รัก,ชาย-หญิง,ไทย,ผู้ใหญ่,ตลก,โรแมนติก,nc,แอบรัก,รักโรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
แสงแดดจ้าส่องผ่านผ้าม่านโปร่งสีขาวนวล ร่างบางบิดขี้เกียจอยู่บนเตียงกว้าง ก่อนหยีตามองจ้องหน้าต่างกระจกบานสูง
“กี่โมงแล้วเนี่ย”
เดี๋ยวก่อน นั่นน่าจะไม่ใช่สิ่งที่ควรถาม
“คุณลูซ! ลงไปทำอะไรตรงนั้นอีกแล้วคะ”
“ทายาไง”
คนตัวโตเงยหน้าขึ้นจากหว่างขาเรียวก่อนเอ่ยตอบเสียงเรียบปลายนิ้วใหญ่ไล้ไปตามกลีบเล็กนุ่มอย่างใจเย็น
รตาทิ้งตัวนอนแผ่หลาตามเดิม กดข่มความขัดเขินลงไป จะมาอายเอาตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว ปล่อยให้ตัวการรับผิดชอบไปนั่นแหละดี
แต่อยู่ ๆ ก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้
“ยาคุมล่ะคะ”
“ไม่มี”
“ได้ยังไงล่ะคะ” ร่างบางขมวดคิ้วมุ่น กำหมัดอดทนไม่ทุบคนที่ยักคิ้วยั่วโมโหสักตุ้บ
คนใจร้าย ส่งคนไปร้านขายยาแล้วก็น่าจะซื้อมาฝากกันบ้าง ปล่อยใส่ตัวเธอไปตั้งไม่รู้กี่น้ำ ไม่กลัวตกลูกมาสักครอกเลยหรือไร
“ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวหนูไปซื้อเอง” รตาหย่อนขาลุกขึ้นยืนข้างเตียง พริบตาเดียวก็ทิ้งตัวนั่งลงตามเดิม “ซี้ด เจ็บจัง”
“ไม่เจียมตัว”
“เจ็บแค่นี้ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” เธอทนไหว ยังไม่ถูกเขาฆ่าทิ้งสักหน่อย “เสื้อผ้าหนูล่ะคะ”
“ทิ้งไปแล้ว”
ร่างบางหันขวับไปมองค้อนคนตัวโต แขนเสื้อเชิ้ตสีดำพับขึ้นถึงศอก กระดุมเสื้อปลดออกสองสามเม็ด เผยให้เห็นกล้ามอกแวบ ๆ ช่างก่อกวนสติเหลือเกิน
ไม่ได้ ๆ พอแล้วรตา เธอรอดมาได้ก็ดีแล้ว
“ขอยืมเสื้อผ้าคุณหน่อยค่ะ”
“จะไปไหน”
“ซื้อยาคุมแล้วกลับบ้าน”
“มีใครรออยู่หรือไง”
เสียงทุ้มเข้มขึ้นหลายส่วน คนถูกถามรีบหลุบตาหนี
“คนไร้ค่าอย่างหนูจะมีใคร” ร่างบางลุกขึ้นยืน ไม่สนใจความเจ็บปวดที่กลางกายแล้ว รู้เพียงแค่ว่าอยากกลับบ้านเหลือเกิน
รตาลากผ้านวมเดินกระย่องกระแย่งตรงไปยังห้องแต่งตัว อีกคนก็ปล่อยให้ทำตามใจ ไม่คิดห้ามหรือช่วยเหลืออะไร
“นายครับ” เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกัน ร่างบางได้ยินก็เปลี่ยนทิศทางหมายให้คนด้านนอกช่วย
“กลับมาที่เตียง” ลูคัสเอ็ดเสียงเข้ม คนตัวเล็กก็ยังดื้อดึง “บอกให้กลับมา”
“ฉันจะกลับบ้าน” รตากระชากประตูเปิดออก เห็นหนุ่มฝรั่งคนหนึ่งยืนยกมือค้างไว้
“นายครับ...” พอเห็นว่าใครมาเปิดประตู ธีโอก็รีบหลับตาแล้วหันหลังกลับ “ผมไปรอด้านล่างนะครับ”
“เดี๋ยวสิ...”
พูดไม่ทันขาดคำร่างบางก็ลอยหวือขึ้นพาดบ่ากว้าง ขายาวเตะประตูปิดไล่หลัง มือตบก้นเด้งลงโทษไปสองสามที
“ดื้อนัก พูดอะไรไม่ฟัง”
“หนูจะกลับบ้าน” น้ำตาเม็ดโตร่วงเผลาะเป็นสาย
“ถ้ายังดื้ออีกจะจับโยนออกหน้าต่าง ห้องนี้อยู่ชั้นเจ็ดสิบสอง อยากลองฝึกบินดูไหม”
ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่นทันใด พออีกคนปล่อยให้ลงยืน รตาก็เห็นว่าตัวเองอยู่ในห้องน้ำแล้ว
“รีบอาบน้ำซะ ฉันจะได้ทายาให้ใหม่”
“ไม่ต้องค่ะ หนูทาเองได้”
คนตัวโตเลิกคิ้วมอง อีกคนรีบเปลี่ยนท่าทีเอาตัวรอด
“ขอหนูทำเองนะคะ คุณจะได้ไปคุยงานไง”
“เสร็จแล้วก็รีบลงไปกินข้าว”
“ได้ค่ะ หนูสัญญา”
ลูคัสแบมือไปหา ตามองผ้านวมที่เธอกอดไว้แน่น รตาจึงต้องคลายออกส่งให้
“เร็ว ๆ ล่ะ ฉันหิว”
ขาดคำร่างสูงก็ถือผ้านวมเดินออกไป ปล่อยให้ร่างบางทำธุระส่วนตัว พอเข้ามาในห้องนอนก็เจอแม่บ้านยืนรออยู่
“มาค่ะ ป้าเปลี่ยนชุดผ้าปูให้” ไหมพิมรับผ้านวมมาจากชายหนุ่ม “คุณลูซจะรับอาหารเลยไหมคะ หรือว่าจะรอคุณรตาก่อน”
“ผมจะคุยงานก่อน”
ลูคัสเดินเลี่ยงออกจากห้องไป ไหมพิมมองตามหลังอย่างรู้ทัน
“ได้มาแล้วครับ เจ้าของหอกำลังจะเก็บทิ้งพอดี” ธีโอรายงานทันทีที่เจ้านายเดินเข้ามาให้ห้องนั่งเล่น พอเห็นดวงตาคมตวัดมองก็รีบพูดเสริม “ผมไม่เห็นอะไรทั้งนั้นครับ”
ลูคัสทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา รับเอาซองเอกสารที่เอริคส่งให้มาเปิดดู “งานมีเรื่องด่วนอะไรไหม”
“ไม่ครับ ทุกอย่างเป็นไปตามแผน”
“คงคุ้มค่ากับที่ฉันบินกลับไปโดนด่ามานะ” มุมปากคนตัวโตยกยิ้มน้อย ๆ “เรียนเก่งซะด้วย”
บอดี้การ์ดทั้งสองลอบมองหน้ากัน ก่อนตัดสินใจว่าจะไม่ทักเรื่องนั้น
พอดีกับที่ร่างบางเดินเข้ามา ทั้งคู่จึงขอตัวแยกไป ลูคัสเก็บเอกสารในมือแล้วเหลือบมองนิ่ง ๆ
“คือ...ป้าไหมให้มาตามค่ะ” รตายืนกอดอก ก้มมองเสื้อยืดสีดำกับกางเกงขาสั้นที่สวมอยู่ “หนูยืมของคุณมาใส่”
ยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกหวิว ๆ เพราะไม่ได้ใส่ชั้นในสักชิ้น
“อืม” ร่างสูงลุกขึ้นเดินมากอดคอคนตัวเล็กพาไปที่โต๊ะอาหาร “ทายาหรือยัง”
“ทาแล้วค่ะ แต่ยา...”
“กินข้าว หิวแล้ว”
รตาแอบค้อนคนที่เอาแต่หลบเลี่ยงอยู่ตลอด ก่อนจะคิดบางอย่างขึ้นได้
“หรือว่าคุณเป็นหมันก็เลยไม่กังวลว่าหนูจะท้อง”
“ถ้ายังไม่หยุดพูดจะให้กินอย่างอื่นแทนข้าว”
“กินค่ะ กินแล้ว ๆ” คนอะไรดุจริง ๆ
รตานั่งก้มหน้าตักอาหารเข้าปาก ต้องยอมรับว่าแม่บ้านของเขาฝีมือดีมากจริง ๆ ไม่ว่าเมนูไหนก็อร่อยไปหมด
ทั้งผัดฉ่าปลากะพง แกงจืดเต้าหู้ไข่หมูสับ ทอดมันนี่ก็อร่อยจนเธอจิ้มใส่ปากไม่หยุดเลย
“น้ำค่ะคุณรตา” ไหมพิมวางแก้วน้ำเปล่าไว้ข้างหญิงสาว พออีกคนเงยหน้าส่งยิ้มให้ก็รีบถาม “ถูกปากไหมคะ”
“มากเลยค่ะ ป้าไหมทำอาหารอร่อยมาก ๆ กอไก่ล้านตัว”
“แหม๋ ชมซะป้าจะลอยได้แล้ว” แม่บ้านยิ้มเอ็นดู “เย็นนี้คุณรตาอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมคะ ป้าจะได้ทำไว้ให้”
“เอ่อ...” ร่างบางเหลือบมองคนที่นั่งฝั่งตรงกันข้าม ไม่แน่ใจว่าเขาจะให้เธออยู่ที่นี่ไปถึงเมื่อไหร่
“มองฉันทำไม อยากกินอะไรก็บอกไปสิ” ลูคัสยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม “ฉันจะทำงานอยู่ในห้องตรงนู้น อย่าดื้ออย่าซนเข้าใจไหม”
“เข้าใจค่ะ” เธอจะไปตอบอะไรได้เล่า
คนตัวโตลุกขึ้นเดินหายเข้าห้อง รตาแอบมองตามแผ่นหลังกว้างเงียบ ๆ พอหันกลับมาก็เจอป้าแม่บ้านจ้องอยู่
“คุณรตาอยากกินอะไรดีคะ”
“หนูอยากกินข้าวต้มอะไรก็ได้ค่ะ ตอนนี้รู้สึกเจ็บคอมากเลย คงเพราะเมื่อคืนตากฝนนานไปหน่อย”
ไหมพิมรีบยื่นมือไปแตะหน้าผากมน “ตายแล้ว มีไข้จริงด้วย เดี๋ยวป้าเอายาลดไข้ให้นะคะ กินเสร็จแล้วคุณก็ขึ้นไปนอนพักผ่อนสักหน่อย”
“ก็ดีค่ะ ขอบคุณนะคะ”
“เป็นหน้าที่ป้าอยู่แล้วค่ะ”
หลังจากกินข้าวกินยาเรียบร้อย รตาก็มานั่งดูโทรทัศน์ในห้องนั่งเล่นกว้างขวาง
ที่จริงก็ไม่ได้ดูหรอก แค่เปิดเอาเสียงไว้เป็นเพื่อนมากกว่า ส่วนตัวเองก็นั่งเหม่อคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
ของส่วนใหญ่ในบ้านเป็นสีดำหมดเลย ป้าไหมคงลำบากแย่ พอฝุ่นเกาะหน่อยก็เห็นได้ชัดเจนแล้ว
ดูเหมือนบอดี้การ์ดสองคนนั้นจะอาศัยอยู่ลงไปอีกชั้น เพราะเธอเห็นพวกเขาลงลิฟท์ภายในไป
นี่เขาเป็นเจ้าของห้องเพนท์เฮ้าส์ขนาดสามชั้นเชียวหรือ ต้องรวยมากแน่ ๆ
คำถามคือเอาเงินมาจากไหน
คนที่ไปอยู่ในลาดจอดรถเปลี่ยว ๆ มืด ๆ อย่างนั้นคงไม่ใช่คุยธุรกิจดีอะไรแน่ ดูจากการกระทำของผู้ชายที่ใส่ชุดขาวคนนั้นก็รู้
นึกแล้วก็โชคดีไม่น้อยที่คุณลูซพาตัวเธอมา ถ้าต้องไปกับคนพวกนั้น ป่านนี้คงได้ไปเก็บขยะที่ก้นแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว
เพียงไม่นานร่างบางก็เอนตัวลงนอนราบไปกับโซฟาหนัง ความคิดสุดท้ายคือถ้าเตียงที่ห้องเช่านุ่มขนาดนี้บ้างก็คงจะดี
ลูคัสเดินออกจากห้องทำงานตอนบ่ายคล้อย เห็นแม่บ้านกำลังเช็ดตัวให้คนบนโซฟาก็กอดอกยืนมองอย่างแปลกใจ
“คุณรตาไม่สบายค่ะ คุณลูซไม่น่ารักแกน้องหนักเลยนะคะ” ไหมพิมบ่นพลางหันไปค้อนร่างสูงแวบหนึ่ง
“เธอไปเดินตากฝนเองต่างหาก” เขาทอดสายตามองคนหลับอยู่หลายอึดใจ “ผมหิวแล้ว ป้าไปทำมื้อเย็นเถอะ”
“แต่คุณรตา...”
“ผมจัดการเอง”
“ดีเลยค่า ป้าจะได้ไปทำข้าวต้มปลาให้คุณรตากิน” แม่บ้านรีบยัดผ้าขนหนูใส่มือคนที่อาสาแล้วเดินหนีเข้าไปในครัวทันใด
ลูคัสมองผ้าในมือสลับกับใบหน้าแดงระเรื่อของตัวปัญหา ริมฝีปากเม้มแน่น ท่าทางดูหงุดหงิดใจไม่น้อย
“น่ารำคาญจริง ๆ”
พอเขาลงมือเช็ดตัวให้ร่างบาง กลุ่มคนที่แอบดูอยู่ในครัวก็ตื่นเต้นกันใหญ่
“นั่นไง ๆ ป้าบอกแล้วว่าคุณลูซเอ็นดูเธอจะตาย”
“ผมก็ไม่ได้เถียงนี้ครับ” ธีโอเอ่ยยิ้ม ๆ ก่อนโยนองุ่นใส่ปาก พยักเพยิดไปทางคู่หู “นู่น คนนู้นที่ไม่ค่อยชอบนัก”
เอริคมองอีกสองคนสลับกันไปมา “ฉันเปล่า”
“เขาไม่ชอบแล้วยังไงล่ะ ขอแค่คุณลูซชอบก็พอแล้ว”
ไหมพิมเอ่ยอย่างอารมณ์ดี พลางหันไปสนใจสองคนที่อยู่ในห้องนั่งเล่นต่อ
คราวนี้เอริคพึมพำกับตัวเองเบา ๆ
“มันจะไม่พอน่ะสิ”