เด็กเเฝดดวงตาสีเทาผมสีดำนั้นเป็นการเตือนถึงสิ่งชั่วร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น สองเเฝดเกิดมาก็มีดวงชะตาที่ยากลำบากถูกขายให้เป็นทาสเเต่ทว่าโชคยังเข้าข้างสองเเฝดจนได้เป็นลูกบุญธรรมของตระกูลดยุก
แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,ตะวันตก,แอคชั่น,เเก้เเค้น,เลือด,ราชวงศ์,ละอองหมึก,ขุนนาง,ปีศาจ,เเฝด,พีเรียดตะวันตก,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ไอริสเดินถึงหน้าห้องประชุมเธอถอนหายใจจากนั้นสีหน้าจองเธอก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าที่จริงจังพร้อมดวงตาที่เปลี่ยนเป็นสีเเดงเเละปล่อยออร่าที่กดดันออกมา ประตูบานใหญ่เปิดออกไอริสเดินเข้าไปด้วยท่าทีที่สง่าผ่าเผย
เหล่าขุนนางที่เห็นดวงตาสีเเดงนั้นต่างพากันเเสดงความหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัดเเต่ทว่าก็มีบางส่วนที่ไม่หวาดกลัวเเม้เเต่น้อง ไอริสไม่สนใจเธอเดินเข้ามากล่าวคำทักทาย
“ทุกๆท่านฉันคือบุตรีของตระกูลดยุกโอเรียนชื่อว่าไอริส โอเรียนยินดีที่ได้พบขุนนางทุกท่าน”
ไอริสทักทายเหล่าขุนนางตามมารยาทเธอค่อยๆนั่งลงที่หัวโต๊ะ ขุนนางชายวัยกลางคนผู้หนึ่งเห็นดังนั้นจึงมีท่าทีที่ไม่พอใจ
“บุตรีดยุกผมไม่อยากจะว่าอะไรหรอกนะเเต่ทว่าหัวโต๊ะนั้นเป็นตำเเหน่งของดยุกเท่านั้น บุตรียังไม่มีตำเเหน่งขุนนางเหตุใดถึงไปนั่งที่นะ..นั้น...เอ่อ..”
ก่อนที่ชายวัยกลางคนนั้นจะพูดจบเขาก็ชะงักเพราะความกดดันอันนาสยดสยองที่มากกว่าตอนเดินเข้ามาในห้องเสียอีกนั้นหมายความว่าเธอนั้นกำลังโกรธ เหล่าขุนนางพากันเหงื่อตกด้วยความกลัวเเต่ทว่าไอริสน้นกลับยิ้มเเย้มเเละเก็บความโกรธไว้ภายในใจ
“เป็นอะไรไปคะ เชิญพูดต่อได้เลยดิฉันจะได้ทำตัวให้เหมาะสม” ไอริสพูด
“เอ่อ..ไม่มีอะไรเเล้วครับผมเเค่พูดอยากเตือนเท่านั้น..”
ขุนนางชายพูดเเละก้มหน้าก้มตา
“คุณหนูครับผมคิดว่าข่มขู่เเค่นี้เหล่าขุนนางก็กลัวจนหัวหดเเล้วนะครับ”
ดันเต้กระซิบข้าหูไอริสเธอยิ้มเล็กน้อยออกมา สักพักความกดดันนั้นก็ได้ก็ค่อยๆ หายไปเเต่ทว่าดวงตาสีเเดงนั้นก็ยังไม่หายไป เหล่าขุนนางพากันถอนหายใจด้วยความโล่งอกเเละรีบเข้าเรื่องอย่างไม่รอช้า
“ผมคิดว่าโรสเเมรี่ โอนเรียน นั้นทำความผิดใหญ่หลวงที่อัญเชิญปีศาจมา”
ขุนนางชายวัยกลางคนผู้นั้นรีบพูดออกด้วยเสียงที่ดังสะนั่น คำพูดนั้นทำให้เหล่าขุนนางพากันซุบซิบกันเเต่ว่ามีขุนนางที่อยู่ฝ่ายของไอริสก็โต้เเย้งขึ้นมา
“ท่านก็พูดเกินไปฉันคิดว่าเราควรถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จะดีกว่านะคะ”
ขุนนางหญิงหน้าตาสะสวยผู้หนึ่งพูดขึ้น ขุนนางชายคนเดิมมองไปทางไอริสเเละพูดเยาะเย้ยกับความคิดของหญิงสาวผู้นั้น
“บุตรีดยุกก็เป็นคนของโอเรียน มีเเต่เข้าข้างตระกูลของตนจริงไหม!”
“เเหมตายจริงคำพูดนั้นคงไม่รวมถึงตัวเราด้วยใช่ไหม?”
เสียงที่คุ้นเคยทำให้ไอริสหันไปทางต้นเสียงโดยทันที
“อะ..องค์หญิง?!”
องค์หญิงเลโอเดินเข้ามาพร้อมเหล่าอัศวินศักดิ์สิทธิ์ที่ตามเธอมา ทุกคนที่อยู่ในประชุมนั้นต่างพากันยืนขึ้นนำมือเเนบที่หน้าอกของตนเเละก้มหัวเล็กน้อย
“ทวายบังคมดวงดาวเเห่งออสติน”
ทุกคนให้ห้องประชุมพร้อมใจกันกล่าวพูดทักทายองค์หญิงเลโอ เลโอไปนั่งหัวโต๊ะฝั่งตรงข้ามของไอริส
“ทุกคนนั่งลงเถอะไม่ต้องมาพิธีหรอก”
สิ้นสุดคำพูดเหล่าขุนนนางนั่งลงอีกครั้งเเละถามเลโอด้วยความสงสัย
“องค์หญิงพ่ะย่ค่ะ ท่านทรงอยู่ในเหตุนั้นด้วยหรือ”
ขุนนางชายผู้นั้นถามด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลต่างจากน้ำเสียงก่อนหน้าที่เขาพูดกับไอริส
“ใช่ตอนนั้นเหล่าอัศวินศักดิ์สิทธิ์สัมผัสได้ถึงพลังปีศาจเราจึงรีบไปยังที่นั่นพบว่าปีศาจได้ถูกอัญเชิญขึ้นจริงๆ” เลโอพูด
“โรสเเมรี่ผู้นั้นเป็นบุคคลที่อันตรายจะเก็บไว้ไม่ได้ จริงสิ!องค์หญิงบุตรีดยุกทั้งสองคนป็นคนที่ตรงตามคำทำนายเเสดงว่าพวกนางเป็นอันตรายต่อราชวงศ์ต้องรีบจัดการนะพ่ะย่ะค่ะ!!”
ชายขุนนางพูดเเต่ว่าก็ถูกไอริสพูดตัดบท
“องค์หญิงยังพูดไม่จบท่านก็ด่วนสรุปเเล้วนะความภักดีของท่านที่มีต่อราชวงศ์ชั่งน่าดีใจมากเลยนะคะ”
ไอริสพูดจบพร้อมหันไปหาเลโอเเละยิ้มออกมาเพื่อส่งสัญญาณให้เลโอนั้นพูดต่อ เลโอยิ้มตอบกลับเเละเริ่มพูดต่อโอทันที
“การอัญเชิญปีศาจนั้นที่โรสเเมรี่ โอเรียนทำจริงเเต่ทว่าพวกท่ารู้หรือไม่ ใครเป็นผู้ที่ทำให้ปีศาจนั้นกลับไปยังที่ของมัน คนๆ นั้นก็คือบุตรีดยุกโรสเเมรี่ผู้นั้น ถึงนางจะอัญเชิญปีศาจมาเเต่ในทางกลับกันเธอก็สามารถควบคุมสติเเละยังส่งปีศาจนั้นกลับไปยังที่ของมัน”
คำพูดขององค์หญิงนั้นทำให้เหล่าขขุนนางพากันซุบซิบไปต่างต่างนานาเเต่ในเรื่องที่พวกเขาซุบซิบนั้นเป็นไปในเเกบฏ ทางที่ดี
“งั้นเเสดงว่าบุตรีเเห่งตระกูลโอเรียนสามารถความคุมพลังปีศาจได้หรอ!”
“ถ้าเป็นเรื่องจริงเเสดงว่าพวกเธอก็ควบคุมพลังปีศาจนั้นได้สินะคะ”
ทุกคนซุบซิบไปพร้อมมองมายังไอริส ไอริสยิ้มเเละตอบกลับความต้องการของเหล่าขุนนางโดยทันที
“จริงค่ะที่ฉันสามารถควบคุมพลังปีศาจนั้นได้ งั้นทุกๆ ท่านชมนี้ดูสิคะ”
ไอริสพูดจบเธอเเสดงพลังปีศาจออกมา ออร่าสีเเดงเเละดวงตาที่เปลี่ยนเป็นสีเเดงราวกับเลือดพร้อมความกดดันทำให้เหล่าขุนนางนั้นต่างพากันหวาดกลัว ไอริสยิ้มเยาะเเละพูดในสิ่งที่ตนอัดอั้นมานาน
“ตามคำทำนายพวกเรานั้นจะคิดกบฏ เเต่ว่าฉันขอประกาศในที่ประชุมของเหล่าขุนนางตรงนี้เลยว่าฉันไอริส โอเรียนเเละตระกูลโอเรียนจะสนับสนุนองค์หญิงเลโอเนียร์เป็นจักรพรรดินีไม่คิดจะก่อนกบฏ อย่างเเน่นอน”
ไอริสพูดด้วยความหนักเเน้น เเต่ทว่าก็ยังมีขุนนางตั้งคำถามอยู่
“ถึงเเม้เธอจะสนับสนุน องค์หญิงเเต่ทว่าถ้าดยุกลอันคิดจะก่อกบฏ ด้วยตัวของเขาเองละคะ หรือน้องสาวของเธอที่มีพลังนั้นคิดเป็นจักรพรรดินีถึงตอนนั้นไม่มีใครห้ามเธอคนนั้นไว้ได้หรอก”
ไอริสทำสีหน้าไม่พอใจนักกับคำถามนั้นเเต่ทว่าเธอก็เก็บสีหน้าเเละตอบคำถามนั้น
“ก่อนอื่นถ้าดยุกลูอันคิดจะก่อกบฏ ถึงตอนนั้นดิฉันจะเป็นคนที่รับผิดชอบในการกระทำของผู้เป็นพ่อเองค่ะ ส่วนน้องสาวโรสไม่มีทางที่จะก่อกบฏเเน่นอนฉันเอาหัวของฉันเป็นสิ่งยืนยันเลยค่ะ”
คำตอบนั้นทำให้เหล่าขุนนางพอใจเเต่ก็มีบางส่วนที่ยังไม่พอใจนัก เเต่ก็ได้เพียงเก็บไว้ในใจเนื่องจากองค์หญิงที่เป็นสมาชิกของราชวงศ์ก็เห็นด้วยดังนั้นจึงไม่อาจโต้เเย้งใดๆ ได้
การประชุมจบลงเหล่าขุนนางพากันเเยกย้ายออกจากห้องประชุม ไอริสก็ได้เดินเข้าไปหาเลโอเเละกล่าวคำขอบคุณที่ช่วยเอาไว้
“ขอบพระภัยนะเพคะที่ช่วยหม่อมฉันไว้เสมอ”
“ไม่เป็นไรเรื่องเเค่นี้เอง อีกอย่างพวกขุนนางพวกนั้นพอเจอคนของราชวงศ์ก็กลัวจนเเทบหมุดดอนหนีเลยเเหละ”
คำพูดของเลโอทำให้ไอริสนั้นหัวเราะออกมา พวกเธอนั้นเดินไปเเละในระหว่างเดินนั้นก็คุยเรื่องต่างๆ เสียงหัวเราะทำให้บรรยากาศนั้นดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“ไอริสอาการของโรสดีขึ้นไหนเห็นว่าบาดเจ็บหนัก?”
เลโอถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง ไอริสพยักหน้าเล็กน้อยสีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวลเพราะเป็นห่วงทั้งน้องสาวของตนเเละพ่อของตนด้วย
“โรสบาดเจ็บเพราะสู้กับดันเต้ เเต่ว่าเนื่องจากอัญเชิญปีศาจจึงบาดเจ็บภายในมากกว่า ส่วนพ่อเสียเลือดมาเเละยังไม่เเน่ใจว่าจะฟื้นขึ้นมาตอนไหน”
เลโอมองสีหน้าที่เป็นกังวลนั้นเธอจับมือของไอริสขึ้นมาเพื่อให้กำลังใจด้วยสีหน้าที่ยิ้มเเย้ม
“ไม่ต้องห่วงนะอีกไม่นานพวกเขาต้องตื่นขึ้นมาอย่างเเน่นอน ฉันพาอัศวินศักดิ์สิทธิ์ทาด้วย พวกเขาน่าจะช่วยได้ถึงพลังศักดิ์สิทธิ์นั้นจะไม่มากเท่าเหล่านักบวชเเต่ก็ช่วยได้ไม่มากก็น้อย”เลโอพูด
ถ้าต้องการพลังศักดิ์สิทธิ์เเถวนี้ก็มีอยู่หนึ่งคนนะที่พลังเทียบเท่านักบวชชั้นสูงได้เลย เลโอได้ยินคำพูดนั้นเธอก็ทำสีหน้าที่ตกใจเป็นอย่างมาก
“มีคนสุดยอดเเบบนั้นด้วยหรอไอริส!”
ไอริสยิ้มเเละชี้นิ้วไปที่ดันเต้ที่ยืนอยู่ด้านหลังของเธอ