เด็กเเฝดดวงตาสีเทาผมสีดำนั้นเป็นการเตือนถึงสิ่งชั่วร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น สองเเฝดเกิดมาก็มีดวงชะตาที่ยากลำบากถูกขายให้เป็นทาสเเต่ทว่าโชคยังเข้าข้างสองเเฝดจนได้เป็นลูกบุญธรรมของตระกูลดยุก
แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,ตะวันตก,แอคชั่น,เเก้เเค้น,เลือด,ราชวงศ์,ละอองหมึก,ขุนนาง,ปีศาจ,เเฝด,พีเรียดตะวันตก,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ดวงตาสีเเดงราวกับเลือดพร้อมออร่าที่น่าสยดสยองนั้นถูกส่งไปยังเหล่าเลดี้ที่กำลังพูดซุบซิบอย่างสนุกปาก เหล่าเลดี้นั้นสงบปากทันทีที่ได้เห็นดวงตานั้นเเละความกดดันพวกเธอจึงรีบสงบปากสงบคำลง เเต่ทว่าทันทีที่ได้เห็นสายตาของดยุกที่ดูโกรธ พวกเธอก้มหน้าด้วยความหวาดกลัว
“อย่าไปสนใจไอริส โรส พวกเเมลงมันก็จะน่ารำคาญเช่นนี้เเหละ”
ดยุกจงใจพูดเสียงดังให้ผู้คนได้ยินจนทำให้เหล่าผู้คนที่ซุบซิบนั้นเสียวสันหลังไปตามๆ กัน
เเฝดผู้พี่ถอนหายใจหันไปมองผู้เป็นน้องสาวด้วยความเป็นห่วงเธอปล่อยเเขนลูอันผู้เป็นพ่อเลี้ยงของเธอเเละค่อยๆ เดินไปหาดันเต้เละเอ่ยปากพูดออกมา
“เอียงหูเข้ามาใกล้ๆ หน่อยสิฉันมีเรื่องสำคัญจะบอก”
ดันเต้ทำหน้ามึนงงพร้อมค่อยๆ เอียงศีรษะเข้ามาใกล้ไอริสเเฝดพี่ถึงเเม้เธอให้ดันเต้เอียงหูมาฟังเธอเเต่ไอริสเเฝดพี่นั้นกลับตะโกนออกมา เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกพร้อมส่งสายตาสีเเดงฉานไปยังกลุ่มคนที่นินทาพวกเธอที่ตอนนี้ได้เเต่ก้มหน้าสะดุดไปตามๆ กัน
“ดูเเลน้องฉันดีๆ เธอเป็นคนขี้กลัวเเละพูดน้อยไม่ตอบโต้ใคร เเต่ทว่าถ้าพลังปีศาจระเบิดออกเเล้วความอำมหิตนั้น เเม้เเต่ฉันหรือพ่อเลี้ยงก็เทียบไม่ติดเลยนะ”
เสียงตะโกนของไอริสทำให้ดันเต้ต้องสะดุ้ง
“ค.. คุณหนูครับ.. หูของผม”
“ฮ่าฮ่าฮ่า โทษที”
ไอริสหัวเราะออกมาเบาๆพร้อมเดินกลับไปที่เดิมที่ดยุกยื่นอยู่เธอกลับมาควงเเขนผู้เป็นพ่อเลี้ยงอีกครั้ง ดยุกรีบหันหน้ามาพูดกับไอริสทันที
“จะดุฉันหรอคะ? ที่พ่อเลี้ยงด่าพวกนั้นว่าเเมลงน่ะน่าจะดูตัวเองมากกว่านะคะ”
“ป่าว เพียงเเต่ในงานสังคมเรียงฉันว่าพ่อเถอะ เดี๋ยวผู้อื่นจะนินทาได้นะทั้งสองคนเลยนะเรียกว่าพ่อได้เเล้ว”
“ไม่คิดเลยว่าท่านจะสนใจด้วย” ไอริสกล่าว
“เเน่นอนฉันสนใจ เธอก็ด้วยนิ..ไอริสลูกพูดสุภาพเกินกว่าจะเป็นลูกนะ”
โรสได้ยินที่ดยุกพูดก็ได้เพียงกลั้นขำ ไอริสก็ได้เเต่เพียงยิ้มตอบเเละคิดในใจดยุกเจ้าเล่ห์ตั้งใจจะล้อเลียนฉัน ทำไมต้องพูดว่าลูกตั้งหลายครั้งกัน..
เสียงตะโกนจากชายผู้ขานชื่อหน้าประตูดังขึ้น
“จักรพรรดิอับบาส เดอ ออสติน จักรพรรดินีโอลีเลีย เดอ ออสติน องค์หญิงเลโอเนียร์ เดอออสตินเเละบารอนเนสวิด้า เมเบลมาถึงเเล้ว”
เหล่าราชวงศ์ก็ได้เดินมาถึงงานเเต่ทว่าบารอนเนสผู้เป็นภรรยาน้อยของจักรพรรดิก็เดินเข้าในงานด้วยท้องที่โตนั้น เสียงซุบซิบกลับดังขึ้นอีกครั้ง
“ตายจริงหญิงผู้นั้นมาด้วยงั้นหรือคะ”
“นี่เป็นงานเดบูตองส์ขององค์หญิงทำไมบารอนเนส มาได้ละคะ?”
“ท่านหญิงยังไม่รู้อะไรถึงเป็นเเค่บารอนเนสเเต่เป็นคนที่จักรพรรดิทรงรักเลยนะคะ อาจจะได้เป็นพระชายาไม่ก็เป็นจักรพรรดิองค์ที่สองก็ได้นะ”
หญิงผู้นั้นพูดไม่ระวังปากจนทำให้จักรพรรดินีได้ยินเข้าเธอหันไปซุบซิบกับทหารส่วนตัวที่ตามเธอมา
“อย่าทำให้วุ่นวายจับเธอไปท่วงน้ำซะ”
จักรพรรดินีพูดเบาๆ ทหารคนนั้นได้เเต่เพียงพยักหน้าเเละรับคำสั่ง
เลโอที่เดินตามหลังมา กลับทำสีหน้าเศร้าอย่าเห็นได้ชัด เเฝดผู้น้องเห็นดังนั้นจึงสะกิดผู้เป็นพี่สาวของตน
“พี่สีหน้าองค์หญิงดูไม่ดีเลยนะ”
“นั้นสิ..ว่าเเต่คนนั้นคือบารอนเนสวิด้าคนนั้นสินะ”
เเฝดผู้พี่พูดพร้อมจ้องมองไปยังที่วิด้า เหล่าราชวงศ์เดินจนถึงที่นั่งที่จัดเตรียมไว้สำหรับราชวงศ์
เมื่อจักรพรรดิได้นั่งลงเพลงเต้นรำก็เริ่มดังขึ้นเหล่าสาวที่อายุเท่ากับองค์หญิงได้เริ่มรวมกลุ่มเต้นรำอย่างสนุกสนานทั้งสองเเฝดรีบจับมือกลับไปยังหน้าพระพักตร์ของจักรพรรดิเเละจักรพรรดินี
ทั้งสองเเฝดก้มหัวคำนับเหล่าราชวงศ์มือขวาจับปลายกระโปรงมือซ้ายเเนบชิดกับหน้าอก
ไอริสแฝดผู้พี่เริ่มกล่าวคำทักทายตามประเพณี
“หม่อมฉันบุตรีตระกูลดยุกเเละน้องสาวของทวายบังคมจักรพรรดิ จักรพรรดินีเเละองค์หญิงขอให้พระองค์ทั้งสามทรงพระเจริญเป็นเเสงสว่างให้จักรวรรดิเจริญรุ้งเรือง”
“เงยหน้าขึ้น คนรู้จักกันแท้ๆ ไม่ต้องมากพิธีนักหรอก”
จักรพรรดิยิ้มแล้วบอกให้ทั้งสองแฝดเงยหน้าขึ้น ทั้งสองเเฝดทำตามพระประสงค์ โรสแฝดน้องไม่ได้ลองรีบเข้าเรื่องทันควัน
“หม่อมฉันมาเชิญองค์หญิงไปเต้นรำกับเหล่าหญิงสาวเพคะ”
องค์หญิงเลโอยิ้มพร้อมหันหน้าไปทางจักรพรรดิผู้เป็นพ่อของตน จักรพรรดิพยักหน้าเล็กน้อยพอยิ้มได้สีหน้าที่สดใส
“ไปเถอะเลโอวันนี้พ่ออยากให้ลูกสนุกไปกับงานนะ”
“ขอบคุณค่ะท่านพ่องั้น—”
“เลโอเนียร์ เดอ ออสติน!!”
ก่อนที่องค์หญิงเลโอ จะพูดจบเสียงจากจักรพรรดินีมีที่นั่งข้างๆ ดังขึ้น เลโอหันหน้าไปทางแม่ของตนได้สินะที่ตกใจ จักรพรรดิดีๆ ไม่สนสีหน้าของผู้เป็นลูกสาวและผู้ต่อ
“ต่อหน้าคนอื่นควรเรียกว่าฝ่าบาทสิ ครูสอนมารยาทของลูกไม่สอนหรือไง!!?”
“ไม่เห็นต้องเข้มงวดขนาดนั้นเลยเราไม่ได้ว่าอะไร”
จักรพรรดิพูดพร้อมมองไปที่จักรพรรดินีด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“นั่นสิ..จักรพรรดินี ทรงเข้มงวดกับองค์หญิงไปเพคะ”
บารอนเนสวิด้าผู้ยืนข้างจักรพรรดิพูดด้วยน้ำเสียงที่เย้ยหยันเยาะเย้ยพร้อมสายตาที่ดูจิกกัดจักรพรรดินีอย่างถึงที่สุด แต่ถ้าว่าจักรพรรดินีก็ไม่สนใจคำพูดของภรรยาน้อยอย่านางเพราะในความคิดของเธอนั้น คำพูดของวิด้าผู้เป็นภรรยาน้อยนั้นเป็นเพียงแค่แมลงหวี่แมลงวันคอยส่งเสียงรบกวนเท่านั้น
องค์หญิงเห็นบรรยากาศไม่ดีจึงรีบลุกออกจากพระที่นั่งค่อยๆโค้งให้กับพ่อและแม่ของตนเธอเดินไปหาทั้งสองแฝดพร้อมทำสีหน้าที่บึ้งตึง
“ไปเต้นรำกัน..”
เสียงพูดที่ดูไม่สดใสขององค์หญิงทำให้ทั้งสองแฝดนั้นรู้สึกกังวล พวกเธอจึงรีบหาข้ออ้างอย่างรวดเร็วเพื่อจะให้องค์หญิงคุยกับพวกเธอตามลำพัง
“ว่าแต่องค์หญิงชุดที่เลือกให้ลูกไม้ตรงนี้เหมือนยับไปนิดหน่อยนะเพคะ”
“จริงด้วยโรสน้องพี่นี่ตาแหลมจริงๆ งั้นเดี๋ยวพวกเราไปแก้ชุดอีกห้องหนึ่งแล้วกันนะ”
ทั้งสองเเฝดจับมือขององค์หญิงเลโอไปที่ห้องพักข้างๆ โรสส่งสัญญาณให้ดันเต้นั้นตามเธอมา พวกเธอเดินมายังห้องข้างๆ เเละค่อยๆ เปิดประตูบานใหญ่ออก ข้างในเป็นห้องรับรองที่มีโซฟาสีแดงและผมสีแดงปูไปทั่วห้อง โรสสั่งดันเต้ด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“อย่าให้ใครเข้ามาเด็ดขาด”
“ครับ”
ดันเต้รีบพยักหน้าตอบรับ โรสรีบปิดประตูบานใหญ่ลงในห้องนั้นมีแค่ทั้งสามคนอยู่ ไอริสจึงรีบเข้าประเด็นโดยทันที
“เกิดอะไรขึ้นเลโอสีหน้าของเธอดูไม่ดีเลยนะ”
“ฉันคิดว่าเรื่องยาพิษนั่นฉันจะเป็นคนเดิมมันเอง”
“!!!”
สองแฝดหันไปมองเลโอด้วยสีหน้าที่ตกใจ โรสรีบพูดคัดค้านหน่อยทันที
“เรื่องยาพิษฉันคิดว่าเราตกลงกับจักรพรรดินีว่านางจะเป็นคนลืมมันเองทำไมเธอถึง..”
“ไม่ต้องห่วง..เรื่องสมุดบันทึกนั้นฉันแอบไปขโมยมาจากห้องท่านแม่ ส่วนเรื่องยาพิษฉันเตรียมยาถอนพิษเอาไว้เเล้ว”
“เเต่ว่า..มันอันตรายเกินไปที่จะให้เธอทำเเบบนั้น”
“ไม่เป็นไร เพื่อไม่ให้ตระกูลดยุกต้องแปลกเปื้อนเเละราชวงศ์จะได้ไม่ถูกข้อกังขาฉันทำได้”
“เพราะเธอทั้งสองเชื่อใจฉันไหม?”
สิ้นสุดคำพูดเลโอสองเเฝดหันหน้ามองกันด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล แต่ถ้าว่าคำพูดขององค์หญิงทำให้ทั้งสองคนมั่นใจในการตัดสินใจของเธอ
“พวกเราเชื่อใจเธอ”
“ขอบคุณนะ”
ทั้งสองหันหน้ากลับมาหาเลโอและพยักหน้าพร้อมจับมือแน่น องค์หญิงเลโอยิ้มเล็กน้อย
ทั้งสามเดินออกจากห้องโถงใหญ่กลับไปรวมงานเลี้ยง เพลงที่สองได้ดังขึ้นซึ่งนั่นหมายความว่าองค์หญิงจะต้องเต้นรำกับจักรพรรดิ
องค์หญิงเลโอค่อยๆ เดินไปหาผู้เป็นพ่อแรงโน้มตัวคงคำนับปลายมือจับที่กระโปรงที่ฟู จักรพรรดิยิ้มเล็กน้อยพร้อมยื่นมือซ้ายเพื่อเป็นการขอเป็นหลัก