ดวงจิตที่ผนึกในดาบคือวิญญาณของนักดาบผู้เสียสละอย่างกล้าหาญ แต่ดาบของเธอกลับต่างออกไป มันซ่อนความพิเศษบางอย่างที่นำพาโชคชะตาหวนคืนสู่เธออีกครั้ง...ขอบคุณที่ให้ฉันได้เคียงข้างเธอนะ คู่หู

7 Samurai - ตอนที่6 สายสัมพันธ์ใหม่(1) โดย psrpowder @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,แอคชั่น,รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,ซอฟท์ไซไฟ,พล็อตสร้างกระแส,7Samurai ,ไม่ฮาเร็ม,ตัวเอกหญิง ,ดาบพูดได้,ญี่ปุ่น,แอคชั่น,รักวัยรุ่น,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

7 Samurai

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,แอคชั่น,รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ซอฟท์ไซไฟ,พล็อตสร้างกระแส,7Samurai ,ไม่ฮาเร็ม,ตัวเอกหญิง ,ดาบพูดได้,ญี่ปุ่น,แอคชั่น,รักวัยรุ่น,แฟนตาซี

รายละเอียด

7 Samurai โดย psrpowder  @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ดวงจิตที่ผนึกในดาบคือวิญญาณของนักดาบผู้เสียสละอย่างกล้าหาญ แต่ดาบของเธอกลับต่างออกไป มันซ่อนความพิเศษบางอย่างที่นำพาโชคชะตาหวนคืนสู่เธออีกครั้ง...ขอบคุณที่ให้ฉันได้เคียงข้างเธอนะ คู่หู

ผู้แต่ง

psrpowder

เรื่องย่อ


นิยายเรื่องนี้จะอัพ ทุกวัน ศุกร์และเสาร์ เวลา 19.00 น. - 19.30 น. 


และอาทิตย์ เวลา 18.30 น.


จะพยายามลงให้ต่อเนื่องที่สุดเพื่อนักอ่านทุกท่านนะคะ :>


**เชิญชวนมาติดตามกันได้ที่ Tiktok และ Bluesky จะอัพเดตเรื่อย ๆ ค่ะ**


ปุกาศ ๆ บัดนี้เรามี E-book แล้วนะจ๊ะ! 


ตอนนี้เล่ม 3 กำลังจัดโปรลด50% อยู่น้าา ตั้งแต่ 21 ม.ค. - 4 ก.พ. 68!!!!

ใครสนใจไปส่องกันได้เลยน้าา <3

*** ที่ : mebmarket ครับโผม! *** 



เนื่องจากเป็นนิยายเรื่องแรกที่เขียนจริงจังของนักเขียนฝึกหัด (เพื่อต่อยอดความฝันอยากทำอาชีพนักเขียนค่ะ) ขอฝากนักอ่านใจดีทุกท่านติชม แนะนำให้ไรท์ฝึกหัดคนนี้ได้นำไปปรับใช้ในเรื่องต่อไปด้วยนะคะ จะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็น้อมรับและปรับแก้ค่ะ

หรือถ้าไม่ชอบคอมเมนท์ก็กดใจให้กันได้นะคะ กำลังใจชั้นยอดของเราเลย


กราบขอบพระคุณล่วงหน้านะคะ^^


================ เกริ่นแนวเรื่องกันซะหน่อย =================


เรื่อง 7Samurai (ถ้าสงสัยว่าทำไมชื่อนี้ คงบอกได้แค่ว่าเป็นความเบียวของไรท์เองแหละค่ะ ฮ่า)


เป็นแนวแฟนตาซี ฟิลชีวิตประจำวันในประเทศญี่ปุ่นยุคอนาคตปี3000 แต่เพราะกฎการแบนอาวุธปืนเลยทำให้มีสไตล์การต่อสู้แบบโบราณผสมด้วย ฟิลใช้ดาบฟันกันชิ้งๆ ยิงธนูปิ้ว ๆ หรือแม้แต่วิชานินจาก็ยกมาหมดแผง(เท่าที่ไรท์คิดออกอ่ะนะ55)

ผสมความรักแบบวัยใสน่ารักของพระนางแบบมองตาปุ๊ปก็ปิ้งกันปั๊บ! ปมดรามาความสัมพันธ์พวกเขามีประปรายให้ได้หมั่นไส้กัน ได้ลิ้มรสความหวานกันเต็มกระบุงแน่นอนค่ะ :)

แล้วก็แถมปมเรื่องชวนซึ้งใจมาด้วยนะ (คนอ่านซึ้งมั้ยไม่รู้แต่ไรท์น้ำตาหยดหลายรอบเลยค่ะ ;-;)


***คำเตือนเล็กน้อย…เรื่องนี้เป็นเรื่องยาวและนักเขียนมีแพลนเขียนแบ่งเป็น2ซีซั่น 

ปัจจุบันซีซั่น1ใกล้จะจบแล้วค่ะ สามารถอ่านกันได้จุใจแน่นวลล***


.


.

ใด ๆ มันอาจจะไม่ตามกระแส ไม่ตามตลาด แต่เราอยากลงเรื่องที่ตั้งใจสร้างให้ทุกคนได้อ่านจริง ๆ

เรื่องอาจไม่ได้หวือหวาหรือน่าตื่นเต้น แต่อยากให้จับตา จับมือ จับหูดูการเติบโตของน้อง ๆ ไปด้วยกันน้าา 


(สั้น ๆ คือ ฝากกดติดตามกันด้วยนะทุกคลล ฮืออ T T )



====== เรื่องย่อกันบ้างดีกว่า ======


***นิยายเรื่องนี้มีฉากต่อสู้และฉากความรุนแรงอื่น ๆ แทรกในบางตอน***


แต่จะมีการแจ้ง Trigger warning ก่อนเริ่มอ่านทุกครั้ง 


โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน


==============================================


ชิสึจิ นาโอริ ตัดสินใจทำตามความฝันวัยเด็ก เธอเลือกสอบเข้าที่โรงเรียนเฉพาะทางสำหรับนักดาบ และได้พบกับคู่หูซึ่งเป็นดาบไม้เล่มหนึ่งที่ต้องตาเธอตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็น เลยมอบชื่อให้ว่า จูลิโอ้ ทั้งสองต้องเริ่มชีวิตใหม่ในรั้วโรงเรียนไปด้วยกัน กระทั่งได้เจอเพื่อนร่วมห้องอย่าง โมโมเสะ ฮินาวะ เด็กหนุ่มรูปหล่อผู้มากความสามารถและเก่งกาจจนนาโอริอยากให้เขาช่วยสอนวิชาดาบให้ แต่เขากลับยื่นคำท้าต่อเธอให้เอาชนะเขาให้ได้ในงานประลองดาบ เด็กสาวจึงพยายามสุดความสามารถเพื่อชนะเขา  


เพราะการแข่งนั้นพวกนาโอริจึงถูกทาบทามให้เข้าร่วมสภานักเรียนหรือสภาเจ็ดซามูไรและได้ออกไปทำภารกิจเสี่ยงตายจนพบกับองค์ชายรัชทายาทอายุไล่เลี่ยกันที่ถูกกลุ่มทหารรับจ้างนิรนามหมายจะชิงตัวไป นาโอริเลยต้องทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเขาให้ได้ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตของตัวเอง โดยไม่ทันรู้สึกตัวว่าวินาทีแรกที่สบตาเขาหัวใจก็ไม่อาจลบภาพรอยยิ้มสุดท้ายให้จางหายได้


ทางเลือกใหม่ที่เธอเลือกจึงลงเอยที่ตำแหน่ง 'องครักษ์' ของเด็กหนุ่มสูงศักดิ์ผู้นี้เพื่อให้ได้ปกป้องเขาได้ทุกวินาทีที่หายใจ….


===== สปอยหน้าตาพระนางสักเล็กน้อย =====


ชิสึจิ นาโอริ (น้อนนาโอะ) อายุ 16 ปี

เด็กสาวม.ปลายผู้ฝันอยากเป็นนักดาบเพราะเชื่อว่าความชอบนี้มาจากพ่อที่ไม่เคยเห็นหน้าตามาก่อน เลยคิดว่าถ้าได้เดินทางเดียวกันก็จะได้เจอครอบครัวฝั่งพ่อของตัวเองก็เป็นได้ แต่ใครจะรู้…ว่าปัจจุบันเธอจะได้ความฝันใหม่อันยิ่งใหญ่ที่มาพร้อมหน้าที่อันใหญ่ยิ่ง!!!


“ขอสาบานว่าจะอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับนาย…จนกว่าจะตายจากกันไปข้าง!”


ฮิบานะ โซอิจิโร่ (น้อนโซว์) อายุ 15 ปี

เด็กหนุ่มผู้หนึ่งที่มีความลับมากมายซ่อนไว้หลังหน้ากากอันเยาว์วัยกับ…สีผม?? เพราะเรื่องราวในอดีตที่ทำร้ายเขามานับไม่ถ้วนจึงหล่อหลอมตัวตนของเขาให้เป็นคนจริงจัง สุขุมและเก่งในด้านการต่อสู้(ปกป้องชีวิตตัวเอง) แต่ยามได้อยู่ต่อหน้านาโอริ ทุกบุคลิกก็ดูจะละลายหายไปจนเหลือแค่เด็กขี้อ้อนคนหนึ่ง…กับจุดประสงค์บางอย่างในหัวใจ


“แกจะเป็นด้ายแดงแห่งโชคชะตาให้พวกเราอีกได้ไหม…เหมือนที่เธอพูดครั้งนั้น”


.

.

.


“ใครอยากเริ่มต้นความเบียวไปกับไรท์ กดอ่านตอนแรกกันเล้ย!!!”




よろしく、psrpowder


สารบัญ

7 Samurai-ตอนที่1 การเริ่มต้นใหม่,7 Samurai-ตอนที่2 คู่หู,7 Samurai-ตอนที่3 เก่งกาจ,7 Samurai-ตอนที่4 ลังเล,7 Samurai-ตอนที่5 ทดสอบ,7 Samurai-ตอนที่6 สายสัมพันธ์ใหม่(1),7 Samurai-ตอนที่7 สายสัมพันธ์ใหม่(2),7 Samurai-ตอนที่8 สายสัมพันธ์ใหม่(3),7 Samurai-ตอนที่9 สายสัมพันธ์ใหม่(4),7 Samurai-ตอนที่10 ฝึกมือ,7 Samurai-ตอนที่11 เปิดเผย,7 Samurai-ตอนที่12 ถึงเทศกาลแล้ว!,7 Samurai-ตอนที่13 แข่งคู่ที่สอง,7 Samurai-ตอนที่14 ชิงชนะเลิศ,7 Samurai-ตอนที่15 เซอร์ไพรซ์ต้อนรับ!,7 Samurai-ตอนที่16 นัดที่ไม่ได้นัด(1),7 Samurai-ตอนที่17 นัดที่ไม่ได้นัด(2),7 Samurai-ตอนที่18 นัดที่ไม่ได้นัด(3),7 Samurai-ตอนที่19 ติวหนังสือให้ทีสิ,7 Samurai-ตอนที่20 คอร์สสอนเฉพาะกิจ,7 Samurai-ตอนที่21 ชั่วโมงประวัติศาสตร์,7 Samurai-ตอนที่22 วันสอบที่ผ่านไปด้วยดี,7 Samurai-ตอนที่23 ภารกิจพิเศษ(1),7 Samurai-ตอนที่24 ภารกิจพิเศษ(2),7 Samurai-ตอนที่25 ภารกิจพิเศษ(3),7 Samurai-ตอนที่26 ภารกิจพิเศษ(4),7 Samurai-ตอนที่27 ความล้มเหลวและหนทางแก้ไข,7 Samurai-ตอนที่28 ดุจกำลังใจ,7 Samurai-ตอนที่29 ข่าวร้ายกับแผนการตีกรอบ,7 Samurai-ตอนที่30 เริ่มแผน!,7 Samurai-ตอนที่31 ฝ่าฝืน,7 Samurai-ตอนที่32 ช่วยเหลือ,7 Samurai-ตอนที่33 จิตสังหาร,7 Samurai-ตอนที่34 แลกด้วยชีวิต,7 Samurai-ตอนที่35 คำโกหกเพื่อปลอบโยน,7 Samurai-ตอนที่36 เยี่ยมไข้,7 Samurai-ตอนที่37 เรื่องราวที่อยากเล่า,7 Samurai-ตอนที่38 ความตั้งใจอันแน่วแน่,7 Samurai-ตอนที่39 ตามรอย,7 Samurai-ตอนที่40 เหตุร้ายที่เกิดไปพร้อมกัน,7 Samurai-ตอนที่41 แผลใจฝังลึก,7 Samurai-ตอนที่42 เรื่องด่วนและเรื่องร้าย,7 Samurai-ตอนที่43 ความคิดที่ไม่ได้บอก,7 Samurai-ตอนที่44 เชื่อใจ,7 Samurai-ตอนที่45 ข้ออ้างเพื่อตัวเอง,7 Samurai-ตอนที่46 แน่วแน่,7 Samurai-ตอนที่47 ไม่อยากพลาดโอกาส,7 Samurai-ตอนที่48 จิตสำนึกต่อต้าน,7 Samurai-ตอนที่49 ไม่เข้ากัน,7 Samurai-ตอนที่50 ต้นตอของอาการ,7 Samurai-ตอนที่51 นึกสงสัย,7 Samurai-ตอนที่52 คัดเลือก,7 Samurai-ตอนที่53 กลับบ้าน,7 Samurai-ตอนที่54 โลกเสมือน,7 Samurai-ตอนที่55 ผู้ร่วมทาง,7 Samurai-ตอนที่56 ตามรังควาน,7 Samurai-ตอนที่57 ผู้ร่วมทางอีกคน,7 Samurai-ตอนที่58 เหนือธารร้อนระอุ,7 Samurai-ตอนที่59 ปล่อยไว้ไม่ได้,7 Samurai-ตอนที่60 อย่าได้เหลียวแล,7 Samurai-ตอนที่61 ปรับความเข้าใจ,7 Samurai-ตอนที่62 บอกความจริง,7 Samurai-ตอนที่63 ความรู้สึกของแม่,7 Samurai-ตอนที่64 อารมณ์อ่อนไหว,7 Samurai-ตอนที่65 ก้าวแรกสู่ทางใหม่

เนื้อหา

ตอนที่6 สายสัมพันธ์ใหม่(1)

รุ่งอรุณวันใหม่แสงทองสาดไปทั่วท้องฟ้าคราม เด็กสาวที่นอนอยู่ในท่าสบายถูกปลุกด้วยเสียงนาฬิกาปลุกที่อยู่ข้างเตียง ร่างบางตื่นจากห้วงนิทราก่อนจะเอื้อมมือเรียวมาปิดมัน บัดนี้แสงทองอร่ามลอดผ่านผ้าม่านสีขาวนวลแยงหนังตาหนักให้ค่อย ๆ ยกขึ้นเผยให้เห็นดวงตาสีซากุระแวววาวสะท้อนกับแสง นาโอริดันตัวลุกจากเตียงพลางขยี้ตาเพื่อให้ตาสว่าง ก่อนจะได้ยินเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นดึงความสนใจไป

“ตื่นเช้านะวันนี้....”

“แค่กลัวตื่นสายเท่านั้นแหละเดี๋ยวซากิต้องมาลำบากทำอาหารเช้าให้อีก คราวนี้แหละฉันจะทำให้เธอบ้าง!”  เด็กสาวกำสองมือแน่น ดวงตาลุกโชนด้วยเปลวเพลิงแห่งความตั้งใจ เธอมักจะพลาดโอกาสที่จะตื่นเช้ามาทำอาหารให้รูมเมตของเธอตอนนี้ก็เป็นเวลาสองอาทิตย์แล้ว

“หึ ทำให้มันก็ดีอยู่หรอก...แต่แขนเธอจะไหวเหรอ?” จูลิโอ้ส่งเสียงหัวเราะ เด็กสาวเบิกตากว้างทันทีที่คู่หูของเธอเตือนสติ ความเจ็บที่หายไปนานแล่นแปล๊บสู่แขนอีกคราจนต้องยกแขนขึ้นมา ดูเหมือนว่ารอยช้ำจะชัดขึ้นกว่าเมื่อวานเสียอีก

“ทำไมจะไม่ไหว? รอยแค่นี้เอง”  เด็กสาวเอ่ยพลางก้มมองแขน คิ้วเรียวขมวดจนแทบเป็นโบ แต่แล้วก็ส่ายหัวไปมาพร้อมกับลุกจากเตียงนุ่มและเดินเข้าห้องน้ำไปไม่พูดไม่จา



นาโอริใช้เวลาเพียงสิบห้านาทีในการอาบน้ำรวมถึงจัดแจงแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะคว้ากระเป๋าและออกจากห้องนอนไป แต่ดันลืมที่จะหยิบคู่หูตัวแสบไปด้วยจึงชะงักฝีเท้าแล้วหันไปคว้าอาวุธศักดิ์สิทธิ์มาเหน็บเอวไว้ ดูเหมือนจูลิโอ้จะบ่นกระปอดกระแปดอยู่หน่อย ๆ แต่เด็กสาวหาได้สนใจไม่

“ดูเหมือนจะยังไม่ตื่นแหะ” ใบหน้าเรียวแนบกับประตูห้องของรูมเมตกำลังฟังเสียงการเคลื่อนไหว ทว่ากลับไร้เสียงใด เมื่อเห็นเช่นนั้นนาโอริจึงเดินไปเปิดตู้เย็นในโซนห้องครัวและหยิบวัตถุดิบออกมาเตรียมไว้ โดยมีวัตถุดิบหลักเป็นปลาซาบะ  มือเรียวเริ่มบรรจงจัดการวัตถุต่าง ๆ ปรุงรสอย่างพิถีพิถันจนส่งกลิ่นหอมกรุ่นไปทั่วห้องสีนวล 



ในระหว่างที่กำลังบรรจงทำอยู่นั้นเองเสียงลูกบิดประตูก็ดังขึ้นจากห้องด้านหลังเผยให้เห็นร่างซากิที่ยังแต่งตัวไม่เสร็จโผล่ออกมาสีหน้าเธอดูตระหนกเล็กน้อย

“นาโอะจัง ตื่นแล้วเหรอ?” นาโอริหันไปตามเสียงเรียก เด็กสาวส่งยิ้มหวานให้เพื่อน

“รีบแต่งตัวล่ะอาหารจะเสร็จแล้ว” เสียงหวานเอ่ย ซากิที่ได้ยินเช่นนั้นจึงรีบกลับเข้าห้องไปทันที ประมาณห้านาทีต่อมาเด็กสาวก็ออกจากห้องมาด้วยชุดยูนิฟอร์มสีแดงทับทิม พอดีกับนาโอริที่กำลังจัดวางอาหารบนโต๊ะอยู่ ร่างเล็กจึงเข้าไปช่วยจนในที่สุดเมนูยามเช้าอย่างซาบะย่างเกลือก็พร้อมให้รับประทานแล้ว!

“ทานแล้วนะคะ!” สองเสียงประสานกันพร้อมเพรียงก่อนจะลงมือรับประทาน คำแรกที่เข้าปากของซากิไปทำให้เธอถึงกับอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้นเช่นเดียวกับดวงตาที่ทอประกาย ทำเอานาโอริกะพริบตาปริบ ๆ ในทีแรกเธอก็ไม่มั่นใจในฝีมือทำอาหารสักเท่าไหร่แต่ดูจากปฏิกิริยาอีกฝ่ายคงสบายใจได้แล้วล่ะ

ทั้งสองเพลิดเพลินกับมื้ออาหารเช้า ตอนนี้นาโอริรู้สึกว่าชักอยากจะตื่นมาทำอาหารให้เพื่อนสาวบ่อย ๆ เสียแล้วสิ เพราะเวลาเห็นสีหน้าเบิกบานของซากิมันทำให้รู้สึกดีอย่างน่าประหลาด

“นาโอะจังแขนเป็นยังไงบ้าง?”

“ดูเหมือนรอยมันจะชัดกว่าเดิมนะ” เด็กสาวถลกแขนเสื้อและลูบที่รอยช้ำเบา ๆ ก่อนจะเป็นซากิที่ลุกจากเก้าอี้ไปหยิบตลับยามาทาให้

“พกติดไว้ก่อนนะ ถ้ารู้สึกเจ็บก็ค่อยทาก็ได้จ้ะ” ว่าแล้วเธอจึงส่งตลับยาให้นาโอริ คนรับของมาถึงกับหลุดขำพรืดกับท่าทางเอาใจใส่เหมือนแม่ของเพื่อนสาว จนเจ้าตัวได้แต่พองแก้มและบ่นอุบอิบแต่เหมือนว่าเธอจะค่อนข้างพอใจกับบทบาทนะ

“เอาล่ะได้เวลาไปแล้ว” แขนเรียวยกขึ้นมาดูนาฬิกาข้อมือเรือนสวย บัดนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงพอดียังมีเวลาเหลือเฟือกว่าจะเริ่มวิชาเรียนแต่การไปถึงก่อนก็สบายใจไปเปลาะหนึ่ง   



เมื่อทั้งคู่พร้อมจึงลงจากหอพักและมุ่งหน้าสู่ตึกเรียนสูง ระหว่างทางดวงตาสีซากุระเหลือบมองไปยังทางเข้าของหอฝั่งชาย ดูเหมือนเธอจะยังคิดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานและต้องขอบคุณซากิที่ทำให้ความกลัวของเธอลดลงบ้าง แต่จะสามารถทำให้มันหายไปเลยได้หรือไม่นั้นเจ้าตัวก็ไม่รู้ได้



ณ ตึกเรียนสูงตระหง่านเด็กสาวทั้งสองมุ่งตรงไปสู่ห้องเรียน บัดนี้มีคนอยู่ในห้องแค่หยิบมือเท่านั้นและดูเหมือนว่าฮินาวะยังมาไม่ถึงเช่นกัน 

“นาโอะจังอย่าลืมไปหยิบใบสมัครนะ” เสียงหวานช่วยเตือนความจำของนาโอริ ว่าแล้วเธอจึงเดินไปยังโต๊ะของอาจารย์ซึ่งเคยมีเอกสารกองสูงตั้งอยู่ บัดนี้มันลดจำนวนลงเรียกว่าครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว 

“มีคนสมัครเยอะเหมือนกันแหะ”



ครืด



ไม่ทันไรเสียงประตูเลื่อนก็ดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงของคนที่นาโอริมองหาอยู่เดินเข้ามาภายในห้องเรียน สายตาสบกันโดยบังเอิญแต่เด็กหนุ่มกลับหลบตาทันทีก่อนจะเดินไปนั่งที่นั่งของตนซึ่งห่างจากที่นั่งของพวกนาโอริไปสองแถว  เด็กสาวที่เห็นท่าทางของอีกฝ่ายพลันรู้สึกขัดใจแปลก ๆ จึงตัดสินใจก้าวไปหาฮินาวะและหยุดตรงเบื้องหน้าโต๊ะของเขา

“นี่...”  เด็กสาวยิ้มกริ่มก่อนจะเอ่ยออกไป

“ฉันรับคำท้าของนาย”  คนตรงหน้าเมื่อเห็นเอกสารตรงหน้าถึงกับตาเบิกกว้าง เขาไม่ทันคิดว่าสีหน้าของเขาจะออกชัดเจนขนาดไหน ดวงตาสีแดงเลือดจึงเบี่ยงสายตาไปทางอื่น

“งั้นเหรอ? โอเค”  พูดจบเด็กหนุ่มยกหนังสือนวนิยายที่อ่านค้างไว้ขึ้นมาอ่านต่ออย่างไม่ยี่หระจนนาโอริเบ้ปากกับท่าทีไม่สนใจสิ่งใดของเขา

“พูดแค่นี้? ฉันอุตส่าห์รวบรวมความกล้าที่จะลงสมัครแต่นายกลับพูดประโยคเดียวอ่ะนะ?!” 

“อ่าห้ะ แล้วจะให้ฉันพูดว่า เธอมันกล้าหาญมากนะที่กล้ามาสู้กับฉัน แต่ขอโทษนะเธอไม่มีทางชนะฉันผู้นี้หรอก ฮ่า ฮ่า ฮ่า แบบนี้เหรอ?” 

“หา นายอายุเท่าไหร่ไม่ทราบ”

“สิบหกปีถ้วน มีปัญหาหรือไง?” เด็กสาวกัดฟันกรอดพยายามจะเถียงกลับแต่ก็ถูกเพื่อนสาวคนสนิทดึงแขนไว้ได้ทัน

“ร เรากลับไปนั่งที่เถอะนาโอะจัง จะได้เขียนใบสมัครด้วย” ซากิยิ้มแห้งพลางพยายามฝืนแรงของนาโอริไว้สุดกำลัง ท้ายที่สุดนาโอริจึงยอมตามซากิกลับไปโดยไม่ลืมที่จะแลบลิ้นปลิ้นตาใส่คู่อริของตน คนถูกยั่วโมโหหาได้มีสีหน้าหงุดหงิดไม่ เพียงแต่ทอดสายตาที่มองร่างของสองสาวอย่างเลื่อนลอยก็เท่านั้น

.

.

.

เวลาล่วงเลยไปจนถึงช่วงเย็นในคาบฝึกปฏิบัติ ดูเหมือนวันนี้เหล่านักเรียนจะได้ฝึกกันเองแบบอิสระ แน่นอนว่าสองสาวเพื่อนสนิทก็ได้เริ่มกระบวนการฝึกตั้งรับและการป้องกันสูตรฉบับโฮชิ ซากิที่เจ้าตัวจะเป็นผู้โจมตีและนาโอริต้องคอยรับดาบของเธอให้ได้ เด็กสาวเรือนผมสีเปลือกไม้ล้มตัวลงนอนแผ่กับพื้นไม้ด้วยสภาพเหงื่อท่วมตัว หากสามารถหลับตรงนี้ได้เธอคงจะทำไปแล้วเพราะครูฝึกเฉพาะกิจของเธอไม่ปรานีแม้แต่น้อยผิดกับหน้าตาที่จิ้มลิ้มนั่นเลย ให้ตายสิ 

“เฮ้อ ไม่ผอมก็ให้มันรู้กันไปเถอะ” นาโอริหอบหายใจตัวโยน

“ถ้าจะเอาชนะโมโมเสะคุงให้ได้นาโอะจังก็ต้องฝึกมากกว่านี้นะ”  เสียงหวานลอยมาเข้าหูเรียกความสนใจ ก่อนจะมีมือเรียวยื่นกระบอกน้ำมาบดบังดวงตาคู่สวย เด็กสาวเอื้อมมือไปรับไว้และกระดกมันเข้าไปหลายอึก

“จะว่าไปเธอก็ฝึกโหดเหมือนกันนะซากิ เห็นเรียบร้อยแบบนี้”

“ก็นาโอะจังจะต้องสู้กับตัวท้อปของโรงเรียนนะ แค่นี้ยังน้อยเลย” ซากิเบ้ปากพลางมองเพื่อนของตนกระดกน้ำเป็นรอบที่สอง แม้จะมีบ่นอุบอิบตลอดเวลาแต่ซากิก็รู้ว่าอีกฝ่ายพยายามฝึกแค่ไหน ถึงจะพังไม่เป็นท่าหรือไม่คืบหน้าบ้างแต่ใครจะรู้ล่ะถึงเวลาจริง ๆ มันอาจจะผิดคาดก็ได้

แปะ!

เสียงปรบมือดังก้องของอาจารย์สาวเรียกความสนใจจากเหล่านักเรียน ดวงตาคมกวาดมองลูกศิษย์ที่ลงไปกองกับพื้นหลายคนอย่างไม่ยี่หระก่อนจะเอ่ยต่อไป

“เหนื่อยหน่อยนะทุกคน แต่เดี๋ยวก็จะได้พักกันเต็มที่แล้วล่ะเพราะสุดสัปดาห์นี้ทางโรงเรียนจ้ะให้พวกเธอกลับบ้านได้ ยังไงก็..”

“เย้!!”  เสียงร้องด้วยความยินดีของเด็ก ๆ ดังกลบประโยคของผู้เป็นอาจารย์เสียสิ้น หญิงสาวได้แต่ถอนหายใจพร้อมกับยกฝักดาบสีสวยขึ้นมาและกระแทกมันลงกับพื้นไม้อย่างจัง

ปึง!

ทุกอย่างเงียบเป็นเป่าสากจนได้ยินแต่เสียงฝักดาบที่กระทบไปมาเมื่อเก็บเข้าที่ หญิงสาวกระแอมหนึ่งครั้งก่อนจะเอ่ยประโยคที่ค้างเอาไว้

“ยังไงก็ใช้เวลานี้ให้คุ้มค่าล่ะ อีกไม่นานก็จะถึงกิจกรรมประลองดาบแล้วพวกเธอคงไม่อยากเสียเวลาซ้อมดาบไปกับวันหยุดธรรมดา ๆ ใช่ไหมล่ะ” เหล่านักเรียนตอบรับเป็นเสียงเดียว เมื่อเห็นเช่นนั้นซาวาเบะจึงปล่อยให้พวกเขาแยกย้ายกันกลับไปพักผ่อน ไม่นานเสียงเจี๊ยวจ๊าวในโรงยิมจึงเริ่มเบาลงเพราะเหลือเพียงไม่กี่คนที่ยังคงอยู่ ในนั้นก็มีสองสาวเพื่อนสนิทรวมอยู่ด้วย นัยน์ตาสีซากุระกลอกไปซ้ายทีขวาทีก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่และหันกลับไปพูดกับซากิเกี่ยวกับเรื่องหนึ่งที่ผุดขึ้นมาในความคิดทันทีที่ได้ยินว่า ‘วันหยุด’ 

“เราไปเที่ยวกันไหม!” คนถูกถามละสายตาจากกระเป๋าสัมภาระตรงหน้าไปหาเพื่อนสาวซึ่งปรากฏประกายระยิบระยับราวกับเด็กก่อนจะเอียงคอน้อย ๆให้อีกฝ่าย

“ต แต่ว่าเรามีนัดซ้อมดาบกันนี่นา”

“โธ่ ได้หยุดทั้งทีก็ขอหน่อยแล้วกันน่าพวกเรานัดว่าจะซ้อมทั้งเสาร์อาทิตย์ไม่ใช่เหรอ ขอเว้นเสาร์ไว้วันนึง นะ ๆ” มือเรียวประกบเข้าหากันและคุกเข่าลงพยายามอ้อนวอนขอโอกาสให้ได้ออกไปรื่นระเริงจนซากิได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ 

ในท้ายที่สุดเธอก็ยอมตกลงแต่จะยอมให้แค่ครั้งนี้เพียงครั้งเดียวเพราะงานประลองก็ใกล้เข้ามาแล้วเดี๋ยวจะไม่ทันการณ์ นาโอริที่ได้ยินเช่นนั้นถึงกับโผเข้ากอดเพื่อนสาวทันที ก่อนทั้งสองจะพากันกลับไปพักผ่อนและทำกิจวัตรช่วงเย็นตามปกติ แน่นอนว่าคนคิดแผนการไม่ลืมที่จะวางแผนการเที่ยวในวันสุดสัปดาห์ ทว่ากลับเป็นเด็กสาวผู้เรียบร้อยอย่างซากิที่งัดเอาใบปลิวของสถานที่ต่าง ๆ มาให้เลือก

“โอ้ พระเจ้า...” นาโอริเบิกตากว้าง

“ฉ ฉันก็แค่รับมาจากพี่ ๆ ที่เขายืนแจกเท่านั้นแหละ ไม่ได้ไปทั้งหมดนี่หรอกนะ”

“ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ ฮิ ๆ” นาโอริวาดยิ้มกริ่ม ก่อนจะโดนเพื่อนสาวพองแก้มใส่และชวนให้เลือกร้านอาหารต่อไป ค่ำคืนที่ดวงดาวพร่างฟ้านั้นจึงเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ รอยยิ้มเบิกบานกับเส้นด้ายแห่งสายสัมพันธ์ที่ถักทอแน่นขึ้นซึ่งจะกลายเป็นเชือกที่คงทนต่อพายุ ลมฝนและคำโกหกทั้งปวง



เวลาเดียวกัน ณ หอฝั่งชาย ฮินาวะที่โดยสารลิฟต์ของหอพักและเดินมาจนถึงห้องของตนในชั้นสาม ขณะตั้งท่าจะเปิดประตูห้องไม่ทันไรประตูที่ล็อกอยู่ก็เปิดออก เด็กหนุ่มผู้มีเรือนผมสีฟ้าครามที่รวบเป็นหางม้าเข้ากันกับนัยน์ตาสีเทาหม่นถูกทับด้วยแว่นตากรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้าออกมาต้อนรับอย่างเป็นมิตรในชุดลำลองสบายตัว

“ยินดีต้อนรับกลับ”  เขาพูดพลางปิดประตูหลังจากรูมเมตเดินเข้าห้องมาแล้ว  ฮินาวะทิ้งสัมภาระลงบนโซฟาตัวใหญ่ก่อนจะทิ้งตัวลงตาม  

“กินอะไรมาหรือยัง? ฉันซื้อมาเผื่อไว้ด้วย แต่ไม่คิดว่านายจะกลับเย็นขนาดนี้”  เขาว่าพลางหยิบถุงพลาสติกที่มีข้าวกล่องอยู่จากเคาน์เตอร์ครัวมาวางบนโต๊ะ  

“ขอบใจนะ ไคโตะ”  เด็กหนุ่มเอ่ยก่อนจะหยิบข้าวกล่องมานั่งรับประทาน  ทว่าเพื่อนของเขากลับสังเกตเห็นบางอย่างจึงเอ่ยถามเจ้าตัวไป

“เป็นอะไรหรือเปล่า? สีหน้าดูหงุดหงิดชอบกล” คนถูกถามไม่ตอบสิ่งใด เขายังคงคีบอาหารเข้าปากอย่างไม่สนใจจนอีกฝ่ายได้แต่เลิกคิ้วและถอนหายใจ

“มีจริง ๆ สินะ...เพราะตั้งแต่ฉันเป็นเพื่อนกับนายมาเนี่ย เวลาเงียบทีไรเป็นมีเรื่องให้กลุ้มทุกที ใช่ไหม?” 

“นายนี่ดูฉันออกหมดจริงนะ”

“ของมันแน่อยู่แล้วเป็นเพื่อนกันมาตั้งกี่ปีเล่า” ไคโตะดันแว่นตัวเองเล็กน้อย ก่อนจะซักถามเพื่อนต่อไป

“เล่ามาสิ เก็บไว้คนเดียวเดี๋ยวก็เป็นใบ้พอดีปกติก็ไม่ค่อยจะพูดอยู่แล้ว หรือจะให้ดาบของนายพูดแทนก็ได้นะ” 

“เงียบน่า” เพื่อนหนุ่มหัวเราะร่าก่อนจะนั่งบนโซฟาตัวเดียวกัน ใช้เวลาสักพักกว่าอีกฝ่ายจะยอมเล่าออกมาว่าเรื่องที่ก่อกวนใจของเขาอยู่ตลอดก็คือเรื่องของเพื่อนร่วมห้องที่ชื่อ ชิสึจิ นาโอริ และเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทั้งเรื่องที่ถูกขอร้องให้สอนและลงเอยที่เด็กสาวดันรับคำท้าทายเขาเข้าจริง ๆ

“อย่างนี้เอง...นายก็แค่อยากไล่เธอไปห่าง ๆ แต่กลายเป็นว่าหาเรื่องใส่ตัวงั้นสินะ” ไคโตะกล่าวพลางลูบคางเบา ๆ  

“ใครจะไปคิดล่ะว่าจะมีคนกล้ารับจริง ๆ ที่ผ่านมาไม่เคยเป็นอย่างนี้เลย”

“แต่เธอเป็นมือใหม่ไม่ใช่เหรอ สำหรับตัวท้อปอย่างนายน่ะสบายอยู่แล้ว”

“มันก็ใช่...แต่รู้สึกแปลกยังไงก็ไม่รู้” ฮินาวะขมวดคิ้วจนแทบเป็นโบ แม้ว่าอีกฝ่ายจะจ้องมองเขาด้วยสายตาคาดคั้นคำตอบแต่เด็กหนุ่มก็จนปัญญาจะอธิบายจนได้แต่กุมขมับอยู่อย่างนั้น

“อย่าบอกนะว่า...พ่อสุภาพบุรุษดันไปทำร้ายจิตใจใครเข้าเหรอ?”

“นายมันผู้มาก่อนกาลหรือไง”

“มันจะมีสักกี่เรื่องที่ทำนายนั่งกุมขมับแบบนี้ได้” เด็กหนุ่มฉีกยิ้มกว้าง

“เฮ้อ...ฉันคิดว่าตัวเองพูดแรงเกินไปหรือเปล่า คือตอนนั้นสีหน้ายัยนั่นเปลี่ยนไปเลย” ดวงตาสีแดงเลือดหลุบต่ำพลางขยี้ผมตัวเองจนยุ่งเหยิงก่อนจะรู้สึกถึงสัมผัสที่แผ่นหลังกว้าง

“อาจจะไม่มีอะไรก็ได้ คิดมากน่า”

“แต่ฉันรู้สึกว่ายัยนั่นกำลัง...กลัว?” ไคโตะเลิกคิ้วสูง ทว่าอีกฝ่ายดูจะจมปลักอยู่ในความคิดของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยเสียแล้ว

“หรือว่าไม่ใช่...เอ๊ะ หรือว่ามันจะ” 

“โอ๊ย พอ ๆ” ฮินาวะชะงักพลันหันขวับมายังเพื่อนหนุ่มที่เบ้ปากใส่เขา ร่างสูงในชุดลำลองยืนขึ้นจากโซฟานุ่มและกำลังจะเดินไปห้องของตนแต่ไม่วายหันกลับมาและทิ้งข้อความเล็กน้อยไว้ให้ฮินาวะ

“ถ้าคิดว่าผิดก็แค่ขอโทษ ไอ้เพื่อนรัก ฉันไปล่ะ” และแล้วเขาก็หายเข้าไปในห้องนอน ปล่อยให้เพื่อนของตนพึมพำคำพูดของเขาซ้ำไปซ้ำมา



ท้ายที่สุดค่ำคืนที่ดาวพร่างฟ้าก็กลับมาเงียบสงบอีกครา....



to be continue…



つづく、psrpowder