รัก,ชาย-หญิง,ไทย,ผู้ใหญ่,ตลก,โรแมนติก,nc,แอบรัก,รักโรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ยามที่คนเรามีความสุข เวลามักจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว
คนในบริษัทล้วนรู้กันหมดแล้วว่ารตาเป็นผู้หญิงของบอส และดูจากที่ตัวหนีบติดกันขนาดนี้ อีกไม่นานคงมีข่าวดีออกมาแน่ แต่อาจเป็นข่าวแต่งงานหรือมีลูกเลยก็ได้ เพราะบอสหนุ่มยิ่งทำตัวไม่เหมือนใครอยู่
แม้ว่าเรื่องระหว่างเขากับเด็กดื้อจะทั้งหวานและแซบถึงใจ เพราะไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมพักนี้ยายตัวเล็กถึงเรียกร้องบ่อยนัก แต่ชายหนุ่มก็ยังแอบเป็นกังวลเกี่ยวกับงานใหญ่ที่ใกล้เข้ามา
รอจถึงวันที่นัดกันไว้ ลูคัสก็สั่งให้รตาอยู่กับป้าไหมที่เพนท์เฮ้าส์ กำชับว่าห้ามออกไปไหน ก่อนจะพาบอดี้การ์ดทั้งสองออกไปตามนัด
ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาเขาไม่เคยออกจากบ้านตอนมืดค่ำ ร่างบางจึงมองตามอย่างเป็นกังวล ป้าไหมต้องพาไปส่งเข้านอนตามที่เจ้านายแอบบอกเอาไว้
“คุณรตาไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ เดี๋ยวคุณลูซก็กลับมาแล้ว ป้าจะอยู่เป็นเพื่อนเอง”
ร่างบางไม่ได้เอ่ยตอบอะไร ในใจได้แต่ภาวนาให้คนตัวโตปลอดภัย
ลูคัสเร่งให้เอริครีบไปที่ท่าเรือ เพียงไม่นานรถเบนซ์สีดำคันหรูเลี้ยวเข้าไปจอดหน้าโกดังเบอร์สิบตามที่รัฐภพส่งข้อความมาบอก
พอเดินเข้าไปด้านในก็เจออีกฝ่ายยืนรออยู่แล้ว ด้านหลังมีลูกน้องนับไม่ถ้วนยืนเรียงเป็นตับ
“แค่นี้ต้องยกมากันหมดเลยเหรอ” ลูคัสเอ่ยทักชายในชุดสูทสีขาว ในมือคีบบุหรี่ดังเช่นทุกครั้ง
“ก็งานสำคัญทั้งทีนี่นา” รัฐภพคลี่ยิ้มส่งให้ พลางชะเง้อคอมองไปรอบ ๆ “แล้วของเล่นนายล่ะ ไม่ได้พามาด้วยเหรอ”
“ไหนของที่ว่าล่ะ พ่อฉันทวงรูปยิก ๆ น่ารำคาญฉิบหายแล้ว”
“ใจเย็นก่อนสิ นายพารตาไปทำงานด้วยตลอดนี่ ฉันเลยส่งคนไปรับตัวมาให้แล้ว”
หัวใจลูคัสกระตุกวูบ ชักสีหน้าใส่คนพูดทันที
“วันนี้เด็กนั่นงอแงอะไรก็ไม่รู้ฉันเลยทิ้งไว้บ้าน คนยิ่งหงุดหงิดอยู่ นายจะพามา...”
“คุณลูซ” เสียงหวานดังขึ้นพร้อมท่อนแขนเล็กที่สอดเข้ากอดเอวสอบ คนฟังจับความหวาดกลัวที่แฝงอยู่ได้ทันที
“โผล่หัวมาทำไม บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอ ไสหัวกลับไป”
“หนูไม่ได้อยากมา แต่คนพวกนั้นบอกว่าจะตีป้าไหม” รตาซบหน้ากับแผงอกกว้าง เอ่ยกระซิบแค่พอได้ยินกับสองคน “พวกนั้นขึ้นไปถึงหน้าเพนท์เฮ้าส์ได้ยังไงก็ไม่รู้”
สองมือหนาที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงกำหมัดแน่น หัวคิ้วยังขมวดมุ่นแสดงความหงุดหงิดเต็มที่
“ยังจะเถียงอีก รอคุยธุระเสร็จเมื่อไหร่ฉันจะสั่งสอนเธอเอง ธีโอมาเอาตัวเด็กนี่ออกไป”
บอดี้การ์ดหนุ่มรีบทำตาม “มาเถอะครับ นายมีเรื่องต้องทำ”
รตายอมปล่อยมือจากเอวสอบ ระหว่างทางยังเหลียวมองแผ่นหลังกว้างอยู่หลายครั้ง
“อ้าว ว่าไงคนสวย โดนเขี่ยทิ้งแล้วเหรอ มาให้พวกพี่ดามใจไหมจ๊ะ พี่จะปลอบขวัญให้ทั้งคืนเลย”
ลูกน้องกลุ่มที่จับตัวเธอคราวก่อนเดินสวนเข้ามาพอดี รตารีบขยับเข้าหาธีโอที่ดึงแขนเล็กไปหลบด้านหลัง
“รีบไปที่รถกันเถอะครับ”
ร่างบางสาวเท้าตามบอดี้การ์ดหนุ่มไปติด ๆ หวังว่าอีกไม่นานลูคัสจะรีบตามออกมา
ทางชายหนุ่มเดินตามรัฐภพลึกเข้าไปในโกดัง โดยมีเอริคเป็นคนคอยถ่ายรูปตามหลัง
พอเปิดตู้คอนเทนเนอร์ออกก็เห็นลังไม้กองอยู่อย่างเป็นระเบียบ ลูกน้องสี่ห้าคนเดินเข้าไปยกลังไม้ใบหนึ่งออกมาแล้วแงะฝาขึ้น ล้วงเอาถุงพลาสติกขนาดฝ่ามือขึ้นมาส่งให้ผู้เป็นนาย
รัฐภพดึงมีดพกออกมาสะกิดถุง ใช้ปลายมีดช้อนผงสีขาวส่งให้ลูคัสดู
“ของดีที่สุดบนโลก ทำกำไรงามแน่ ๆ”
เอริคเป็นคนเข้าไปเช็กของให้ ก่อนหันมาพยักหน้าให้เจ้านาย
“ต้องอย่างนี้สิ ไอ้แก่นั่นจะได้หุบปากสักที” ลูคัสคลี่ยิ้มกว้าง ความหงุดหงิดที่เคยอยู่บนหน้าจางหายไปแล้ว “ฉันจะรอนายโอนกำไรงวดแรกให้อย่างใจจดจ่อเชียวล่ะ”
“อีกไม่นานแน่นอน”
สองหนุ่มจับมือส่งยิ้มให้กัน แต่พอลูคัสจะปล่อยรัฐภพก็ดึงไว้
“แต่นายช่วยบอกก่อนได้ไหมว่าทำไมยังเก็บเด็กนั่นไว้ข้างตัวอีก เบื่อแล้วก็ส่งคืนฉันมาดีกว่า”
“ใครบอกว่าฉันเบื่อล่ะ”
“ได้ยินอย่างนี้ฉันยิ่งอยากได้คืนเข้าไปใหญ่ ไหน ๆ ก็พามาถึงนี่แล้ว ทิ้งไว้ให้ฉันเลยก็ละกัน”
หางคิ้วลูคัสกระตุกวูบ “บอกแล้วว่าฉันหวงของเล่น”
“ฮ่ะ ๆ ๆ ดูทำหน้าเข้า ฉันแค่หยอกเล่นหน่อยเดียวเอง” รัฐภพยกสองมือขึ้นทำท่ายอมแพ้ “เชิญนายกลับไปกกเด็กนั่นต่อเถอะ แล้วฉันจะโอนเงินไปให้”
ลูคัสพยักหน้ารับแล้วหมุนตัวเดินกลับออกมาทันที ปล่อยให้อีกคนยกยิ้มมองตาม
“นายหนีเร็ว ไอ้พวกตำรวจสากลมันมาจากไหนก็ไม่รู้”
ลูกน้องคนสนิทตะโกนลั่น คนที่อยู่ข้างในจึงรีบพาตัวเจ้านายของตนวิ่งหนีออกไปนอกโกดัง
แต่รัฐภพกลับวิ่งตามคนที่เพิ่งออกไปก่อนหน้านั้น เพราะมีแค่คนเดียวที่จะติดต่อกับตำรวจสากลได้
“ไอ้ลูคัส! หยุดเดี๋ยวนี้นะมึง ไม่อย่างนั้นกูจะทำให้เด็กนั่นตายทั้งเป็น”
สองหนุ่มวิ่งอ้าวออกไปนอกโกดัง คิดว่าธีโอคงติดเครื่องรอตามที่นัดกันไว้อยู่แล้ว แต่คาดไม่ถึงว่าจะเจอร่างบางวิ่งสวนเข้ามา
“รตา! เธอเข้ามาทำไมอีก”
“พวกนั้นรุมธีโออยู่ค่ะ หนูเลยวิ่งมาหาคุณ”
รตาเห็นความวุ่นวายที่มุมหนึ่งของท่าเรือก็ใจคอไม่ดี ธีโอยืนกรานว่าห้ามลงจากรถ อีกไม่นานนายจะออกมาแล้ว แต่อึดใจต่อมาเขาก็ถูกลูกน้องของรัฐภพลากออกไปกระทืบ เธอเลยต้องหาทางหนีด้วยตัวเอง
“หนีเร็ว” เอริคเอ่ยเตือนให้ทั้งคู่ออกวิ่ง แต่พอขาดคำก็มีเสียงปืนดังขึ้นไม่หยุด “ไปเร็ว ไปที่รถ”
จากนั้นก็มีแต่ความวุ่นวาย แก้งค์ของรัฐภพปะทะกับตำรวจที่มาปิดล้อม เสียงการต่อสู้ดังอื้ออึงไปหมด
แต่ทุกอย่างช่างดูพร่าเลือนสำหรับรตา เธอเห็นเพียงเลือดแดงฉานที่ไหลออกจากคนตัวโตข้างกายเท่านั้น
“คุณลูซ!”
ลูคัสทรุดลงกับพื้น ร่างบางถลาเข้าไปรับไว้ น้ำตาไหลพรากไม่ขาดสาย แต่ปากยังพูดปลอบใจคนในอ้อมกอดไม่หยุด
“อยู่กับหนูนะคะ คุณต้องไม่เป็นอะไร อย่าทิ้งหนูไป คุณลูซ อย่าทิ้งหนูไว้คนเดียว”
มือหนาเปื้อนเลือดยกขึ้นเช็ดน้ำตาให้ มุมปากยกยิ้มบาง
“เด็กดื้อ”
“หนูไม่ดื้อ ไม่ดื้อแล้ว คุณต้องอยู่กับหนูนะ”
“คุณรตาครับ กู้ภัยมาแล้ว ให้พวกเขาพานายไปโรง’บาลนะครับ” ธีโอเข้ามาดึงตัวหญิงสาวออกห่าง เปิดทางให้หน่วยกู้ชีพเข้ามาจัดการต่อ
รตายืนมองอยู่ใกล้ ๆ ตลอด ทั้งยังวิ่งตามรถเข็นขึ้นรถฉุกเฉินไปส่งคนเจ็บจนถึงโรงพยาบาล
รตานั่งตาแดงก่ำอยู่หน้าห้องผ่าตัดไม่ยอมขยับไปไหน ต่อให้พระอาทิตย์ขึ้นแล้วก็ตาม
ธีโอเอาขวดน้ำดื่มมาส่งให้ก่อนนั่งลงข้างกัน สายตาจับจ้องที่ประตูสีขาว เฝ้ารอว่าเมื่อไรคุณหมอจะออกมา แต่เป็นเอริคที่มาแจ้งข่าวก่อน
“การจับกุมเป็นไปได้ด้วยดี ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ขอบใจมากที่ให้ความร่วมมือ”
ธีโอพยักหน้ารับนิ่ง ๆ เขาเห็นสายตาสงสัยที่หญิงสาวมองมา แต่ก็ไม่กล้าอธิบายให้เธอฟัง
“รอนายนะครับ” เขาพูดได้แค่นี้
“ลูคัสใจสู้มาก เขาต้องไม่เป็นอะไร” เอริคพูดปลอบใจไปประโยคหนึ่ง
ธีโอเห็นเพื่อนเอาแต่จ้องมองร่างบางที่ซีดเซียวเหลือเกิน จึงส่งสัญญาณให้ขยับไปคุยกันที่มุมหนึ่ง
“เธอเอาแต่โทษตัวเอง บอกว่าถ้าหนีไปแต่แรกนายก็คงไม่เป็นแบบนี้”
เอริคได้แต่ถอนหายใจ ภารกิจนี้มีความเสี่ยงสูงอยู่แล้วและตัวลูคัสก็รู้ดี แต่ถึงพูดอะไรไปรตาก็คงไม่ฟัง จนกว่าจะได้รู้ว่าคนเจ็บปลอดภัยดี
“รู้หรือยังว่าคนพวกนั้นพาคุณรตาออกไปได้ยังไง”
นี่เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คาใจทั้งคู่มาตลอด เอริคย่อมต้องหาคำตอบมาโดยเร็ว
“หนึ่งในแม่บ้านที่มาทำความสะอาดพิเศษเป็นเมียน้อยของสุชาติ คนสนิทของรัฐภพ มันเลยใช้เธอขึ้นไปถึงเพนท์เฮ้าส์ได้”
“พวกเราก็เช็กกันดีแล้วไม่ใช่เหรอ”
“อืม แต่มันอาจตั้งใจมาตีสนิทภายหลัง” เอริคนิ่งคิดอยู่อึดใจหนึ่ง “ดูเหมือนว่ารัฐภพวางแผนจะตลบหลังลูคัสในคืนนี้ แต่ทางเราชิงลงมือจัดการได้ก่อน”
“เฮ้อ โชคยังดี แต่เธอคงไม่คิดแบบนั้น” ธีโอเหลือบมองร่างบางที่นั่งเช็ดน้ำตาไม่หยุด
สองหนุ่มตั้งท่าจะเข้าไปนั่งเป็นเพื่อนหญิงสาว แต่กลับเห็นใครบางคนเดินเข้ามาเสียก่อน
“ลูคัสอยู่ไหนคะ เขาเป็นอะไรมากไหม”
เหล่าบอดี้การ์ดนิ่งอึ้งจ้องสาวฝรั่งสวยเฉี่ยวอยู่หลายอึดใจ ก่อนจะมองหน้ากันไปมา คิดตรงกันว่าท่าจะงานเข้าเจ้านายแล้ว
สองหนุ่มใบ้รับประทานอยู่นาน พอดีกับที่คุณหมอเปิดประตูห้องผ่าตัดออกมา
“ใครเป็นญาติคนไข้ที่ชื่อลูคัสครับ”
“ฉันค่ะ ฉันเป็นคู่หมั้นของเขา”
รตาเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของประโยคที่ทำให้ชาวาบไปทั้งตัว มือไม้สั่นยิ่งกว่าตอนที่เห็นเขาถูกยิงเสียอีก
คุณหมอเดินเข้าไปคุยกับสาวฝรั่งคนนั้น บอกว่าคนไข้พ้นขีดอันตรายแล้ว โชคดีที่กระสุนไม่ถูกอวัยวะสำคัญแต่ก็เสียเลือดมาก อีกไม่นานพยาบาลจะย้ายไปไว้ห้องไอซียูก่อน
“ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ”
ไลลารู้สึกโล่งใจแล้วจึงหันมาจะถามบอดี้การ์ดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ทั้งคู่กลับเอาแต่เดินชะเง้อมองทางนั้นทางนี้ คล้ายกำลังหาใครอยู่
“ทำอะไรกันอยู่เหรอคะ”
ทั้งคู่เม้มริมฝีปากแน่น ไม่รู้จะตอบว่าอย่างไรดี สุดท้ายธีโอเลือกเป็นฝ่ายออกไปตามหารตาเอง ทิ้งให้เอริครับหน้าทางนี้
“ว่าไงคะ ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมลูซถึงถูกยิงได้”
คนถูกถามยกมือขึ้นลูบใบหน้าพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่
“คือ...เรื่องมันซับซ้อน”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันต้องอยู่เฝ้าลูซอีกนาน มีเวลาฟังจนจบแน่”
เอริคเหลียวมองโถงทางเดินที่คู่หูหายไป นึกอยากเปลี่ยนหน้าที่เหลือเกิน แต่เขาก็รู้อะไรมากกว่าธีโอจริง ๆ
ชายหนุ่มก้มมองใบหน้าสวยที่จ้องมาอย่างเอาเรื่อง ก่อนตัดสินใจเล่า
“ทุกอย่างเริ่มตั้งแต่ตอนที่ผมเข้ามาเป็นบอดี้การ์ดให้ลูคัส...”