เราต่างล้วนเคยแอบรักใครสักคน ยามที่สายฝนโปรยปรายไร้จุดหมาย

หลงพร่ำรัก - บทที่ 18.เยือนรังกระต่าย โดย แพรวฝัน @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ไทย,ผู้ใหญ่,ตลก,โรแมนติก,nc,แอบรัก,รักโรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

หลงพร่ำรัก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ไทย,ผู้ใหญ่,ตลก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

โรแมนติก,nc,แอบรัก,รักโรแมนติก

รายละเอียด

เราต่างล้วนเคยแอบรักใครสักคน ยามที่สายฝนโปรยปรายไร้จุดหมาย

ผู้แต่ง

แพรวฝัน

เรื่องย่อ

“ยกให้ฉันดีกว่า กำลังอยากได้ที่ระบายความหงุดหงิดพอดี”


หนุ่มลูกครึ่งเจ้าของนัยน์ตาสีอ่อนจ้องมองร่างบางที่นั่งสั่นระริกอยู่กลางฝน ถ้อยคำที่ออกจากปากเขาคนฟังย่อมไม่อาจปฏิเสธได้ เพียงเท่านี้ก็ได้ลูกนกลูกกาติดมือกลับเพนท์เฮ้าส์ไปด้วย

'รตา' สาวน้อยที่เผชิญกับช่วงเคราะห์หามยามร้าย นอกจากถูกไล่ออกจากงานแล้ว ยังบังเอิญเดินทะเล่อทะล่าไปเจอกิจกรรมลับ ๆ ล่อ ๆ ของคนน่ากลัวเข้าอีก

ชีวิตนี้เธอไม่ได้ต้องการอะไรเลย นอกจากอยู่อย่างสงบสุขไปวัน ๆ แต่ดันต้องไปเป็นเด็กเสี่ยเสียนี่ แถมเอะอะก็จะจับโยนออกนอกหน้าต่างท่าเดียว ทีเรื่องเสียวล่ะมาหลายท่า 

เอ่อ...ขอโทษที นอกเรื่องไปหน่อย

แต่เอาเถอะ ขอเพียงแค่เขาไม่ทำร้ายเธอจริง ๆ ก็พอ


ตัวละคร ฉาก สถานที่ ทุกสิ่งอย่างในเรื่องเป็นสิ่งสมมติ เขียนขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น เนื้อเรื่องมีคำพูดและฉากเข้าพระเข้านางแบบละมุนละม่อม แต่ยังต้องโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้น ห้ามทำซ้ำ คัดลอกเนื้อหาไปเผยแพร่ที่อื่นในทุกกรณี

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม

สารบัญ

หลงพร่ำรัก-บทที่ 1.พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก,หลงพร่ำรัก-บทที่ 2.จับปลาต้องใช้สองมือ,หลงพร่ำรัก-บทที่ 3.ถึงบ่นก็ทนเอา (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 4.ดื้อนักจับโยน,หลงพร่ำรัก-บทที่ 5.วัดไข้ให้ลึก ๆ (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 6.ไม่มีกินฟรี,หลงพร่ำรัก-บทที่ 7.ดูถูกให้ดี ๆ,หลงพร่ำรัก-บทที่ 8.เก็บเกี่ยวให้คุ้ม (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 9.ทำสวยให้เสี่ยเลี้ยง,หลงพร่ำรัก-บทที่ 10.แวะมากินขนม (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 11.ห่างไม่ไหว (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 12.ลองอ้อนดูสิ,หลงพร่ำรัก-บทที่ 13.ปราบปรามห้ามดื้อ,หลงพร่ำรัก-บทที่ 14.พักร้อนอ้อนรัก (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 15.ข้อตกลงระหว่างเรา,หลงพร่ำรัก-บทที่ 16.อย่าได้ไหม (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 17.คว้าไว้ใช้ให้ดี,หลงพร่ำรัก-บทที่ 18.เยือนรังกระต่าย,หลงพร่ำรัก-บทที่ 19.ยิ่งใกล้ให้ห่าง,หลงพร่ำรัก-บทที่ 20.ดาวย้ายอีกแล้วสินะ,หลงพร่ำรัก-บทที่ 21.อย่าหยุดแค่ถาม (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 22.ไม่น่าบังเอิญ,หลงพร่ำรัก-บทที่ 23.ขอสักนิดเถอะ,หลงพร่ำรัก-บทที่ 24.ไม่จบแค่ดู (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 25.เคราะห์หามยามรัก

เนื้อหา

บทที่ 18.เยือนรังกระต่าย

พอร่างกายแข็งแรงดีรตาก็โดนลากมาที่บริษัททุกวัน ทั้งยังต้องรับงานโดยตรงจากเจ้าของมาทำด้วย
นี่ขนาดไม่ค่อยมีเวลานะ ยังขยันหางานให้ตลอดเลย
วันนี้ลูคัสมีเข้าประชุมกับบริษัทเจริญการสร้าง รตาก็นั่งตรวจรายงานค่าใช้จ่ายของแผนกต่าง ๆ ไปพลาง ๆ
ที่จริงก็เพลินดีเหมือนกัน ทำไปทำมาก็ได้เวลาพักเที่ยงแล้ว
“คุณรตาคะ กุลจะออกไปซื้ออาหารที่นอกตึก คุณอยากให้ซื้ออะไรมาฝากไหมคะ”
ตั้งแต่เธอไปออกงานกับลูคัสและไปร่วมทริปท่องเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนของเขามา ท่าทีของเลขาสาวก็เปลี่ยนไปมากทีเดียว ดูเป็นมิตรและให้เกียรติมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
หรือเธอจะโง่จนไม่ทันคนอื่นก็ไม่รู้ แต่ก็ช่างเถอะ ใครดีมากก็ดีกลับ ร้ายมาก็แค่ไปฟ้องคุณลูซเท่านั้นเอง ง่ายจะตาย
“ขอตาไปด้วยดีกว่าค่ะ ตาอยากลงไปเดินยืดเส้นยืดสายบ้าง” มากี่ทีก็ได้อยู่แต่ในห้องทำงาน อย่างมากก็แค่เดินส่งเอกสารให้แผนกต่าง ๆ ไม่ค่อยได้มีอิสระเท่าใดนัก
กุลธิดาฟังแล้วชักไม่แน่ใจขึ้นมา รีบก้าวถอยออกไปมองหาบอดี้การ์ดที่มักยืนเฝ้าหน้าห้องเป็นประจำ
“แต่พวกหนุ่ม ๆ ไม่มีใครอยู่เลยนะคะ ให้คุณรตาไปคนเดียวคงไม่ดีเท่าไหร่ เกิดบอสรู้เข้าคงแย่แน่”
“ตาก็ไปกับคุณกุลไงคะ” สิ้นคำพูดเธอสีหน้าของอีกคนก็ดูไม่ดีนัก รตาเลยคว้ากระเป๋าเดินนำอย่างร่าเริง “ถ้างั้นเราก็รีบไปรีบกลับกันเถอะค่ะ”
เลขาสาวแอบถอนหายใจแล้วเดินตามไป ไม่น่าคิดอยากประจบเลยเรา กลายเป็นหาเรื่องใส่ตัวแท้ ๆ
เธอไม่อยากเป็นเหมือนกนกรัตน์นะ รายนั้นถูกส่งไปตรวจงานแถวภาคเหนือตั้งแต่เดือนก่อน จนป่านนี้ยังไม่ได้กลับลงมาเลย
ระหว่างที่ทั้งสองคนเดินผ่านโถงต้อนรับที่ชั้นหนึ่ง จู่ ๆ ก็มีเสียงทุ้มเอ่ยเรียกหญิงสาว
“รตา”
คนถูกเรียกหันไปมองตามเสียง พอแน่ใจว่าเป็นใครก็ก้าวถอยรูด “คุณ...”
“จำชื่อฉันไม่ได้เหรอ ถ้างั้นลองที่รักดูไหมล่ะ”
“มะ...ไม่ค่ะ”
“น่านะ เสียงหวาน ๆ แบบนี้คงฟังรื่นหูไม่น้อย”
กุลธิดามองคนทั้งสองสลับกันไปมา สีหน้าซีดเซียวของรตาชวนให้สงสัยว่าทำไมเธอถึงต้องหวาดกลัวชายหนุ่มมากขนาดนั้น ทั้งที่ก็ไปออกทริปด้วยกันมาแล้ว
“คุณรัฐมาพบบอสเหรอคะ”
“ก็ใช่ แต่ที่จริงฉันอยากมาเจอรตามากกว่า”
ร่างสูงก้าวเข้าหาเป้าหมาย คนตัวเล็กหันรีหันขวางหาทางหนี แต่แข้งขากลับอ่อนแรงเหลือเกิน ไม่ยอมขยับดังใจนึกเลย
ก็คน ๆ นี้น่ากลัวมาก ไม่ว่าจะเจอกันกี่ครั้งเธอก็ยังทำใจให้ชินไม่ได้สักที
รัฐภพคว้าจับต้นแขนเล็กรั้งเข้าหาตัว พอเห็นว่าหญิงสาวสั่นสะท้านก็ยกยิ้มบางอย่างชอบใจ
ขนาดมาอยู่กับผู้ชายอื่นเป็นเดือน ๆ เธอยังลืมเขาไม่ลงเลย
“มาสิ ไปคุยเรื่องระหว่างเรากันหน่อยดีกว่า”
รัฐภพลากร่างบางเดินออกนอกตึก อีกคนก็ขืนสุดชีวิต
“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ”
สีหน้ารตาซีดลงทุกที กุลธิดาลังเลว่าจะเอาอย่างไรดี จะขึ้นไปตามบอสก็ไม่อยากทิ้งหญิงสาวไว้ที่นี่ตามลำพัง และกว่าจะไปกลับก็คงไม่ทันการ แต่ถ้าออกหน้าห้ามเองก็คงไร้ประโยชน์ รัฐภพไม่ฟังเธออยู่แล้ว
ไม่ว่าจะทางไหนก็ถูกบอสตำหนิได้ว่าไม่ยอมดูแลแม่นี่ให้ดี ๆ นึกแล้วเชียวว่าไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวเลยเรา
ตอนนั้นเองที่มีเงาสูงพุ่งเข้ามาคว้าแขนอีกข้างของรตา ดึงให้เธอขยับไปยืนหลบอยู่ด้านหลังอย่างรวดเร็ว
“นายเชิญคุณรัฐขึ้นไปคุยกันที่ห้องทำงานครับ”
เอริคยืนตระหง่านบังตัวนายสาวไว้ ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาโผล่มาจากตรงไหน แต่ที่รู้คือลูคัสต้องเป็นคนส่งมาแน่ ๆ
รัฐภพยืนจ้องตากับบอดี้การ์ดหนุ่มครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ยอมปล่อยกระต่ายตัวน้อยให้หลุดมือไป
ช่างเถอะ ตอนนี้เขายังมีปัญหากับนายทุนรายใหญ่ไม่ได้ รอหลังจากปล่อยของล็อตใหญ่แล้วค่อยว่ากัน
เอริคส่งสายตาให้กุลธิดาพารตาออกไป ส่วนตัวเองก็พาแขกขึ้นไปด้านบน พอเปิดประตูก็เห็นลูคัสกำลังยืนคุยกับข้ามสมุทรอยู่ริมหน้าต่างบานสูง ไม่มีใครสนใจคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่สักนิด
ลูคัสเอาสองมือล้วงกระเป๋าพลางเอ่ยเย้าเจ้าของอาคาร “มากี่ทีก็ชอบยืนอยู่ตรงนั้นตลอด”
“ก็ห้องนี้วิวสวยดีจริง ๆ”
“พูดแบบนี้คิดจะขึ้นค่าเช่าตอนต่อสัญญาปีหน้าหรือไง แค่นี้ก็รวยไม่รู้เรื่องแล้วนะ”
“จะลดให้ต่างหาก ถ้านายหาคนมาร่วมลงทุนในโปรเจคที่ระนองได้”
“ระดับข้ามสมุทร เลิศอลงกรณ์ยังต้องหาคนร่วมลงทุนอีกเหรอ แล้วนายทุนรายใหญ่ขาประจำไปไหนล่ะ”
“ถูกเมียยึดบัญชีไปแล้ว” ชายหนุ่มหัวเราะร่วน แต่ก็เข้าใจความรู้สึกนั้นของคีตะดี “นั่นคุณรัฐภพนี่ ยินดีที่ได้พบครับ”
ข้ามสมุทรยื่นมือไปจับกับชายหนุ่มที่เพิ่งเข้ามา รัฐภพเองก็รู้จักท่านประธานคนดังแห่งเครืออลงกรณ์กรุ๊ป
“สวัสดีครับ มาคุยงานเหมือนกันหรือครับ”
“ใช่ครับ ผมรับโปรเจคบางอย่างไปทำน่ะ” ข้ามสมุทรยกนาฬิกาขึ้นดู “ที่จริงผมก็อยากจะอยู่คุยต่อนะ แต่คงต้องขอตัวก่อน ใกล้ได้เวลาไปรับลูกชายแล้ว”
“น่าอิจฉาจังครับ บางทีผมก็อยากมีลูกน่ารัก ๆ บ้าง ติดที่ว่ายังอยากสนุกกับสาว ๆ ไปเรื่อยมากกว่า” รัฐภพเอ่ยยิ้ม ๆ
ทางลูคัสไม่ได้พูดอะไร แค่ยกมือเรียกให้บอดี้การ์ดพาแขกคนแรกไปส่ง ก่อนจะหันมาคุยกับแขกคนที่สองต่อ
“มาถึงนี่มีธุระอะไรเหรอ หรือว่าของเข้าแล้ว”
“ใช่ พุธหน้าตอนห้าทุ่มที่ท่าเรือเดิม”
“ขอบใจที่ช่วยจัดการให้ พ่อฉันย้ำนักย้ำหนาว่าต้องอัพเดทความคืบหน้า...”
ลูคัสหันไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความแล้วโยนทิ้งลงที่เดิม รัฐภพเห็นสีหน้าอีกฝ่ายแล้วอดถามไม่ได้
“พ่อนายส่งมาอีกแล้วเหรอ”
“อืม ทำอย่างกับฉันโง่มากจนต้องคอยบอกทุกย่างก้าว”
“อย่าหงุดหงิดไปเลยน่า พอนายได้กำไรก้อนนั้นมาเขาก็ว่าอะไรไม่ได้แล้ว” ชายหนุ่มนิ่งไปครู่หนึ่งค่อยถามต่อ “ดูนายจะติดใจเด็กนั่นมากเลยนะ”
“ฉันเป็นพวกหวงของเล่น พอดีว่าตอนเด็ก ๆ ไม่เคยมีของเล่นเป็นของตัวเอง”
“นั่นสิ ฉันลืมไปเลยว่านายเคยเป็นเด็กกำพร้า” คนฟังหัวเราะร่า “แต่รสนิยมนายดีน่าดู เลือกได้ของเล่นหัวอ่อนตั้งแต่แรกเลย”
“เพราะฉันไม่ชอบของเล่นที่กล้าขึ้นเสียงใส่”
ลูคัสเหลือบมองโทรศัพท์แล้วถอนหายใจอีกรอบ รัฐภพจึงลุกขึ้นยืน
“ดูเหมือนระเบิดจะลงที่นาย ฉันชิ่งก่อนดีกว่า”
“รอให้ธุรกิจของเราไปได้สวยก่อนเถอะ ฉันจะบินไปตอกหน้าไอ้แก่นั่นจัง ๆ สักครั้ง”
“นายได้ทำแน่”
รัฐภพพูดทิ้งท้ายก่อนเดินออกไป ลูคัสนั่งรอจนแน่ใจแล้วค่อยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก สีหน้าหงุดหงิดเมื่อครู่หายไปหมดแล้ว
“พาเธอเข้ามาได้”
พอวางสายประตูห้องทำงานก็เปิดออก ร่างบางถลาเข้ามากอดเอวสอบไว้แน่นทันที
“คุณลูซ หนูซื้อมื้อเที่ยงมาฝากด้วยค่ะ” รตาพูดเรื่องอื่นด้วยน้ำเสียงร่าเริง แต่ท่าทางยังตื่นกลัวไม่หาย
มือหนาลูบศีรษะเล็กเบา ๆ แขนอีกข้างโอบกอดคนตัวเล็กกลับไป ก่อนก้มลงกดจูบกระหม่อมบางทีหนึ่ง
แม้จะไม่ได้พูดอะไร แต่ทุกอย่างที่เขาทำช่วยให้รตาสงบลงได้ชะงัด แขนเรียวกระชับกอดแน่นขึ้น ซึมซับความอบอุ่นเอาไว้จนพอใจ
“คุณลูซหิวไหมคะ”
“หมายถึงอะไรล่ะ”
ร่างบางเงยหน้ามองอย่างไม่เข้าใจ แต่พอเห็นสายตาเจ้าเล่ห์ของคนตัวโตก็ยกมือทุบแขนล่ำไปทีหนึ่ง
“หนูหมายถึงอาหารมื้อเที่ยงค่ะ”
“ใช่เหรอ”
“ใช่สิคะ” เธอรีบผละออกจากอ้อมแขนล่ำ ๆ ก่อนที่จะเลยเถิด “ถ้าไม่กินอะไรสักหน่อยก่อน คุณลูซอาจไม่มีแรงทำอย่างอื่น”
ร่างสูงเลิกคิ้ว “เดี๋ยวนี้มีท้าทายนะ”
รตาเอียงคอส่งยิ้มทะเล้นให้ ลูคัสคลี่ยิ้มตามพลางเดินไปนั่งกินมื้อเที่ยงอย่างว่าง่าย
ดีที่เธอดูตื่นกลัวไม่นานนัก ไม่อย่างนั้นเขาอาจเผลอหาเรื่องหมอนั่นจนเสียการใหญ่เอาได้
ผ่านไปสักพักใบหน้าหวานก็ดูผ่อนคลายขึ้นบ้างแล้ว คนตัวโตจึงเอียงเข้าไปกระซิบถาม
“กินเสร็จแล้วมีกิจกรรมย่อยอาหารไหม”
“คุณลูซ! นี่มันห้องทำงานนะคะ”
“ทำอย่างอื่นก็ได้ ลองไหมล่ะ”
“ไม่ต้องเลย รีบกินแล้วรีบทำงานต่อค่ะ”
“จะได้รีบกลับบ้านใช่ไหม”
“อะ...เอาอย่างนั้นก็ได้”
ได้ยินแบบนั้นลูคัสก็กดหอมแก้มนุ่มไปฟอดใหญ่ แถมยังแอบบีบอกคู่สวยไปหลายที
“มัดจำ”
รตาส่ายหน้าน้อย ๆ แต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร เพราะกลัวว่าถ้าห้ามแล้วจะโดนหนักกว่านี้
“อิ่มแล้วก็รีบทำงานสิคะ หนูจำได้ว่าวันก่อนรื้อดูในถุงเจอชุดนอนสวย ๆ เพียบเลย คืนนี้เลยว่าจะลองใส่ดู”
คนตัวโตลุกขึ้นไปกดอินเตอร์คอมต่อสายหาเลขาทันใด
“เอาเอกสารที่ต้องเซ็นภายในวันนี้เข้ามาเลย อีกไม่นานฉันจะกลับแล้ว” พูดจบเขาก็หันไปจ้องคนตัวเล็ก “อย่าคิดเบี้ยวเชียว ฉันไม่ยอมแน่”
รตาได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ พลางแอบนึกในใจว่าไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวเลยเรา