ดวงจิตที่ผนึกในดาบคือวิญญาณของนักดาบผู้เสียสละอย่างกล้าหาญ แต่ดาบของเธอกลับต่างออกไป มันซ่อนความพิเศษบางอย่างที่นำพาโชคชะตาหวนคืนสู่เธออีกครั้ง...ขอบคุณที่ให้ฉันได้เคียงข้างเธอนะ คู่หู

7 Samurai - ตอนที่11 เปิดเผย โดย psrpowder @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,แอคชั่น,รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,ซอฟท์ไซไฟ,พล็อตสร้างกระแส,7Samurai ,ไม่ฮาเร็ม,ตัวเอกหญิง ,ดาบพูดได้,ญี่ปุ่น,แอคชั่น,รักวัยรุ่น,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

7 Samurai

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,แอคชั่น,รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ซอฟท์ไซไฟ,พล็อตสร้างกระแส,7Samurai ,ไม่ฮาเร็ม,ตัวเอกหญิง ,ดาบพูดได้,ญี่ปุ่น,แอคชั่น,รักวัยรุ่น,แฟนตาซี

รายละเอียด

7 Samurai โดย psrpowder  @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ดวงจิตที่ผนึกในดาบคือวิญญาณของนักดาบผู้เสียสละอย่างกล้าหาญ แต่ดาบของเธอกลับต่างออกไป มันซ่อนความพิเศษบางอย่างที่นำพาโชคชะตาหวนคืนสู่เธออีกครั้ง...ขอบคุณที่ให้ฉันได้เคียงข้างเธอนะ คู่หู

ผู้แต่ง

psrpowder

เรื่องย่อ


นิยายเรื่องนี้จะอัพ ทุกวัน ศุกร์และเสาร์ เวลา 19.00 น. - 19.30 น. 


และอาทิตย์ เวลา 18.30 น.


จะพยายามลงให้ต่อเนื่องที่สุดเพื่อนักอ่านทุกท่านนะคะ :>


**เชิญชวนมาติดตามกันได้ที่ Tiktok และ Bluesky จะอัพเดตเรื่อย ๆ ค่ะ**


ปุกาศ ๆ บัดนี้เรามี E-book แล้วนะจ๊ะ! 


ตอนนี้เล่ม 3 กำลังจัดโปรลด50% อยู่น้าา ตั้งแต่ 21 ม.ค. - 4 ก.พ. 68!!!!

ใครสนใจไปส่องกันได้เลยน้าา <3

*** ที่ : mebmarket ครับโผม! *** 



เนื่องจากเป็นนิยายเรื่องแรกที่เขียนจริงจังของนักเขียนฝึกหัด (เพื่อต่อยอดความฝันอยากทำอาชีพนักเขียนค่ะ) ขอฝากนักอ่านใจดีทุกท่านติชม แนะนำให้ไรท์ฝึกหัดคนนี้ได้นำไปปรับใช้ในเรื่องต่อไปด้วยนะคะ จะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็น้อมรับและปรับแก้ค่ะ

หรือถ้าไม่ชอบคอมเมนท์ก็กดใจให้กันได้นะคะ กำลังใจชั้นยอดของเราเลย


กราบขอบพระคุณล่วงหน้านะคะ^^


================ เกริ่นแนวเรื่องกันซะหน่อย =================


เรื่อง 7Samurai (ถ้าสงสัยว่าทำไมชื่อนี้ คงบอกได้แค่ว่าเป็นความเบียวของไรท์เองแหละค่ะ ฮ่า)


เป็นแนวแฟนตาซี ฟิลชีวิตประจำวันในประเทศญี่ปุ่นยุคอนาคตปี3000 แต่เพราะกฎการแบนอาวุธปืนเลยทำให้มีสไตล์การต่อสู้แบบโบราณผสมด้วย ฟิลใช้ดาบฟันกันชิ้งๆ ยิงธนูปิ้ว ๆ หรือแม้แต่วิชานินจาก็ยกมาหมดแผง(เท่าที่ไรท์คิดออกอ่ะนะ55)

ผสมความรักแบบวัยใสน่ารักของพระนางแบบมองตาปุ๊ปก็ปิ้งกันปั๊บ! ปมดรามาความสัมพันธ์พวกเขามีประปรายให้ได้หมั่นไส้กัน ได้ลิ้มรสความหวานกันเต็มกระบุงแน่นอนค่ะ :)

แล้วก็แถมปมเรื่องชวนซึ้งใจมาด้วยนะ (คนอ่านซึ้งมั้ยไม่รู้แต่ไรท์น้ำตาหยดหลายรอบเลยค่ะ ;-;)


***คำเตือนเล็กน้อย…เรื่องนี้เป็นเรื่องยาวและนักเขียนมีแพลนเขียนแบ่งเป็น2ซีซั่น 

ปัจจุบันซีซั่น1ใกล้จะจบแล้วค่ะ สามารถอ่านกันได้จุใจแน่นวลล***


.


.

ใด ๆ มันอาจจะไม่ตามกระแส ไม่ตามตลาด แต่เราอยากลงเรื่องที่ตั้งใจสร้างให้ทุกคนได้อ่านจริง ๆ

เรื่องอาจไม่ได้หวือหวาหรือน่าตื่นเต้น แต่อยากให้จับตา จับมือ จับหูดูการเติบโตของน้อง ๆ ไปด้วยกันน้าา 


(สั้น ๆ คือ ฝากกดติดตามกันด้วยนะทุกคลล ฮืออ T T )



====== เรื่องย่อกันบ้างดีกว่า ======


***นิยายเรื่องนี้มีฉากต่อสู้และฉากความรุนแรงอื่น ๆ แทรกในบางตอน***


แต่จะมีการแจ้ง Trigger warning ก่อนเริ่มอ่านทุกครั้ง 


โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน


==============================================


ชิสึจิ นาโอริ ตัดสินใจทำตามความฝันวัยเด็ก เธอเลือกสอบเข้าที่โรงเรียนเฉพาะทางสำหรับนักดาบ และได้พบกับคู่หูซึ่งเป็นดาบไม้เล่มหนึ่งที่ต้องตาเธอตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็น เลยมอบชื่อให้ว่า จูลิโอ้ ทั้งสองต้องเริ่มชีวิตใหม่ในรั้วโรงเรียนไปด้วยกัน กระทั่งได้เจอเพื่อนร่วมห้องอย่าง โมโมเสะ ฮินาวะ เด็กหนุ่มรูปหล่อผู้มากความสามารถและเก่งกาจจนนาโอริอยากให้เขาช่วยสอนวิชาดาบให้ แต่เขากลับยื่นคำท้าต่อเธอให้เอาชนะเขาให้ได้ในงานประลองดาบ เด็กสาวจึงพยายามสุดความสามารถเพื่อชนะเขา  


เพราะการแข่งนั้นพวกนาโอริจึงถูกทาบทามให้เข้าร่วมสภานักเรียนหรือสภาเจ็ดซามูไรและได้ออกไปทำภารกิจเสี่ยงตายจนพบกับองค์ชายรัชทายาทอายุไล่เลี่ยกันที่ถูกกลุ่มทหารรับจ้างนิรนามหมายจะชิงตัวไป นาโอริเลยต้องทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเขาให้ได้ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตของตัวเอง โดยไม่ทันรู้สึกตัวว่าวินาทีแรกที่สบตาเขาหัวใจก็ไม่อาจลบภาพรอยยิ้มสุดท้ายให้จางหายได้


ทางเลือกใหม่ที่เธอเลือกจึงลงเอยที่ตำแหน่ง 'องครักษ์' ของเด็กหนุ่มสูงศักดิ์ผู้นี้เพื่อให้ได้ปกป้องเขาได้ทุกวินาทีที่หายใจ….


===== สปอยหน้าตาพระนางสักเล็กน้อย =====


ชิสึจิ นาโอริ (น้อนนาโอะ) อายุ 16 ปี

เด็กสาวม.ปลายผู้ฝันอยากเป็นนักดาบเพราะเชื่อว่าความชอบนี้มาจากพ่อที่ไม่เคยเห็นหน้าตามาก่อน เลยคิดว่าถ้าได้เดินทางเดียวกันก็จะได้เจอครอบครัวฝั่งพ่อของตัวเองก็เป็นได้ แต่ใครจะรู้…ว่าปัจจุบันเธอจะได้ความฝันใหม่อันยิ่งใหญ่ที่มาพร้อมหน้าที่อันใหญ่ยิ่ง!!!


“ขอสาบานว่าจะอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับนาย…จนกว่าจะตายจากกันไปข้าง!”


ฮิบานะ โซอิจิโร่ (น้อนโซว์) อายุ 15 ปี

เด็กหนุ่มผู้หนึ่งที่มีความลับมากมายซ่อนไว้หลังหน้ากากอันเยาว์วัยกับ…สีผม?? เพราะเรื่องราวในอดีตที่ทำร้ายเขามานับไม่ถ้วนจึงหล่อหลอมตัวตนของเขาให้เป็นคนจริงจัง สุขุมและเก่งในด้านการต่อสู้(ปกป้องชีวิตตัวเอง) แต่ยามได้อยู่ต่อหน้านาโอริ ทุกบุคลิกก็ดูจะละลายหายไปจนเหลือแค่เด็กขี้อ้อนคนหนึ่ง…กับจุดประสงค์บางอย่างในหัวใจ


“แกจะเป็นด้ายแดงแห่งโชคชะตาให้พวกเราอีกได้ไหม…เหมือนที่เธอพูดครั้งนั้น”


.

.

.


“ใครอยากเริ่มต้นความเบียวไปกับไรท์ กดอ่านตอนแรกกันเล้ย!!!”




よろしく、psrpowder


สารบัญ

7 Samurai-ตอนที่1 การเริ่มต้นใหม่,7 Samurai-ตอนที่2 คู่หู,7 Samurai-ตอนที่3 เก่งกาจ,7 Samurai-ตอนที่4 ลังเล,7 Samurai-ตอนที่5 ทดสอบ,7 Samurai-ตอนที่6 สายสัมพันธ์ใหม่(1),7 Samurai-ตอนที่7 สายสัมพันธ์ใหม่(2),7 Samurai-ตอนที่8 สายสัมพันธ์ใหม่(3),7 Samurai-ตอนที่9 สายสัมพันธ์ใหม่(4),7 Samurai-ตอนที่10 ฝึกมือ,7 Samurai-ตอนที่11 เปิดเผย,7 Samurai-ตอนที่12 ถึงเทศกาลแล้ว!,7 Samurai-ตอนที่13 แข่งคู่ที่สอง,7 Samurai-ตอนที่14 ชิงชนะเลิศ,7 Samurai-ตอนที่15 เซอร์ไพรซ์ต้อนรับ!,7 Samurai-ตอนที่16 นัดที่ไม่ได้นัด(1),7 Samurai-ตอนที่17 นัดที่ไม่ได้นัด(2),7 Samurai-ตอนที่18 นัดที่ไม่ได้นัด(3),7 Samurai-ตอนที่19 ติวหนังสือให้ทีสิ,7 Samurai-ตอนที่20 คอร์สสอนเฉพาะกิจ,7 Samurai-ตอนที่21 ชั่วโมงประวัติศาสตร์,7 Samurai-ตอนที่22 วันสอบที่ผ่านไปด้วยดี,7 Samurai-ตอนที่23 ภารกิจพิเศษ(1),7 Samurai-ตอนที่24 ภารกิจพิเศษ(2),7 Samurai-ตอนที่25 ภารกิจพิเศษ(3),7 Samurai-ตอนที่26 ภารกิจพิเศษ(4),7 Samurai-ตอนที่27 ความล้มเหลวและหนทางแก้ไข,7 Samurai-ตอนที่28 ดุจกำลังใจ,7 Samurai-ตอนที่29 ข่าวร้ายกับแผนการตีกรอบ,7 Samurai-ตอนที่30 เริ่มแผน!,7 Samurai-ตอนที่31 ฝ่าฝืน,7 Samurai-ตอนที่32 ช่วยเหลือ,7 Samurai-ตอนที่33 จิตสังหาร,7 Samurai-ตอนที่34 แลกด้วยชีวิต,7 Samurai-ตอนที่35 คำโกหกเพื่อปลอบโยน,7 Samurai-ตอนที่36 เยี่ยมไข้,7 Samurai-ตอนที่37 เรื่องราวที่อยากเล่า,7 Samurai-ตอนที่38 ความตั้งใจอันแน่วแน่,7 Samurai-ตอนที่39 ตามรอย,7 Samurai-ตอนที่40 เหตุร้ายที่เกิดไปพร้อมกัน,7 Samurai-ตอนที่41 แผลใจฝังลึก,7 Samurai-ตอนที่42 เรื่องด่วนและเรื่องร้าย,7 Samurai-ตอนที่43 ความคิดที่ไม่ได้บอก,7 Samurai-ตอนที่44 เชื่อใจ,7 Samurai-ตอนที่45 ข้ออ้างเพื่อตัวเอง,7 Samurai-ตอนที่46 แน่วแน่,7 Samurai-ตอนที่47 ไม่อยากพลาดโอกาส,7 Samurai-ตอนที่48 จิตสำนึกต่อต้าน,7 Samurai-ตอนที่49 ไม่เข้ากัน,7 Samurai-ตอนที่50 ต้นตอของอาการ,7 Samurai-ตอนที่51 นึกสงสัย,7 Samurai-ตอนที่52 คัดเลือก,7 Samurai-ตอนที่53 กลับบ้าน,7 Samurai-ตอนที่54 โลกเสมือน,7 Samurai-ตอนที่55 ผู้ร่วมทาง,7 Samurai-ตอนที่56 ตามรังควาน,7 Samurai-ตอนที่57 ผู้ร่วมทางอีกคน,7 Samurai-ตอนที่58 เหนือธารร้อนระอุ,7 Samurai-ตอนที่59 ปล่อยไว้ไม่ได้,7 Samurai-ตอนที่60 อย่าได้เหลียวแล,7 Samurai-ตอนที่61 ปรับความเข้าใจ,7 Samurai-ตอนที่62 บอกความจริง,7 Samurai-ตอนที่63 ความรู้สึกของแม่,7 Samurai-ตอนที่64 อารมณ์อ่อนไหว,7 Samurai-ตอนที่65 ก้าวแรกสู่ทางใหม่

เนื้อหา

ตอนที่11 เปิดเผย

นับเวลาถอยหลังสู่เทศกาลประลองดาบที่เผลอประเดี๋ยวเดียวก็เหลือแค่ไม่กี่วัน นาโอริและฮินาวะที่วางสัญญาเดิมพันกันเอาไว้ก็ต่างพากันฝึกปรือฝีมือของตนเองไม่น้อยหน้าใครทั้งสิ้น เมื่อพบหน้ากันเพื่อที่ฮินาวะจะได้คืนเจ้าเสก็ตบอร์ดจิ๋วให้เจ้าของ ก็ไม่วายเปิดศึกต่อล้อต่อเถียงกันราวกับเป็นกิจวัตรประจำวัน ส่วนซากิก็เป็นกรรมการอยู่ห่าง ๆ 



หากอาจารย์สาวของพวกเขาไม่เข้ามาขัดจังหวะเพื่อเริ่มคาบเรียน การโต้เถียงก็ไม่มีแววว่าจะสิ้นสุดแต่อย่างใด



เวลาเดียวกันกับที่พวกนาโอริกำลังเรียนคาบแรกอยู่นั้น ณ ห้องกระจกกว้าง ชายหญิงสองคนกำลังสนทนากันอย่างเคร่งเครียด เด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีน้ำผึ้งขมวดคิ้วจนแทบจะเป็นปม ดวงตาจับจ้องเอกสารในมือเขม็ง ซึ่งดูเหมือนจะเป็นรายชื่อของนักเรียนปีหนึ่งที่ลงแข่งขันในงานประลองดาบที่จะถึง 

“แน่ใจเหรอว่าจะมีอยู่ในกลุ่มเด็กปีหนึ่งจริง ๆ น่ะ” เสียงหวานเอ่ยอย่างเหนื่อยหน่าย พลางใช้นิ้วเรียวไล่ไปตามตัวอักษรบนเอกสาร  ครั้นได้ยินคำถามเด็กหนุ่มพลันถอนใจก่อนจะตอบอย่างไม่ยี่หระ

“ก็มีความเป็นไปได้นี่ ถึงดูจากข้อมูลแล้วก็มีน่าสนใจอยู่ไม่เยอะมากก็ตาม” 

“ฮ่า ๆ ใครมันจะไปเหมือนนายทุกคนล่ะจริงไหม?” ดวงตาสีมรกตของเด็กหนุ่มหรี่ลงอย่างมีเลศนัยก่อนจะตอบกลับไป

“เธอก็พูดเกินไป เรื่องความพยายามน่ะถ้าเทียบกันแล้วฉันแพ้เต็ม ๆ เลยล่ะ” 

“จ้า ๆ พ่อคนถ่อมตัว” 

“จะว่าไปน้องของเธอก็ลงแข่งด้วยไม่ใช่เหรอ?” คำพูดนั้นทำเอาร่างเล็กที่ยืนเท้าโต๊ะอยู่สะอึก

“อ อือ แต่เขาไม่ได้บอกฉันหรอก” เด็กสาวหลุบตาต่ำพลางเบี่ยงไปทางอื่น ทว่ากลับไม่รอดพ้นสายตาว่องไวของเด็กหนุ่มและเป็นเขาที่จุดประเด็นให้แวะไปดูพวกรุ่นน้องปีหนึ่ง จะได้ถือโอกาสไปเยี่ยมเยียนน้องชายของเธอด้วย

ว่าจบเขาพลันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดู ซึ่งบัดนี้ใกล้จะสิบนาฬิกาเป็นเวลาพักของนักเรียนปีหนึ่งพอดี แต่เสียงหวานกลับแย้งเพื่อนหนุ่มที่ตั้งท่าจะออกจากห้องทันใด

“จ จะไปตอนนี้เลยเหรอโชว์” 

“ถ้าไม่รีบไปตอนนี้ก็ต้องรอเย็นเลยนะ” ดวงตาสีเขียวมรกตหรี่ลงเล็กน้อยราวกับลองเชิงอีกฝ่าย และกลับได้ผลเกินคาด

ขณะเดียวทางฝั่งนาโอริ ทันทีที่ได้ยินเสียงกริ่งบอกเวลาพักระหว่างคาบ เด็กสาวสองเพื่อนสนิทจึงหันมาจับกลุ่มคุยกันอย่างสนุกสนาน

“เมื่อไหร่จะพักเที่ยงนะ” นาโอริเม้มริมฝีปากพลางจินตนาการถึงอาหารในเบนโตะของเธอ ซึ่งซากิเป็นคนทำไว้ให้

“นาโอะจังหิวแล้วเหรอเนี่ย?” 

“ใช้งานสมองเยอะก็หิวได้นะ” สาวเจ้าหัวเราะคิกคัก ก่อนที่หางตาจะสังเกตเห็นคู่อริของเธอ ที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาอยู่กับหนังสือ และแล้วนาโอริจึงนึกสนุกพลันลุกจากเก้าอี้ตรงดิ่งไปหาฮินาวะ

“จดบันทึกอยู่เหรอ?” แม้เด็กหนุ่มจะตอบรับแต่ปากกาลูกลื่นก็ยังคงเคลื่อนไหวบนหน้าสมุดต่อไป นาโอริเลยพยายามแกล้งปัดนิ้วผ่านหน้าเขา หวังให้เสียสมาธิทว่ากลับไร้ซึ่งผลใด ๆ ฮินาวะก็ยังคงเขียนต่อไปอยู่อย่างนั้น

“โหย สมาธิดีจัด จะเขียนอะไรไปถึงไหนเนี่ย”  

ครั้นพูดถึงขนาดนี้แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะขยับ ร่างบางจึงหวังจะแกล้งซ้ำ แต่ก็พังไม่เป็นท่าเมื่อเด็กหนุ่มจงใจปิดสมุดบันทึก พอดีกับที่นาโอริยื่นนิ้วไป

“โอ๊ย! ไม่หนีบให้ขาดไปเลยล่ะ” ฮินาวะตอบรับคำขอพลางเพิ่มแรงกดสมุดไปอีก ทำเอาสาวเจ้าร้องเสียงหลง พลางสะบัดแขนไปมาหวังจะหลุดจากการถูกหนีบ

“เธอขอเองนะ ช่วยไม่ได้” สุดท้ายฮินาวะก็ยอมแง้มสมุดออก จนนิ้วเรียวหลุดออกมาได้ คนถูกหนีบลูบคลำนิ้วตนเองที่มีรอยแดง พลันเบ้ปากมองเด็กหนุ่มอย่างหมั่นไส้ และเป็นซากิซึ่งห้ามศึกระหว่างคนสองคนพร้อมลากนาโอริกลับไปนั่งที่เดิม

“นาโอะจังไปแกล้งเขาทำไม?”

“ฉันกำลังสุมไฟอยู่” คิ้วเรียวของซากิเลิกขึ้นอย่างช่วยไม่ได้

“สุมไฟ?”

“ใช่ ฉันจะแกล้งหมอนั่นให้รำคาญ ตอนแข่งพอเห็นหน้าฉันจะได้เอาจริงไงล่ะ” นาโอริเชิดหน้าอย่างภาคภูมิ ในขณะที่เพื่อนของเธอได้แต่หัวเราะแห้ง 

“แบบนั้นมันจะยิ่งแย่กว่าเดิมหรือเปล่าน่ะ”

“ไม่หรอกน่า เห็นตานั่นโมโหแล้วสนุกดี ฮิ ๆ” นาโอริหัวเราะเจ้าเล่ห์ ก่อนจะชวนคุยเรื่องสัพเพเหระจนกว่าจะหมดเวลาพัก ท่ามกลางเสียงเจี๊ยวจ๊าวฟังไม่รู้เรื่องในห้อง แต่แล้ว...



ครืด



ทันใดนั้นประตูบานเลื่อนของห้องได้ถูกเปิดออก เสียงพูดที่ดังตีกันวุ่นวายพลันเงียบลง ทว่าวินาทีที่ผู้มาใหม่ก้าวเท้าเข้ามาปฏิกิริยาของเหล่านักเรียนหญิงถึงกับแปลกประหลาดไปตาม ๆ กัน

“นั่นมันรุ่นพี่นากามูระนี่!”

“จริงด้วย หล่อระเบิดระเบ้อมากอะ”

“ว่าแต่พวกพี่เขามาทำอะไรกันน่ะ?”



เสียงฮือฮายังไม่ทันซา มันกลับดังกระหึ่มอีกครายามใครอีกคนก้าวตามหลังเด็กหนุ่มเข้ามา ใบหน้าสวยดั่งเทพธิดาผสมกับเส้นผมสีบ๊วยแดงสยายยาวถึงกลางหลัง เข้ากันกับชุดนักเรียนสีเลือด เรียกว่าดึงดูดความสนใจของเหล่านักเรียนชายในห้องได้เป็นอย่างดี แต่ดูเหมือนจะมีคนหนึ่งที่ไม่ได้คิดเช่นนั้น

“อึก...” บัดนี้ฮินาวะแทบจะซ่อนตัวอยู่หลังสมุดเล่มบางที่เขาใช้เป็นประจำ จนเป็นจุดสังเกตของพวกนาโอริ ทำเอาสองสาวต่างมองหน้ากันฉงน

“หมอนั่นเป็นอะไรน่ะ?” นาโอริเลิกคิ้วสูง แม้แต่ซากิเองก็ดูจะมีท่าทีลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด และขณะที่กำลังจะอ้าปากถามเพื่อนสาว เสียงทุ้มลึกของรุ่นพี่หนึ่งพลันดึงความสนใจของนาโอริไปเสียก่อน

“ขอโทษที่ต้องเข้ามารบกวนน้อง ๆ นะครับ ผมเป็นรุ่นพี่ปีสาม ชื่อ นากามูระ โชโตะ ครับ”

“ส่วนฉัน โมโมเสะ ฮิเมะโกะ อยู่ปีสามเหมือนกัน ยินดีที่ได้รู้จักนะ” รอยยิ้มหวานถูกวาดบนใบหน้าสะกดใจเหล่าเด็กหนุ่มไปกว่าครึ่ง



แต่นั่นยังไม่ใช่เรื่องแปลกใจเท่ากับสิ่งที่รุ่นพี่สาวได้เอ่ยออกมา



“เดี๋ยวนะ...โมโมเสะเหรอ!?”  นาโอริร้องลั่นพลางหันมองฮินาวะซึ่งยังคงซ่อนใบหน้าอยู่หลังสมุดดังเดิม เด็กสาวตั้งจะแอบเดินไปหาเจ้าตัว ทว่าไม่ทันไรเสียงทุ้มจากโชโตะก็พลันดึงความสนใจไปอีกครั้ง

“บางคนคงรู้อยู่ก่อนแล้ว ว่าในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีงานเทศกาลการประลองดาบของเด็กปีหนึ่งจัดขึ้น ”  เขาเว้นจังหวะหายใจ ก่อนจะหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อเชิ้ตด้านใน



เหรียญตราทรงกลมสีเงินแวววับขนาดเท่าฝ่ามือ ลวดลายแกะสลักพิถีพิถันเป็นรูปดอกฮิกันบานะดอกใหญ่ตรงกลาง มองผิวเผินอาจเหมือนเหรียญตราทั่วไป แต่สำหรับบุคคลที่ได้เหยียบเข้ามาในโรงเรียนของเครือราชวงศ์แล้ว มันสามารถเป็นใบเบิกทางสู่ความฝันหรือแม้แต่เกียรติยศยิ่งใหญ่ ที่จะติดตัวไปตลอดชีวิตเลยทีเดียว

“นี่คือเหรียญตราแสดงถึงกลุ่มกรรมการสภานักเรียนของโรงเรียน หรืออีกชื่อว่า ซามูไรทั้งเจ็ดแห่งฮิบานะ ซึ่งในการประลองครั้งนี้ก็จะมีการเฟ้นหาผู้ที่จะมาเป็นหนึ่งในสมาชิก โดยพวกเราสมาชิกสภานักเรียนจะเป็นคนพิจารณาด้วยตัวเอง”

บรรยากาศหนักอึ้งแผ่ซ่านไปทั่วห้องกว้าง ด้วยน้ำเสียงและสีหน้ารวมถึงความเป็นมาของ นากามูระ โชโตะ ประธานสภานักเรียน ซึ่งเป็นที่เลื่องลือว่าเขาสามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกได้ตั้งแต่ปีแรกจากงานเทศกาลนี้เมื่อสองปีก่อน

และคำร่ำลือว่าสภาเจ็ดซามูไรนั้นเป็นกลุ่มที่เข้ายากแต่ออกง่าย ในเชิงของการคัดเลือกที่เข้มงวดที่สุด และต่อให้ผ่านเข้ามาก็ใช่ว่าจะอยู่ไปจนถึงจบชั้นปีที่สาม หากไม่ลับความสามารถให้คมกริบตลอดเวลาก็สามารถถูกปลดออกได้ง่าย ๆ เช่นกัน



ถึงขนาดเล่าขานกันว่าสภานักเรียนที่มีสมาชิกแค่เจ็ดคน แต่ก็ไม่เคยมีปีไหนมีสมาชิกครบถึงเจ็ดคนเลยสักครั้ง



เพราะเหตุนี้เทศกาลประลองดาบจึงกลายเป็นชื่อชวนเสียวสันหลังวาบสำหรับนักเรียนบางคน แต่ก็กลายเป็นเชื้อเพลิงชุดประกายไฟในตัวได้เช่นกัน ฮิเมะโกะพลันกำชับเรื่องเวลาและตารางประกาศคู่แข่งขัน ซึ่งจะถูกติดไว้ที่หน้าห้องสภานักเรียนในวันเทศกาล กระทั่งเสร็จเรื่องเรียบร้อยก็หมดเวลาของรุ่นพี่ทั้งสองแล้ว

“ขอบคุณที่รับฟังนะครับ พวกพี่จะรอดูฝีมือของทุกคนอยู่นะ” โชโตะแย้มยิ้มน่ารักผิดกับก่อนหน้าลิบลับ สองรุ่นพี่โค้งตัวบอกลาและพากันเดินออกจากห้องเรียนไป



ครืด



ครั้นประตูปิดสนิท เสียงพูดคุยพลันกลับมาฮือฮาอีกครั้ง แน่นอนว่าหัวข้อสนทนาคือเรื่องของงานเทศกาลและสภาเจ็ดซามูไรนั่นเอง

“โมโมเสะ อธิบายมาเสียดี ๆ”  นาโอริกอดอกแน่นพลางจ้องมองอย่างจับผิด

“เรื่องอะไร?”

“ก็เรื่องรุ่นพี่คนนั้นไงเล่า! พวกนายสองคนเป็นอะไรกัน”  เด็กสาวยืนหน้าเข้าใกล้อย่างกะทันหันทำเอาฮินาวะผงะจนเผลอหลังชนพนักเก้าอี้  เขาพลันถอนใจไม่สบอารมณ์และยอมตอบอย่างช่วยไม่ได้

“เธอเป็น....พี่สาวฉันเอง”                                 

“นายมีพี่สาวด้วยเหรอเนี่ย...สุดยอดไปเลย!”  ดวงตาของนาโอริเป็นประกายวับ พลางจ้องเด็กหนุ่มที่สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางของคู่อริ

“แต่มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉัน เลิกยุ่งได้แล้วน่า” ฮินาวะรีบตัดบทพลันลุกหนีทันควัน



ครั้นเขาเปิดประตูและตั้งท่าจะก้าวออกไป จู่ ๆ ก็มีร่างหนึ่งโถมเข้าใส่ตัวเขาอย่างจัง ทำเอาเซไปชนกับกำแพงด้านข้าง



“ฮินะ!”  เสียงหวานชื่นเอ่ยเรียกชื่อเล่นสุดแสนจะน่ารักของคนตรงหน้า พลางโอบกอดคนตัวสูงกว่าแน่น

“ทำอะไรเนี่ย อายุเท่าไหร่แล้วไม่ทราบ!” ฮินาวะพยายามดันตัวเด็กสาวตรงหน้าออกสุดกำลัง แต่ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์เพราะมันทำให้เธอยิ่งกอดแน่นกว่าเดิมหลายเท่า

“สิบเก้าค่า! ถามทำไมเหรอ?”

“ฉันประชด!”

“ฮิ ๆ ใครจะไม่รู้นิสัยน้องชายสุดที่รักกันล่ะ” ว่าแล้วมือเรียวพลันขยี้ศีรษะผู้เป็นน้องอย่างมันมือ ทำเอาเส้นผมสีบ๊วยแดงกระเดิดออกมาเล็กน้อย

“เลิกทำเหมือนฉันเป็นเด็กเสียที”  มือใหญ่ปัดแขนเรียนของอีกฝ่าย ก่อนจะดันตัวให้หลุดจากพันธนาการได้ในที่สุด



เป็นจังหวะเดียวกับที่นาโอริลากซากิเดินตามออกมานอกห้องพอดี



“รุ่นพี่...โมโมเสะ?” นาโอริเอ่ยอย่างตะกุกตะกักเพราะดูสถานการณ์แล้วมันอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ใบหน้าที่คลับคล้ายเด็กหนุ่มหันขวับมาทางสองสาว ก่อนจะส่งยิ้มหวานให้อย่างเป็นกันเอง

“โอ้!  สวัสดีจ้ะฉันเป็นพี่สาวของเขาชื่อฮิเมะโกะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ!”

“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ รุ่นพี่โมโมเสะ” 

“เรียกฮิเมะโกะเถอะนะ ไหน ๆ เธอก็อุตส่าห์มาเป็นเพื่อนกับเจ้าน้องชายตัวแสบของฉันแล้ว เราก็ควรสนิทกันไว้...หือ?”  ใบหน้าเบิกบานพลันหายไป เมื่อนัยน์ตาสีแดงเลือดพบกับเด็กสาวเรือนผมสีเงินวาว

“ซากิจัง?”

เจ้าตัวเผลอสะดุ้งโหยงพลันเหลือบมองคนอายุมากกว่า แต่ไม่ทันไรเธอก็ถูกอีกฝ่ายเข้าสวมกอดแน่น ยิ่งเพิ่มเครื่องหมายคำถามในหัวของนาโอริเข้าไปสองเท่า

“ไม่ได้เจอกันตั้งนาน โตเป็นสาวน่ารักขนาดเลยเหรอเนี่ย!” ฮิเมะโกะกระดี๊กระด๊าพลางผละออกเพื่อดูหน้าซากิให้ชัด ๆ

“ม ไม่ได้เจอกันนานเลยค่ะพี่ฮิเมะ”

“เอ่อ ทั้งสองคนรู้จักกันงั้นเหรอคะ?” นาโอริที่ยืนงงงวยอยู่เอ่ยถาม

“พวกเราเป็นเพื่อนสมัยเด็กกันน่ะ เมื่อก่อนเราเล่นด้วยกันบ่อยแต่ก็ไม่..”

“เลิกยุ่งกับเพื่อนฉันจะได้มั้ย พี่ว่างหรือไง?” ฮินาวะโพล่งแทรกพลันทำสีหน้าไม่ชอบใจ

“ถ้าสำหรับน้องชายสุดที่เลิฟล่ะก็ พี่ว่างเสมอแหละจ้า” ว่าแล้วฮิเมะโกะก็เอื้อมมือไปหวังจะขยี้หัวผู้เป็นน้องอีกครั้ง แต่กลับถูกเจ้าตัวจับไว้ได้ทัน

“ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน!”

“โธ่เอ๊ย...งั้นฉันกลับแล้วก็ได้ ไม่ง้อหรอก”  ฮิเมะโกะหันมายังเพื่อนทั้งสองของฮินาวะก่อนจะขยิบตาน่ารัก ๆ ให้พวกเธอ ก่อนจะไปฮิเมะโกะได้พูดคุยกับสองสาวอีกเล็กน้อย โดยไม่ลืมที่จะหันมาแหย่น้องชายสุดที่รักและเดินหายลับไปในหมู่นักเรียน บรรยากาศรอบตัวพลันกลับมาอึดอัดอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นเพราะสายตาจี้ถามจากนาโอริที่แผ่ใส่เพื่อนทั้งสองของเธอต่างหาก

“นาโอะจัง...คือว่า”

“อธิบายมาเดี๋ยวนี้”

“ฮิเมะโกะก็บอกแล้วนี่ เรื่องมันก็มีแค่นั้น” ฮินาวะเอ่ยด้วยสีหน้าขรึม

“ไม่เชื่อ ไม่งั้นพวกนายจะทำตัวกระอักกระอ่วนเวลาอยู่ต่อหน้ากันไปทำไม?”

“มันไม่เกี่ยวกับเธอนี่” เสียงต่ำแย้งกลับทำให้สาวเจ้ากลอกตาไปมา

สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินกลับเข้าห้องเรียนไปโดยไม่รอเพื่อนสาว ซากิที่เริ่มร้อนใจเหลือบมองคนข้างหลังเธอซึ่งมีสีหน้าเรียบนิ่งผิดกับเธอ ครั้นเห็นว่าฮินาวะไม่คิดจะตามไปแก้ต่าง เธอจึงกลับไปให้ความสนใจกับนาโอริและจ้ำอ้าวไปหาทันที ปล่อยเด็กหนุ่มยืนอยู่ลำพัง

.

.

.

เรื่องวุ่นเกิดขึ้นมากมายจนกระทั่งกลับเข้าสู่ชั่วโมงเรียน ทว่าใจของคนหนึ่งกลับร้อนรุ่ม เนื่องด้วยเพื่อนของเธอไม่ยอมเปิดโอกาสให้เธอพูดถึงเรื่องช่วงพักเลย แม้แต่ตอนระหว่างทางกลับถึงหอจนใกล้จะเข้านอนเต็มที นาโอริก็ไม่ได้ปริปากถามมันกับซากิหรือฮินาวะอีก ถึงจะชวนคุยตามประสาของเธอ แต่มันกลับทำให้จิตใจที่กังวลอยู่แล้วร้อนรุ่มกว่าเดิม

“เดี๋ยวก่อนนาโอะจัง” ซากิคว้าแขนของเพื่อนสาวไว้ หวังจะพูดคุยให้รู้เรื่อง

“มีอะไรเหรอ?”

“โกรธหรือเปล่า?” ครั้นเห็นนาโอริเอียงคอเลิกคิ้วเป็นตอบกลับ ซากิจึงตั้งท่าจะเอ่ยต่อทว่าอีกฝ่ายดันห้ามไว้เสียก่อน

“จะให้ฉันถามเรื่องที่ทำให้พวกเธอหน้าเคร่งเครียดกันแบบนี้อีกได้ยังไง” นาโอริเอ่ยพร้อมกับกุมมือเพื่อนสาวแน่น

“ขอบคุณนะ...ขอบคุณจริง ๆ” 

เหนือความคาดหมายครั้นหยดน้ำใส่ไหลอาบแก้มอมชมพู ทำเอานาโอริผงะจนทำอะไรไม่ถูก เธอรีบดึงตัวซากิเข้ามากอดปลอบจนเสื้อผ้าเปรอะเปื้อนคราบน้ำตา



ทั้งสองยืนกอดกันอยู่นาน รอจนซากิสงบสติอารมณ์ได้และจึงส่งเธอเข้านอนไปก่อน ส่วนนาโอริที่ยังตะลึงกับเหตุการณ์เมื่อครู่ได้มานั่งเหม่อลอยอยู่ในห้องตัวเองแทน 

ในใจลึก ๆ นาโอริกลับรู้สึกโล่งใจที่ไม่รู้สึกอยากรู้เรื่องของพวกเขาแล้ว เพราะแค่เห็นน้ำตาจากเพื่อนที่เคยปลอบโยนเธอมาตลอดก็รู้สึกเจ็บหัวใจจนยากจะบรรยาย สาวเจ้าได้แต่หวังว่าอีกฝ่ายจะได้พักผ่อนใจในค่ำคืนนี้ และตื่นมาแย้มยิ้มให้อีกครั้งในเช้าวันต่อไป

     

ทว่าเวลานี้นาโอริควรปล่อยเรื่องไม่สบายใจต่าง ๆ ให้ห่างไปก่อน เพราะเธอควรจะเพ่งสมาธิไปยังวันแห่งความสนุกสนานที่กำลังจะมาถึง...



เทศกาลประลองดาบยังไงล่ะ! 



to be continue…

つづく、psrpowder