จากที่อยากสานฝันเป็นนักดาบกลับต้องผันตัวสู่เส้นทางนองเลือดแค่เพราะอยากปกป้องเขาที่ด้ายแดงแห่งโชคชะตาผลักให้(วิ่ง)ชนกันถึง 2 รอบ แต่วันใดเล่าที่ดาบในมือจะหันคมใส่เขาเสียเอง...เพื่อสำเร็จเป้าหมายของมัน
แฟนตาซี,แอคชั่น,รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,7Samurai ,ไม่ฮาเร็ม,ตัวเอกหญิง ,ดาบพูดได้,ญี่ปุ่น,แอคชั่น,รักวัยรุ่น,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
จากที่อยากสานฝันเป็นนักดาบกลับต้องผันตัวสู่เส้นทางนองเลือดแค่เพราะอยากปกป้องเขาที่ด้ายแดงแห่งโชคชะตาผลักให้(วิ่ง)ชนกันถึง 2 รอบ แต่วันใดเล่าที่ดาบในมือจะหันคมใส่เขาเสียเอง...เพื่อสำเร็จเป้าหมายของมัน
ผู้แต่ง
psrpowder
เรื่องย่อ
สวัสดีค่าา เรา psrpowder น้าาา ยินดีที่ได้รู้จักรี้ดเดอร์ทุกท่านที่ผ่าน(หลง)เข้ามาฮะ!
(เชิญชวนมาติดตามกันได้ที่
Tiktok นะฮะ จะอัพเดตเรื่อย ๆ คับ)
เอาล่ะ….วันนี้เรามีนิยายออริจินอล มานำเสนอ!!
ชื่อเรื่องว่า 7 Samurai (ถ้าสงสัยว่าทำไมชื่อนี้ คงบอกได้แค่ว่าเป็นความเบียวของไรท์เองแหละค่ะ555)
เป็นแนวแฟนตาซี เซ็ตติ้งประเทศญี่ปุ่นยุคปี3000 มีฉากต่อสู้ฟิลใช้ดาบตบตีกันไปมา ชิ้งๆๆ
ผสมความรักแบบวัยใสน่ารัก(มองตาปุ๊ปก็ปิ้งกันปั๊บ!)
แถมปมเรื่องชวนซึ้งใจ (คนอ่านซึ้งมั้ยไม่รู้แต่ไรท์น้ำตาหยด ;-; )
ใด ๆ มันอาจจะไม่ตามกระแส ไม่ตามตลาด แต่เราอยากลงเรื่องที่ตั้งใจสร้างให้ทุกคนได้อ่านจริง ๆ
และอยากขอโอกาสทุกท่านที่แวบผ่านเข้ามา คอยชี้แนะแนวทางให้ไรท์คนนี้ด้วยนะคะ
ปล. เรื่องอาจไม่ได้หวือหวาหรือน่าตื่นเต้น แต่อยากให้จับตา จับมือ จับหูดูการเติบโตของน้อง ๆ ไปด้วยกันน้าา
==============================================
***นิยายเรื่องนี้มีฉากต่อสู้และฉากความรุนแรงอื่น ๆ แทรกในบางตอน***
แต่จะมีการแจ้ง Trigger warning ก่อนเริ่มอ่านทุกครั้ง
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
==============================================
ชิสึจิ นาโอริ ตัดสินใจทำตามความฝันวัยเด็ก เธอเลือกสอบเข้าที่โรงเรียนเฉพาะทางสำหรับนักดาบ และได้พบกับคู่หูซึ่งเป็นดาบไม้เล่มหนึ่งที่ต้องตาเธอตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็น เลยมอบชื่อให้ว่า จูลิโอ้
และต้องฝ่าฟันทั้งเรื่องเรียน เรื่องครอบครัว เรื่องเฉียดตายไปจนถึง…เรื่องความรัก!? โดยมีเจ้าดาบคู่ใจเป็นสักขีพยานเคียงข้างเสมอ
....แต่ดาบเล่มนี้
ไม่ได้มอบเพียงคู่หูแก่เธอ แต่มอบหลายสิ่งนับไม่ถ้วนโดยไม่รู้ตัว
มันมอบสิ่งที่เลวร้าย บ้าคลั่งและหิวกระหาย
สิ่งที่ยากจะควบคุมและพร้อมจะกลืนกินจิตบริสุทธิ์ของเด็กสาวอย่างเธอ
"ให้ข้า..ได้ลิ้มรสเลือดพวกมันเสียเถอะ"
"ออกไป...ออกไปจากหัวฉัน!"
มันมอบโชคชะตา ให้ได้พบพานใครคนหนึ่งที่แลกชีวิตเพื่อให้เธอปลอดภัย
ผู้เป็นดั่งแสงอันล้ำค่าที่ต้องรักษาไว้แม้ตัวตาย
"เพราะสัญญากันแล้ว...ว่าจะออกไปจากที่นี่ด้วยกัน เลยต้องทำทุกทางไม่ให้เสียเธอไป"
"ฉัน...ปกป้องนายได้ใช่ไหม?"
มันมอบเส้นทางใหม่ที่ดอกซากุระดอกตูมอย่างเธอ...จะได้ผลิบานสะพรั่ง ให้สมดั่งปรารถนา
"ในที่สุดก็ถึงวันนี้....วันที่ฉันไม่ต้องปกปิดอีกต่อไป"
"คุณ...คือใคร?"
มันมอบตัวตน เรื่องราวและสายสัมพันธ์นับไม่ถ้วนให้แก่เธอ แต่ก็จ้องจะช่วงชิงทุกสิ่งไปเช่นกัน
"เพราะนั่น...คือสาเหตุที่มันเกิดมา"
"และมันจะต้องดับสูญ ถ้ากล้าคิดแตะต้องคนที่ฉันรัก!"
==============================================
เนื้อเรื่องช่วงแรกอาจจะสโลว์ไปบ้าง แต่อย่าเพิ่งทิ้งกันน้า ; ^ ;
ใครผ่านเข้ามาอ่านและถูกใจ สามารถเป็นกำลังใจ ติชม แนะนำ ให้นักเขียนฝึกหัดคนนี้ได้นะคะ!
ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ค่า <3 (O w O)
よろしく、psrpowder
สายลมแรงพัดพลิ้วท่ามกลางกลีบดอกซากุระที่ร่วงหล่นต้นซากุระต้นใหญ่มหึมาผลิดอกสวยสะพรั่ง ชายผู้หนึ่งยืนอยู่ใต้ต้นไม้อันแสนห่างไกลแม้จะเห็นไม่ชัดแต่ก็รู้เขากำลังยิ้มแย้มอยู่ ทันใดนั้นริมฝีปากหนาพลันขยับเป็นคำพูด
“ไว้......เจอ..” เสียงขาดหายไปถูกแทนที่ด้วยเสียงหวานที่คุ้นเคย
“นา...จัง”
“นาโอะจัง!” เสียงเรียกชัดเจนปลุกเด็กสาวตื่นจากภวังค์ ภาพตรงหน้าแปรเปลี่ยนเป็นหน้าเพื่อนสาวที่จ้องเธออยู่นาโอริกระเด้งลุกจากเตียงเมื่อนึกได้ว่าวันนี้เป็นวันแรกของการเรียน พลันคว้าอุปกรณ์อาบน้ำที่ซากิหยิบมาให้ก่อนและวิ่งแจ้นเข้าห้องน้ำไปทันที
“ขอบใจนะ!”
ใช้เวลาไม่กี่นาทีเด็กสาวก็อยู่ในชุดนักเรียนเรียบร้อยพร้อมจัดผมเผ้าให้เข้าที่และพากันออกจากหอไป ส่วนข้าวเช้าน่ะเหรอ? เรื่องนั้นซากิจัดเตรียมให้ตั้งแต่ไก่โห่แล้ว นาโอริได้แต่รู้สึกผิดในใจพลางสาบานว่าจะตื่นมาทำข้าวเช้าให้เพื่อนได้ทานบ้างเป็นการตอบแทน
.
.
.
ทั้งสองมาถึงห้องเรียนของตนฉิวเฉียด ซึ่งพวกเธอจับจองที่นั่งไม่ทันไรอาจารย์ก็เข้ามาในห้อง ทั้งสองมองหน้ากันอย่างโล่งใจ นาโอรินั่งอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่างโดยมีซากิอยู่ด้านหลังอีกทีเรียกว่าพวกมันรอให้ทั้งสองคนมาจับจองเลยล่ะ
“สวัสดีทุกคน ยินดีต้อนรับสู่ชิบุนางิอีกครั้งนะ ฉันเป็นอาจารย์ประจำห้องของพวกเธอ ชื่อ ซาวาเบะ จุน” อาจารย์สาวผู้มีเรือนผมสีน้ำตาลยาวรวบเป็นหางม้าสูงรับกับชุดเครื่องแบบทหารสีขาวขลิบทองแนะนำตนเองก่อนจะมองหน้าเหล่านักเรียนราวกับจะจับผิด
“ขอให้พวกเธอรู้เอาไว้ว่าการเข้าเรียนที่นี่จะต่างจากโรงเรียนทั่วไป พวกเราให้ความสำคัญกับวิชาปฏิบัติมากกว่าและมีการจัดลำดับผลการเรียนที่เข้มงวด ขอให้ทุกคนตั้งใจล่ะ”
แปะ!
เสียงปรบมือดังก้องเรียกสติเหล่านักเรียนก่อนที่หญิงสาวจะอธิบายต่อ มือเรียวเอื้อมไปหยิบห่อผ้าขนาดใหญ่ที่บรรจุอะไรบางอย่างไว้ ทันทีที่ห่อผ้าถูกแกะออกนักเรียนในห้องถึงกับฮือฮากันยกใหญ่ นั่นเพราะสิ่งที่อยู่ภายในห่อผ้าก็คือ...
“ดาบไม้!?” นาโอริอุทาน หัวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะเพราะในที่สุดก็มาถึงช่วงเวลาที่เธอรอคอยเสียที ดวงตากลมโตจ้องกองดาบไม้นั่นไม่วางตา กำลังพินิจพิเคราะห์ว่าจะเลือกเล่มไหนดี
“พวกเธอคงรู้ดีสินะว่าสิ่งนี้คืออะไร” เป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ อาจารย์สาวหยิบดาบไม้เล่มหนึ่งมาชูให้เห็นก่อนจะพูดต่อไป
“ดาบไม้นี้จะเป็นคู่หูของเธอตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป จงรักษาให้ดีราวกับส่วนหนึ่งของร่างกาย และจำไว้ว่าดาบคือผู้เลือกเจ้าของไม่ใช่ตัวพวกเธอ เพราะฉะนั้นหยิบเล่มที่แวบแรกถูกใจมากที่สุดห้ามคิดเลือกแม้แต่วินาทีเดียว เข้าใจไหม!?”
“ค่ะ/ครับ!” เสียงขานตอบรับหนักแน่นจากนักเรียนในห้อง อาจารย์สาวพยักหน้าอย่างพอใจและสั่งให้ต่อแถวกันมาหยิบดาบทีละคน นาโอริลุ้นตัวโก่งเมื่อมาถึงคราวของเธอ ดวงตาจ้องกองดาบไม้อย่างถี่ถ้วนและในวินาทีนั้นอะไรบางอย่างก็เตะตาขึ้นมา
“เอ๊ะ?...” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน เมื่อปรากฏดาบคาตานะสีน้ำเงินเข้มสวยปะปนในกองดาบไม้ แต่เพียงกะพริบตามันจึงกลับเป็นดาบไม้ปกติ มือเรียวเอื้อมหยิบตรงตำแหน่งที่ดาบคาตานะถูกวางอยู่และเดินออกจากแถวมา ดวงตาสีซากุระจ้องมันเขม็งก่อนจะถูกเรียกด้วยเสียงเพื่อนสาว
“นาโอะจัง เป็นอะไรหรือเปล่า?”
“ไม่มีอะไร แค่ตื่นเต้นจนพูดไม่ออกน่ะ ฮ่า ๆ” เด็กสาวเกาใบหน้าแก้เก้อก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้และก้มมองอาวุธศักดิ์สิทธิ์ตรงหน้าไม่เลิก
“จะมองไปจนถึงเมื่อไหร่กัน?” นาโอริเผลอปล่อยดาบร่วงลงบนตัก ดวงตากลมโตกะพริบปริบ ๆ ทำอะไรไม่ถูกก่อนจะได้ยินเสียงของซาวาเบะที่ยืนกอดอกอยู่พร้อมใบหน้าเคร่งเครียดกวาดตามองนักเรียนในห้อง เป็นสัญญาณบอกให้เงียบเสีย ไม่งั้นเจอดี
“คงจะเห็นแล้วว่าพวกเธอไม่ได้รับไปแค่ดาบไม้ธรรมดาๆเท่านั้น แต่สิ่งพวกเธอได้ไปด้วยก็คือดวงจิต” เครื่องหมายคำถามผุดบนใบหน้านักเรียนตามคาด อาจารย์สาวจึงขยับปากอธิบายต่อ
“ที่อยู่ในดาบของพวกเธอคือดวงจิตของนักรบผู้ล่วงลับไปแล้วหลายร้อยปี ซึ่งถูกอัญเชิญให้มาสถิตในดาบและเป็นกำลังแก่เหล่านักดาบรุ่นปัจจุบัน”
“หมายถึงเอาวิญญาณผีมาใส่ในนี้น่ะเหรอ?” แม้จะพึมพำเบา ๆ แต่ก็ไม่สามารถเล็ดลอดจากหูของหญิงสาวได้ สายตาคมปราดจ้องไปที่นักเรียนตัวการพลันส่งรังสีอำมหิตทะลวงไปจนถึงกระดูก
“พวกเขาเป็นนักรบผู้กล้า ไม่ใช่สัมภเวสีต่ำช้าที่ไหน เรียกให้ถูกด้วย”
“เอาล่ะ ตอนนี้พวกเธอจำเป็นต้องตั้งชื่อเรียกให้กับดาบเพื่อเป็นการลงนามสัญญาระหว่างผู้ใช้และอาวุธศักดิ์สิทธิ์ ถ้าตั้งแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนชื่อได้ในภายหลังเพราะฉะนั้นคิดให้รอบคอบล่ะ” นาโอริที่ได้ฟังคำกล่าวของอาจารย์เบนหน้ากลับมามองดาบไม้ของตัวเองอีกครั้ง
“เอ่อ....สวัสดี?”
“สวัสดี ฉันนึกว่าเธอจะเป็นใบ้ค้างไปแล้วเสียอีก” น้ำเสียงทำให้นึกถึงชายหนุ่มวัยกลาง ดูเหมือนอายุเขาจะไม่ได้มากอย่างที่คิด....
“นายเป็นนักดาบมาก่อนเหรอ?”
“คงจะใช่ ฉันก็จำเรื่องชีวิตเก่าตัวเองไม่ได้เสียด้วยสิ” เสียงทุ้มกล่าว
“งั้นเหรอ....แล้วนายชื่ออะไร?”
“ชื่อ? เธอต้องเป็นคนตั้งให้ฉันสิ ไม่ได้ฟังอาจารย์ของตัวเองพูดหรือไง?” นาโอริคิ้วกระตุกเล็กน้อยเพราะน้ำเสียงกวนประสาทนั่น คงเริ่มไปจุดต่อมหงุดหงิดเข้าให้แล้ว
“ถ้าทางตอนมีชีวิตอยู่นายคงปากเก่งพอตัวเลยนะ เหอะ”
“เธอนี่มันต่อปากต่อคำดีจริง ๆ นะ ชักถูกใจแล้วสิ”
“ขอบคุณที่ชม แต่ก่อนอื่นฉันต้องตั้งชื่อให้นายเสียก่อน....” เด็กสาวครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยชื่อที่คิดได้ออกมา
“จูลิโอ้!” เธอตะโกนลั่น แต่ก็ไม่เท่าเสียงพูดคุยของคนในห้องเรียน กระทั่งได้ยินเสียงทุ้มอุทานอย่างแปลกใจ สาวเจ้าถามอีกฝ่ายว่าชอบชื่อที่เธอมอบให้หรือไม่ทว่าเจ้าตัวกลับตอบว่ามันประหลาดเสียยิ่งกระไร ทำเอานาโอริต้องมุ่ยหน้าใส่
“เท่จะตาย อีกอย่างนี่เป็นชื่อที่ฉันคิดมาตั้งแต่เด็กเลยนะ” นาโอริยิ้มอย่างภูมิใจ เธอฝันมาตลอดว่าถ้าหากมีดาบเป็นของตนเองก็อยากจะตั้งชื่อนี้ให้
“ตอนเด็กคงชอบเพ้อฝันพอตัวเลยสินะ”
“ถ้างั้นนายอยากได้ชื่ออะไรล่ะ? ชื่อแบบโบราณเหรอ?”
“เอาตามที่ชอบเถอะ ฉันไม่มีปัญหาอะไรด้วยหรอก” เสียงทุ้มตอบแบบผ่าน ๆ เด็กสาวจึงมัดมือชกตั้งชื่อโปรดให้ทันควัน และทันทีที่เอ่ยชื่อนั้น บริเวณด้ามดาบพลันถูกสลักเป็นตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นว่า ジュリオ ดั่งที่เจ้าตัวต้องการ
“ต่อจากนี้ก็ฝากตัวด้วยนะ จูลิโอ้!” เด็กสาวยิ้มแป้น มือเรียวกระชับดาบในมือแน่นราวกับของรักของหวง
“ฉันก็เช่นกัน นาโอริ...” ครั้นได้ยินอีกฝ่ายตอบกลับ ดวงตาสีซากุระเบิกกว้างคิ้วเรียวขมวดเข้าหากันทันควัน
“ฉันยังไม่ได้บอกชื่อของตัวเองเลยนะ…นายรู้ได้ยังไง?”
“ฉันคง...ไปได้ยินชื่อมาจากสักที่ล่ะมั้งเพราะชื่อเธอมันแปลกกว่าชาวบ้านเขามาก” น้ำเสียงนั้นแสดงความไม่มั่นใจออกมา แต่เด็กสาวก็ไม่ได้สนใจอะไรมากเพราะคิดว่าคงเป็นผลจากสัญญาชื่อที่ทำไว้
เจ้าตัวยอมรับเรื่องที่ชื่อแปลกกว่าคนอื่นเขา คำว่า นาโอริ (なおり) มีความหมายว่า ‘รักษา’ เธอได้ชื่อนี้มาเพราะตอนที่ครอบครัวแยกทางกัน มารดาก็มีเธอเป็นดั่งยารักษาใจให้อยู่มาจนถึงทุกวันนี้ นาโอริจึงชอบมันมาก ไม่ว่าใครจะถามถึงเหตุผลเธอมักจะตอบด้วยความภูมิใจทุกครั้งไป
.
.
.
เวลาก็ล่วงเลยไปจนถึงช่วงบ่าย นาโอริได้รู้ว่าดาบของซากินั้นเป็นดวงจิตของหญิงสาวซึ่งตั้งชื่อให้ว่า ‘จิโยะ’ บุคลิกเธอช่างต่างกับจูลิโอ้ราวฟ้ากับเหว เธอช่างเรียบร้อยและนุ่มนวลดั่งดอกไม้ ไม่เหมือนคู่หูของเด็กสาวที่กวนบาทาได้ตลอดเวลา
ต่อมาอาจารย์สาวได้อธิบายระบบของการเรียนว่าจะแบ่งเป็นช่วงเช้าและบ่าย โดยช่วงเช้าจะเรียนเรื่องทฤษฎีการต่อสู้และวิชาทั่วไป ส่วนช่วงบ่ายจะเป็นวิชาปฏิบัติ เสริมทักษะการต่อสู้และการป้องกันตัว รวมถึงเรียนศาสตร์การใช้อาวุธด้วย
ซาวาเบะได้กล่าวว่าในการเรียนปฏิบัติจะมีการสอบย่อยไปในแต่ละครั้ง ส่วนการสอบใหญ่นั้นจะต่างจากโรงเรียนทั่วไปคือการปลดผนึกดาบของตนให้กลายเป็นดาบจริงให้ได้ หากใครทำได้จะได้รับการันตีเรียนจบจากที่นี่อย่างแน่นอน ฟังแล้วถึงกับเหงื่อตกเพราะการจะปลดผนึกดาบใช่ว่าฝึก ๆ ไปแล้วจะได้เลย มันขึ้นอยู่กับผู้ใช้และอาวุธด้วย เมื่อสัมผัสทั้งห้าประสานกับดวงจิตของดาบก็จะสร้างใบมีดที่คมกริบสามารถตัดขาดทุกสิ่งจนกลายเป็นดาบที่ไม่สามารถหักได้ง่ายๆ
ในชั่วโมงปฏิบัติครั้งแรกของภาคเรียนอาจารย์สาวได้เรียกรวมตัวนักเรียนห้องของนาโอริทุกคนมาที่โรงยิมซึ่งมีทั้งอุปกรณ์ป้องกัน เบาะรอง หรือแม้แต่อุปกรณ์ปฐมพยาบาลเตรียมพร้อม
“การจะเป็นนักดาบที่เก่งกาจได้ พวกเธอต้องรู้จักทักษะการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าและการควบคุมสติของตัวเองไม่ให้เตลิดกลางการต่อสู้ จึงจำเป็นที่ต้องเปิดหูเปิดตาและรับรู้สิ่งรอบตัวให้หมดจด”
“เพราะฉะนั้น วันนี้จะเป็นการฝึกประสาทสัมผัสทั้งห้าของพวกเธอ” อาจารย์สาวเอ่ยพลางหยิบดาบไม้ที่ไม่มีดวงจิตขึ้นมา
“ขออาสาสมัครออกมาสู้กับฉันคนหนึ่ง” ซาวาเบะได้ความเงียบเป็นคำตอบ ไม่มีใครกล้าเสนอตัวออกไปเพราะมันก็เท่ากับว่าเป็นการออกไปตายชัด ๆ
“พอดีว่าฉันมันความอดทนต่ำ ถ้าไม่ออกมาแม่จะฟาดให้หมดเลย” เหล่านักเรียนยิ่งลนลานเข้าไปใหญ่ ถ้าหากไม่มีใครออกไปคงโดนดีแน่ คิดเช่นนั้นนาโอริจึงตัดสินใจจะเสนอตัว ทว่าดันถูกตัดหน้าไปด้วยเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนเงียบอยู่นาน
“ผมเสนอตัวครับ” เสียงเรียบดึงความสนใจจากเหล่านักเรียนให้หันไปมอง เจ้าตัวค่อยเดินออกมาประจันหน้ากับซาวาเบะ ใบหน้าหล่อเหลาไม่แสดงความหวั่นกลัวแต่อย่างใด และเป็นหญิงสาวที่ยิ้มอย่างพอใจก่อนจะชี้ปลายดาบมาที่เด็กหนุ่ม
“ดี...”
“พร้อมแล้วก็เข้ามาได้เลย”
To be continue....
つづく、psrpowder