เด็กเเฝดดวงตาสีเทาผมสีดำนั้นเป็นการเตือนถึงสิ่งชั่วร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น สองเเฝดเกิดมาก็มีดวงชะตาที่ยากลำบากถูกขายให้เป็นทาสเเต่ทว่าโชคยังเข้าข้างสองเเฝดจนได้เป็นลูกบุญธรรมของตระกูลดยุก
แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,ตะวันตก,แอคชั่น,เเก้เเค้น,เลือด,ราชวงศ์,ละอองหมึก,ขุนนาง,ปีศาจ,เเฝด,พีเรียดตะวันตก,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
“ยินดีต้อนรับท่านดยุกเเละบุตรบุญธรรมทั้งสอง”
ลูอันยิ้มเล็กน้อย ผมทำสายตาที่เย็นชามองไปทางจักรพรรดินี
“ไม่คิดว่าพระองค์ จะใส่พระทัยกระหม่อมถึงเพียงนี้”
หุหุหุ เสียงจักรพรรดินีหัวเราะด้วยความขมขื่นใจพลันหยิบพัดขึ้นมาปิดใบหน้าส่วนล่าง
“ท่านดยุกล้อเล่นแล้ว สิ่งที่เราสนใจไม่ใช่ท่านแต่เป็นบุตรบุญธรรมของท่านต่างหาก”
“ฮ่าฮ่า ขอประทานอภัยที่กระหม่อมสำคัญตัวผิดไปนะพ่ะย่ะค่ะ”
ดยุคลูอันโต้ตอบกับจักรพรรดินีด้วยความรวดเร็วทันควัน พร้อมใบหน้าที่ฉีดยิ้ม
โรสเเฝดผู้เป็นน้องเห็นทั้งสองคนปะทะฝีปากกัน จึงเดินเข้ามาใกล้แฝดพวกพี่ พลันซุบซิบ
“ดูเหมือนว่าจักรพรรดิที่ดีจะไม่ชอบใจที่ได้เจอหน้าพ่อเลี้ยงนักนะ”
หื้ม? ผู้ที่อุทานด้วยความสงสัยพร้อมหันหน้ามาหาผู้เป็นน้องสาวพันพูดเสียงเบาตอบกลับผู้เป็นน้องสาว
“โรสทำไมน้องถึงไม่เรียกคนผู้นั้นว่าพ่อ?”
“ถ้าพี่ไม่ไว้ใจพ่อเลี้ยง น้องก็ไม่ไว้ใจ”
แฝดผู้เป็นพี่สาวยิ้มในความพึงพอใจ พร้อมยื่นแขนไปลูบศีรษะผู้เป็นน้องสาว
“เอาเถอะเอาเถอะยังไงก็เข้ามาก่อนสิคะดยุกโอเรียน”
จักรพรรดินียิ้มเดินนำหน้าเข้าไปในพระราชวังที่โอ๋อ่านและยิ่งใหญ่
ทันทีที่ก้าวย่างเข้าไปในพระราชวังบนพื้นมีพรมสีแดงนุ่มนิ่ม ซ้ายขวาประดับไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่หรูหรา ด้านบนประดับด้วยแชน เดอเรียที่ให้แสงสว่าง ฝาผนังมีรูปวาดสีน้ำมันที่ดูราคาแพง และผนังนั้นมีเครื่องทองประดับอยู่มากมายจนทำให้แสบตา
พวกเขาเดินมาจนถึงหน้าประตูบานใหญ่ที่ประทับด้วยทองคำ มีทหารประกบผิวข้างประตูซ้ายขวา ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“องค์จักรพรรดิดิฉันนำทางพาแต่ดยุกโอเรียนและบุตรบุญธรรมมาพบพระองค์”
“เข้ามาสิ”
สิ้นสุดเสียงนั้นทหารทั้งสองที่เฝ้าประตูเปิดประตูบานใหญ่ออก ทั้งหมดก้าวผ่านบานประตูที่ใหญ่โตเข้าไปในห้องทำงาน ในห้องทำงานมีผู้ชายที่ดูภูมิฐานและดูสูงๆนั่งรออยู่อย่างยิ้มแย้ม ในดยุคและสองแฝดโค้งเล็กน้อยเพื่อทำการเคารพ
“ถวายบังคมพระอาทิตย์ของจักรวรรดิ”
“นั่งลงเถอะไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้นก็ได้”
สองแฝดและดยุกนั่งลงบนโซฟาที่ดูหรูหราและนุ่มนิ่ม
“ฝ่าบาทหมดหน้าที่ของหม่อมฉันแล้ว หม่อมฉันขอตัวเพคะ”
จักรพรรดินีที่มาส่งทั้งสามคน ปิดประตูอย่างเบามือและค่อยๆเดินออกไป
“ยินดีต้อนรับบุตรทั้งสอง ไม่ต้องเกรงใจหรอกนะทำตัวตามสบายเลย”
จักรพรรดิพูดอย่างเป็นมิตรพร้อมมองไปยังที่สงสัยด้วยสายตาที่อ่อนโยน สองแฝดหันหน้ามองกันด้วยความฉงนสงสัย
“หม่อมฉันได้ยินว่าพระจักรพรรดิไม่ค่อยถูกกับตระกูลโอเรียน”
ผู้เป็นน้องสาวฝาแฝดทำด้วยความสงสัยต่อจักรพรรดิ ทันทีที่ได้ยินคำถามนั้นจักรพรรดิจริงเล็กน้อยเพื่อความอ่อนโยน
“ต่อหน้าคนอื่นทุกคนมองเป็นอย่างนั้น แต่ที่เหลือแค่เราสามคน เราก็ไม่จำเป็นต้องแสดง”
“?? แล้วแอนที่เป็นสาวใช้ไม่นับเหรอคะ?”
เเอนถามต่อด้วยความสงสัยด้วยสีหน้าที่น้อยใน
“ดังนั้นที่ฉันรู้เเล้วค่ะ เพราะว่ารับใช้ท่านดยุกมาหลายปี”
จักรพรรดิยิ้มตอบเรื่องอย่างไม่รีรอ
“สาเหตุที่เรียกบอกบุญธรรมมาพบ เพราะว่าฉันจะทำให้คุณทำไมนั้นเป็นจริง”
ทั้งสองแฝดทำหน้าตื่นตกใจ สิ่งที่จักรพรรดิพูดนั้นหมายความว่าจักรพรรดิจะมอบราชบัลลังก์ให้กับหลานของตนตามคำทำนาย
“ส่งจะทำเช่นไรเพคะ จะส่งแสดงละครให้ฉันกับน้องสาวรอบปลงพระชนม์พระองค์หรือเพคะ?”
“พี่..”
โรสแฝดผู้น้องจับมือเพื่อพี่และเรียกชื่อเพื่อเป็นการเตือนในสิ่งที่เธอพูด
“ไม่ขนาดนั้นหรอก.. เพียงแค่วันที่ฉันนั้นป่วยจนถึงแก่ชีวิต หรืออายุมากแล้ว ฉันก็จะจากไปอย่างสงบและจะทิ้งจดหมายลับเพื่อให้ดยุกลูอันหลานฉันครองบัลลังก์ต่อ”
ไอริสยิ้มพันหัวเราะเล็กน้อยเเละพูดในสิ่งที่เธอคิด โดยไม่เกรงกลัวสิ่งใด
“พระองค์คิดว่าการเป็นจักรพรรดินั้นมันง่ายหรอเพคะ หม่อมฉันได้ยินว่าทรงมีองค์หญิงน้อยกับจักรพรรดินีเเล้วจริงไหมคะ”
“ก็จริงอยู่ที่ประชาชนอาจสับสนเเละอาจจะเกิดการไม่ยอมรับในตัวดยุก แต่ฉันเตรียมการไว้ทุกๆ อย่างแล้วไม่ต้องห่วงไป”
แฝดผู้พี่คิดเล็กน้อย ในหัวของเธอนั้น ตอนนี้นั้นเธอยังไม่คิดเรื่องการที่ในดยุกขึ้นครองบัลลังก์ แต่เธอคิดหาเหตุผลว่าใครอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารและการลักพาตัวในหลายๆ ครั้ง
“จักรพรรดิหม่อมฉันขอพูดตามตรง ใครกันที่อยู่เบื้องหลังเรื่องที่ลอบสังหารพวกเราสองคน ทำไมตระกูล ออทิสลี่ ถึงรู้ว่าพวกเราอยู่ที่ไหนตอนนั้นไวเคาน์ออทิสลี่บอกว่าพ่อค้าทาสนั้นยังไม่ตาย แต่ว่าฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าสิ่งที่ทุกคนพูดน่ะเป็นความจริงหรือไม่”
จักรพรรดิยิ้มอย่างพอใจพร้อมโน้มตัวเข้าหาแฝดผู้พี่
“เราคิดว่าเธอคงมีคำตอบอยู่ในใจแล้วใช่ไหม”
“ส่งหลักแหลมยิ่ง งั้นขออนุญาตพบตามตรงเลยนะเพคะ หม่อมฉันสงสัยทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิ จักรพรรดินี หรือแม้กระทั่งตัวของดยุกพ่อบุญธรรมหม่อมฉันเพคะ”
ไม่ได้ยินคำพูดนั้น จักรพรรดิชะงักด้วยความตกใจไม่ใช่มีเพียงแค่จักรพรรดิที่ตกใจ ทุกคนที่ได้ยินคำพูดนั้นก็ต่างทำสีหน้าที่ซีดเผือด
“ไอริส..แม้แต่ฉันแม้แต่ฉันเธอยังสงสัยหรือ?”
ดยุกถามด้วยความสงสัย พร้อมทำสีหน้าที่กังวลใจแสงด้วยความเศร้าสร้อย สายตาสีเทาของแฝดผู้พี่มองไปที่ใบหน้าของดยุก ไอิสเธอยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ทันที ฮ่าฮ่าฮ่า เสียงหัวเราะลั่นดังขึ้นจากแฝดผู้พี่เธอนั้นขำแทบจะหยุดไม่อยู่
สายตาทุกคนมองมายังไอริสแฟนพวกพี่โดยทันที ใบหน้าของจักรพรรดินั้นเต็มไปด้วยความสงสัยแต่ทว่าสีหน้าของดยุกนั้นกลับเรียบเฉย แฝดผู้พี่นั้นหยุดหัวเราะพลันยิ้มมุมปากด้วยรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ดั่งปีศาจ เธอหันหน้าไปมองโรสแฝดผู้น้องผอมพยักหน้าเล็กน้อยเป็นการส่งสัญญาณบางอย่าง
“ฝ่าบาท พ่อเลี้ยงไม่สิ..ดยุกนี้คือหลักฐานว่าตระกูลดยุกโอเรียนเกี่ยวข้องกับการลอบสังหาร”
ผู้เป็นน้องหยิบกระดาษที่หนาตึกมาวางไว้บนโต๊ะ ในกระดาษเขียนถึงหลักฐานการลอบสังหารทั้ง 2 ครั้งเป็นฝีมือของดยุกเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง โดยที่ดยุกบอกว่าสองแฝดนั้นอยู่ที่ไหน
สายตาที่เย็นชาของทั้งสองแฝดจ้องมองไปที่ดยุก ดวงตาสีเทาดังขนนกพิราบกลับแต่เปลี่ยนเป็นสีแดงฉานดุจเลือด
“ดยุก..คุณต้องการอะไรจากพวกเรากันเเน่?!”
เสียงที่เย็นชากับสีหน้าที่โกรธเกรี้ยวของโรสแฝดผู้น้องดังขึ้น ทำให้ทุกคนมองมาด้วยสายตาที่ตกตะลึง โรสผู้น้องนั้นจากปกติเป็นคนที่ดูอ่อนโยนและใจเย็นเเต่ในตอนนี้กับกลายเป็นคนที่ดูเย็นชาโดยทันที
ดยุกด้วยความพึงพอใจ แปะๆ เสียงตบมือดังขึ้นอย่างเบาๆ
“เก่งจริงๆ สมแล้วที่เป็นคนตระกูลโอเรียน แต่อย่าเข้าใจผิดฉันไม่ได้อยากหักหลังพวกเธอหรือทำไม่ให้เธอไม่เชื่อใจแต่นี่ทำเพราะทุกอย่างคือแผนการที่จะ กำจัดตระกูลออทิสลี่”
ทั้งสองแฝดหันมองหน้ากันด้วยความสงสัย แต่ทว่าพวกเธอนั้นส่งสายตาที่เย็นชาและดุร้ายจ้องมองที่ดยุก
“ทำไมถึงอยากฆ่าตระกูลออทิสลี่?”
จักรพรรดิพูดขึ้นมาทันทีเพื่อทำลายบรรยากาศที่ดูน่าอึดอัดใจนั้น
“เหตุผลที่ดยุกอยากฆ่าตระกูล ออทิสลี่ก็พอเราเอง เราเป็นคนสั่งให้ดยุกวางแผนเพื่อการกำจัดตระกูลออทิสลี่”
ทันทีที่ได้ยินจักรพรรดิพูดสายตาสองแฝดที่ดูดุร้ายนั้นจากที่มองดยุกลูอันแปลเปลี่ยนมาจ้องมองจักรพรรดิโดยทันที
“ทำไมฝ่าบาทถึงอยากฆ่าตระกูล ออทิสลี่”
ไอริสถามจักรพรรดิด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก
“นั่นก็เพราะการค้าขายอัญมณีของตระกูลออทิสลี่กับจักรพรรดินีได้กำไรมหาศาล”
ไอริสแฝดพี่ขมวดคิ้วทั้งสองข้างพร้อมทำสีหน้างงงวย
“ห๊า เรื่องแค่นี้ฝ่าบาทก็ทรงจะฆ่าภรรยาของตนแล้วหรือเพคะ!? ฟังดูไม่สมเหตุสมผลเอาเลยนะ”
“แต่ถ้าเราบอกว่าเงินมหาศาลนั้นสามารถซ่องสุมกำลังพลเลี้ยงทหารได้หนึ่งกองทัพละ”
ทั้งสองเเฝดเปิดตากวางด้วยความตกใจเมื่อได้ยินคำพูดของจักรพรรดิ แฝดผู้น้องรีบทางจักรพรรดิโดยทันที
“แสดงว่าจักรพรรดินีคิดจะกบฏ!!?”