เราต่างล้วนเคยแอบรักใครสักคน ยามที่สายฝนโปรยปรายไร้จุดหมาย

หลงพร่ำรัก - บทที่ 22.ไม่น่าบังเอิญ โดย แพรวฝัน @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ไทย,ผู้ใหญ่,ตลก,โรแมนติก,nc,แอบรัก,รักโรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

หลงพร่ำรัก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ไทย,ผู้ใหญ่,ตลก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

โรแมนติก,nc,แอบรัก,รักโรแมนติก

รายละเอียด

เราต่างล้วนเคยแอบรักใครสักคน ยามที่สายฝนโปรยปรายไร้จุดหมาย

ผู้แต่ง

แพรวฝัน

เรื่องย่อ

“ยกให้ฉันดีกว่า กำลังอยากได้ที่ระบายความหงุดหงิดพอดี”


หนุ่มลูกครึ่งเจ้าของนัยน์ตาสีอ่อนจ้องมองร่างบางที่นั่งสั่นระริกอยู่กลางฝน ถ้อยคำที่ออกจากปากเขาคนฟังย่อมไม่อาจปฏิเสธได้ เพียงเท่านี้ก็ได้ลูกนกลูกกาติดมือกลับเพนท์เฮ้าส์ไปด้วย

'รตา' สาวน้อยที่เผชิญกับช่วงเคราะห์หามยามร้าย นอกจากถูกไล่ออกจากงานแล้ว ยังบังเอิญเดินทะเล่อทะล่าไปเจอกิจกรรมลับ ๆ ล่อ ๆ ของคนน่ากลัวเข้าอีก

ชีวิตนี้เธอไม่ได้ต้องการอะไรเลย นอกจากอยู่อย่างสงบสุขไปวัน ๆ แต่ดันต้องไปเป็นเด็กเสี่ยเสียนี่ แถมเอะอะก็จะจับโยนออกนอกหน้าต่างท่าเดียว ทีเรื่องเสียวล่ะมาหลายท่า 

เอ่อ...ขอโทษที นอกเรื่องไปหน่อย

แต่เอาเถอะ ขอเพียงแค่เขาไม่ทำร้ายเธอจริง ๆ ก็พอ


ตัวละคร ฉาก สถานที่ ทุกสิ่งอย่างในเรื่องเป็นสิ่งสมมติ เขียนขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น เนื้อเรื่องมีคำพูดและฉากเข้าพระเข้านางแบบละมุนละม่อม แต่ยังต้องโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้น ห้ามทำซ้ำ คัดลอกเนื้อหาไปเผยแพร่ที่อื่นในทุกกรณี

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม

สารบัญ

หลงพร่ำรัก-บทที่ 1.พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก,หลงพร่ำรัก-บทที่ 2.จับปลาต้องใช้สองมือ,หลงพร่ำรัก-บทที่ 3.ถึงบ่นก็ทนเอา (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 4.ดื้อนักจับโยน,หลงพร่ำรัก-บทที่ 5.วัดไข้ให้ลึก ๆ (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 6.ไม่มีกินฟรี,หลงพร่ำรัก-บทที่ 7.ดูถูกให้ดี ๆ,หลงพร่ำรัก-บทที่ 8.เก็บเกี่ยวให้คุ้ม (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 9.ทำสวยให้เสี่ยเลี้ยง,หลงพร่ำรัก-บทที่ 10.แวะมากินขนม (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 11.ห่างไม่ไหว (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 12.ลองอ้อนดูสิ,หลงพร่ำรัก-บทที่ 13.ปราบปรามห้ามดื้อ,หลงพร่ำรัก-บทที่ 14.พักร้อนอ้อนรัก (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 15.ข้อตกลงระหว่างเรา,หลงพร่ำรัก-บทที่ 16.อย่าได้ไหม (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 17.คว้าไว้ใช้ให้ดี,หลงพร่ำรัก-บทที่ 18.เยือนรังกระต่าย,หลงพร่ำรัก-บทที่ 19.ยิ่งใกล้ให้ห่าง,หลงพร่ำรัก-บทที่ 20.ดาวย้ายอีกแล้วสินะ,หลงพร่ำรัก-บทที่ 21.อย่าหยุดแค่ถาม (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 22.ไม่น่าบังเอิญ,หลงพร่ำรัก-บทที่ 23.ขอสักนิดเถอะ,หลงพร่ำรัก-บทที่ 24.ไม่จบแค่ดู (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 25.เคราะห์หามยามรัก

เนื้อหา

บทที่ 22.ไม่น่าบังเอิญ

กิ่ง ๆ สายแล้วนะ ไม่ไปทำงานเหรอ”
รตายืนเคาะประตูห้องติดกันด้วยสีหน้าเป็นห่วงมาก เพราะตั้งแต่รู้จักกันกิ่งแก้วไม่เคยขาดงานมาก่อน
“กิ่งป่วยหรือเปล่า ให้เราพาไปหาหมอไหม”
คนด้านในได้ยินเสียงโวยวายก็ลุกขึ้นนั่งขยี้ตาอย่างงัวเงีย พอสมองประมวลผลได้ก็รีบมองหาอีกคนเป็นอันดับแรก แต่เขาหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
ไม่มีเวลาให้กิ่งแก้วได้งงนานนัก เพราะเหลืออีกแค่สิบห้านาทีจะถึงเวลาเข้างานแล้ว
หญิงสาวรีบวิ่งผ่านน้ำ สวมเสื้อผ้าแล้วคว้าหวีมาสางผมยุ่ง ๆ ระหว่างเดินไปตอกบัตรเข้างาน ท่าทีประหลาดของเธอทำให้อีกคนอดถามไม่ได้
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ ปกติกิ่งไม่เคยตื่นสายนี่”
“เมื่อคืนเรามัวแต่ดูซีรีย์ดึกไปหน่อยน่ะ แถมยังลืมตั้งนาฬิกาปลุกอีก”
คนถูกถามรีบแก้ตัวพัลวัน แอบนึกขอโทษเพื่อนที่โกหกอยู่ในใจ แต่อีกคนไม่ได้สงสัยอะไรเลย
“อ่ะ ดีนะที่เราทำมื้อเช้ามาเผื่อพอดี”
“ขอบใจนะจ๊ะสุดสวย” กิ่งแก้วขโมยหอมแก้มเพื่อน “เราไปตรวจนับไม้ในโกดังก่อนนะ ไว้เจอกันตอนเที่ยง”
รตายกมือแนบแก้มอาย ๆ พลางมองค้อนตามหลังเพื่อนสนิท ก่อนเข้าไปนั่งทำงานของตัวเองตามปกติ
อันที่จริงวันนี้มันไม่ปกติเลยต่างหาก
พอเธอนั่งทำงานไปได้ราวชั่วโมงกว่า แม่เลี้ยงกฤษณาก็บอกให้เด็ก ๆ ที่อยู่ในสำนักงานช่วยกันเตรียมของต้อนรับลูกค้าที่จะเข้ามาตอนบ่าย
เพราะที่นี่มีพนักงานไม่มากนัก ทุกคนเลยต้องช่วยกันทำนั่นนี่เท่าที่จะทำได้ บ้างก็ออกไปดูหน้างานล่วงหน้า บางส่วนก็เตรียมของว่างไว้รับรอง
กิ่งแก้วเป็นคนออกไปข้างนอก ส่วนรตากำลังชงน้ำหวานแดงอยู่ในห้องครัวเล็ก แต่ยังไม่ทันเสร็จดีเพื่อนก็เดินหน้าแดงแข่งกับน้ำเข้ามา
“ข้างนอกร้อนมากเหรอ หน้าแดงเชียว ดื่มน้ำก่อนไหมเดี๋ยวจะเป็นลมเอาได้นะ”
กิ่งแก้วยกสองมือแนบแก้ม จ้องมองเพื่อนอยู่ครู่หนึ่งถึงเอ่ยถาม “ตา เธอรู้จักคนที่ชื่อธีโอบ้างไหม”
คนถูกถามเกือบทำแก้วน้ำร่วง ต้องรีบส่งให้อีกคน
“มะ...ไม่รู้หรอก”
“อย่างนั้นเหรอ”
กิ่งแก้วเห็นท่าทางของเพื่อนแล้วไม่แน่ใจเลย แต่ก็ไม่อยากคาดคั้นอะไรมาก เพราะกลัวคำตอบที่จะได้ยินเหมือนกัน
รออยู่อึดใจหนึ่งรตาถึงนึกขึ้นได้ “ทำไมกิ่งถึงถามอย่างนั้นล่ะ”
“ไม่มีอะไร ๆ”
“แล้วไปเอาชื่อนั้นมาจากไหน”
“คือ...เขามากับลูกค้า...นั่นไง”
กิ่งแก้วพยักเพยิดไปที่ประตูก่อนแวบหายไปจากตรงนั้น ขอแอบดูสถานการณ์ก่อนแล้วกัน เธอยังไม่พร้อมเผชิญความจริงจัง ๆ
ทางรตาหันไปเห็นธีโอเดินเข้ามาก็เข่าอ่อน แทบทรุดลงไปกองกับพื้น นิ่งค้างมองจ้องไปยังร่างสูงที่เดินตามหลังเข้ามาจนแทบลืมหายใจ
“สวัสดีค่ะคุณข้าม คราวนี้อุตส่าห์เข้ามาดูไม้ด้วยตัวเองเชียว”
แม่เลี้ยงกฤษณาเดินเข้าไปต้อนรับชายหนุ่ม อีกคนรีบยกมือไหว้อย่างมีมารยาท
“สวัสดีครับแม่เลี้ยง พอดีว่างานคราวนี้เป็นของลูกค้าคนสำคัญเลยต้องเช็กละเอียดหน่อย แต่ปางไม้ที่นี่ผลิตแต่สินค้าคุณภาพดีอยู่แล้ว ผมแค่หาเรื่องมาเที่ยวก็เท่านั้นเอง”
“แหม๋ ปากหวานเหมือนเจ้าสัวเจริญเลยนะคะ ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริง ๆ” กฤษณาเอ่ยพลางมองไปด้านหลังชายหนุ่ม “แล้วนี่ไม่ได้พาภรรยาคนสวยกับลูกชายมาด้วยหรือคะ”
“วิเวียนมีนัดกับคุณหมอน่ะครับ ส่วนน้องดิวมีคลาสเรียนที่เนิร์สเซอร์รี่”
“แหม๋ พูดซะนึกว่าเป็นมหา’ลัย” แม่เลี้ยงเอ่ยแซว ทั้งคู่หัวเราะให้กันอย่างสนุกสนาน “อ้าว ตาไม้มาพอดี นี่คุณข้ามสมุทรไงลูก”
“สวัสดีครับ ขอบคุณมากที่ท่านประธานหนุ่มไฟแรงอุตส่าห์มาเยี่ยมเยียนถึงที่นี่”
“ปางไม้ที่นี่คุ้มค่ากับเวลาที่มาอยู่แล้วครับ แต่ยังไงผมก็ต้องรับกลับไปส่งลูกชายเข้านอน ดังนั้นเรามาเริ่มคุยงานกันดีกว่า”
“เพิ่งรู้นะครับเนี่ยว่ามีตำแหน่งคุณพ่อดีเด่นพ่วงด้วย ผมคงต้องดูไว้เป็นตัวอย่างบ้างแล้ว”
เมธาเอ่ยพลางเหลือบมองหญิงสาวที่ยืนอยู่ไม่ไกล แต่พอเห็นสีหน้าของเธอ รอยยิ้มบนใบหน้าหล่อก็แข็งค้างไป
“แม่ว่าเราไปคุยกันต่อที่ห้องประชุมดีกว่า เชิญจ้ะ ๆ เด็ก ๆ ยกของว่างขึ้นไปให้ด้วยนะ”
“ได้ค่ะแม่เลี้ยง”
คนเป็นหัวหน้าเสมียนเอ่ยรับคำ พวกลูกน้องก็กุลีกุจอทำตาม
ทุกคนมัวแต่วุ่นวายกับงานของตัวเอง จนมีแค่กิ่งแก้วที่สังเกตเห็นว่ารตาแอบถอนหายใจโล่งอก แต่ยังมองตามฝรั่งร่างสูงคนนั้นไปจนลับสายตา
พวกเขาต้องมีอดีตอะไรร่วมกันแน่ เธอสัมผัสได้
แม้จะแค่เจอหน้ากันช่วงสั้น ๆ แต่ก็ทำให้รตาฟุ้งซ่านจนอยู่ไม่สุขไปตลอดบ่าย
ทำไมธีโอถึงมาอยู่กับคนอื่น เกิดอะไรขึ้นกับคุณลูซหรือเปล่า แล้วเอริคยังอยู่กับเขาหรือไม่
ยิ่งคิดหญิงสาวก็ยิ่งว้าวุ่นใจ ตอนเย็นเธอจึงปฏิเสธเมธาที่ชวนไปร่วมมื้อเย็นด้วยกัน
“ขอโทษนะคะคุณไม้ ตารู้สึกไม่สบายมาก อยากกลับไปพักผ่อน”
“งั้นก็รีบกลับห้องเถอะ ถ้าอาการไม่ดีรีบโทรหาผมได้เลยนะ” ที่จริงเขาก็อยากไปส่งเธอ แต่ติดที่ต้องออกไปเลี้ยงรับรองลูกค้า
ทางกิ่งแก้วเห็นอาการของเพื่อนก็ยิ่งรู้สึกผิด ไม่น่าเชื่อคำพูดพวกผู้ชายง่าย ๆ เลย ฝรั่งคนนั้นอาจแค่หลอกจ้ำจี้เธอก็ได้
ถ้าวันหนึ่งทั้งคู่กลับไปคบกันมันคงอึดอัดมากแน่ ๆ ในเมื่อเธอแอบแซบกับแฟนเพื่อนไปแล้ว
“เฮ้อ!”
สองสาวสองห้องถอนหายใจออกมาพร้อมกัน เหตุการณ์สั้น ๆ แค่ไม่กี่ชั่วโมงแต่กลับทำให้มีคนคิดมากถึงสามคน
อีกคนก็คือเมธา
เขาสังเกตเห็นท่าทางตอนที่รตามองส่งแขกวันนี้ ดูเหมือนเธออยากจะคุยกับหนุ่มฝรั่งที่ชื่อธีโอเหลือเกิน
ตลอดเวลาที่ตามจีบมา เขาย่อมดูออกว่าเธอมีใครบางคนอยู่ในใจ ถึงได้เว้นระยะอยู่เสมอ
ถ้าเป็นไอ้ฝรั่งคนนั้นก็ไม่กลัวหรอก เพราะคุณสมบัติของเขาไม่ด้อยกว่าแน่นอน แต่ต้องรู้ให้ได้ก่อนว่าทำไมทั้งคู่ถึงเลิกกัน จะได้อาศัยเรื่องนั้นมาเป็นเครื่องมือช่วยให้พิชิตใจสาวได้ง่ายขึ้น
ทางชายหนุ่มที่มีแต่คนคิดถึงกำลังย่องขึ้นชั้นสองของตึกที่พักคนงาน มองแค่เงายังรู้ว่ามีเจตนาไม่ซื่อ
เขาแวะฟังหน้าประตูห้องนายหญิงก่อน พอเห็นว่าปกติดีก็ไปสะเดาะกลอนของห้องข้าง ๆ พริบตาเดียวก็ลอบเข้าไปข้างในได้
กิ่งแก้วไม่ได้รู้ตัวเลยว่ามีผู้บุกรุก เธอกำลังหลับสนิทเพราะเพิ่งข่มตานอนไปได้ไม่นาน
ธีโอรีบถอดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ออก วันนี้เขาลงไปที่โรงแรมในตัวเมืองมา ทีแรกก็ตั้งใจว่าจะค้างที่นั่น แต่นอนพลิกไปพลิกมาอยู่นานก็ต้องลุกขึ้นคว้าเสื้อผ้ากับกุญแจรถบึ่งมาที่นี่
ร่างสูงสอดเข้าไปนอนตะแคงซ้อนหลังคนตัวเล็ก พอกางแขนโอบกอดก็รู้สึกได้ว่าลมหายใจเธอแปลก ๆ เลยชะโงกดู เห็นน้ำมูกใสๆ ไหลย้อยจากปลายจมูกแดง ๆ หัวใจก็กระตุกวูบ
เธอต้องร้องไห้จนหลับไปแน่ น้ำตายังปริ่มอยู่บนขนตาเลย
คนตัวโตคลี่ยิ้มกว้าง ทั้งสงสารทั้งเอ็นดู คิดเข้าข้างตัวเองว่าเป็นสาเหตุให้สาวน้อยเสียใจเสียแล้ว แต่นั่นแปลว่าเธอต้องมีใจให้เขาอย่างแน่นอน
นึกแล้วก็มันเขี้ยวชะมัด ขอฟัดให้หายคิดถึงหน่อยเถอะ เมื่อตอนบ่ายเห็นเขาก็ทำท่าเหมือนเห็นผี วิ่งหนีไปซ่อนที่ไหนก็ไม่รู้
แต่พอกิ่งแก้วรู้สึกตัวก็รีบผลักผู้บุกรุกออก “ปล่อยฉันนะ ออกไปจากห้องฉันด้วย นายเข้าผิดห้องแล้ว”
“อะไรกัน ตื่นมาก็ไล่ผัวเลยเหรอ ไม่น่ารักเลยนะ”
“เมียนายอยู่อีกห้องนู่น ออกไปเลยนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะร้องให้คนช่วย”
เสียงเล็กเริ่มสั่นเครือ คนที่อยากแกล้งชักใจคอไม่ดีขึ้นมา
“ตื่นแล้วความจำเสื่อมแบบนี้ทุกวันเลยนะ ผมจะได้จับทำเมียใหม่ทุกคืนบ้าง”
“ก็ลองดูสิไอ้บ้า ไอ้คนโรคจิต ไอ้คนหลอกลวง พูดโกหกเพื่อหลอกล่อสาวน้อยไร้เดียงสาอย่างฉันให้ตกเป็นเหยื่อ”
“เดี๋ยวนะ ๆ ไม่ใช่แล้ว” ธีโอดึงคนขี้โวยวายเข้ามากอดแนบอก กลัวว่าเสียงเธอจะปลุกคนทั้งตึก “คุณเป็นคนรุกเข้าหาผมก่อนนะ และผมก็ไม่เคยโกหกเธอสักคำ”
“นายไม่โกหกแต่บอกไม่หมดใช่ไหมล่ะ”
“ก็...ใช่”
“ขอเอาเลือดหัวออกสักทีก่อนเถอะ”
แขนเรียวเอื้อมไปควานหาอาวุธ ดีที่เขาเป็นบอดี้การ์ดที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีจึงรับมือกับยายตัวเล็กได้สบายมาก
“ฟังผมพูดก่อนได้ไหม เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว”
“ถ้าฟังแล้วนายจะให้ฉันตีหัวไหม”
“ถ้าฟังแล้วคุณยังอยากตีอยู่ผมก็จะยอม”
กิ่งแก้วฟังน้ำเสียงจริงจังนั่นก็อ่อนลง “รีบเล่ามาสิ”
ธีโอรีบเล่าทุกอย่างให้ฟังไม่มีขาดตกบกพร่อง ถึงกับยอมรับคำด่าแทนเจ้านายด้วย ขอเพียงให้คนตรงหน้าเข้าใจเขาก็พอ
ส่วนคนฟังยิ่งอึ้งหนักกว่าเก่า ไม่นึกเลยว่าชีวิตรตาจะน่าเศร้าขนาดนี้ เธอถึงกับหลั่นน้ำตาให้เพื่อนอีกรอบ
“ไม่เอาไม่ร้องสิ ผมไม่อยากเห็นน้ำตาของคุณนะ”
ชายหนุ่มใช้นิ้วโป้งเกลี่ยบนแก้มนุ่ม แต่ก็ถูกปัดมือออกเสียอย่างนั้น
“ในเมื่อเคยอยู่ดีกินดีขนาดนั้น แล้วทำไมตาถึงต้องหนีมาล่ะ”
“เอ่อ” คนถูกถามกลืนน้ำลายอึกใหญ่
“อย่าบอกนะว่าคุณลูซอะไรนั่นมีลูกมีเมียอยู่แล้ว”
“ก็ไม่เชิง...โอ้ย หยิกผมทำไม”
“แก้แค้นแทนรตาที่ถูกเจ้านายของพี่หลอกไง”
“แต่ผมไม่ใช่คนหลอกสักหน่อย”
ธีโอลูบแขนตัวเองป้อย ๆ แสร้งทำหน้าน่าสงสาร ในใจแอบยินดีที่เธอยอมกลับไปเรียกเขาว่าพี่แล้ว แต่พอถูกคนบนตักจ้องเขม็งก็รีบพูดต่อ
“นายไม่ได้หลอกคุณรตา เธอแค่เข้าใจผิดไป”
“แล้วทำไมเขาถึงไม่มาเคลียร์กันให้รู้เรื่องล่ะ ปล่อยให้เมียตะลอน ๆ ตามลำพังอยู่ได้เป็นเดือน ๆ”
“คุณรตาไม่ได้ตัวคนเดียวสักหน่อย พี่ก็คอยอารักขาอยู่นี่ไง โอเค ๆ นายเพิ่งออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไม่กี่วันนี้เอง”
ธีโอช่วยเรียกคะแนนสงสารให้ลูคัสเต็มที่ ก่อนจะทำเผื่อตัวเองบ้าง
“ถ้าเข้าใจดีแล้วเรามารำลึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนกันต่อดีกว่า”
“ถอยไปเลยนะพ่อคนหื่น ใครจะไปอยากทำด้วยอีก”
“จริงเหรอ แล้วใครกำลังนั่งบดตักพี่อยู่ล่ะ”
เขาชูสองมือขึ้นแสดงให้ดูว่าไม่ได้จับเธอไว้สักหน่อย เลยถูกอีกคนทุบเข้าอั้กใหญ่
“แรงดีนักนะ อย่าสลบคาอกแบบเมื่อคืนอีกก็แล้วกัน”
ขาดคำธีโอก็จับพิสูจน์ดูทันที แต่ได้ไม่ถึงสองน้ำร่างบางก็ตาปรือจะหลับแหล่มิหลับแหล่แล้ว สภาพน่าสงสารไม่น้อย
ชายหนุ่มรีบจบรอบสองให้ไว ๆ ก่อนทิ้งตัวลงโอบคนตัวเล็กมากอดไว้
“เราไปอยู่กับพี่ได้ไหม”
“ไม่”
“นอนพักก่อน พรุ่งนี้พี่ค่อยถามใหม่”
“ก็ยังไม่”
“งั้นพี่ก็จะถามจนกว่าเราจะตอบตกลง”
“นายจะให้ฉันไปอยู่ในฐานะอะไรมิทราบ”
กิ่งแก้วถามพลางอ้าปากหาว ท่าทางไม่จริงจังนัก แต่เขาดูออกว่าเธอรอฟังคำตอบจนหูผึ่ง
“พี่ขาดแม่บ้านดูแลห้อง”
มือเล็กผลักอกกว้างทันที “อยากได้แม่บ้านก็ไปหาจ้างเอาสิ”
คนตัวโตรีบกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น พยายามกลั้นเสียงหัวเราะเต็มที่
“หมายถึงแม่บ้านที่คอยดูแลพี่ ดูแลบ้าน ดูแลครอบครัว ดูแลลูกของเรา”
“เดี๋ยวนะ ไปถึงขั้นลูกเต้าแล้วเหรอ ไวไปไหม เพิ่งได้กันสองคืนเองนะ”
“ต้องไวสิ อายุพี่ไม่ใช่น้อย ๆ แล้ว เรื่องวุ่น ๆ ก็คลี่คลายลงแล้วด้วย พี่เลยอยากสร้างครอบครัวบ้าง” ธีโอกดจูบหน้าผากมน “แต่ถ้าเรายังไม่พร้อมก็ไม่เป็นไร พี่รอได้”
เสียงทุ้มเศร้าลงถนัดตา คนฟังได้ยินก็ใจอ่อน แต่ยังมีบางเรื่องที่อยากรู้
“บอกมาก่อนว่าไอ้เรื่องวุ่น ๆ ที่ว่าคืออะไร”
“ได้สิ คือว่า...”