เด็กเเฝดดวงตาสีเทาผมสีดำนั้นเป็นการเตือนถึงสิ่งชั่วร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น สองเเฝดเกิดมาก็มีดวงชะตาที่ยากลำบากถูกขายให้เป็นทาสเเต่ทว่าโชคยังเข้าข้างสองเเฝดจนได้เป็นลูกบุญธรรมของตระกูลดยุก

ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น - ตอน14 ผิดหวัง โดย ละอองหมึก @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,ตะวันตก,แอคชั่น,เเก้เเค้น,เลือด,ราชวงศ์,ละอองหมึก,ขุนนาง,ปีศาจ,เเฝด,พีเรียดตะวันตก,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,ตะวันตก,แอคชั่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

เเก้เเค้น,เลือด,ราชวงศ์,ละอองหมึก,ขุนนาง,ปีศาจ,เเฝด,พีเรียดตะวันตก,แฟนตาซี

รายละเอียด

เด็กเเฝดดวงตาสีเทาผมสีดำนั้นเป็นการเตือนถึงสิ่งชั่วร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น สองเเฝดเกิดมาก็มีดวงชะตาที่ยากลำบากถูกขายให้เป็นทาสเเต่ทว่าโชคยังเข้าข้างสองเเฝดจนได้เป็นลูกบุญธรรมของตระกูลดยุก

ผู้แต่ง

ละอองหมึก

เรื่องย่อ

เด็กเเฝดดวงตาสีเเดงผมสีเทานั้นเป็นการเตือนถึงสิ่งชั่วร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น สองเเฝดเกิดมาก็มีดวงชะตาที่ยาก ลำบากถูกขายให้เป็นทาส เเต่ทว่าโชคยังเข้าข้างสองเเฝดจนได้เป็นลูกบุญธรรมของตระกูลดยุก


ณ  จักรวรรดิออสติน ความเชื่อนี้ได้ถูกสืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น ในตระกูลออทิสลี่และคำทำนายจากวิหารศักดิ์สิทธิ์

ลูกแฝดถือเป็นความเชื่อที่ว่าเป็นสัญญาณของโชคร้าย มันเหมือนกับเสียงระฆังที่ดังขึ้นเพื่อเตือนถึงความทุกข์ทรมานที่กำลังจะมาถึง โดยเฉพาะลูกแฝดเป็นหญิงที่มีผมและตาสีเทา จะนำพาความทุกข์ระทม

เด็กอายุเพียง 5 ขวบต้องถูกขายมาเป็นทาส จนพวกเธอต้องทุกข์ทรมานแสนสาหัส จนกระทั่งมีชายคนหนึ่งได้ช่วยพวกเธอเอาไว้ จนสองเเฝดได้เป็นบุตรบุญธรรมของตระกูล ดยุกโอเรียน แต่เส้นทางนั้นกลับไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด

“เราจะเลี้ยงพวกเขาไปจนถึงอายุห้าขวบ จากนั้นจะขายเป็นทาส!!”

สารบัญ

ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน1 ขายทาส,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน2 ข้อเสนอ,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน3 ไร้นาม,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน4 เสียงหัวเราะเเละความอบอุ่น,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน5 ชายใส่ชุดดำ,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน6 บาดเจ็บหนัก,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน7 ราชวัง,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน8 โอบกอด,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน9 ยาพิษ,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน10 ตระกูลผู้ให้กำเนิด,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน11 จักรพรรดินี,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน12 คนอยู่เบื้องหลังการรอบสังหาร,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน13 ความสงสัยที่อยู่ในใจ,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน14 ผิดหวัง,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน15 ในคุกใต้ดิน,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน16 ข้อเสนอที่น่าสนใจ,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน17 กำจัดพ่อค้าทาส,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน18 เสียบประจานข้างกำแพง,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน19 วันเกิด,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน20 ต่างคนต่างวางแผน,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน21 มิตรภาพ,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน22 งานเดบูตองส์ ,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน23 การตัดสินใจ,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน24 ยาพิษ,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน25 ความจริงเเละพลังปีศาจ,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน26 การต่อสู้กับปีศาจ,ลูกเเฝดบุญธรรมตระกูลดยุกจะกลับมาเเก้เเค้น-ตอน27 ประชุมขุนนาง

เนื้อหา

ตอน14 ผิดหวัง

“จะว่าไปการค้าอัญมณีกับตระกูลออทิสลี่เป็นอย่างไรบ้างเพคะ ถ้าต้องการความช่วยเหลือจากตระกูล ดยุกบอกหม่อมฉันได้เลยนะเพคะ”

ไอริสแฝดพี่ถามด้วยความฉงนสงสัยจักรพรรดินียิ้มตอบ

“การค้านั้นถือว่าเป็นไปได้ด้วยดีทางเราไม่จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากตระกูลดยุกค่ะ”

คำพูดของทั้งสองสื่อความหมายโดยนัยอย่างชัดเจน แต่ถึงทั้งสอง ห้ำหั่นด้วยฝีปากและคำพูดแต่ทว่าพวกเธอนั้นกลับทำใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส บรรยากาศในโต๊ะน้ำชาตอนนี้นั้น แม้ว่าภายนอกนั้นดูสดใสแต่ภายในกลับดูอึมครึม โรสแฝดผู้น้องเห็นดังนั้นจึงรีบตัดบททั้งสองคนโดยทันที

“จะว่าไปองค์หญิงทรงสง่าเเละงดงามมากเลยนะเพคะ”

“แน่นอนอยู่แล้วสิคะ! เลโอเนียร์น่ะต้องสง่าอยู่แล้วเพราะว่าจะได้เป็นจักรพรรดินีปกครองจักรวรรดิต่อจากจักรพรรดิเลยนะคะ แล้วหวังว่าภายภาคหน้าตระกูลในยุคโอเรียนจะสนับสนุนลูกของฉันด้วยนะคะ”

จักรพรรดินีตัดบทโรสเธอยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ พันหัวเราะเล็กน้อยด้วยความหยิ่งผยอง 



เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วงานเลี้ยงน้ำชาที่ดูหรานั้นได้จบลง นั่นก็หมายถึงการสิ้นสุดในการปะทะฝีปากของจักรพรรดินีและไอริสแฝดพี่เช่นกัน ทั้งสองยิ้มด้วยความสดใสแต่ตัดภาพไปใบหน้าขององค์หญิงและโรสเเฝดน้อง กับสีหน้าที่ฝืนยิ้มและดูเหน็ดเหนื่อย 

“นี่ก็ถึงเวลาแล้ว พวกเราต้องขอตัวก่อนเพคะจักรพรรดินีเเละองค์หญิง”

ทั้งสองแฝดโค้งเล็กน้อยก่อนเดินออกจากเรือนกระจกนั้น สองแฝดก้าวเดินไปยังหน้าพระราชวังที่มีรถม้าของตระกูลในดยุกนั้นจอดรออยู่ พวกเธอทั้งสองค่อยๆ ก้าวขึ้นรถมาอย่างระมัดระวัง เมื่อคืนไปยังรถม้าแฝนผู้น้องถอนหายใจด้วยความโล่งอกและเหน็ดเหนื่อย

“งานเลี้ยงน้ำชาไปปะทะฝีปากกับจักรพรรดินีแบบนั้นได้ไง รู้ไหมน้องเเละองค์หญิงทำสีหน้ายังไง”

“ขอโทษทีแต่พี่สงสัยนี่นา”

ไอริสผู้พี่ทำหน้ารู้สึกผิดพลอยขอโทษหรอกเรื่องความจริงใจ โรสทำหน้าคุ้นคิดเล็กน้อยและถามหนูด้วยความสงสัย

“พี่คิดเห็นว่ายังไงเรื่องที่จักรพรรดินีจะ..”

สีหน้าไอริสผู้พี่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเป็นสีหน้าที่ดูจริงจัง

“กบฏ.. เรื่องนี้พี่ยังไม่เชื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยังไงซะแล้วก็ต้องสืบกันเอง โรสฟังพี่ไว้นะพวกเราไม่ยอมเป็นหมากให้ใครแน่นอน”

ไอริสพี่สาวพูดจบพลันกุมมือน้องสาวไว้แน่น โรสพยักหน้าตอบรับโดยทันที แต่ทว่าความสงบกับต้องกลายเป็นความรู้สึกที่อึดอัด

ดยุกลูอันก้าวเท้าเข้ามายังรถม้า แฝดผู้น้องที่นั่งตรงข้ามผู้พี่รีบลุกขึ้นไปนั่งข้างๆ ผู้เป็นพี่สาวโดยทันที สองแฝดทำหน้ามุ่ยพร้อมกันหันหน้าไปคนละทิศคนละทาง

“ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะโกหกเธอ..แต่—”

ก่อนดยุกจะพูดจบ ไอริสก็รีบพูดแทรกขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ 

“ไม่ได้ตั้งใจ?! แต่เหมือนพวกเราเป็นหมากของจักรพรรดิเลยนะคะคุณพ่อเลี้ยง”

“ไอริสฟังพ่อก่อนได้ไหม”

ไอริสจ้องมองดูดยุกลูอันด้วยสายตาที่จริงจังและเย็นชาถ้ารีบตอบกลับคำพูดของนายอยู่อย่างรวดเร็ว

“พ่อเลี้ยง”

“ก็ได้..คือว่าฉันขอโทษไอริส โรส ฉันไม่ได้ตั้งใจและสิ่งที่เกิดขึ้นฉันควบคุมไม่ได้จริงๆ การลอบสังหารที่เกิดขึ้นและการลักพาตัวนั้นเหมือนมีใครบางคนนอกจากฉันและจักรพรรดิเกี่ยวข้องด้วยจึงอาจทำให้เธอบาดเจ็บตอนนั้น...”

คำพูดของดยุกทำให้ทั้งสองสายตาเบิกกว้าง พวกเธอนั้นหันมาสนใจโดยทันที 

“คุณหมายความว่ายังไง ฉันคิดว่าที่บาดเจ็บตอนนั้นเป็นเพราะว่าคุณต้องการซะอีก ไหนจะเลือกกดพลังด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ตอนไปตั้งชื่อที่วิหาร”

โรสแฝดพวกเราพูดได้ทั้งเสียงที่ตัวห่างเหินและเย็นชา

แต่ยกก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกผิด เขาทำหน้าตาที่เศร้าสร้อย เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาและสั่นเครือ

“เรื่องในวิหารศักดิ์สิทธิ์ฉันไม่รู้จริงๆ ตอนแรกฉันคิดว่าเป็นฝีมือของจักรพรรดิแต่ทว่าฉันมารู้ภายหลังว่าไม่ใช่ก็เลยรู้สึกผิดแต่เธอทุกวันนี้..”

ท่าทีละคำพูดของใช้วัยกลางคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามทำให้สองแฝดนั้นหันหน้ามองกันด้วยความลังเลใจ พวกเธอนั้นรู้สึกสงสารแต่ทว่าพวกเธอก็ไม่อยากจะใจอ่อนอีกครั้ง เพราะมีหลายเหตุการณ์ที่ทำให้พวกเธอเจ็บปวดมามาก

“ฉันจะรับคำขอโทษของคุณ ดยุก แต่มีเรื่องหนึ่งที่ควรควรจะจำไว้ก็คือพวกเราสองพี่น้องไว้ใจคุณแล้วแต่คนนั้นพังมันด้วยมือของคุณเองพ่อเลี้ยง”

คำพูดของไอริสแฝดผู้พี่การทำให้รู้สึกเหมือนมีดทิ่มแทงกลางหัวใจของดยุก ดยุกพยักหน้าตอบรับในใจของเขารู้สึกผิดก็จริงแต่ถ้าว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับสองแฝดได้พังทลายลงด้วยน้ำมือของตัวเอง



เวลาผ่านไปสักพักรถม้าก็ได้หยุดลงที่หน้าคฤหาสน์ของตระกูลโอเรียน สองแฝดก้าวลงจากรถมาด้วยท่าทีที่ไม่สบอารมณ์

เมื่อปลายเท้าสัมผัสกับพื้นดิน สองแฝดรีบเดินอย่างไม่รีรอใครเข้าไปในคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว สองเท้าจ้ำอ้าวตรงไปที่ห้องของตนอย่างรวดเร็ว

ปัง!! เสียงปิดประตูบานใหญ่ดังขึ้น

ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูจากแอนที่วิ่งตามทั้งสองแฝดมา เธอรีบถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง

“คุณหนูทั้งสองเป็นอะไรไปคะ”

แฝดผู้พี่ตอบแอนระดับเสียงที่แข็งกระด้าง

“ไม่มีอะไร จากนี้พวกเราอยากอยู่แค่สองคนเธอไม่ต้องเข้ามา รวมถึงเหล่าสาวใช้ด้วยไม่ต้องเข้ามา”

สิ้นสุดคำสั่งของไอริสในห้องเต็มไปด้วยความเงียบสงัด สองพี่น้องฝาแฝดมองหน้ากันและสีหน้าที่เศร้าหมอง 

“พี่...”

เสียงผู้เป็นน้องเลี้ยงผู้เป็นพี่สาว ให้เขามาใกล้ๆ เธอ แฝดผู้พี่ค่อยๆ เดินมาเข้าใกล้แฝดผู้น้องที่สวมกอดผู้เป็นพี่สาวอย่างรวดเร็ว

ฮือๆ เสียงร้องไห้สะอื้นดังขึ้นในห้อง บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าสร้อยและผิดหวัง 

“น้องคิดว่าดยุกนั้นน่าไว้ใจ ตอนนั้นพวกเรายอมรับในเขาแล้ว แต่ตอนนี้กับต้องผิดหวัง”

คำพูดของโรสแฝดผู้น้องทำให้ผู้เป็นพี่สาวเจ็บปวดอยู่ภายในใจ เธอไม่พูดอะไรออกมาพลันกอดน้องสาวแน่น



ทั้งสองเผลอหลับไป จนเช้าวันรุ่งขึ้น แสงแดดสีทองสาดส่องลงมาที่หน้าต่างให้ความอบอุ่นในยามฤดูหนาว แอนสาวใช้ที่ค่อยๆ แง้มประตูเข้ามาด้วยความเบามือ สายตาเธอจ้องมองมาที่สองเเฝดได้ไหมหน้าที่ทุกข์ระทม ในใจมีแต่ความสงสารทั้งสองแฝดที่ต้องเจอเรื่องอะไรต่อมิอะไร

ในขณะที่เธอกำลังจ้องมองส่องแสงด้วยใบหน้าที่เศร้าสร้อยอย่างเหม่อลอยนั้น เเฝดผู้น้องก็ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมา

“แอน? พี่ฉันบอกแล้วนี่ไม่ให้ใครเข้ามา”

“ขอโทษค่ะคุณหนูดิฉันแค่เอาอาหารเช้ามาให้ เพราะรู้ว่าคุณหนูจะไม่ลงไปทานที่ห้องอาหารเพราะไม่อยากเจอหน้าท่านดยุก”

“ขอบใจมาก ออกไปได้แล้วเราอยากอยู่กันแค่สองคนและก็ห้ามให้ใครเข้ามาด้วย”

เมื่อได้ยินคำพูดของเเฝดน้อง สีหน้าของแอนบ่งบอกถึงความไม่สบายใจแต่ทว่าเธอก็ต้องทำตามคำสั่งของผู้เป็นนายอย่างเลี่ยงไม่ได้

“ค่ะคุณหนู”

เเฝดผู้น้องพยักหน้าตอบรับ เธอนั้นค่อยๆ เขย่าไอริสผู้เป็นพี่สาว เพื่อปลุกให้ตื่น

“พี่เช้าแล้ว”

ไอริสผู้เป็นพี่สาวตื่นขึ้นมาสายตาจ้องมองไปที่น้องสาวของตน เธอถามด้วยน้ำเสียงที่ห่วงใย

“โรสน้องไม่เป็นไรใช่ไหม ดีขึ้นแล้วหรอ”

แฝดผู้น้องพยักหน้า เธอยิ้มและตอบผู้เป็นพี่สาวด้วยท่าทีที่สดใส

“น้องไม่เป็นไร”



ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นจากด้านนอก เสียงชายวัยกลางคนที่ดูคุ้นเคยดังขึ้นด้านหลังประตูบานใหญ่

“คุณหนูทั้งสองครับ ท่านใดอยู่ให้มาตามไปทานข้าวครับ”

ชายวัยกลางคนนั้นพูดอยู่ข้างหลังของประตูเสียงนั้นคือเสียงนั้นคือผู้ช่วยของดยุก

“ไม่ไป”

เเฝดผู้พี่ตอบกลับด้วยความเย็นชา แต่ทว่าชายผู้นั้นก็ไม่หยุดที่จะพูดต่อ

“แต่ว่าเหมือนท่านดยุกจะบอกว่ามีข้อมูลเกี่ยวกับการลอบสังหารว่ามีใครมาเกี่ยวข้องนะครับ”..