รัก,ชาย-หญิง,ไทย,ผู้ใหญ่,ตลก,โรแมนติก,nc,แอบรัก,รักโรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ตอนที่รตาเดินออกจากตึกของโรงพยาบาล เธอเห็นป้าไหมเดินหิ้วข้าวของไปที่ลิฟท์พอดี แสดงว่าที่เพนท์เฮ้าส์ไม่มีคนอยู่ แอบแวะเข้าไปหยิบข้าวของได้ แต่ต้องรีบทำเวลาก่อนที่จะมีคนสังเกตเห็นว่าเธอหายไป
ไม่สิ ตอนนี้คู่หมั้นของเขาอยู่ที่นี่แล้ว คงไม่มีใครนึกถึงเธออีก แม้แต่ตัวคุณลูซเองก็ตาม
ใจร้าย ใจร้ายกันเหลือเกิน ทำไมไม่เตือนสักหน่อยว่าเขามีตัวจริงอยู่แล้ว เธอจะได้ทำใจยอมรับไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่ใช่ปล่อยให้หัวใจถลำลึกไปอย่างนี้
ช่างเถอะ สิ่งที่ทำได้คงมีเพียงรีบไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด คุณลูซจะได้ไม่ต้องผิดใจกับคนของเขา
ร่างบางเรียกแท็กซี่ไปส่งที่เพนท์เฮ้าส์ โชคดีที่เมื่อคืนเธอหยิบโทรศัพท์ติดมือออกมาด้วยเลยสแกนจ่ายค่ารถได้ แต่จากนี้คงต้องใช้แต่เงินสดแล้ว เพราะเธอจะทิ้งของที่เขาให้เอาไว้เบื้องหลัง
เหตุที่ต้องกลับมาเพนท์เฮ้าส์ก่อนก็เพื่อเอาเงินเดือนส่วนตัวที่เขาเคยให้กับเอกสารสำคัญของเธอที่เขาเก็บไว้
หลังกลับจากทริปภูเก็ตเธอเคยขอไปเก็บข้าวของที่หอพักเก่า คุณลูซถึงได้บอกว่าเขาจัดการทุกอย่างให้แล้ว
นึกถึงตรงนี้น้ำตาก็รื้อขึ้นมาอีกครั้ง เพราะเขาดูแลเธอดีมากจริง ๆ แต่คงถึงเวลาต้องตื่นขึ้นเสียที
ร่างบางมองไปรอบ ๆ ห้องหรูอีกครั้ง พยายามเก็บความทรงจำใส่ไว้ในส่วนลึกของใจ ก่อนแบกเป้ใบเก่าของตัวเองเดินเข้าลิฟท์ไป ไม่หันกลับมามองอีกเลย
รตาตัดสินใจซื้อตั๋วรถทัวร์ไปยังเมืองใหญ่แถบภาคเหนือ
อาจฟังดูเข้าข้างตัวเองไปหน่อย แต่อดคิดไม่ได้ว่าถ้าลูคัสรู้สึกตัวเมื่อไหร่ต้องส่งคนมาตามหาแน่ เลยอยากหนีไปอยู่ในที่ห่างไกลหลบสายตาผู้คนมากมายสักระยะ รอจนเรื่องซาลงแล้วค่อยหาทางขยับขยายใหม่
พอมาถึงเธอก็รีบเที่ยวถามหางานไปทั่ว โชคดีมากที่ได้งานเสมียนในปางไม้แห่งหนึ่ง ทำงานอยู่ในป่าเขาสมดังที่ตั้งใจไว้พอดี
แต่เพื่อนร่วมงานสาว ๆ แถวนี้ยังคงชอบดูดวงเหมือนกัน พอได้ยินว่าดาวอะไรสักอย่างย้ายออกจากราศีเธอรตาก็อดขำไม่ได้
ไม่แน่ว่าดาวย้ายครั้งนี้อาจช่วยให้เกิดเรื่องราวดี ๆ บ้างก็ได้ หรือถ้ามันจะเลวร้ายลงกว่าเดิมก็ช่างเถอะ เธอเริ่มจะชินแล้ว
แน่นอนว่าที่นี่ต้องมีห้องพักให้คนงานด้วย ขนาดห้องไม่ได้ใหญ่โตอะไร ที่นอนหมอนมุ้งก็ธรรมดา ๆ มีเพียงพัดลมช่วยคลายร้อนเพียงตัวเดียว เทียบอะไรกับเพนท์เฮ้าส์ที่จากมาไม่ได้เลย แต่เท่านี้ก็เพียงพอ
นี่แหละชีวิตของเธอ มีแค่ไหนก็อยู่เท่านั้น ใช้ให้ดีให้คุ้มค่าก็พอแล้ว
รตาตั้งอกตั้งใจทำงานเหมือนเคย เลิกงานก็กลับห้องมาพักผ่อน มีคุยกับกิ่งแก้วเพื่อนเสมียนที่อยู่ห้องติดกันบ้าง แต่ละวันผ่านไปอย่างไม่หวือหวาอะไร
ผ่านไปราวครึ่งเดือนก็ถึงวันเงินออก ที่นี่จะจ่ายให้ทุก ๆ สิบห้าวัน เธอจึงสามารถเก็บเงินเก่าเอาไว้ใช้ยามฉุกเฉินหรือเผื่อย้ายที่อยู่ได้
“ตา ๆ เราไปเดินเล่นที่ตลาดนัดกันเถอะ” กิ่งแก้วมาเคาะประตูเรียก “ไปหาอะไรอร่อย ๆ กินกัน ฉลองที่เงินออกไง”
“เบื่อมาม่าแล้วสิท่า” รตาคลี่ยิ้มเปิดประตูออกมา
“ทำอย่างกับเธอไม่เบื่องั้นแหละ” กิ่งแก้วรอจนเพื่อนล็อคห้องเรียบร้อยแล้วค่อยคล้องแขนพาออกเดิน “เธอต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่สักชุดสองชุดด้วย ที่ใส่อยู่มันเก่ามากแล้วนะ”
“แต่ก็ยังใส่ได้นี่”
“ย่ะ แม่คนสวย ใส่อะไรก็สวย”
“แน่นอนอยู่แล้ว”
สองสาวหัวเราะให้กันอย่างร่าเริง ระหว่างเดินไปขึ้นรถกระบะที่มีไว้คอยรับส่งคนงานลงจากปางไม้ไปที่ตลาดด้านล่าง
ทั้งคู่ซื้ออาหารกลับไปกินด้วยกันที่ห้อง รตาตั้งใจว่าจะไม่ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ แต่กิ่งแก้วคะยั้นคะยอให้ซื้อเสื้อไปสักตัวก็ยังดี เธอเลยต้องยืนเลือกอยู่นาน
ระหว่างนั้นกิ่งแก้วก็มองไปรอบ ๆ ตลาดนัดว่ามีอะไรที่น่าซื้ออีกบ้าง แต่ดันสังเกตเห็นเรื่องแปลกบางอย่าง
ทำไมฝรั่งตัวโตหน้าตาหล่อเหลาขนาดนั้นถึงมาอยู่แถวนี้ได้ จะว่าเป็นนักท่องเที่ยวก็ไม่น่าใช่ หรือเดินเที่ยวจนหมดแรงแล้วเลยนั่งอยู่บนรถเฉย ๆ
“สวัสดีสาว ๆ วันนี้ลงมาเที่ยวกันด้วยเหรอครับ”
“สวัสดีค่ะคุณไม้”
รตารีบทักทายหลานชายเจ้าของปางไม้ กิ่งแก้วเองก็เช่นกัน
“คุณไม้ก็มาด้วยเหรอคะ”
“วันนี้ว่างน่ะครับ” เมธามองคนนั้นทีคนนี้ที ก่อนหยุดสายตาไว้ที่คนทางซ้าย “รตาจะซื้อเสื้อใหม่เหรอครับ ผมซื้อให้นะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เงินเดือนตาเพิ่งออก”
“แค่ครึ่งเดือนเองนะครับ เก็บไว้ซื้อขนมดีกว่า”
“แต่...”
“ตา ตามใจคุณไม้เถอะ เราจะได้กลับไปกินข้าวกันสักทีไง” กิ่งแก้วช่วยพูดให้ เห็นเมธาแอบพยักหน้าขอบคุณเล็กน้อย
พอมีแม่สื่อคอยช่วยชายหนุ่มก็ได้โอกาสทำคะแนนเต็มที่ ทั้งพาไปเลี้ยงมื้อเย็นแล้วมาส่งถึงประตูห้อง ยืนอ้อยอิ่งร่ำลาอยู่นานสองนานจนคนที่ยืนเป็นเพื่อนตบยุงตายไปหลายครอก
ถ้าคบกันเมื่อไหร่คงต้องซื้อยาฉีดมดมาเตรียมไว้แล้ว เพราะคงจะหวานแหววน่าดู
กิ่งแก้วแอบมองอาการของเจ้านายแล้วลอบยิ้มอยู่คนเดียว ให้สัญญาในใจว่าจะช่วยสนับสนุนอย่างเต็มที่เลย
แต่เอาเข้าจริงเธอไม่ต้องช่วยเหลืออะไรมากนัก เพราะเมธารู้ดีว่าต้องจีบสาวอย่างไร รุกได้มากแค่ไหน
ขนาดกับคนที่เว้นระยะห่างเก่งอย่างรตา เขายังสามารถวางตัวให้อยู่ในขอบเขตที่เธอสบายใจได้ ขอเพียงแค่ได้ใกล้ชิดกันมากกว่าหนุ่มคนอื่นที่หมายตาหญิงสาวอยู่ก็พอแล้ว
แทบทุกเย็นกิ่งแก้วมักเปิดโอกาสให้สองหนุ่มสาวนั่งคุยกันที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ในลานหน้าหอพัก พวกสาว ๆ คนอื่นพากันมองอย่างอิจฉาแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะรู้ดีว่าคุณไม้ช่างเลือกเพียงใด
แต่วันนี้พอเมธากลับไปแล้ว สีหน้ารตาก็ดูไม่ดีเท่าไรนัก กิ่งแก้วจึงรีบเข้าไปนั่งคุยด้วย
“เป็นอะไรไปเหรอ ทะเลาะกันหรือเปล่า”
คนถูกถามส่ายหน้าน้อย ๆ ก่อนก้มลงมองจ้องมือตัวเอง
แม้จะผ่านมาระยะหนึ่งแล้ว แต่รตายังลืมมือหนาที่เคยกอบกุมเอาไว้ไม่ได้เลย
ต่อให้มีคนดี ๆ เข้ามาเสนอตัว เธอก็ยังไม่กล้าก้าวไปอีกขั้นกับใครทั้งนั้น อย่างน้อยก็ไม่รวดเร็วอย่างนี้
กิ่งแก้วเห็นเพื่อนทำหน้าเหมือนอยากร้องไห้ก็ไม่กล้าคาดคั้นต่อ ได้แต่ดึงแขนพาเดินขึ้นไปส่งที่ห้องพัก ยืนดูจนแน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่เป็นอะไรแล้วค่อยถอยกลับไปที่ห้องของตัวเองบ้าง
ตอนที่กำลังไขประตูเข้าห้อง หางตาหญิงสาวเหลือบไปเห็นใครบางคนยืนอยู่ไกล ๆ
แปลกจัง ทำไมฝรั่งคนนั้นถึงมาอยู่แถวนี้ได้ แถมยังทำเหมือนกำลังมองมาทางนี้อีก
กิ่งแก้วจ้องเขม็งกลับไปอยู่หลายอึดใจ ก่อนที่คนผู้นั้นจะเดินหายไป เธอถึงได้รีบไขประตูเข้าห้องแล้วลงกลอนอย่างแน่นหนา
ร่างบางนั่งเขี่ยโทรศัพท์เล่นอยู่ครู่หนึ่งถึงลุกไปอาบน้ำอาบท่า นุ่งผ้าถุงกระโจมอกออกมาเตรียมทาครีมบำรุงผิวสักหน่อย แต่ดันมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อน
กิ่งแก้วคิดว่าเป็นรตามาขอนอนด้วยเหมือนคราวก่อน จึงเอาผ้าขนหนูคลุมไหล่ไว้แล้วเปิดประตูออกไป
“ว่าไงตา ว้าย อื้อ ๆ”
มือหนาปิดปากร่างบางแล้วดันกลับเข้าไปในห้อง อีกมือปิดประตูตามหลังอย่างรวดเร็ว
พอได้ยินเสียงลงกลอนกิ่งแก้วก็ดีดดิ้นขัดขืนสุดฤทธิ์ แต่ถึงเธอจะงับมือข้างนั้นเข้าอย่างแรงเขาก็ยังไม่สะดุ้งสะเทือนสักนิด
นี่เธอจะถูกคนร้ายข่มขืนในห้องจริงหรือ ไม่เอานะ คนอุตส่าห์เอาตัวรอดมาได้ตั้งหลายปีแท้ ๆ
“อ่อยอั้นอะไอ้อ้า”
“ชู่ ๆ ผมแค่อยากจะถามอะไรหน่อย ถ้าคุณไม่โวยวายผมจะปล่อยมือแล้วเรามาคุยกันดี ๆ โอเคไหมครับ”
“อิงอะ”
“อะไรนะครับ ภาษาไทยของคุณฟังยากจัง”
ไอ้บ้า จะไม่ยากได้ยังไง ก็นายเล่นปิดปากฉันอยู่แบบนี้
กิ่งแก้วนึกเถียงในใจพลางพยักหน้า ตาก็สอดส่ายหาอาวุธไปด้วย กะว่าถ้าเขาปล่อยมือเมื่อไหร่แม่จะฟาดให้ยับเลย
“แค่คุยกันดี ๆ เท่านั้น อย่าโวยวายนะครับ”
คนตัวโตค่อย ๆ คลายมือออก พอเป็นอิสระริมฝีปากบางก็เผยอขึ้นพร้อมกับมือที่ยกสูง
“นายมันหนุ่มฝรั่งสุดหล่อคนนั้นนี่” กิ่งแก้วชี้หน้าคนที่เห็นมาเตร็ดเตร่แถวนี้หลายครั้งแล้ว
“สังเกตเห็นผมจริง ๆ สินะ”
ร่างสูงยกยิ้มมุมปาก กิ่งแก้วถึงกับนิ่วหน้าเพราะถูกออร่าความหล่อสาดใส่กะทันหัน แต่ก็ต้องไว้เชิงกันหน่อย เดี๋ยวจะหาว่าสาวไทยไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว
“ตัวโตอย่างกับหมีขั้วโลก ใครจะไม่เห็น” หญิงสาวพึมพำกับตัวเองเบา ๆ
“อ้อ ขอบคุณนะครับที่ชมว่าผมหล่อ”
“เอ่อ” ยิ้มอีกแล้ว จะขยันยิ้มไปถึงไหนนะ “นายต้องการอะไร”
“คุยไงครับ”
“แค่คุยเหรอ”
คนถูกถามเลิกคิ้วมองอย่างแปลกใจ กิ่งแก้วรีบยกมือตีปากตัวเอง “พูดอะไรของเธอเนี่ย เดี๋ยวเขาก็หาว่าให้ท่าหรอก”
“แล้วคุณต้องการให้ผมทำอะไรเหรอครับ”
“ปะ...เปล่าสักหน่อย คุยก็คุยสิ”
“ถ้างั้นก็ปล่อยแขนผมสิครับ”
“ก็มันน่าลูบอ่ะ เอ้ย ได้ค่ะ ๆ”
หญิงสาวยกมือจับปอยผมทัดใบหูอย่างเขิน ๆ ก่อนจะเชื้อเชิญให้แขกหาที่นั่งเอาเอง ส่วนเธอก็รีบวิ่งไปหาน้ำมาดื่มให้ตัวเองดับกระหายก่อน คนอะไรเห็นแล้วคอแห้งจัง
กิ่งแก้วลืมไปเสียสนิทว่าเขาเป็นแค่ชายแปลกหน้าที่บุกรุกเข้ามาโดยพละการ แถมเธอก็ยังนุ่งกระโจมอกอยู่ด้วย
“ขอบคุณครับ”
ชายหนุ่มรับขวดน้ำเปล่าไปเปิดดื่ม เสบียงที่เขาซื้อมาวันก่อนหมดไปแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสลงไปหาซื้อเพิ่มเลย กะว่าจะสืบเรื่องนี้ให้ได้ก่อนแล้วค่อยลงไปทีเดียว
“ไม่เป็นไรค่ะ ค่อย ๆ ดื่มก็ได้ ถ้ายังไม่พอฉันจะหยิบมาให้อีก” เธอเห็นเขากระดกรวดเดียวหมดขวดก็ตกใจอยู่บ้าง
“ขอโทษที่มารบกวนนะครับ แต่ผมมีเรื่องอยากจะถามคุณสักหน่อย”
“ได้ค่ะ ๆ อยากรู้อะไรก็ถามมาได้เลย”
“คุณรตากับผู้ชายคนนั้นเป็นอะไรกับครับ”