เด็กเเฝดดวงตาสีเทาผมสีดำนั้นเป็นการเตือนถึงสิ่งชั่วร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น สองเเฝดเกิดมาก็มีดวงชะตาที่ยากลำบากถูกขายให้เป็นทาสเเต่ทว่าโชคยังเข้าข้างสองเเฝดจนได้เป็นลูกบุญธรรมของตระกูลดยุก
แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,ตะวันตก,แอคชั่น,เเก้เเค้น,เลือด,ราชวงศ์,ละอองหมึก,ขุนนาง,ปีศาจ,เเฝด,พีเรียดตะวันตก,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
หลายปีผ่านไป สองเเฝดอายุ16ปีเติบโตมาอย่างงดงามเเละเพียบพร้อม พวกเธอได้เรียนมารยาทสมกับเป็นชนชั้นสูง
ความงามของสองแฝดนั้นถูกเรื่องหรือไปทั่วจักรวรรดิ มีจดหมายมากมายที่ส่งมาเพื่อขอแต่งงาน แต่ทว่าก็ได้ถูกดยุกเเละสองเเฝดปฏิเสธอย่างเด็ดขาด
“คุณหนูคะ มีจดหมายมาส่ง”
แอนเดินมาพร้อมบอกทั้งสองแฝดด้วยท่าทางที่เบื่อได้ โรสแฝดผู้น้องตอบด้วยท่าทีที่ไม่สนใจจดหมายนั้น
“ถ้าเป็นจดหมายขอแต่งงานไม่ต้องเปิดอ่านนะเเอน เผาทิ้งไปซะ”
“รู้สึกว่าจะเป็นจดหมายเชิญจากพระราชวังค่ะ เหมือนจะเป็นการจัดงานเดบูตองส์ขององค์หญิงนะคะ”
“ในที่สุดตาแก่จักรพรรดิก็ฟังฉันสักที”
แฝดผู้น้องพูดความนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ นั่นคือจักรพรรดิยืนยันอย่างหนักแน่น ว่าจะจัดงานเดบูตองส์ให้กับทั้งสองเเฝดที่พระราชวังแต่ทว่าสองแฝดก็ได้ปฏิเสธอย่างหนักแน่นเช่นกัน
โรสหันซ้ายขวาไปยังในห้องของตน เธอไม่เห็นไอริสแฝดพี่ของตนจึงถามแอนด้วยความสงสัย
“พี่ไปไหน ไม่เห็นว่าไปเรียนน่าจะกลับมาได้แล้วนะ”
“คุณหนูโรสยังอาจจะไม่รู้ ช่วงบ่ายนี้คุณหนูไอริสต้องเรียนดาบ”
“ดยุกนั้นให้พี่ฉันเรียนหนักไปแล้ว..”
โรสพูดจบพร้อมทำสีหน้าไม่พอใจ เธอรีบเดินย่างก้าวออกจากห้องอย่างรวดเร็วเพื่อไปหาผู้เป็นพี่สาว
เมื่อโรสเดินมาถึงลานฝึกดาบ สายตาของโรสมองไปยังผู้เป็นสาว
ไอริสที่กำลังประลองดาบกับดันเต้อยู่ ดันเต้ที่อายุพอๆ กับทั้งสองแฝดเขานั้นได้โตกลายเป็นหนุ่มที่ดูสง่างาม ไม่ใช่ใบหน้าที่แค่รอเราเท่านั้นความสามารถของเขาก็ยังโดดเด่น ดันเต้เริ่มโจมตีไอริสด้วยความเร็วแต่ทว่าเเฝดผู้พี่ก็ได้หลบดาบไม่ได้อย่างง่ายดาย เเฝดผู้พี่ค่อยๆส่งพลังมานาไปที่ดาบ และโจมตีดันเต้ด้วยดวงตาที่สีแดงราวกับปีศาจ ดันเต้ล้มลงดาบไม้จ่อที่คอของดันเต้
“ขี้โกงนะครับใช้พลังเเบบนี้”
เเฝดผู้พี่เก็บดาบและยื่นมือไปหาดันเต้ เขาจับมือแฝดพี่ลุกยืนขึ้น
“ขอโทษทีนะ แต่วันนี้น้องสาวของฉันมาดูจะเสมอเหมือนทุกๆ วันไม่ได้หรอก”
เเฝดพี่พูดพร้อมหันหน้ามองผู้เป็นน้องสาว เธอเดินไปหาโรสที่ยืนดูอยู่
“โรสเห็นว่าวันนี้ไปเรียนเต้นรำ ทำไมถึงกลับมาเร็วนักล่ะ”
“วันนี้มาดามที่มานอนป่วย ก็เลยกลับมาเร็ว ว่าแต่พี่เถอะพ่อเลี้ยงให้พี่ฝึกหนักไปแล้วนะ”
น้องสาวมองพี่สาวด้วยสายตาความเป็นห่วง ไอริสตอบแฝดน้องด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ไม่เป็นไร ที่ฝึกประจำอยู่แล้วเหนื่อยแค่นี้ชินแถมไม่ได้ฝึกหนักด้วย”
แฝดผู้พี่มองไปยังมือขวาที่ถือซองจดหมายเอาไว้
“จดหมายอะไรน่ะ? อย่าบอกนะว่าเป็นจดหมายขอแต่งงาน..”
“มันคือการ์ดเชิญไปงานเดบูตองส์ขององค์หญิง”
แฝดผู้พี่ยิ้มด้วยความพอใจพร้อมค่อยๆ หยิบการ์ดเชิญขึ้นมาอ่าน
“ในที่สุดจักรพรรดิก็ไม่ดื้อดึงเเล้วสินะ”
ระหว่างที่คุยกันอยู่นั้นเอง หญิงรับใช้ของจักรพรรดินีก็ได้เดินมาแจ้งข่าว
“คุณหนูทั้งสองจักรพรรดินีเช่นคุณหนูทั้งสองไปพบค่ะ”
“รอสักครู่เดี๋ยวพวกเราขอเตรียมตัวแล้วจะไป”
แฝดผู้พี่พูดพร้อมหยิบผ้ามาเช็ดเหงื่อ
“เอ่อ..จักรพรรดินีบอกเป็นเรื่องเร่งด่วนค่ะเลยอยากให้รีบไปที่สุด”
ทั้งสองเเฝดไม่มีทางเลือกจึงไปโดยสวมชุดเดรสที่ดูสบายๆ ทั้งสองอย่างก้าวขึ้นรถม้ารถมาออกตัวอย่างรวดเร็ว
ณ พระราชวังสองเเฝดก้าวเท้าลงจากรถม้า เข้าไปในตัวพระราชวังที่ดูวุ่นวายกับการจัดเตรียมงานเดบูตองส์ พวกเธอนั้นไม่สนใจสิ่งรอบข้างเดินตรงไปที่ห้องรับรองของจักรพรรดินี
ถึงหน้าประตูช่องรับรองหญิงรับใช้เคาะประตูพร้อมพูดรายงานจักรพรรดินี
“จักรพรรดิดีมีเพคะ บุตรีบุญธรรมของตระกูลดยุกโอเรียนมาถึงแล้วเพคะ”
“เข้ามาเถอะ”
เสียงตอบรับของจักรพรรดินีที่อยู่อีกฝั่งของประตูดังขึ้น ทันใดนั้นประตูบานใหญ่ก็ได้เปิดออกด้านในห้องมีตัวรับรองที่ดูหรูหรา พร้อมเซตน้ำชาที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างสวยงาม
“ถวายบังคมเพคะจักรพรรดินี”
ทั้งสองเเฝดพูดพร้อมกันและค่อยๆ โค้งเพื่อทำความเคารพต่อจักรพรรดินี
“ไม่ต้องมาพิธีไป เอาล่ะนั่งลงเถอะ”
จักรพรรดินีผายมือไปยังที่โซฟาที่ดูนุ่มนิ่ม สองเเฝดค่อยๆ นั่งลงและจิบชาที่วางไว้อยู่บนโต๊ะ
“ทุกคนออกไปก่อนเรามีเรื่องที่จะพูดคุยกับทั้งสองเเฝด”
จักรพรรดิดีมีพูดพร้อมค่อยๆ วางถ้วยน้ำชาลงและทั้งสีหน้าจริงจัง สาวๆ ใช้และหญิงรับใช้โค้งและค่อยๆ เดินออกไป
แฝดผู้น้องถามด้วยความสงสัยโดยทันที
“มีอะไรเร่งด่วนหรือเพคะ ทำไมต้องไล่พวกสาวชายและหญิงรับใช้ออกไปแบบนี้”
“เรื่องนี้..จะให้ใครรู้ไม่ได้เด็ดขาดยกเว้นพวกเราสามคน”
ทั้งสองแฝดหันหน้ามองไปที่ใบหน้าของจักรพรรดินีที่กำลังทำสีหน้าจริงจัง
“เราคิดว่างานเดบูตองส์จักรพรรดิจะประกาศรัชทายาทผู้มีสิทธิ์ในราชบัลลังก์คนต่อไป”
“เรื่องนั้นมันก็น่าจะเป็นเรื่องดีนะเพคะ เพราะว่าองค์หญิงอายุก็ควรจะออกงานสังคมได้แล้ว...” แฝดผู้พี่พูด
“คนของเราแฝงตัวอยู่ในคนขององค์จักรพรรดิ เขาคนนั้นบอกว่ารัชทายาทที่มีสิทธิ์ในราชบัลลังก์คนต่อไปก็คือดยุกลูอัน โอเรียน”
“!!!”
ทั้งสองแฝดเปิดตากว้างด้วยความตกใจ ไอริสรีบโต้แย้งอย่างทันที
“เป็นไปไม่ได้ ถึงดยุกจะเป็นหลานขององค์จักรพรรดิ เเต่ว่าองค์หญิง..”
“จักรพรรดิทรงจะวางยาพิษฉันและตัวของพระองค์เองเพื่อโยนความผิดให้เลโอเนียร์”
ทั้งสองฝ่ายที่มีสีหน้าที่ตื่นตกใจอยู่แล้วกลับตกใจเพิ่มอีกอย่างคาดไม่ถึง โรสรีบถามถึงเหตุผลทันที
“ทำไมองค์จักรพรรดิถึงต้องวางยาพระองค์ระวังยาตัวเอง ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงจักรพรรดิจะอ้างเหตุผลอะไรเพื่อให้องค์หญิงรับผิดละเพคะ”
จักรพรรดินีถอนหายใจด้วยความเหนื่อยล้า เธอก้มลงและน้ำมือกุมขมับของตน ถ้าครุ่นคิดพักก่อนที่จะพูดออกมา
“จักรพรรดิจะอ้างว่าองค์หญิงมีความกระหายในราชบัลลังก์จึงวางยาพ่อและแม่ของตน จากนั้นจะปลดเธอเป็นสามัญชน”
ทั้งสองฝ่ายหันหน้ามองกัน โรสแฝดผู้น้องถามจักรพรรดินีด้วยความสงสัย
“ทำไมแม้กระทั่งเรื่องนี้ท่านถึงรู้ละเพคะ”
“เพราะฉันส่งหนอนบ่อนไส้ไป คนๆ นั้นใกล้ชิดกับจักรพรรดิมากจนรู้ทุกแผนการ”
“ต่างคนต่างวางแผนนะเพคะพระองค์ทรงไม่กลัวหรอ ว่าองค์จักรพรรดิจะรู้แล้ววางแผนซ้อนแผน”
ไอริสพูดพร้อมทำใบหน้าที่จริงจัง จักรพรรดินียิ้มเล็กน้อยพร้อมตอบด้วยความมั่นอกมั่นใจ
“ไม่มีทางคนที่เราส่งไปอยู่ใกล้ชิดจักรพรรดิตั้งแต่เด็กไม่มีทางที่จะรู้ได้”
“ถ้าทรงรู้ถึงขนาดนี้พระองค์จะเรียกพวกเรามาทำไมเพคะ”
เเฝดผู้ที่ถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและดูไม่พอใจ
“เราต้องการให้เธอช่วย เราจะบีบให้จักรพรรดิประกาศรัชทายาทก่อนที่จะถูกวางยาพิษ”
“พระองค์จะใช้วิธีไหน”
แฝดน้องถามด้วยความสงสัย จักรพรรดินีเธอค่อยๆวางมือลงบนหน้าตักเธอยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และพูดในสิ่งที่คิด
“เรามีวิธีก็แล้วกัน แต่หลังจากนั้นเราจะยอมกินยาพิษมันเข้าไป หลังจากนั้นเธอก็โยนความคิดให้ดยุก”
ห๊า! ทั้งสองเเฝดอุทานด้วยความตกใจ เเฝดพวกพี่รีบลุกขึ้นมาด้วยความตกใจถ้าทุบโต๊ะ จนเสียงดังสนั่นไปทั่วห้อง
“พระองค์ทรงเสียสติไปแล้วหรือไงเพคะ!? ไม่ใช่แค่พระองค์จะเป็นอันตรายแต่ดยุกนั้นคือพ่อเลี้ยงของเรา”
“พระองค์ทรงคิดหรือไม่ว่าการวางยาราชวงศ์มันคือการประหารทั้งตระกูล!”
แฝดผู้น้องผู้เสริมด้วยน้ำเสียงที่จริงจังและไม่พอใจ แต่จักรพรรดินีตอบอย่างมั่นใจ
“ฉันต้องรอดชีวิตอย่างแน่นอน”
ทั้งสองเเฝดถอนหายใจพวกเธอนั้นตัดสินใจที่จะเดินออกไปจากห้องโดยไม่สนใจคำพูดของจักรพรรดินี
แต่ทว่าคำพูดของจักรพรรดินีหลังจากนั้นทำให้ทั้งสองเเฝดหยุดชะงักโดยทันที
“เราไม่ได้ให้ช่วยเฉยๆ สิ่งที่พวกเธอต้องการก็คือสมุดบันทึกที่แม่ของเธอทิ้งไว้ ถ้าไม่ช่วยก็ไม่มีวันที่จะได้มัน”
หลังคำพูดนั้นทำให้ทั้งสองแฝดที่หันหน้ากลับมาและสนใจคำพูดของจักรพรรดินีทันที
“ที่เเท้ก็ทรงรู้เเล้วว่าเราต้องการตามหาสมุดนั่น”
“เรารู้พ่อค้าทาสต้องพูดออกอย่างมาเเน่นอน”
ทั้งสองเเฝดไม่มีทางเลือกจึงเดินกลับมานั่งลงบนโซฟา ไอริสจะพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา สีของดวงตาแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเพราะด้วยโกรธ
“พระองค์ทรงข่มขู่กับพวกเราหรอ?”