“นายคืนนี้ทำให้เราลืมความเจ็บปวดจากผู้หญิงเลวๆ คนนั้นจะได้ไหม?” จากคำพูดแค่นี้ไม่คิดเลยว่า มันจะทำให้ซานมีข้ออ้างมาผูกมันเกลให้อยู่กับเขา
ชาย-ชาย,เรื่องสั้น,วัยว้าวุ่น,รัก,ครอบครัว,18+,yaoi,Nc,โคแก่,โรมานซ์,รักวัยรุ่น,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
แสงแดดยามสายทอประกายรับวันใหม่ มือหนาควานหาร่างบางหวังจะดึงเข้ามากอด แต่ตอนนี้ข้างกายเขากับว่างเปล่าเหมือนครั้งแรก ซานลืมตาขึ้นมองหาเด็กน้อยไปทั่วแต่กลับไม่เห็น จึงเดินตามหาจนเจอเกลนั่งแคร่ไม้ไผ่หน้าบ้าน มองออกไปยังท้องฟ้ายามเช้าด้วยอาการเหม่อลอย นั่นทำเอาคนมองรู้สึกเศร้าใจไปด้วย ซานไม่รู้เลยว่าเกลมีเรื่องอะไรให้ต้องคิด
ครั้งนี้เกลไม่ได้หนีตัวเขาไป ชายหนุ่มจึงยิ้มออกมาแล้วเข้าไปกอดคนตัวเล็กจากด้านหลังซุกหน้าซุกคอขาวระหง ทำเอาอีกฝ่ายตกใจรีบผลักเขาออก ลุกขึ้นยืนและหันมาจ้องเขาตาเขียว
“จะทำอะไร” เสียงหวานใสถามออกมาอย่างตกใจ
“แค่กอด” คำตอบของร่างหนาทำเอาร่างบางไม่อยากจะเชื่อเท่าไร ซานดึงมือข้ออีกฝ่ายให้นั่งลงตามเดิม เกลยังคงมองไปด้านด้านอย่างไรจุดหมายเพราะตอนนี้กำลังคิดอยู่ว่าจะเอาไงกับชีวิตดี
“คิดอะไรอยู่” ราวกับซานรับรู้ว่าเกลมีเรื่องไม่สบายใจ จู่ ๆ ถูกถามเกลแบบนี้ก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร เอาเข้าจริงเขาไม่รู้จักซานเลยด้วยซ้ำไป แต่ต่างกับอีกคนที่ดูจะรู้เรื่องของเขาไปหมด
“มาทำงานกับฉันไหม?” ชายหนุ่มถามความสมัครใจของอีกฝ่ายทั้งที่จริง อีฟขอให้เขารับเกลแล้วก็ตาม เกลหันกลับมาอย่างไม่เชื่อหูแล้วทำสีหน้าแปลกใจ ไม่รู้ว่าอีกคนจะมาไม้ไหน?
“มาเป็นเลขาของฉัน” ซานบอกตำแหน่งงานให้เกลเสร็จสรรพ ใจหนึ่งก็อยากให้เกลทำงานกับเขา แต่อีกใจก็อยากเก็บเกลไว้ข้างกาย ไม่อยากจะให้เด็กน้อยต้องออกไปเผชิญโลกกว้างอีกแล้ว แค่นึกถึงคำพูดของอีฟที่ว่า ‘เกลเป็นคนที่น่าสงสังนะ…เฮีย’
“มันจะดีหรือ?” สายตาของคนข้างกายมองเขาอย่างไม่มั่นใจในตัวเอง ซานยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนหน้าผากแตะที่หน้าผากของร่างบาง หัวใจดวงน้องของเกลเต้นแรงขึ้นไปอีก คนบ้าทำไมชอบแกล้งกันด้วยนะ
“ดีสิ นายต้องเชื่อมั่นในตัวเองหน่อย” ว่าจบชายหนุ่มก้มหน้าลงมาจุ๊บปากบางแล้วยิ้มให้ราวกับว่าเขาได้เจอสิ่งที่วิเศษที่สุดในโลก ผิดกับอีกคนซึ่งทำตัวไปถูกเข้าไปใหญ่เวลาอยู่ใกล้เขา
อยู่ๆ เสียงโทรศัพท์ของซานก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะโรแมนติกระหว่างเขากลับเกลเสียอย่างนั้น แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่ไปรับมันเสียที จนเกลต้องตีที่แขนของเขาเบาๆ เสียงเรียกเข้านั่นเขารู้ดีว่าเป็นใครโทรมา ซานจำใจเดินไปรับมัน
[เฮียทำอะไรเกลเปล่า? ทำไมเกลยังไม่กลับบ้าน แล้วตอนนี้เฮียอยู่ไหน?]
เสียงน้องรักตะโกนใส่ทันทีเมื่อพี่ชายรับสาย ดูเหมือนว่าอีฟจะเป็นห่วงเกลเอามาก ๆ ถ้าไม่ติดว่าน้องเขามีว่าสามีอยู่แล้ว ซานคงคิดว่าเกลอาจจะเป็นแฟนของยัยอีฟเป็นแน่ นี่! ฉันดูเป็นคนเลวร้ายมากเลยหรือ? ร่างหนาได้แต่ถามตัวเองอยู่ในใจ
“แกเป็นแม่ฉันหรือไง? แล้วอีกอย่างเกลก็ไม่ใช่แฟนแก ยัยอีฟ”
[อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง หรือว่า…เกลอยู่กับเฮีย เฮีย! อย่าบอกนะว่า…]
“ฮืม อย่างที่แกคิดนั่นละ” ซานไม่คิดจะปิดบังน้องสาว จะรู้วันนี้หรือวันหลังมันก็ไม่ต่างซานคิดแบบนั้น แล้วยังรู้ด้วยว่าน้องรักจะว่าไงต่อ
[เฮีย! ทำแบบนี้ได้ไง? แล้วอีฟจะเข้าหน้าเกลติดหรือ? เรื่องนั้นไว้ก่อน อีฟถามนะ ว่า…เฮียจริงจังกับเพื่อนน้องเปล่า?]
“ก็…ประมาณหนึ่ง ตอนนี้เฮียยังไม่แน่ใจ”
เมื่ออีฟรู้ว่าเพื่อนรักอยู่กับซาน คำพูดคำจาของน้องก็ดูอ่อนลงแต่กลับจริงจังมากขึ้น จะว่าไงดีอีฟรู้นิสัยของพี่ชายของตัวเองดีก็ว่าได้
[เฮียจริงจังใช่ไหม? อีฟไม่อยากเสียเพื่อนดีๆ อย่างเกลไปนะ] น้องสาวยังคงถามพี่ชายซ้ำเพื่อให้แน่ใจ
“ฉันยังไม่แน่ใจ ขอเวลาหน่อยก็แล้วกัน แล้วแกอย่าเพิ่งบอกเกลว่าฉันเป็นพี่แกล่ะ แล้วแกมีอะไรอีกไหม?”
[ไม่มี ส่วนเรื่องนั้นน้องรับปากค่าา!!! ว่าแต่เฮียบอกเรื่องงานกับเกลยัง?]
ไม่รู้ว่ายัยอีฟเคยคิดที่จะเป็นห่วงพี่ชายคนนี้แบบห่วงเกลไหม? เสียงถอนหายใจของซานดังพอที่จะทำให้น้องสาวเงียบปากแล้วรอคำตอบได้เสียที
“อืม…ฉันจะให้เกลเป็นเลขา พอใจแกยัง?”
[ติดใจละสิ] เสียงแซวของอีฟเหมือนรู้ทันว่าพี่ชายคิดจะทำอะไร ไม่ต้องรอให้ซานตอบ อีฟเอ่ยปากเตือนพี่ชายไว้ก่อน
[เฮียจะทำอะไรก็เพลาๆ บ้าง เดียวเกลจะลุกไม่ขึ้นกันพอดี]
“แกไม่ต้องห่วง ฉันจะทำแบบพอดีก็แล้วกัน พอใจแกแล้วนะ”
ว่าจบซานก็ตัดสายไปเสียดื้อๆ แล้วกับไปหาเกลซึ่งยืนรออยู่หน้ารถอยู่ก่อน ชายหนุ่มขับรถพาเกลกลับมาส่งบ้าน แต่เมื่อเห็นสภาพบ้าน เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าคนข้างกายเขาจะอยู่ที่นี้จริง ๆ มันเป็นบ้านไม้เก่าซึ่งหาความปลอดภัยแทบจะไม่ได้ ไม่รู้ว่าเกลอยู่รอดมาได้อย่างไร เด็กหนุ่มกำลังจะก้าวลงจากรถ แต่ซานกับจับมือเล็กไว้เสียก่อน
“เกล…นายอยู่ที่นี่คนเดียวหรือ?” สายตาของชายหนุ่มมองสำรวจไปรอบๆ ทั้งสภาพบ้าน ทั้งสิ่งแวดล้อม มันไม่น่าอยู่เอาเสียเลย ร่างบางพยักหน้าแทนคำตอบแล้วเปิดประตูลงจากรถแล้วเดินไปยังประตูบ้านใช้สองมือไขมัน ซานยังคงนั่งอยู่ในรถแบบนั้น จู่ๆ ก็มีพวกนักเลงประมาณ สี่ ห้าคนเดินเข้าไปในบ้านของเกล ทำเอาซานรู้สึกไม่ดี
“นี้น้องเกล…เมื่อไรจะคืนเงินพี่ล่ะน้อง” หนึ่งในพวกนั้นพูดขึ้น
“ฉันก็เพิ่งจ่ายไปแมื่อวันก่อนเองนะ”
“นั่นมันก็แค่ดอกเบี้ย แต่วันนี้จะมาเอาต้น” ชายคนเดิมพูดขึ้น
“วันนี้ฉันไม่มีให้ ของมีค่าพวกแกก็เอาไปหมดแล้ว”
สีหน้าเกลซีดลงอย่างเห็นได้ชัดแล้วยกมือขึ้นไหว้อ้อนวอน แต่เหมือนอีกฝ่ายจะไม่สนใจเลยสักนิด ลูกน้องของมันเริ่มรื้อข้าวของหาสิ่งมีค่า แต่เหมือนมันจะไม่เจออะไร
“ไม่มีจริงด้วยครับ นาย”
เมื่อมันได้คำตอบจากลูกน้องมามาแบบนั้น สายตาของเจ้านั่นมองเกลตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วใช้มือเกาคางทำหน้าครุ่นคิด ก่อนที่มันจะสั่งให้ลูกน้องเข้าไปจับตังเกลเอาไว้
“แกจะทำอะไร?”
“ในเมื่อไม่มีเงินจ่ายก็จ่ายด้วยร่างกายก็แล้วกัน”
“ปล่อย! ฉันไม่ไป!!!”
เมื่อเกลรู้จุดประสงค์ของพวกชั่ว แม้ว่าจะขัดขืนอย่างไง ก็ไม่อาจสู่แรงพวกนั้นได้แล้วโดนลากออกจากตัวบ้านมา ซานทนเห็นไม่ได้อีกต่อไปลงจากรถตรงเข้าไปหาเจ้าพวกนั้น
“ปล่อยเด็กนั่น!”
“แล้วแกเป็นใคร ยุ่งอะไรด้วยวะ ถ้าแกอยากให้พวกฉันปล่อยมันก็จ่ายเงินที่มันติดมาสิ”
ซานจ้องหน้าพวกมันอย่างไม่วางตา ยิ่งเห็นเกลที่โดนเจ้าพวกนั้นลาก โดนบีบแขน ยิ่งเห็นมือสกปรกของมันอยู่บนตัวเกล มันยิ่งทำให้เขาอยากพาตัวเด็กน้อยออกจากสถานที่แห่งนี้ไปให้เร็วที่สุด
“ได้! เท่าไร?” ซานตอบกลับพร้อมมองเกลที่ตอนนี้เหมือนกำลังจะร้องไห้
“ต้นบวกกับดอก ก็แสนหนึ่ง”
“ได้!” ซานเดินกลับไปยังรถอีกครั้ง ไม่นานก็มาพร้องเงินปึกนึงตามจำนวนที่มันต้องการ
เมื่อพวกนั้นรับเงินแล้วนับจนมันแน่นใจว่าได้ครบตามจำนานก็ปล่อยเกลให้เป็นอิสระ แล้วพากันเดินจากไป ทิ้งให้ซานอยู่กับเกลตามลำพัง
“ไม่เป็นได้แล้วนะ เกล”
ไร้เสียงใดตอบกลับมีเพียงเสียงสะอื้นให้ได้ยืน ซานไม่รอช้าดึงตัวเกลกอดไว้ แล้วใช้มือลูบหัวอย่างเบา ๆ โดยไม่มีคำพูดใดออกจากปากเขาเช่นกัน ในตอนนี้เหลือแค่เขากับเกล จนเมื่อเกลหยุดร้องซานจับหน้าเกลเงยหน้าขึ้นสบตา ร่างหนาชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง
“เกล…นายย้ายไปอยู่กับฉันนะ”
“จะให้ไปอยู่ฐานะอะไร? มันคงไม่เหมาะ ฉันกับคุณรู้จักกันแค่สามวันเอง”
“ที่นี่ไม่ไปลอดภัย นายเองก็อยู่คนเดียว ฉันห่วง”
เกลนิ่งไปที่เขาบอกว่า ‘ห่วง’ แล้วถ้าดูจากสายตามันสื่ออย่างนั้นจริงๆ ซานเป็นคนที่สองแล้วที่บอกให้เขาย้ายออกไป คนแรกคืออีฟ ใจจริงเกลก็อยากย้ายอยู่เหมือนกัน แต่ติดตรงที่ไม่มีเงินมากพอ
“มาอยู่กับฉันนะ คิดว่าฉันให้นายมาเป็นพ่อบ้านเพิ่มจากหน้าที่เลขา หรือถ้าไม่สบายใจก็คิดว่าฉันเป็นเจ้าหนี้คนใหม่ก็ได้”
ซานรอคำตอบจากเกลอยู่นาน เนื่องจากเกลเกรงใจชายหนุ่มตรงหน้าไม่น้อย ถ้าเกลไปอยู่กับเขาค่าใช้จ่ายในการเดินทางก็ไม่ต้องเสีย ค่าเช่าก็ไม่ต้องจ่าย คงจะมีเงินมาคืนเขาเป็นแน่น เด็กหนุ่มจึงพยักหน้าแทนคำตอบ
“ขึ้นรถกัน ข้ามของที่นี้ไม่ต้องไปเก็บมันหรอก”
“ไม่ได้ครับ เกลของเวลาสักครู่นะ คุณซาน”
ร่างหนาเดินตามหลังอีกฝ่ายเข้าไปในบ้านซึ่งด้านในก็ไม่ได้มีข้าวของอะไรมาก ก็จะแค่เสื้อผ้า หม้อหุงข้าว และกองเอกสารที่พึ่งเรียนจบ เกลใช้เวลาเก็บข้าวของที่คิดว่าจำไม่นาน ส่วนซานแย่งหน้าที่ยกมันเข้าใส่ท้ายรถ
รถยนต์คันหรูแล่นมายังลาดจอดรถของคอนโดหรู เกลทำตัวไม่ถูกทั้งที่รู้จัดเขาได้สามวัน แต่กลับยอมมาอยู่กับเขา ร่างบางได้แต่ถอนหายใจให้กับตัวเอง ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือเปล่า หรือไม่ก็อาจเป็นหนีเสือปะจระเข้ก็ไม่อาจรู้ได้
เมื่อลงจากรถข้าวของส่วนใหม่ซานยกออกมาแล้วเดินนำไป ส่วนที่เหลือมีแค่ของเบาๆ เกลยกแล้วเดินตามเขาไป จนเมื่อถึงห้องเกลตกใจมาเข้าไปอีก มันอยู่ด้านชั้นบนสุดแล้วยังสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ได้เกือบทั้งเมือง ไหนจะขนาดห้องซึ่งมันใหญ่กว่าบ้านทั้งหลังที่เกลเคยอยู่อีกด้วย
“ชอบที่นี่ไหมล่ะ?”
ซานถามพร้อมเข้าไปกอดเกลจากทางด้านหลัง แต่ครั้งนี้เกลไม่ได้ผลักเขาออกเพียงแต่พยักหน้าตอบ ไม่วายซานได้คีบจะเอาศอกเข้าไปซุกไซร้ซอกคอขาวเหมือนว่าตอนนี้เกลเริ่มจะชินกับนิสัยเขา หรือไม่ก็เป็นตัวของเกลเองยอมใจอ่อนทั้งที่ก็ไม่เข้าใจความรู้สึกของตน
“แล้วชอบฉันไหม?” ร่างหนาหยุดการกระทำทุกอย่างเพื่อรอคำตอบจากเกล
“เกล…” คนตัวเล็กหันกลับมามองซาน “เกล…ไม่รู้ เราทั้งคู่ก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน คงต้องถามคุณซานมากกว่า ว่าเกลสำหรับคุณ…เกลเป็นอะไร?”
เมื่อเจอคำถามที่ตัวซานก็ไม่อาจจะให้คำตอบได้ในเวลานี้ ชานหนุ่มนิ่งไปชั่วครู่จ้องมองเด็กน้อยในอ้อมกอดแล้วถอนหายใจ
“ฉันเอง…ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่รู้ในเวลานี้ฉันอยากให้นายอยู่ข้างกาย อยากให้นายมีความสุข อยากเห็นนายยิ้ม อยาก…”
ไม่ทันที่ซานจะได้พูดต่อเกลจูบเขาแทนคำตอบ ทั้งที่ก็ไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเอง ตั้งแต่เกลรู้จักกับซานถึงแม้ว่ามันเป็นเวลาที่สั้นมาก แต่ซานก็ดีกับเขา เป็นเพื่อนยามทุกข์ใจจนร้องไห้ เป็นคนที่มอบความสุข เป็นห่วง และยังเป็นสุภาพบุรุษที่ปกป้องแม้นว่าเกลจะเป็นผู้ชายเหมือนกัน มันไม่รู้ว่าจะเรียกความรู้สึกนี้ว่าอะไร แต่มันก็ยังไม่ถึงขั้นที่เกลจะบอกซานได้เติมปากว่า ‘รัก’ ขอเวลาเกลอีกนิดนะคุณซาน
“เกล ฉันขอ…” ประโยคของซานหยุดลงแค่ตรงนั้น พร้อมลิ้นสากเลียเข้ามายังรูหูของเกลทำให้ขนของร่างเล็กลุกซู่ เพราะรู้ว่าซานจะขออะไร เกลไม่ได้ปฏิเสธกลับเป็นฝ่ายเริ่มก่อนดึงร่างหนาเข้าไปงับริมฝีปากของคนด้านบนที่มองลงมาด้วยสายตาที่เปี่ยมอารมณ์
ซานยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วอุ้มเกลตรงไปยังห้องนอน เมื่อวางร่างบางลงร่างหนาขึ้นมาคร่อมตัวเด็กน้อยทันที มังกรน้องซึ่งมันได้คับแน่นอยู่ภายใต้กางเกงแล้ว เกลมองซานอย่างรู้ทัน ไม่มีคำปฏิเสธใดออกจากปากหนุ่มน้อย มันจึงเป็นการยิมยอมสำหรับซาน ในเมื่อร่างกายคนสองคนมันเต็มไปด้วยอารมณ์ความอยากและความต้องการที่ล้นปรี่ พลันใบหน้าของคนสองคนเลื่อนเข้าหากันโดยอัตโนมัติ พร้อมกับกลีบปากล่างที่เริ่มเฟ้นฟัดบดบี้ก่อนเรียวลิ้นอุ่นร้อนเริ่มลุกล้ำ เกี่ยวตวัดแลกเปลี่ยนความแฉชื้นแฉะกันไปมา
“คุณซาน เกลว่าเราไปอาบน้ำกันก่อนไหม?”
“ก็ได้” เอาจริงซานเป็นคนที่ไม่เกี่ยงสถานที่ ในเมื่อเกลอยากอาบเขาก็จะตามใจ แต่ฉันจะไม่ให้นายอาบเองหรอก เพราะฉันจะเป็นอาบให้ ชายหนุ่มไม่รอช้าพาเกลไปยังอ่างน้ำขนาดที่สองคนลงได้สบาย เขาจัดการเปิดน้ำให้แล้วจัดการเสื้อผ้าอย่างเร็ว
ร่างกายของเกลร้อนรุ่มเหมือนไฟสุ่มอยู่ข้างใน เมื่อซานจูบเขาแล้วพาลงมาในอ่าง มือหนาวนลูบไล้ไปทั่วตัวของร่างบาง กลิ่นหอมที่ซานจุดมันทำให้เกลเกินอารมณ์เคลิบเคลิ้มตาม ปากยังคงจูบแลกลิ้นกันนัวเนีย นิ้วมือของซานเกลี่ยไปตามกรอบใบหน้าที่เรียวเล็กเมื่อถอนริมฝีปกาออก
“อ๊าาา…อ่าาา…ซี๊ด…”
เสียงคราวของเกลดังขึ้น เมื่อนิ้วเรียวของซานดันเข้าไปในทางรัก แล้วยังใช้มืออีกข้างซึ่งบีบยอดอกที่แข็งขึ้นเป็นไต และปากที่ยังคงมอบจูบสุดแสนจะเร่าร้อนนี้อีก ให้ตายเถอะ ทำไมซานถึงได้รู้จุดเสียวของเราดีอย่างนี้นะ
“อยากได้ยัง?” เป็นน้ำเสียงเรียบ แต่กลับแฝงไปได้ความต้องการ เมื่อมือของเกลจับไปโดน มันทำให้ร่างบางรู้ว่าซานอยากเอาเป็นอย่างมาก ซึ่งเกลต้องนี้ก็มีความต้องการไม่ต่างจากอีกคนเท่าไรจึงพยักหน้ารับ
จังหวะนั้นซานจับตัวเกลพลิกให้หันก้มมาทางเขาแล้วกดจมูกโด่งไล่ไปตามซอกคอของอีกฝ่าย รู้สึกถึงลมหายใจร้อนที่กระทบเนื้ออย่างแผ่วเบา ส่วนมือหนาส่งเรียงนิ้วเข้าไปในช่องทางรักเพื่อขยายขนาดก่อน พอได้ที่ซานไม่รอช้าดันท่อนเอ็นเข้าทันที ครั้นนี้เกลไม่ได้เจ็บแต่กลับมีความเสียวซ่านจนเด็กน้อยต้องส่งเสียงครางดังออกมาไม่หยุด ซานเองก็เสียวจนต้องครางออกมาเช่นกัน
“ฮึ้ม… อืมม์…”
เสียงครางดังออกมาอย่างไม่ขาด ซานเองก็รู้จังหวะว่าเมื่อไรต้องกระแทก เมื่อต้องเบา นั้นมันทำให้ทางรักของคนใต้อาญัติตอดรัดเขามากขึ้น ถึงนี้จะเป็นครั้งที่สามแต่เหมือนว่าเกลเองก็เรียนรู้งานได้เร็ว นี่ไงที่ทำให้ซานหลงเกลมากขึ้นทุกครั้ง
“เหตุผลข้อที่ 2 รสรักฉันถึงใจไง”