เราต่างล้วนเคยแอบรักใครสักคน ยามที่สายฝนโปรยปรายไร้จุดหมาย

หลงพร่ำรัก - บทที่ 25.เคราะห์หามยามรัก โดย แพรวฝัน @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ไทย,ผู้ใหญ่,ตลก,โรแมนติก,nc,แอบรัก,รักโรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

หลงพร่ำรัก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ไทย,ผู้ใหญ่,ตลก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

โรแมนติก,nc,แอบรัก,รักโรแมนติก

รายละเอียด

เราต่างล้วนเคยแอบรักใครสักคน ยามที่สายฝนโปรยปรายไร้จุดหมาย

ผู้แต่ง

แพรวฝัน

เรื่องย่อ

“ยกให้ฉันดีกว่า กำลังอยากได้ที่ระบายความหงุดหงิดพอดี”


หนุ่มลูกครึ่งเจ้าของนัยน์ตาสีอ่อนจ้องมองร่างบางที่นั่งสั่นระริกอยู่กลางฝน ถ้อยคำที่ออกจากปากเขาคนฟังย่อมไม่อาจปฏิเสธได้ เพียงเท่านี้ก็ได้ลูกนกลูกกาติดมือกลับเพนท์เฮ้าส์ไปด้วย

'รตา' สาวน้อยที่เผชิญกับช่วงเคราะห์หามยามร้าย นอกจากถูกไล่ออกจากงานแล้ว ยังบังเอิญเดินทะเล่อทะล่าไปเจอกิจกรรมลับ ๆ ล่อ ๆ ของคนน่ากลัวเข้าอีก

ชีวิตนี้เธอไม่ได้ต้องการอะไรเลย นอกจากอยู่อย่างสงบสุขไปวัน ๆ แต่ดันต้องไปเป็นเด็กเสี่ยเสียนี่ แถมเอะอะก็จะจับโยนออกนอกหน้าต่างท่าเดียว ทีเรื่องเสียวล่ะมาหลายท่า 

เอ่อ...ขอโทษที นอกเรื่องไปหน่อย

แต่เอาเถอะ ขอเพียงแค่เขาไม่ทำร้ายเธอจริง ๆ ก็พอ


ตัวละคร ฉาก สถานที่ ทุกสิ่งอย่างในเรื่องเป็นสิ่งสมมติ เขียนขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น เนื้อเรื่องมีคำพูดและฉากเข้าพระเข้านางแบบละมุนละม่อม แต่ยังต้องโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้น ห้ามทำซ้ำ คัดลอกเนื้อหาไปเผยแพร่ที่อื่นในทุกกรณี

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม

สารบัญ

หลงพร่ำรัก-บทที่ 1.พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก,หลงพร่ำรัก-บทที่ 2.จับปลาต้องใช้สองมือ,หลงพร่ำรัก-บทที่ 3.ถึงบ่นก็ทนเอา (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 4.ดื้อนักจับโยน,หลงพร่ำรัก-บทที่ 5.วัดไข้ให้ลึก ๆ (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 6.ไม่มีกินฟรี,หลงพร่ำรัก-บทที่ 7.ดูถูกให้ดี ๆ,หลงพร่ำรัก-บทที่ 8.เก็บเกี่ยวให้คุ้ม (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 9.ทำสวยให้เสี่ยเลี้ยง,หลงพร่ำรัก-บทที่ 10.แวะมากินขนม (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 11.ห่างไม่ไหว (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 12.ลองอ้อนดูสิ,หลงพร่ำรัก-บทที่ 13.ปราบปรามห้ามดื้อ,หลงพร่ำรัก-บทที่ 14.พักร้อนอ้อนรัก (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 15.ข้อตกลงระหว่างเรา,หลงพร่ำรัก-บทที่ 16.อย่าได้ไหม (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 17.คว้าไว้ใช้ให้ดี,หลงพร่ำรัก-บทที่ 18.เยือนรังกระต่าย,หลงพร่ำรัก-บทที่ 19.ยิ่งใกล้ให้ห่าง,หลงพร่ำรัก-บทที่ 20.ดาวย้ายอีกแล้วสินะ,หลงพร่ำรัก-บทที่ 21.อย่าหยุดแค่ถาม (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 22.ไม่น่าบังเอิญ,หลงพร่ำรัก-บทที่ 23.ขอสักนิดเถอะ,หลงพร่ำรัก-บทที่ 24.ไม่จบแค่ดู (NC),หลงพร่ำรัก-บทที่ 25.เคราะห์หามยามรัก

เนื้อหา

บทที่ 25.เคราะห์หามยามรัก

รอจนทุกอย่างกลับเข้าที่เข้าทาง ลูคัสก็พาคนตัวเล็กไปทำงานที่บริษัทด้วยเหมือนเดิม เพิ่มเติมคืออาการหวงห่วงเมียออกนอกหน้านอกตามาก ขนาดรตายังอดหมันไส้ไม่ได้เลย
ส่วนกิ่งแก้วเข้าทำงานที่ฝ่ายบุคคล ตอนแรกธีโอจะให้เป็นผู้ช่วยของลูคัส แต่เธอบอกว่าถ้าทำอย่างนั้นจะลางานหนีไปเที่ยวกับเขายากขึ้น บอดี้การ์ดหนุ่มเลยต้องตามใจ สมกับที่เป็นสมาชิกชมรมคนกลัวเมียแถว ๆ นี้
พอผ่านไปได้ร่วมเดือน ลูคัสก็พาร่างบางไปยังโรงแรมหรูที่เคยจัดงานเลี้ยงคราวก่อน แต่หนนี้เป็นตอนบ่าย ๆ ที่ห้องอาหารชั้นสิบสอง
ตรงโซฟาโค้งใกล้กับหน้าต่างกระจกบานกว้างมีคนสองสามคนนั่งคุยกันอยู่ รตาจำชินกรได้ทันที พอคนข้างกายพาไปนั่งร่วมวงเธอก็เข้าใจแล้วว่าทำไมคราวก่อนพวกเขาถึงดูแปลก ๆ
“นี่รตาเมียกู”
ร่างบางที่กำลังจะนั่งตามตกใจสะดุ้งยืนขึ้นเหมือนเดิม รู้สึกเขินอายจนวางตัวไม่ถูกเลย จะแนะนำให้ซอฟท์กว่านี้หน่อยก็ไม่ได้
“เป็นอะไร นั่งลงสิ” มือหนาดึงคนตัวเล็กให้นั่งลงข้าง ๆ ก่อนกางแขนกอดรัดจนแทบจะขึ้นไปนั่งเกยกันบนตักแทน
“ปล่อยหน่อยค่ะ หนูหายใจไม่ออก”
“ก็ได้ ๆ แต่ห้ามมองไอ้พวกนี้เกินห้าวินะ เดี๋ยวลูกลืมหน้าพ่อ”
“โอ้โห คนเห่อลูกตัวจริงว่ะ”
ภูดิศ คนที่นั่งทางซ้ายใกล้กับลูคัสเอ่ยขึ้นก่อน ชินกรที่นั่งถัดจากรตาจึงพูดขึ้นบ้าง
“ขี้อวดด้วย มันบอกว่าเมียมันสวยที่สุด”
“หึ ความรักทำให้คนตาบอด”
“กูก็ทำให้มึงตาบอดได้เหมือนกันนะไอ้เอส” ลูคัสพูดสวนเพื่อนคนที่นั่งอยู่ตรงกลาง ในมือถือแก้วบรั่นดีตั้งแต่หัววัน “ทะเลาะกับแม่มาอีกแล้วเหรอวะ”
อธิปยักไหล่นิ่ง ๆ ไม่ยอมอธิบายอะไร เป็นชินกรที่พูดขึ้นต่อ
“สวัสดีครับคุณรตา เจอกันอีกแล้วนะครับ”
“สวัสดีค่ะคุณชินกร” พอดีกับที่พนักงานเอาเครื่องดื่มมาให้ เธอจึงจิบน้ำเย็นพลางพยักหน้าทักทายอีกสองคนไปด้วย
“คนนี้ชื่อเอส ส่วนนู่นไอ้ภูครับ”
ชินกรเป็นคนแนะนำให้เธอรู้จักเพื่อนในกลุ่ม เพราะคนกลางเอาแต่กระดกเหล้าเข้าปาก คนริมนู้นก็ก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์ยิก ๆ สีหน้าเคร่งเครียด ดูไม่มีมารยาทเลย ยังดีที่หญิงสาวไม่ถือสาอะไร
“ตกลงว่าที่มึงอัญเชิญพวกกูมารวมตัวกันก็เพื่ออวดลูกกับเมียอย่างเดียวเหรอ” อธิปที่เริ่มกรึ่มได้ที่เอ่ยถาม
“กูพามาแนะนำให้รู้จัก และอยากให้ช่วยเรื่องงานแต่งด้วย”
“แหม๋ พอได้ยินคำว่างานแต่งแล้วขนลุกเลยว่ะ”
“อย่าไปแซวมันสิ ไว้ถึงตามึงบ้างแล้วจะรู้สึก”
ภูดิศเอ่ยปรามอธิป แต่มีแค่ชินกรที่ออกความเห็นเป็นเรื่องเป็นราวได้บ้าง
“คงต้องใช้บริษัทรับจัดงาน คราวก่อนกูจ้างบริษัทวีซีออแกไนซ์ที่ภรรยาของข้ามสมุทรเป็นเจ้าของ จัดงานเนี้ยบอยู่นะ”
ลูคัสส่ายหน้าพลางถอนหายใจ “กูถามแล้ว แต่ข้ามสมุทรบอกว่าตอนนี้เมียกำลังท้องลูกคนที่สองเลยไม่อยากให้รับงานเยอะ เดี๋ยวจะบ้างานจนล้มป่วยเอาอีก”
เขาเข้าใจเหตุผลนี้ดีจึงไม่กล้าถามอะไรเพิ่ม ต้องมาหาตัวช่วยแถวนี้แทน แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ประโยชน์อะไรนัก
“งั้นก็ต้องลองถามไอ้คลื่นดู มันมีทีมงานที่คอยดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ แถมยังจองโรงแรมของมันจัดงานได้เลย นี่กูก็ว่าจะพาพนักงานไปพักร้อนที่นั่นอยู่” อธิปลองเสนอดูบ้าง
“ก็คงต้องอย่างนั้น แต่กูไม่อยากให้หนูตาเดินทางไกล ๆ ไม่รู้ว่าไอ้คลื่นจะขึ้นมาจัดการให้ที่นี่ได้ไหม”
โรงแรมใหญ่ของเพื่อนอยู่ที่ริมทะเลทางใต้ แต่ก็พอมีคอนเนคชั่นกับโรงแรมแถวนี้อยู่บ้าง
“ให้มันถามคุณก้อยดูก็รู้” อธิปจะรินเหล้าเติมใส่แก้วอีก แต่ภูดิศห้ามไว้ ทั้งคู่เลยแยกตัวไปเถียงกันเงียบ ๆ ครู่หนึ่ง
“กูกำลังคิดอยู่ว่าจะจัดงานก่อนคลอดหรือหลังคลอดเลย ลูกจะได้อยู่ในงานด้วย”
“คงต้องถามว่าที่คุณแม่ว่าไหวหรือเปล่า จัดงานแต่งเหนื่อยไม่ใช่เล่นนะ” ชินกรหันไปส่งยิ้มให้หญิงสาวที่ทำหน้าเหลอหลา “เดี๋ยวนะ นี่นายบอกเจ้าสาวหรือยังว่าจะแต่งงานกับเธอน่ะ คุณรตางงใหญ่แล้ว”
“ต้องบอกด้วยเหรอ ยังไงกูก็แต่งกับคนอื่นไม่ได้อยู่แล้วนี่”
“บอกสิ ไม่อย่างนั้นเธออาจคิดว่ามึงอยากแต่งกับคนอื่น จริงไหมครับ”
ชินกรยังยิ้มให้สาวสวยไม่เลิก ทำเอาเจ้าของแยกเขี้ยวขู่ฟ่อ
“มึงถอยไปไกล ๆ เลย ทำไมชอบหว่านเสน่ห์ใส่เมียกูอยู่เรื่อย”
“ก็ท่าทางมึงมันน่าแกล้งนี่หว่า หวงออกนอกหน้าขนาดนั้น”
รตาเริ่มเข้าใจว่าในงานเลี้ยงคืนนั้นชินกรมาทักเธอทำไม แต่ที่ไม่เข้าใจคือการกระทำของอีกคนต่างหาก
“ทำไมวันนั้นคุณลูซถึงทำเหมือนไม่รู้จักคุณชินกรล่ะคะ”
“เรียกชินเฉย ๆ ก็ได้ครับ” ชายหนุ่มส่งยิ้มเอ็นดูให้ “ที่หมอนั่นทำแบบนั้นก็เพราะไม่อยากให้เพื่อนเดือดร้อนไปด้วยน่ะครับ”
“แต่กูยังสงสัยอยู่” อธิปหันมาถามบ้าง “มึงกลัวทำพลาดจนคนอื่นเดือดร้อน แต่ทำไมถึงกล้าเอารตาไปไว้ข้างกายวะ ไม่กลัวไอ้หมอนั่นเล่นงานเธอหรือไง”
“ก็เพราะกลัวไงกูถึงต้องทำแบบนี้”
ภาพคืนที่ลานจอดรถหวนกลับเข้ามาในใจ ลูคัสยกมือบางขึ้นมากุมไว้แน่น
“ตอนแรกกูว่าจะรอให้เรื่องจบแล้วค่อยไปตามจีบ แต่เด็กนี่ดันทำตัวทะเล่อทะล่าจรโดนลูกน้องไอ้รัฐจับไป กูเลยต้องรีบแย่งกลับมา”
“เดี๋ยวนะคะ หนูงงไปหมดแล้ว คุณลูซรู้จักหนูตั้งแต่ก่อนคืนนั้นเหรอคะ”
“อืม” ใบหน้าคมดูขัดเขินอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำเอาบรรดาเพื่อนสนิทหันมามองอย่างสนใจ
“เอ้า ต้องเล่าเอาใจเมียแล้วมั้ง”
ภูดิศเอ่ยกระตุ้น อธิปรีบช่วยรับลูก
“เร็ว ๆ เลย พวกกูก็รอฟังอยู่”
“เออ ๆ กูรู้แล้ว” ลูคัสสูดหายใจเข้าลึก “ฉันเห็นเธอชอบนั่งกางร่มให้พวกสัตว์จรจัดแถวป้ายรถเมล์อยู่บ่อย ๆ แรก ๆ ก็แค่สงสัยว่าทำไมถึงต้องทำอย่างนั้น แต่หลัง ๆ คิดว่าน่ารักดี”
อาจเป็นโชคชะตาที่ทำให้เขามักนั่งรถผ่านถนนเส้นที่เธอใช้เดินทางกลับบ้าน
ตอนนั้นรถติดหนักมาก บวกกับความเครียดที่สะสมอยู่ภายใน เขาเลยมองออกไปนอกรถเพื่อหาอะไรผ่อนคลายพักสายตา แล้วก็เจอเข้ากับร่างบางที่นั่งแบ่งร่มให้แมวตัวผอม แต่สุดท้ายก็เปียกปอนไปด้วยกัน
 หลังจากนั้นเขาก็จงใจกลับบ้านเวลาเดิมให้ได้บ่อยที่สุด คอยมองหาอยู่เสมอ นานเข้าก็กลายเป็นกิจวัตรจนพวกบอดี้การ์ดจับได้
แต่เอริคช่วยย้ำว่าภารกิจลับของพวกเขาอันตรายมาก อย่าเพิ่งดึงเธอเข้ามาเกี่ยวข้องเลย เขาจึงทำได้เพียงเฝ้ามองดูอยู่ห่าง ๆ
จนกระทั่งโชคชะตาเล่นตลกอีกครั้ง เขาจึงตัดสินใจว่าจะไม่ปล่อยให้เสียเวลาอีกแล้ว
ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบต้นคออย่างประหม่า พอเห็นว่าพวกเพื่อนยิ้มกรุ้มกริ่มมาให้ก็หันไประบายอารมณ์ใส่
“ทำอย่างกับพวกมึงไม่เคยแอบชอบสาวที่ไหนอย่างนั้นแหละ ตกลงว่าไอ้คลื่นจะช่วยเรื่องงานแต่งของกูได้ไหม”
“โทรไปถามมันสิวะ พวกกูจะรู้ได้ไง” ภูดิศเอ่ยขำ ๆ นานทีจะได้เห็นลูคัสเสียอาการขนาดนี้ ช่างน่าบันเทิงเริงใจเสียจริง
“เห็นว่าราวอาทิตย์หน้ามันจะขึ้นมาที่กรุงเทพฯ มั้ง ค่อยคุยกันตอนนั้นก็ได้”
ชินกรพยายามพูดเป็นการเป็นงาน แต่อีกสองคนที่เหลือเอาแต่หัวเราะไม่หยุด
รตามองทุกคนแล้วแอบขำอยู่ในใจบ้าง มองภายนอกดูเหมือนหนุ่ม ๆ กลุ่มนี้จะดุดันน่ากลัวไม่น้อย แต่ที่จริงก็น่ารักดี โดยเฉพาะคนที่แอบรักสาวข้างถนนอย่างเธอ
ในที่สุดชายหนุ่มก็เลือกรอให้ลูกคลอดก่อนแล้วค่อยจัดงานแต่ง รตาเองก็ไม่ขัดข้องอยู่แล้ว ขอเพียงให้เขาดูแลพวกเธอแม่ลูกได้ดีมาก ๆ อย่างนี้ตลอดไปก็พอ
ลูคัสเป็นคุณพ่อที่น่ารักเหลือเกิน จนกิ่งแก้วเอาไปบ่นสามีว่าหัดเก่งให้ได้สักครึ่งของบอส ทำเอาธีโออยากร้องไห้ขึ้นมาทันใด
นี่ก็ช่วยซักผ้าทุกวันแล้วนะ ยังไม่น่ารักอีกเหรอ
ทุกคืนหลังกลับจากทำงาน ลูคัสจะช่วยให้นมลูก เอาพาดบ่าพาเรอแล้วกล่อมเข้านอน พูดเสียงเล็กเสียงน้อยกับลูกชายไม่หยุด หมดมาดนักธุรกิจผู้แสนเคร่งขรึมไปเลย
รตามองภาพนั้นแล้วคลี่ยิ้มกว้าง ใครจะไปคิดเล่าว่าช่วงดวงตกของเธอจะนำมาสู่สิ่งดี ๆ อย่างนี้
ดีจริง ๆ
-จบ-