ดวงจิตที่ผนึกในดาบคือวิญญาณของนักดาบผู้เสียสละอย่างกล้าหาญ แต่ดาบของเธอกลับต่างออกไป มันซ่อนความพิเศษบางอย่างที่นำพาโชคชะตาหวนคืนสู่เธออีกครั้ง...ขอบคุณที่ให้ฉันได้เคียงข้างเธอนะ คู่หู

7 Samurai - ตอนที่1 การเริ่มต้นใหม่ โดย psrpowder @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,แอคชั่น,รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,ซอฟท์ไซไฟ,พล็อตสร้างกระแส,7Samurai ,ไม่ฮาเร็ม,ตัวเอกหญิง ,ดาบพูดได้,ญี่ปุ่น,แอคชั่น,รักวัยรุ่น,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

7 Samurai

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,แอคชั่น,รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ซอฟท์ไซไฟ,พล็อตสร้างกระแส,7Samurai ,ไม่ฮาเร็ม,ตัวเอกหญิง ,ดาบพูดได้,ญี่ปุ่น,แอคชั่น,รักวัยรุ่น,แฟนตาซี

รายละเอียด

7 Samurai โดย psrpowder  @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ดวงจิตที่ผนึกในดาบคือวิญญาณของนักดาบผู้เสียสละอย่างกล้าหาญ แต่ดาบของเธอกลับต่างออกไป มันซ่อนความพิเศษบางอย่างที่นำพาโชคชะตาหวนคืนสู่เธออีกครั้ง...ขอบคุณที่ให้ฉันได้เคียงข้างเธอนะ คู่หู

ผู้แต่ง

psrpowder

เรื่องย่อ


นิยายเรื่องนี้จะอัพ ทุกวัน ศุกร์และเสาร์ เวลา 19.00 น. - 19.30 น. 


และอาทิตย์ เวลา 18.30 น.


จะพยายามลงให้ต่อเนื่องที่สุดเพื่อนักอ่านทุกท่านนะคะ :>


**เชิญชวนมาติดตามกันได้ที่ Tiktok และ Bluesky จะอัพเดตเรื่อย ๆ ค่ะ**


ปุกาศ ๆ บัดนี้เรามี E-book แล้วนะจ๊ะ! 


ตอนนี้เล่ม 3 กำลังจัดโปรลด50% อยู่น้าา ตั้งแต่ 21 ม.ค. - 4 ก.พ. 68!!!!

ใครสนใจไปส่องกันได้เลยน้าา <3

*** ที่ : mebmarket ครับโผม! *** 



เนื่องจากเป็นนิยายเรื่องแรกที่เขียนจริงจังของนักเขียนฝึกหัด (เพื่อต่อยอดความฝันอยากทำอาชีพนักเขียนค่ะ) ขอฝากนักอ่านใจดีทุกท่านติชม แนะนำให้ไรท์ฝึกหัดคนนี้ได้นำไปปรับใช้ในเรื่องต่อไปด้วยนะคะ จะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็น้อมรับและปรับแก้ค่ะ

หรือถ้าไม่ชอบคอมเมนท์ก็กดใจให้กันได้นะคะ กำลังใจชั้นยอดของเราเลย


กราบขอบพระคุณล่วงหน้านะคะ^^


================ เกริ่นแนวเรื่องกันซะหน่อย =================


เรื่อง 7Samurai (ถ้าสงสัยว่าทำไมชื่อนี้ คงบอกได้แค่ว่าเป็นความเบียวของไรท์เองแหละค่ะ ฮ่า)


เป็นแนวแฟนตาซี ฟิลชีวิตประจำวันในประเทศญี่ปุ่นยุคอนาคตปี3000 แต่เพราะกฎการแบนอาวุธปืนเลยทำให้มีสไตล์การต่อสู้แบบโบราณผสมด้วย ฟิลใช้ดาบฟันกันชิ้งๆ ยิงธนูปิ้ว ๆ หรือแม้แต่วิชานินจาก็ยกมาหมดแผง(เท่าที่ไรท์คิดออกอ่ะนะ55)

ผสมความรักแบบวัยใสน่ารักของพระนางแบบมองตาปุ๊ปก็ปิ้งกันปั๊บ! ปมดรามาความสัมพันธ์พวกเขามีประปรายให้ได้หมั่นไส้กัน ได้ลิ้มรสความหวานกันเต็มกระบุงแน่นอนค่ะ :)

แล้วก็แถมปมเรื่องชวนซึ้งใจมาด้วยนะ (คนอ่านซึ้งมั้ยไม่รู้แต่ไรท์น้ำตาหยดหลายรอบเลยค่ะ ;-;)


***คำเตือนเล็กน้อย…เรื่องนี้เป็นเรื่องยาวและนักเขียนมีแพลนเขียนแบ่งเป็น2ซีซั่น 

ปัจจุบันซีซั่น1ใกล้จะจบแล้วค่ะ สามารถอ่านกันได้จุใจแน่นวลล***


.


.

ใด ๆ มันอาจจะไม่ตามกระแส ไม่ตามตลาด แต่เราอยากลงเรื่องที่ตั้งใจสร้างให้ทุกคนได้อ่านจริง ๆ

เรื่องอาจไม่ได้หวือหวาหรือน่าตื่นเต้น แต่อยากให้จับตา จับมือ จับหูดูการเติบโตของน้อง ๆ ไปด้วยกันน้าา 


(สั้น ๆ คือ ฝากกดติดตามกันด้วยนะทุกคลล ฮืออ T T )



====== เรื่องย่อกันบ้างดีกว่า ======


***นิยายเรื่องนี้มีฉากต่อสู้และฉากความรุนแรงอื่น ๆ แทรกในบางตอน***


แต่จะมีการแจ้ง Trigger warning ก่อนเริ่มอ่านทุกครั้ง 


โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน


==============================================


ชิสึจิ นาโอริ ตัดสินใจทำตามความฝันวัยเด็ก เธอเลือกสอบเข้าที่โรงเรียนเฉพาะทางสำหรับนักดาบ และได้พบกับคู่หูซึ่งเป็นดาบไม้เล่มหนึ่งที่ต้องตาเธอตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็น เลยมอบชื่อให้ว่า จูลิโอ้ ทั้งสองต้องเริ่มชีวิตใหม่ในรั้วโรงเรียนไปด้วยกัน กระทั่งได้เจอเพื่อนร่วมห้องอย่าง โมโมเสะ ฮินาวะ เด็กหนุ่มรูปหล่อผู้มากความสามารถและเก่งกาจจนนาโอริอยากให้เขาช่วยสอนวิชาดาบให้ แต่เขากลับยื่นคำท้าต่อเธอให้เอาชนะเขาให้ได้ในงานประลองดาบ เด็กสาวจึงพยายามสุดความสามารถเพื่อชนะเขา  


เพราะการแข่งนั้นพวกนาโอริจึงถูกทาบทามให้เข้าร่วมสภานักเรียนหรือสภาเจ็ดซามูไรและได้ออกไปทำภารกิจเสี่ยงตายจนพบกับองค์ชายรัชทายาทอายุไล่เลี่ยกันที่ถูกกลุ่มทหารรับจ้างนิรนามหมายจะชิงตัวไป นาโอริเลยต้องทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเขาให้ได้ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตของตัวเอง โดยไม่ทันรู้สึกตัวว่าวินาทีแรกที่สบตาเขาหัวใจก็ไม่อาจลบภาพรอยยิ้มสุดท้ายให้จางหายได้


ทางเลือกใหม่ที่เธอเลือกจึงลงเอยที่ตำแหน่ง 'องครักษ์' ของเด็กหนุ่มสูงศักดิ์ผู้นี้เพื่อให้ได้ปกป้องเขาได้ทุกวินาทีที่หายใจ….


===== สปอยหน้าตาพระนางสักเล็กน้อย =====


ชิสึจิ นาโอริ (น้อนนาโอะ) อายุ 16 ปี

เด็กสาวม.ปลายผู้ฝันอยากเป็นนักดาบเพราะเชื่อว่าความชอบนี้มาจากพ่อที่ไม่เคยเห็นหน้าตามาก่อน เลยคิดว่าถ้าได้เดินทางเดียวกันก็จะได้เจอครอบครัวฝั่งพ่อของตัวเองก็เป็นได้ แต่ใครจะรู้…ว่าปัจจุบันเธอจะได้ความฝันใหม่อันยิ่งใหญ่ที่มาพร้อมหน้าที่อันใหญ่ยิ่ง!!!


“ขอสาบานว่าจะอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับนาย…จนกว่าจะตายจากกันไปข้าง!”


ฮิบานะ โซอิจิโร่ (น้อนโซว์) อายุ 15 ปี

เด็กหนุ่มผู้หนึ่งที่มีความลับมากมายซ่อนไว้หลังหน้ากากอันเยาว์วัยกับ…สีผม?? เพราะเรื่องราวในอดีตที่ทำร้ายเขามานับไม่ถ้วนจึงหล่อหลอมตัวตนของเขาให้เป็นคนจริงจัง สุขุมและเก่งในด้านการต่อสู้(ปกป้องชีวิตตัวเอง) แต่ยามได้อยู่ต่อหน้านาโอริ ทุกบุคลิกก็ดูจะละลายหายไปจนเหลือแค่เด็กขี้อ้อนคนหนึ่ง…กับจุดประสงค์บางอย่างในหัวใจ


“แกจะเป็นด้ายแดงแห่งโชคชะตาให้พวกเราอีกได้ไหม…เหมือนที่เธอพูดครั้งนั้น”


.

.

.


“ใครอยากเริ่มต้นความเบียวไปกับไรท์ กดอ่านตอนแรกกันเล้ย!!!”




よろしく、psrpowder


สารบัญ

7 Samurai-ตอนที่1 การเริ่มต้นใหม่,7 Samurai-ตอนที่2 คู่หู,7 Samurai-ตอนที่3 เก่งกาจ,7 Samurai-ตอนที่4 ลังเล,7 Samurai-ตอนที่5 ทดสอบ,7 Samurai-ตอนที่6 สายสัมพันธ์ใหม่(1),7 Samurai-ตอนที่7 สายสัมพันธ์ใหม่(2),7 Samurai-ตอนที่8 สายสัมพันธ์ใหม่(3),7 Samurai-ตอนที่9 สายสัมพันธ์ใหม่(4),7 Samurai-ตอนที่10 ฝึกมือ,7 Samurai-ตอนที่11 เปิดเผย,7 Samurai-ตอนที่12 ถึงเทศกาลแล้ว!,7 Samurai-ตอนที่13 แข่งคู่ที่สอง,7 Samurai-ตอนที่14 ชิงชนะเลิศ,7 Samurai-ตอนที่15 เซอร์ไพรซ์ต้อนรับ!,7 Samurai-ตอนที่16 นัดที่ไม่ได้นัด(1),7 Samurai-ตอนที่17 นัดที่ไม่ได้นัด(2),7 Samurai-ตอนที่18 นัดที่ไม่ได้นัด(3),7 Samurai-ตอนที่19 ติวหนังสือให้ทีสิ,7 Samurai-ตอนที่20 คอร์สสอนเฉพาะกิจ,7 Samurai-ตอนที่21 ชั่วโมงประวัติศาสตร์,7 Samurai-ตอนที่22 วันสอบที่ผ่านไปด้วยดี,7 Samurai-ตอนที่23 ภารกิจพิเศษ(1),7 Samurai-ตอนที่24 ภารกิจพิเศษ(2),7 Samurai-ตอนที่25 ภารกิจพิเศษ(3),7 Samurai-ตอนที่26 ภารกิจพิเศษ(4),7 Samurai-ตอนที่27 ความล้มเหลวและหนทางแก้ไข,7 Samurai-ตอนที่28 ดุจกำลังใจ,7 Samurai-ตอนที่29 ข่าวร้ายกับแผนการตีกรอบ,7 Samurai-ตอนที่30 เริ่มแผน!,7 Samurai-ตอนที่31 ฝ่าฝืน,7 Samurai-ตอนที่32 ช่วยเหลือ,7 Samurai-ตอนที่33 จิตสังหาร,7 Samurai-ตอนที่34 แลกด้วยชีวิต,7 Samurai-ตอนที่35 คำโกหกเพื่อปลอบโยน,7 Samurai-ตอนที่36 เยี่ยมไข้,7 Samurai-ตอนที่37 เรื่องราวที่อยากเล่า,7 Samurai-ตอนที่38 ความตั้งใจอันแน่วแน่,7 Samurai-ตอนที่39 ตามรอย,7 Samurai-ตอนที่40 เหตุร้ายที่เกิดไปพร้อมกัน,7 Samurai-ตอนที่41 แผลใจฝังลึก,7 Samurai-ตอนที่42 เรื่องด่วนและเรื่องร้าย,7 Samurai-ตอนที่43 ความคิดที่ไม่ได้บอก,7 Samurai-ตอนที่44 เชื่อใจ,7 Samurai-ตอนที่45 ข้ออ้างเพื่อตัวเอง,7 Samurai-ตอนที่46 แน่วแน่,7 Samurai-ตอนที่47 ไม่อยากพลาดโอกาส,7 Samurai-ตอนที่48 จิตสำนึกต่อต้าน,7 Samurai-ตอนที่49 ไม่เข้ากัน,7 Samurai-ตอนที่50 ต้นตอของอาการ,7 Samurai-ตอนที่51 นึกสงสัย,7 Samurai-ตอนที่52 คัดเลือก,7 Samurai-ตอนที่53 กลับบ้าน,7 Samurai-ตอนที่54 โลกเสมือน,7 Samurai-ตอนที่55 ผู้ร่วมทาง,7 Samurai-ตอนที่56 ตามรังควาน,7 Samurai-ตอนที่57 ผู้ร่วมทางอีกคน,7 Samurai-ตอนที่58 เหนือธารร้อนระอุ,7 Samurai-ตอนที่59 ปล่อยไว้ไม่ได้,7 Samurai-ตอนที่60 อย่าได้เหลียวแล,7 Samurai-ตอนที่61 ปรับความเข้าใจ,7 Samurai-ตอนที่62 บอกความจริง,7 Samurai-ตอนที่63 ความรู้สึกของแม่,7 Samurai-ตอนที่64 อารมณ์อ่อนไหว,7 Samurai-ตอนที่65 ก้าวแรกสู่ทางใหม่

เนื้อหา

ตอนที่1 การเริ่มต้นใหม่

ณ ประเทศแห่งหนึ่งซึ่งเพียบพร้อมไปด้วยวัฒนธรรมหลาย ๆ สิ่งถูกพัฒนาขึ้นจากศูนย์และก้าวหน้าเพื่อให้มันเกินร้อย แต่อยู่มาวันหนึ่ง เป็นวันแห่งประวัติศาสตร์...วันที่อาวุธสงครามชั้นหนึ่งอย่าง ‘ปืน’ ถูกสั่งกำจัดทิ้งให้หมดจากโลกใบนี้เพราะความอันตรายและความได้เปรียบของมันในด้านสงคราม ด้วยเหตุนั้นผู้คนในประเทศจึงเริ่มกลับมารื้อฟื้นวิถีการต่อสู้และอาวุธที่มีมาแต่เดิมซึ่งเป็นดั่งสัญลักษณ์ของประเทศและเป็นสิ่งที่บรรพบุรุษได้ใช้กอบกู้บ้านเมืองอยู่ร่ำไป


นักดาบ



ชื่อเรียกของผู้กล้าที่กวัดแกว่งดาบเพื่อปกป้องแดนอาทิตย์อุทัยถูกรื้อกลับมาอีกครั้ง ในสถานการณ์เช่นนี้ผู้คนต่างพากันหาที่พึ่งพาและท้ายที่สุดก็กลายเป็นหนึ่งในอุดมคติของเด็กรุ่นหลังต่อ ๆ มาจนถึงทุกวันนี้ นั่นเป็นอาชีพที่เธอพึงใจและใฝ่ฝันอยากจะเป็น การได้จับดาบเพื่อปกป้องใครสักคนช่างเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นและชวนฝัน



การได้จับดาบอาจเป็นจุดเริ่มต้นของความฝันในวัยเด็ก



ปัง!



แต่ก็เป็นจุดจบของชีวิตได้เช่นกัน



“อ่อค...” ของเหลวสีแดงฉานซึมผ่านหน้าอกข้างซ้ายและไหลรินเปรอะเปื้อนไปจนถึงลำตัวเช่นเดียวกับริมฝีปากบางที่ถูกย้อมด้วยเลือด ตรงหน้ามีใครคนหนึ่งเนื้อตัวสั่นเทาพลางจ้องมองตรงมาแต่ไม่ทันจะได้เห็นสีหน้าของเขาร่างกายบอบช้ำนั้นได้เสียการทรงตัวและทิ้งตัวลงไม่บอกกล่าว

“ไม่นะ แบบนี้อีกแล้ว” ร่างสั่นเทาพุ่งเข้ารับคนตรงหน้าไว้ได้ทันท่วงทีพลันสัมผัสใบหน้าที่เริ่มซีดเผือด หยดน้ำใสไหลรินลงอาบแก้มจนสายตาแทบพร่ามัว เขากัดริมฝีปากแน่นก่อนจะร้องเรียกคนตรงหน้าด้วยเสียงสั่นเครือ

“ตื่นสิ ได้โปรด” เขาอ้อนวอน



“ตื่นสิ...”



“นาโอะจัง!”



เสียงเรียกดังจ่อหูกระชากให้ใครคนหนึ่งสะดุ้งตื่น ร่างบางพลันกระเด้งตัวลุกจากโซฟานุ่มมาตะโกนลั่น

“เหวอ! ตื่นแล้วค่า!”

“อุ๊ย นี่ฉันเสียงดังเกินไปหรือเปล่าจ๊ะ?” นาโอริหันมองเจ้าของเสียงหวานเผยให้เห็นเด็กสาวผมสั้น เธอมีเรือนผมและนัยน์ตาสีเงินและบัดนี้เจ้าตัวก็กำลังอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนน่ารัก แถมยังถือทัพพีไว้ในมืออีกด้วย

“ป เปล่า...ฉันแค่ฝันนิดหน่อย...ว่าแต่มีอะไรหรือเปล่าซากิ?”

“ฉันจะบอกว่าอาหารเย็นเสร็จแล้วจ้ะ รีบทานแล้วก็เข้านอนกันเถอะวันนี้เหนื่อยกับเรื่องจัดห้องมาทั้งวันแล้ว พรุ่งนี้ก็เปิดเทอมวันแรกด้วย แถมเขาบอกว่าวิชาปฏิบัติจะเริ่มตั้งแต่วันแรกเพราะงั้นเราควรเก็บแรงไว้จะดีกว่า”



ได้ยินอีกฝ่ายพูดก็ช่วยเตือนความจำให้กับนาโอริเป็นอย่างดี ว่านอกจากตอนนี้เธอจะเพิ่งได้เป็นนักเรียนมัธยมปลายเต็มตัวและต้องเริ่มใช้ชีวิตเด็กหอกับรูมเมตคนใหม่แล้ว โรงเรียนในฝันที่เธอดั้นด้นสอบเข้ามาอย่างชิบุนางินั้นก็ไม่ใช่โรงเรียนธรรมดา แต่เป็นโรงเรียนสำหรับนักดาบที่ราชวงศ์ฮิบานะตั้งขึ้นเพื่อคนที่สนใจ และมีตารางเรียนที่ไม่เหมือนกับโรงเรียนทั่วไปสักเท่าไหร่ บัดนี้สาวเจ้าควรจะเริ่มชินกับบรรยากาศแปลกใหม่นี้ให้ได้ ก่อนที่จะนอนไม่หลับเพราะแปลกที่จนไปสลบเหมือดในคาบแรกของวันพรุ่งนี้



“ข ขอบคุณนะ เดี๋ยวฉันตามไป”

“จ้า” ซากิวาดยิ้มพร้อมหันหลังกลับไปตระเตรียมโต๊ะอาหารต่อ ปล่อยให้นัยน์ตาสีซากุระเหลือบมองท่าทีนั้นก่อนจะพึมพำกับตัวเอง

“เป็นคุณหนูที่เพียบพร้อมจริง ๆ แหะ...” 


นาโอริได้แต่คิดว่าซากินั้นถอดมาจากคุณหนูในหนังที่เคยดูบ่อย ๆ เลยล่ะ ทั้งคำพูดคำจาน่ารัก กิริยาวางตัวที่ดีไปจนถึงของใช้สอยหรูหราที่เจ้าตัวนำมาไว้ในหอพัก เรียกว่านาโอริเป็นต้องเหงื่อตกในทีแรกว่าคุณหนูผู้นี้จะไม่ชอบทำอะไรด้วยตัวเองจนทำให้ชีวิตหอพักครั้งแรกของเธออึดอัดหรือเปล่า แต่ความคิดนั้นกลับเปลี่ยนไปตั้งแต่เริ่มจัดของในหอพัก เพราะได้ซากิคอยช่วยจัดการเรื่องยิบย่อยในห้องใหม่แทบทุกกระเบียดนิ้วจนสามารถจัดห้องเสร็จได้ภายในไม่ถึงครึ่งวัน

“ช่วยจัดของยังไม่พอ ยังทำอาหารเย็นให้ทานอีก ไม่รู้จะขอบคุณยังไงเลย...” เด็กสาวเอ่ยพลางเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหารที่ถูกจัดไว้สวยงาม ยิ่งมีแจกันดอกฮิกันบานะสีแดงสดตั้งหราไว้กลางโต๊ะก็ยิ่งดูหรูขึ้นมาทันตา ถึงความหมายของมันจะไม่ดีก็เถอะ.... 

“ฉันเห็นนาโอะจังกำลังหลับปุ๋ยอยู่เลยอยากทำไว้รอ เผื่อตื่นมาแล้วหิวน่ะ” 

“ย อย่าพูดเหมือนกับฉันเป็นเด็กสิ” นาโอริเบ้ปากพลันหน้าขึ้นสี 

“ฮ่า ๆ ขอโทษจ้ะ แต่ฉันตั้งใจทำสุดฝีมือเลย ถือว่าเป็นการฉลองที่พวกเราบังเอิญได้อยู่หอเดียวกันไง!”

“นั่นสิ อะไรจะบังเอิญขนาดนั้นก็ไม่รู้” ว่าแล้วสาวเจ้าก็วาดยิ้มกริ่มออกมา พลางคิดถึงตอนที่เธอดันไปเดินชนกับซากิตรงสี่แยกอย่างกับพล๊อตโหลในการ์ตูนสาวน้อย และโชคชะตาก็ผูกพวกเธอทั้งสองให้ตัวติดกันตั้งแต่นั้นโดยไม่ทราบสาเหตุ เพราะนอกจะรู้ว่าเรียนโรงเรียนชิบุนางิเหมือนกันแล้ว อีกฝ่ายก็ยังเป็นรูมเมตที่เธอจะต้องใช้ชีวิตร่วมด้วยตลอดการเรียนสี่ปี ช่างประจวบเหมาะเกินกว่าจะเรียกว่าบังเอิญอีกนะโชคชะตาเอ๋ย!

“ถ้างั้นกิจกรรมแรกในปาร์ตี้ฉลองนี้....เอาเป็นผลัดกันเล่าเรื่องของตัวเองไหม?” นาโอริเสนอความคิด

“เรื่องตัวเองเหรอ?”

“ใช่ ก็แบบว่าเป็นใครมาจากไหน ชอบอะไร ไม่ชอบอะไรทำนองนั้น เพราะตอนเช้าก็มัวแต่วุ่นกับการจัดของจนไม่มีเวลาได้ทำความรู้จักกันจริงจังเลยนี่นา”

“ได้สิ ฉันก็อยากรู้จักนาโอะจังเพิ่มเหมือนกัน” ซากิแย้มยิ้มตอบ

ว่าแล้วสองสาวจึงผลัดกันเล่าเรื่องราวของตัวเอง นาโอริเลยได้รู้ว่าซากินั้นเป็นลูกสาวของตระกูลโฮชิ ตระกูลนักดาบเก่าแก่ที่อยู่มายาวนานซึ่งจะมีเอกลักษณ์เป็นเรือนผมและดวงตาที่เป็นสีเงินวาว ส่วนเรื่องที่เธอเข้ามาเรียนที่ชิบุนางิก็เพราะอยากจะสานต่อเจตจำนงของตระกูลและเป็นเหมือนคุณปู่ของเธอที่สร้างชื่อเสียงไว้มากมายในอดีต

“แล้วนาโอะจังล่ะ มาจากตระกูลอะไรหรือเปล่า?”

“ไม่ใช่เลย! ก็แค่ครอบครัวธรรมดานี่แหละ แต่พ่อกับแม่ฉันแยกทางกันตั้งแต่ก่อนฉันเกิดเสียอีกน่ะ ตอนนี้เลยอยู่กับแม่สองคน” ซากิชะงักกับคำตอบของอีกฝ่ายพลันขมวดคิ้วรู้สึกผิด

“ฉันขอโทษนะ ที่ต้องให้มาเล่าเรื่องปวดใจแบบนี้...”

“ไม่เป็นไร ฉันชินแล้วล่ะ อีกอย่างฉันอยู่กับแม่ก็มีความสุขดีจะตาย” นาโอริยักไหล่ 

“แล้วได้เจอคุณพ่อบ้างรึเปล่า?”

“แม่ไม่เคยบอกว่าพ่ออยู่ที่ไหนหรือเป็นคนยังไง และฉันก็ไม่อยากถามด้วยเพราะแม่ชอบทำหน้าเจ็บปวดทุกครั้งที่ถามเลยน่ะ”

“แล้วแบบนี้นาโอะจังไม่สงสัยเหรอว่าคุณพ่อคือใคร?”

“ใครว่าล่ะ ฉันเคยสงสัยถึงขั้นจะแอบเข้าไปค้นของในห้องแม่เลยนะ แต่ก็โดนจับได้บวกกับเทศนาเป็นชั่วโมงแหนะ จากนั้นก็ไม่กล้าอีกเลย...” นาโอริเบ้ปากพลางเหงื่อผุดข้างขมับ เธอจำได้ดีว่ามารดาทำสีหน้าน่ากลัวเพียงใดตอนจับเธอได้ 



ถึงเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวจะเป็นสิ่งละเอียดอ่อน แต่นาโอริก็เลือกจะเล่าเรื่องของเธอให้ซากิฟังอย่างสนุกสนาน ซ้ำยังได้ประกาศแจ้งเรื่องความฝันสุดยิ่งใหญ่ที่พาให้เธอทุ่มสุดตัวเพื่อเข้ามาเรียนที่ชิบุนางิ อย่างความชอบในอาชีพนักดาบที่ผลิบานในใจมาตั้งแต่ยังเด็ก สาวเจ้าเชื่อว่าความชอบในด้านการกวัดแกว่งดาบนี้จะต้องมาจากบิดาที่ไม่เคยพบหน้าอย่างแน่นอน



ไม่แน่พ่อของเธออาจจะเป็นนักดาบผู้เก่งกาจก็ได้นะ!



“เอ๊ะ แต่แบบนั้นมันอาจจะใช้พิสูจน์ไม่ได้...”

“ถึงจะไม่รู้ว่าได้หรือเปล่าแต่ฉันก็เชื่อแบบนั้นนะ เพราะฉันรู้ดีว่าแม่ไม่ชอบการต่อสู้แนวนี้เท่าไหร่ แม้แต่ตอนที่ฉันอยากเข้าชิบุนางิแม่ก็เกือบจะค้านไม่ให้สมัคร แถมตอนนั้นแม่ก็พูดออกมาให้ได้ยินเต็มสองหูเลย....” นาโอริกอดอกเล่าย้อนกลับไปเมื่อครั้งแรกที่เธอพูดกับผู้เป็นแม่ว่าต้องการสอบเข้าชิบุนางิและอีกฝ่ายก็พยายามจะแย้งเธอ

.

.

“หนูอยากเป็นนักดาบนี่คะ มันเท่มาก ๆ เลยนะ!” 

“แม่ไม่อยากให้หนูเดินทางนั้นเลยนะ”

“ทำไมล่ะคะ มันไม่ดีตรงไหน?”  วินาทีนั้นผู้เป็นแม่ได้แต่อ้ำอึ้งกับคำถามของเด็กสาว ทว่านาโอริก็โตพอจะดูสีหน้าเจ็บปวดนั้นออกว่าอีกฝ่ายมีเรื่องที่ฝังใจอยู่ลึก ๆ และคงเป็นต้นเหตุให้มารดาอยากรั้งเธอไม่ให้เดินในเส้นทางนี้



แต่สุดท้ายเธอก็ยอมที่จะปล่อยลูกสาวสุดที่รักให้สอบเข้าชิบุนางิได้สำเร็จ
 

“หนูดูแลตัวเองได้ค่ะแม่ ไม่ต้องห่วงนะคะ” รอยยิ้มเจิดจ้าปรากฏบนใบหน้าและกอด ผู้เป็นแม่ให้แน่นที่สุดราวอยากจะยืนยันให้อีกฝ่ายสบายใจ



และวินาทีนั้นเองที่นาโอริได้ยินเสียงเครือของมารดาที่พึมพำใกล้หู...



“ทำไมถึงเหมือนกันได้ขนาดนี้นะ” 



หลังจากนั้นสาวเจ้าก็ปักใจเชื่อมาตลอดว่าความชอบของเธอจะต้องได้รับมาจากผู้เป็นพ่อที่เกี่ยวข้องกับอาชีพนักดาบนี้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเป็นแน่!

.

.

“นั่นแหละทฤษฎีของฉันล่ะ!” ซากิได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ กับความคิดของรูมเมตที่จะเรียกว่าเหลือเชื่อหรือชวนให้งงก็ไม่แน่ใจ ทว่ายามจ้องมองใบหน้าร่าเริงนั้น เธอก็อยากจะให้กำลังใจและหวังให้สิ่งที่อีกฝ่ายคิดเป็นจริงเสียให้ได้

“อย่างนี้นี่เอง...ยังไงเธอก็มีสายเลือดของคุณพ่ออยู่ในตัวนี่นะ ถ้าเขาอยู่ในสายอาชีพนักดาบเหมือนกันสักวันหนึ่งจะต้องได้เจอกันแน่ ๆ ฉันเชื่อแบบนั้น” ซากิกุมมือเพื่อนสาวไว้แน่น ไออุ่นจากมือส่งผ่านไปถึงเจ้าตัวรับรู้ถึงความจริงใจที่อีกฝ่ายมีให้

“ฉันก็หวังให้เป็นอย่างนั้น...ขอบใจนะซากิ!” 

บรรยากาศอบอุ่นก่อตัวรอบกายสองสาวท่ามกลางเสียงหัวเราะคิกคักสนุกสนาน ทำให้มื้อค่ำของคืนแรกในหอพักหรูหราเป็นมื้อค่ำสุดวิเศษที่จะประทับในใจพวกเธอไปแสนนาน เพราะนอกจากจะเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตโรงเรียนครั้งใหม่...



ก็ยังเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ไม่มีทางตัดขาดได้ของทั้งสองด้วย

.

.

.



ถัดออกไปจากหอพักนักเรียนที่เรียงราย มีตึกโมเดิร์นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสองตึกขนาบกัน รอบด้านล้อมรอบด้วยต้นซากุระสีชมพูสวย ทั้งตึกเป็นกระจกใสและมีทางเชื่อมลอยฟ้าข้ามไปมาระหว่างตึกได้



ตึก ๆ



ซึ่งบัดนี้ใครคนหนึ่งกำลังใช้งานทางเชื่อมนั้นเพื่อไปยังเป้าหมายของตน ในอ้อมแขนมีห่อผ้าสีขาวเป็นทรงยาวถูกถือไว้และดูเหมือนว่ามันจะเป็นต้นเหตุให้ร่างเพรียวต้องจ้ำอย่างรวดเร็วเช่นนี้ เพราะนอกจากจะถูกวานให้เข้ามาในตึกเรียนอย่างกะทันหันแล้ว กลิ่นอายหนักอึ้งของสิ่งที่อยู่ในห่อผ้าก็กำลังพาให้เธออยู่ไม่สุขนัก



ครืด

ครั้นถึงจุดหมาย มือเรียวพลันเปิดมันออกและเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็วก่อนจะวางเจ้าห่อผ้านั่นลงบนโต๊ะที่อยู่ไม่ไกล

“เฮ้อ...กลิ่นอายรุนแรงกว่าทุกทีเสียอีก” หญิงสาวเอ่ยเสียงเรียบขณะก้มมองฝ่ามือของตน มันสั่นเทิ้มเล็กน้อยยามนึกถึงสัมผัสที่อยู่ในมือเมื่อครู่นี้ ดวงตาสีทองอร่ามเบนมองห่อสีขาวบนโต๊ะอีกคราพร้อมสูดหายใจลึก เธอกลั้นใจแก้มัดผ้าสีขาวออกและเปิดมัน เผยให้เห็นดาบไม้สำหรับนักดาบฝึกหัดเล่มหนึ่งนอนอยู่ข้างใน 

“ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าเบื้องบนจะฝืนเอามันกลับมาอีกทำไม...” เธอส่งเสียงฮึดฮัดพลางหยิบมันขึ้นมาอย่างระมัดระวังและเก็บมันใส่ถุงผ้าสีขาวอีกถุงหนึ่งที่บรรจุดาบไม้แบบเดียวกันไว้มากมาย ทว่าเธอกลับไม่เลือกจะวางมันไว้ด้านบนสุดแต่ยัดมันลงไปแทบจะถึงก้นถุงซ้ำยังใช้ดาบไม้เล่มอื่นปิดจนมิดอีกต่างหาก

“ถ้ามีใครล้วงไปหยิบถึงอีก คงจะเป็นโชคชะตาที่แท้จริงของนายแล้วล่ะ”


หญิงสาวจัดแจงมัดห่อผ้าเสร็จสรรพและวางมันทิ้งไว้บนโต๊ะเช่นนั้น ไม่ทันไรเธอก็รีบตรงไปที่หน้าประตูเพื่อจะออกจากบรรยากาศชวนอึดอัดนี่เสียที แต่ก่อนจะได้ก้าวออกไปบางสิ่งกลับดลใจให้ต้องเหลือบมองถุงอ้วนนั่นอีกครั้ง

“คราวนี้...หวังว่าจะเจอคนที่ถูกใจนายจริง ๆ นะ”



ปึง

ประตูบานเลื่อนถูกปิดสนิท ห้องทำงานได้กลับสู่ความเงียบดังเดิมและมีเพียงแสงจากดวงจันทร์ที่สาดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา



ฟู่ว..

ในห้องที่ปิดสนิทไม่มีช่องให้อากาศลอดผ่านและไม่ควรจะเหลือใครอยู่ด้านใน บัดนี้กลับมีสายลมอ่อน ๆ ก่อตัววนรอบถุงผ้าสีขาวบริสุทธิ์ เช่นเดียวกับน้ำเสียงทุ้มที่เล็ดลอดมาจากด้านในของถุงทว่ากลับดังชัดเจนในความเงียบ



“ฉันก็หวัง...ให้เป็นแบบนั้น”



To be continue....

==========================================

จบไปแล้วกับตอนแรก!! 
มาติดตามชีวิตในโรงเรียนของน้องนาโอะไปด้วยกันนะฮะะ ;> 
ใครชื่นชอบกดติดตามกันได้ฮะ มันเป็นกำลังใจที่ดีแก่เรามาก ๆ เลย

ปล.!! ถึงตอนแรกจะเรียบ ๆ แต่อย่าเพิ่งหนีกันไปไหนน้าาา ; - ;
 

つづく、psrpowder