เราต่างล้วนเคยแอบรักใครสักคน ยามที่สายฝนโปรยปรายไร้จุดหมาย

หลงพร่ำรัก - บทที่ 23.ขอสักนิดเถอะ โดย แพรวฝัน @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ไทย,ผู้ใหญ่,ตลก,โรแมนติก,nc,แอบรัก,รักโรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

หลงพร่ำรัก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ไทย,ผู้ใหญ่,ตลก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

โรแมนติก,nc,แอบรัก,รักโรแมนติก

รายละเอียด

เราต่างล้วนเคยแอบรักใครสักคน ยามที่สายฝนโปรยปรายไร้จุดหมาย

ผู้แต่ง

แพรวฝัน

เรื่องย่อ

“ยกให้ฉันดีกว่า กำลังอยากได้ที่ระบายความหงุดหงิดพอดี”


หนุ่มลูกครึ่งเจ้าของนัยน์ตาสีอ่อนจ้องมองร่างบางที่นั่งสั่นระริกอยู่กลางฝน ถ้อยคำที่ออกจากปากเขาคนฟังย่อมไม่อาจปฏิเสธได้ เพียงเท่านี้ก็ได้ลูกนกลูกกาติดมือกลับเพนท์เฮ้าส์ไปด้วย

'รตา' สาวน้อยที่เผชิญกับช่วงเคราะห์หามยามร้าย นอกจากถูกไล่ออกจากงานแล้ว ยังบังเอิญเดินทะเล่อทะล่าไปเจอกิจกรรมลับ ๆ ล่อ ๆ ของคนน่ากลัวเข้าอีก

ชีวิตนี้เธอไม่ได้ต้องการอะไรเลย นอกจากอยู่อย่างสงบสุขไปวัน ๆ แต่ดันต้องไปเป็นเด็กเสี่ยเสียนี่ แถมเอะอะก็จะจับโยนออกนอกหน้าต่างท่าเดียว ทีเรื่องเสียวล่ะมาหลายท่า 

เอ่อ...ขอโทษที นอกเรื่องไปหน่อย

แต่เอาเถอะ ขอเพียงแค่เขาไม่ทำร้ายเธอจริง ๆ ก็พอ


ตัวละคร ฉาก สถานที่ ทุกสิ่งอย่างในเรื่องเป็นสิ่งสมมติ เขียนขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น เนื้อเรื่องมีคำพูดและฉากเข้าพระเข้านางแบบละมุนละม่อม แต่ยังต้องโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้น ห้ามทำซ้ำ คัดลอกเนื้อหาไปเผยแพร่ที่อื่นในทุกกรณี

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม

สารบัญ

หลงพร่ำรัก-บทที่ 1.พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก,หลงพร่ำรัก-บทที่ 2.จับปลาต้องใช้สองมือ,หลงพร่ำรัก-บทที่ 3.ถึงบ่นก็ทนเอา (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 4.ดื้อนักจับโยน,หลงพร่ำรัก-บทที่ 5.วัดไข้ให้ลึก ๆ (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 6.ไม่มีกินฟรี,หลงพร่ำรัก-บทที่ 7.ดูถูกให้ดี ๆ,หลงพร่ำรัก-บทที่ 8.เก็บเกี่ยวให้คุ้ม (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 9.ทำสวยให้เสี่ยเลี้ยง,หลงพร่ำรัก-บทที่ 10.แวะมากินขนม (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 11.ห่างไม่ไหว (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 12.ลองอ้อนดูสิ,หลงพร่ำรัก-บทที่ 13.ปราบปรามห้ามดื้อ,หลงพร่ำรัก-บทที่ 14.พักร้อนอ้อนรัก (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 15.ข้อตกลงระหว่างเรา,หลงพร่ำรัก-บทที่ 16.อย่าได้ไหม (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 17.คว้าไว้ใช้ให้ดี,หลงพร่ำรัก-บทที่ 18.เยือนรังกระต่าย,หลงพร่ำรัก-บทที่ 19.ยิ่งใกล้ให้ห่าง,หลงพร่ำรัก-บทที่ 20.ดาวย้ายอีกแล้วสินะ,หลงพร่ำรัก-บทที่ 21.อย่าหยุดแค่ถาม (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 22.ไม่น่าบังเอิญ,หลงพร่ำรัก-บทที่ 23.ขอสักนิดเถอะ,หลงพร่ำรัก-บทที่ 24.ไม่จบแค่ดู (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 25.เคราะห์หามยามรัก

เนื้อหา

บทที่ 23.ขอสักนิดเถอะ

รุ่งเช้าวันต่อมารตายังรู้สึกไม่ดีเอามาก ๆ จึงโทรไปขอลางาน หัวหน้าก็ใจดีบอกให้พักผ่อนให้เต็มที่ ไม่ต้องห่วงทางนี้ เธอจะช่วยบอกแม่เลี้ยงให้เอง
หญิงสาวนอนซมอยู่ในห้องจนเกือบเที่ยงก็มีเสียงเคาะประตู รตานึกว่าเป็นกิ่งแก้วแวะเอาอาหารมาให้เลยลุกขึ้นไปเปิด แต่คนที่ยืนอยู่กลับเป็นชายหนุ่ม
“คุณไม้มีธุระอะไรเหรอคะ”
“ได้ยินว่าตาลาป่วย ผมเลยมาดูว่าเป็นยังไงบ้าง”
เมธาแทรกตัวเข้าไปยืนในห้องอย่างแนบเนียน ต่อให้อีกฝ่ายจะยังไม่ได้เชิญก็ตาม
“ผมเอาอาหารกับยามาฝากด้วย เดี๋ยวช่วยจัดการให้นะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ตาทำเองดีกว่า คุณไม้ไปทำงานต่อเถอะค่ะ”
รตาพยายามเชิญเขาออกดี ๆ แต่ดูเหมือนอีกคนตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่ไปไหน
“ตาครับ” ร่างสูงสาวเท้าเข้าหา “ไม่ว่าตาจะเคยมีอดีตยังไงพี่ก็ไม่สน ขอแค่ตายอมเปิดใจให้พี่บ้างก็พอ”
“คือ...” ร่างบางถอยหนีไปหลายก้าว แต่เมธาก็ยังตามมาเรื่อย ๆ
“เมื่อวานพี่เห็นตามองผู้ชายคนอื่นแล้วไม่ชอบเลย ตาลืมเขาแล้วมองแต่พี่ได้ไหม”
“ขอโทษค่ะ แต่ตายังไม่พร้อม”
คนตัวเล็กย่อตัวจะมุดหนีไป แต่ก็ถูกแขนยาวคว้าจับเอาไว้ได้
“ปล่อยตานะคะ”
“ไม่ พี่จะไม่ปล่อยให้ตาหลุดมือไปแน่” เมธากึ่งลากกึ่งพยุงร่างบางไปตรงที่นอน “อย่าดิ้นน่า จะได้ไม่เจ็บตัว ยอมเป็นของพี่ดี ๆ เถอะ พี่สัญญาว่าจะให้ตาเป็นแม่เลี้ยงปางไม้คนต่อไป พี่รักตาจริง ๆ นะ”
“แต่ตาไม่ได้รักคุณไม้...”
รตาพูดยังไม่ทันขาดคำก็ถูกฝ่ามือหนาตบเข้าให้ จนเซถลาคว่ำลงไปกับพื้น ก่อนที่ร่างสูงจะตามมาคร่อมทับไว้
“เธอไม่มีสิทธิ์เลือก กล้าดียังไงถึงขัดใจฉัน ไม่มีอะไรที่ฉันอยากได้แล้วไม่ได้”
เมธาตะคอกใส่ ร่างบางถึงกับช็อคตัวแข็งทื่อ ผู้ชายอ่อนโยนใจดีที่เคยเห็นหายวับไปแล้ว เหลือเพียงคนเอาแต่ใจที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ
“ฉันอุตส่าห์ดีกับเธอ ให้เกียรติเธอ แต่มันยังไม่พออีกเหรอ ผู้หญิงอย่างเธอจะเรียกร้องต้องการอะไรนักหนา”
เมธาฉีกกระชากชุดของอีกคนจนขาดวิ่น ไม่สนใจเสียงร้องอ้อนวอนใด ๆ
“ได้เป็นเมียฉันก็ดีแค่ไหนแล้ว อย่าคิดใฝ่สูงให้มันมากนัก”
“คุณไม้ปล่อยตาเถอะค่ะ อย่าทำตาเลย” รตายกมือไหว้ท่วมหัว ในใจนึกถึงแต่คนที่เคยปกป้องเธอมาก่อน “คุณลูซช่วยหนูด้วย คุณลูซ”
พริบตานั้นก็รู้สึกเหมือนแรกกดทับบนตัวหายไป แต่มีอ้อมกอดแสนคุ้นเคยมาแทนที่
“ฉันอยู่นี่ ๆ ไม่เป็นไรแล้วนะ”
“คุณลูซ ฮือ หนูตากลัว” ร่างบางซุกเข้าหาแผงอกกว้างแล้วร้องไห้ไม่หยุด ระบายความเสียใจที่อัดอั้นมานาน
แม้จะจากมาอย่างเจ็บปวด แต่ไม่นึกเลยว่าจะดีใจที่ได้เจอหน้าเขาขนาดนี้
“คุณลูซกอดหนูตาไว้ได้ไหมคะ”
“ได้สิคะ ได้อยู่แล้ว”
มือหนาลูบแผ่นหลังเล็กเบา ๆ พลางปรายตามองชายหนุ่มที่ถูกธีโอกดไว้กับพื้น ชั่งใจว่าจะจัดการกับไอ้เวรนี่อย่างไร
“คุณลูซ” รตาเรียกเสียงอ้อน ก่อนพูดราวกับรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ “ปล่อยไปเถอะค่ะ หนูไม่อยากผูกเวรกรรมอะไรกับเขาอีก”
“ขอสักนิดเถอะ มันตบเธอเลยนะ”
“นะคะ แล้วหนูตาจะยอมกลับไปกับคุณโดยไม่ถามอะไร”
“ต้องถามสิ เพราะฉันอยากอธิบายทุกอย่างให้เธอฟัง”
“เหลือแค่หนูจะยอมกลับไปกับคุณก็ได้”
ลูคัสยกยิ้มมุมปาก ยอมประคองคนตัวเล็กขึ้นยืน “งั้นเรากลับกันเถอะ”
“แต่หนูยังไม่ได้เก็บของเลยนะคะ”
“เดี๋ยวธีโอจัดการเอง”
รตาเหลียวไปมองชายหนุ่มอีกสองคนโดยไม่ทันคิด แต่ก็ไม่กล้าสบตากับเมธา คนที่ยืนข้าง ๆ ก็ไม่อยากให้เธอมองเช่นกัน
“ไม่ต้องห่วง ธีโอต้องขอให้กิ่งแก้วช่วยจัดการอยู่แล้ว”
คนฟังหันขวับกลับมามองคนพูดทันใด สายตาอยากรู้อยากเห็นชัดเจนมาก แต่ลูคัสก็ไม่ยอมง่าย ๆ
“เดี๋ยวไปเล่าให้ฟังบนรถ” เขาเอ่ยพลางออกเดินนำ “ไปกันได้แล้ว ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ”
หญิงสาวปล่อยให้ร่างสูงจูงมือออกจากห้องทันที ทิ้งเวลาที่ผ่านมาไว้เบื้องหลังอีกครั้ง
“เข้าเมืองได้เลย”
ชายหนุ่มเอ่ยสั่งคนขับรถ ดึงร่างบางมากอดไว้บนตัก ใบหน้าคมซุกลงกับซอกคอเนียน สูดดมกลิ่นกายที่แสนจะคิดถึง กดหอมตรงนั้นที ตรงนี้ทีราวกับเป็นคนโรคจิต
แต่พอเห็นรอยแดงบนแก้มนุ่มก็ขมวดคิ้วมุ่น เอ่ยเสียงลอดไรฟัน “ขอกลับไปซัดมันสักทีได้ไหม”
“เลิกพูดเรื่องคนอื่นได้แล้วค่ะ มาพูดเรื่องของเราดีกว่า” พอสงบสติอารมณ์ได้รตาก็เริ่มดิ้นหนี “ปล่อยหนูก่อนค่ะ”
“ไม่” ลูคัสกดหอมแก้มไปฟอดใหญ่ “เฮ้อ แบบนี้ค่อยหายเวียนหัวหน่อย”
“คุณลูซไม่สบายเหรอคะ”
“เธอก็เห็นว่าฉันโดนยิง หรือลืมไปแล้ว”
คนตัวโตทำหน้ามุ่ยเบะปากน้อยใจ อีกคนได้แต่มองตาปริบ ๆ เพราะไม่เคยเห็นอาการแง่งอนขนาดนี้
“ตาจำได้ค่ะ แต่หมอบอก...” นึกถึงวันนั้นเธอก็เบือนหน้าหนี “บอกกับคู่หมั้นของคุณว่าคุณพ้นขีดอันตรายแล้ว”
“เธอก็เลยทิ้งฉันไปสินะ ไม่คิดจะรอดูว่าฉันฟื้นแน่หรือเปล่าเหรอ ใจร้ายมากจริง ๆ”
“ใช่ว่าหนูจะไม่ห่วงคุณสักหน่อย แต่หนูไม่อยากให้คุณกับคู่หมั้นมีปัญหากันนี่คะ”
“ห่วงฉันจริงเหรอ”
คนตัวโตซุกซบถูไถออดอ้อน คราวนี้ชักเริ่มน่ากลัวแล้ว นี่สมองเขาได้รับกระทบกระเทือนด้วยหรือเปล่า
รตาตัดสินใจไม่ถูกเลยว่าจะถามเรื่องไหนก่อนดี อีกคนเลยเลือกให้
“ฉันต้องอยู่ที่โรง’บาลเป็นเดือน ๆ เพราะพอแผลที่โดนยิงเริ่มหายก็มีอาการป่วยแปลก ๆ แทรกขึ้นมา”
คนตัวเล็กมองสังเกตตาม เห็นว่าเขาดูซูบซีดลงไปมากจริง ๆ ก็ยิ่งสงสาร แอบรู้สึกผิดที่จากมาโดยไม่บอกกล่าว
พอเห็นสายตาห่วงใยจากอีกคน ลูคัสก็แอบยิ้มอยู่ในใจ ตีเนียนทำตัวอ่อนแอต่อไป
“ฉันกินข้าวไม่ได้ ลืมตาทีไรก็เวียนหัวอยากอาเจียนอยู่ตลอด หมอกี่คน ๆ มาตรวจก็ไม่เจอสาเหตุ ทำได้แค่ปล่อยให้ฉันทนทรมานอยู่อย่างนั้น”
ท่าทางของเขาเหมือนคนเป็นโรคร้ายที่อยู่ได้อีกไม่นาน ทำเอารตาหลงลืมความขัดแย้งในใจ สอดแขนกอดเอวสอบไว้แน่น
“หมอบ้าอะไรปล่อยให้คนไข้นอนป่วย ฟ้องเลยไหมคะ”
“ฉันขี้เหร่ลงไปเยอะเลยใช่ไหม”
“นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญสักหน่อยค่ะ เราลองไปหาหมอคนอื่นกันอีกนะคะ หนูเชื่อว่าต้องมีทางรักษาคุณได้แน่”
“ตอนแรกฉันคิดว่าจะไม่รักษา เพราะอย่างไรก็ไม่มีเธออยู่เคียงข้างแล้ว”
“หนูกลับมาอยู่แล้วนี่ไงคะ เราจะไปหาหมอด้วยกัน”
“แน่ใจนะ”
“ค่ะ หนูจะไปกับคุณ” มือเล็กกำเสื้อเชิ้ตสีเข้มไว้แน่น รู้เลยว่าเขาผอมลงไปมากเพียงใด น้ำตาก็พาลจะไหลให้ได้ “หนูจะดูแลจนกว่าคุณจะหายดีในฐานะพยาบาลส่วนตัว คุณบอกกับคู่หมั้นให้เข้าใจนะคะ”
“ฉันไม่มีคู่หมั้นสักหน่อย”
“แต่หนูได้ยินผู้หญิงคนนั้นพูดชัดเจน”
“ไม่คิดจะฟังฉันบ้างเลยเหรอ รู้ไหมว่าพอฟื้นขึ้นมาแล้วไม่เห็นเธอมันเจ็บปวดแค่ไหน”
วันนี้คนตัวโตดูอารมณ์รุนแรงเป็นพิเศษ ไม่ได้เก็บเงียบเหมือนทุกที
“ทั้งที่สัญญากันไว้แล้วแท้ ๆ แต่เธอก็ยังทิ้งกันได้ลงคอ ในใจเธอเคยมีฉันอยู่บ้างหรือเปล่า”
น้ำตาเม็ดโตไหลลงจากดวงตาสีอ่อน ทำเอาอีกคนตกใจมาก
“หนูขอโทษค่ะ ตอนนั้นหนูสับสนจริง ๆ”
รตากอดเขาแน่นขึ้น ลูคัสกอดหอมจนพอใจแล้วค่อยเล่าต่อ
“ผู้หญิงคนนั้นชื่อไลลา พ่อเธอคิดจะจับให้ฉันแต่งงานเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ แต่มันเป็นไปไม่ได้หรอก”
“ทำไมคะ”
“เพราะพ่อฉันไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบแน่ และอีกอย่างฉันก็มีเมียอยู่แล้ว”
เขาจับมือเล็กขึ้นมาจูบ ค่อย ๆ เล่าเรื่องช่วงที่เธอไม่อยู่
“แต่ฉันไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงหนีไป ดังนั้นต่อให้พวกธีโอตามหาเธอเจอนานแล้ว แต่ฉันก็ไม่กล้ามาหาอยู่ดี”
สายตาคนตัวโตฉายแววเจ็บปวด จับมือเล็กข้างนั้นวางแนบแก้มสากระคาย
“ยิ่งตอนนี้ฉันขี้เหร่ลงไปเยอะก็ยิ่งกลัวว่าเธอจะรังเกียจ ฉันเลยทำได้แค่สั่งให้ธีโอคอยตามดูไว้ พอวันไหนลุกไหวค่อยแอบมาดูหน้าเธอบ้างให้พอหายคิดถึง”
เสียงทุ้มแสดงความเศร้าชัดเจน ทำเอาคนฟังร้องไห้ตาม
“แต่ฉันทนเห็นคนอื่นใกล้ชิดเธอไม่ได้จริง ๆ เพราะไม่ว่ายังไงเธอก็เป็นเมียของฉัน”
“คุณเลยมาหาหนูเหรอคะ”
“อืม แต่ยังมีอีกเหตุผลนึง เมื่อวานข้ามสมุทรช่วยบอกให้รู้ว่าฉันป่วยเป็นโรคอะไร”
“แปลว่ามีทางรักษาใช่ไหมคะ”
สีหน้าคนตัวเล็กดูมีความหวังขึ้นมาทันใด คนตัวโตพยักหน้าพลางกดยิ้มมุมปาก
“ใช่ เราไปหาหมอกันเถอะ”