดตาเพราะปกติเขาเป็นคนสุขุมอยู่เสมอ เเต่ครั้งนี้เขาวิ่งมาเเละหอบเหนื่อย
“ทำไมถึงมาที่นี่ได้?”
ไอริสผู้เป็นพี่สาวถามด้วยความเเปลกใจ
“ไอริส โรสพวกเธอนี้มัน!!”
สองเเฝดจับมือเเน้น เพราะคิดว่าลูอันนั้นต้องโกรธพวกเธอมากๆ เเต่ทว่าความจริงกลับไม่ใช้ในสองที่สองเเฝดคิด
สองเเขนของลูอันนั้นโอบกอดสองเเฝดเอาไว้เเน้น
“ฉันเป็นห่วงพวกเธอเเทบเเย่”
การกระทำของดยุกลูอันนั้นทำให้ออร่าปีศาจขอวสองเดฝดนั้นหายไปจนหมด เหลือดดต่เพียงความประหลาดใจ พวกเธอนั้นไม่เคยรู้สึกอบอุ่นเเบบนี้มาก่อน ถึงเเม้สองพี่น้องจะพึ่งพาเดละรักกันมากเเค่ไหนก็ยังรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปอยู่ดี เเต่ตอนนี้กลับต่างออกไป ความรู้สึกที่เหมือนขาดหายไปกลับได้เติมเต็ม ความอบอุ่น ห่วยใย ที่ลูอันมีให้สองเเฝดทำให้พวกเธอนั้นหลั่งน้ำตาออกมา โดยไม่รู้ตัว
“พ่อ”
ไอนอสผู้เป็นพี่สาวพูดคำที่ทำให้ลูอันนั้นต้องเปิดตากว้าง
“พวกเราขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะพ่อ”
คำพูดขอโทษจากโรสเเฝดผู้น้องทำให้ ลูอันยิ้มตอบด้วยความอบอุ่น พร้อมลูบหัวทั้งสองเเฝดอย่างเบามือ
หลังจากนั้นดยุกเเฝดเเละเเอนก็นั่งรถม้ากลับ สองเเฝดนั้นหลับไปเพราะความเหนื่อย เเละทางวิหาร ดยุกลูอันนั้นก็ส่งตัวคนในวิหารทั้งหมดไปสอบสวนเรื่องรับสินบนจน คนที่โดนโทษสูงสุด ก็คือคนที่เเอบใช้พลังศักสิทธิ์สะกดพลังของไอริสไว้
รถม้าหยุดลงพวกเขากลับมาจากวิหาร ทำให้เหล่าสาวใช้ต่างพากันโล่งอกโล่งใจไปตามๆกัน
“โรสกับไอริสหลับอยู่เเอนเธอช่วยพาพวกเธอไปนอนพักที”
“ค่ะท่านดยุก”
ยามค่ำคืนที่มืดมิดได้มาถึง คืนนี้คือคืนเดือนมืดทุกอย่างนัันมืดไปหมดเเม้งเเต่เเสงจันทร์ยังไม่มี เเสงเดียวที่ส่องสว่าในห้องของเเฝดนั้นคือเเสงเทียน เเฝดผู้น้องได้ตื่นทากลางดึกพร้อมปลุกพี่สาวของตน
“พี่ๆ น้องหิว”
ผู้พี่ตื่นมาด้วยความงัวเงีย เธอมองซ้ายมองขวาพร้อมทำหน้าเปลกใจ โครก เสียงท้องร้องของผู้พี่ดังขึ้น จนเธอนั้นต้องเอามือกุมท้องด้วยความอาย
“มืดเเล้วงั้นหรอ? จะว่าไปเรายังไม่ได้กินมื้อเย็นเลยนิ”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากข้างนอกประตูบานใหญ่ทำสองเเฝดนั้ยมองหน้ากันด้วยความกลัว สองเเฝดนั้นลุกจากเตีบง ผู้พี่ถือเทียนให้ส่องสว่างเกินนำหน้าส่วนน้องสาว นั้นเดินตามโดยเกาะหลังผู้เป็นพี่หนึบ
ผู้พี่ค่อยๆเปิดประตูออก ว้ายยย เสียงกรี๊ดวีดว้ายดังขึ้นจากสองเเฝดเเละผู้ที่อยู่หลังประตู เเต่พอมองดีๆเเล้วเป็นเเอนนั้นเอง