จากที่อยากสานฝันเป็นนักดาบกลับต้องผันตัวสู่เส้นทางนองเลือดแค่เพราะอยากปกป้องเขาที่ด้ายแดงแห่งโชคชะตาผลักให้(วิ่ง)ชนกันถึง 2 รอบ แต่วันใดเล่าที่ดาบในมือจะหันคมใส่เขาเสียเอง...เพื่อสำเร็จเป้าหมายของมัน
แฟนตาซี,แอคชั่น,รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,7Samurai ,ไม่ฮาเร็ม,ตัวเอกหญิง ,ดาบพูดได้,ญี่ปุ่น,แอคชั่น,รักวัยรุ่น,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
จากที่อยากสานฝันเป็นนักดาบกลับต้องผันตัวสู่เส้นทางนองเลือดแค่เพราะอยากปกป้องเขาที่ด้ายแดงแห่งโชคชะตาผลักให้(วิ่ง)ชนกันถึง 2 รอบ แต่วันใดเล่าที่ดาบในมือจะหันคมใส่เขาเสียเอง...เพื่อสำเร็จเป้าหมายของมัน
ผู้แต่ง
psrpowder
เรื่องย่อ
สวัสดีค่าา เรา psrpowder น้าาา ยินดีที่ได้รู้จักรี้ดเดอร์ทุกท่านที่ผ่าน(หลง)เข้ามาฮะ!
(เชิญชวนมาติดตามกันได้ที่
Tiktok นะฮะ จะอัพเดตเรื่อย ๆ คับ)
เอาล่ะ….วันนี้เรามีนิยายออริจินอล มานำเสนอ!!
ชื่อเรื่องว่า 7 Samurai (ถ้าสงสัยว่าทำไมชื่อนี้ คงบอกได้แค่ว่าเป็นความเบียวของไรท์เองแหละค่ะ555)
เป็นแนวแฟนตาซี เซ็ตติ้งประเทศญี่ปุ่นยุคปี3000 มีฉากต่อสู้ฟิลใช้ดาบตบตีกันไปมา ชิ้งๆๆ
ผสมความรักแบบวัยใสน่ารัก(มองตาปุ๊ปก็ปิ้งกันปั๊บ!)
แถมปมเรื่องชวนซึ้งใจ (คนอ่านซึ้งมั้ยไม่รู้แต่ไรท์น้ำตาหยด ;-; )
ใด ๆ มันอาจจะไม่ตามกระแส ไม่ตามตลาด แต่เราอยากลงเรื่องที่ตั้งใจสร้างให้ทุกคนได้อ่านจริง ๆ
และอยากขอโอกาสทุกท่านที่แวบผ่านเข้ามา คอยชี้แนะแนวทางให้ไรท์คนนี้ด้วยนะคะ
ปล. เรื่องอาจไม่ได้หวือหวาหรือน่าตื่นเต้น แต่อยากให้จับตา จับมือ จับหูดูการเติบโตของน้อง ๆ ไปด้วยกันน้าา
==============================================
***นิยายเรื่องนี้มีฉากต่อสู้และฉากความรุนแรงอื่น ๆ แทรกในบางตอน***
แต่จะมีการแจ้ง Trigger warning ก่อนเริ่มอ่านทุกครั้ง
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
==============================================
ชิสึจิ นาโอริ ตัดสินใจทำตามความฝันวัยเด็ก เธอเลือกสอบเข้าที่โรงเรียนเฉพาะทางสำหรับนักดาบ และได้พบกับคู่หูซึ่งเป็นดาบไม้เล่มหนึ่งที่ต้องตาเธอตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็น เลยมอบชื่อให้ว่า จูลิโอ้
และต้องฝ่าฟันทั้งเรื่องเรียน เรื่องครอบครัว เรื่องเฉียดตายไปจนถึง…เรื่องความรัก!? โดยมีเจ้าดาบคู่ใจเป็นสักขีพยานเคียงข้างเสมอ
....แต่ดาบเล่มนี้
ไม่ได้มอบเพียงคู่หูแก่เธอ แต่มอบหลายสิ่งนับไม่ถ้วนโดยไม่รู้ตัว
มันมอบสิ่งที่เลวร้าย บ้าคลั่งและหิวกระหาย
สิ่งที่ยากจะควบคุมและพร้อมจะกลืนกินจิตบริสุทธิ์ของเด็กสาวอย่างเธอ
"ให้ข้า..ได้ลิ้มรสเลือดพวกมันเสียเถอะ"
"ออกไป...ออกไปจากหัวฉัน!"
มันมอบโชคชะตา ให้ได้พบพานใครคนหนึ่งที่แลกชีวิตเพื่อให้เธอปลอดภัย
ผู้เป็นดั่งแสงอันล้ำค่าที่ต้องรักษาไว้แม้ตัวตาย
"เพราะสัญญากันแล้ว...ว่าจะออกไปจากที่นี่ด้วยกัน เลยต้องทำทุกทางไม่ให้เสียเธอไป"
"ฉัน...ปกป้องนายได้ใช่ไหม?"
มันมอบเส้นทางใหม่ที่ดอกซากุระดอกตูมอย่างเธอ...จะได้ผลิบานสะพรั่ง ให้สมดั่งปรารถนา
"ในที่สุดก็ถึงวันนี้....วันที่ฉันไม่ต้องปกปิดอีกต่อไป"
"คุณ...คือใคร?"
มันมอบตัวตน เรื่องราวและสายสัมพันธ์นับไม่ถ้วนให้แก่เธอ แต่ก็จ้องจะช่วงชิงทุกสิ่งไปเช่นกัน
"เพราะนั่น...คือสาเหตุที่มันเกิดมา"
"และมันจะต้องดับสูญ ถ้ากล้าคิดแตะต้องคนที่ฉันรัก!"
==============================================
เนื้อเรื่องช่วงแรกอาจจะสโลว์ไปบ้าง แต่อย่าเพิ่งทิ้งกันน้า ; ^ ;
ใครผ่านเข้ามาอ่านและถูกใจ สามารถเป็นกำลังใจ ติชม แนะนำ ให้นักเขียนฝึกหัดคนนี้ได้นะคะ!
ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ค่า <3 (O w O)
よろしく、psrpowder
***Trigger warning : เลือด ความรุนแรง***
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ณ กลางป่าใหญ่ซึ่งถูกโหมด้วยเปลวเพลิงร้อนระอุและควันไฟลอยโขมง ร่างของคนสองคนที่ยังคงวิ่งไม่หยุด ลัดเลาะต้นไม้สูงเรียงรายกับพื้นดินขรุขระยากจะทรงตัวอยู่ แม้เบื้องหน้าจะถูกร่มเงาบดบังเพียงใด ทว่าแสงแดดยามเช้ายังสามารถลอดผ่านพอให้เห็นใบหน้าของคนใกล้ตัวได้
“อ องค์ชาย!?” นาโอริอุทานครั้นเห็นใบหน้าของคนที่กำลังตามหา เด็กหนุ่มไม่ได้เอ่ยสิ่งใดและทำแต่เพียงพาร่างบางออกไปให้ไกลจากเปลวเพลิงมากที่สุด ทว่าเขากลับต้องชะงักเมื่อรู้สึกถึงแรงต้านมาจากอีกฝ่าย ทำให้ต้องหยุดฝีเท้าพร้อมหันไปมองเธอ
“เธอเป็นอะไร?”
“เพื่อนกับรุ่นพี่ของฉัน...พวกเขายังอยู่ข้างในนั้น” ดวงตาสีซากุระจ้องมองเปลวเพลิงวูบวาบที่ไม่มีทีท่าจะสงบลง ถึงจะวิ่งออกมาไกลมากแล้วก็ตาม แต่ยังคงได้ยินเสียงตูมตามมาจากด้านหลังกำแพงไฟนั่น นาโอริเป็นห่วงทุกคนใจจะขาด เธอแทบอยากจะวิ่งกลับเข้าไปในกองเพลิงนั่นให้รู้แล้วรู้รอด
“เมื่อกี้เธอเกือบจะถูกใครไม่รู้บั่นคอแล้วนะ ยังมีแก่ใจมาห่วงคนอื่นอีกเหรอ!?”
“แต่ว่า”
“ไม่มีแต่ เราจะไม่ยอมให้คนที่อุตส่าห์ช่วยมาได้ วิ่งกลับเข้าไปหาที่ตายอีกเด็ดขาด!” ว่าจบเขาจึงดึงนาโอริให้วิ่งไปด้วยกันแม้เจ้าตัวจะไม่ยินยอมนัก เพราะในสถานการณ์อันตรายแบบนี้การอยู่เฉย ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องดีเช่นกัน
อีกฟากหนึ่งของทะเลเพลิงโหมกระหน่ำที่ล้อมรอบ เจ้าของเรือนผมสีเงินวาวเพิ่งจะลืมตาได้สติจากแรงระเบิด พลันได้ยินเสียงของเหล็กกระทบกันถี่ยิบ วิสัยทัศน์เริ่มกลับมาชัดเจนเผยให้เห็นร่างสูงของรุ่นพี่หนุ่ม ที่ตวัดดาบโต้กับชายในชุดผ้าคลุมสีน้ำตาลเข้มพลันแทงดาบตัดขั้วหัวใจอีกฝ่ายจนลงไปนอนจมกองเลือด
“เธอโอเคไหม?” น้ำเสียงเป็นกังวลดังมาจากฮินาวะ เรียกให้เธอหันมอง ครั้นเห็นเด็กหนุ่มซึ่งใบหน้าเปรอะเปื้อนเขม่าควันกำลังพยุงเธออยู่
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ตอนรถระเบิด เธอดันหัวกระแทกจนสลบไป ถ้าไม่ได้รุ่นพี่มาบังเอาไว้คงจะแย่กว่านี้” ซากิพลันหันขวับไปหาโชโตะที่กำลังเดินมาหาพวกเธอ รอยฉีกขาดของตัวเสื้อและบาดแผลจากสะเก็ดระเบิดเป็นเครื่องยืนยันชั้นดี ทว่ารุ่นพี่หนุ่มก็ยังคงวาดยิ้มให้ราวกับไม่ต้องการทำให้เป็นห่วง
รอยยิ้มนั้นต้องมลายไปทันทีที่เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายจิตสังหารรุนแรงจากในป่าลึก ร่างสูงกระชับอาวุธศักดิ์สิทธิ์แน่น และเลือกจะยืนอยู่เบื้องหน้ารุ่นน้องทั้งสองเพื่อปกป้องพวกเขา ชั่วพริบตาแสงวูบวาบสะท้อนจากมุมมืดของป่า ลูกธนูหลายดอกทะลวงกิ่งก้านหนาเตอะและพุ่งใส่เป้าหมายที่ตั้งดาบรอรับอยู่ ทว่าความเร็วปานแสงเช่นนี้เด็กหนุ่มจะสามารถปัดป้องมันได้สักเท่าไหร่กันเชียว
ฟึบ!
วินาทีที่ลูกธนูแหลมจะปะทะกับคมดาบ ร่างเพรียวของอาโอบะพลันพุ่งมาตัดหน้าโชโตะ และเหวี่ยงคันธนูเหล็กในมือปัดศรอันตรายกระเด็นกระดอน ครั้นนั้นยังไม่ใช่ทั้งหมด หญิงสาวจึงตั้งคันธนูมาเบื้องหน้า ทันใดนั้นมันก็กางตัวออกเป็นหกแฉกคล้ายร่ม พลันเดินกระแสพลังงานผ่านก้านโลหะและเชื่อมกันจนเกิดเป็นบาเรีย ยับยั้งลูกธนูเหล็กให้หล่นกระจายอยู่กับพื้น แววตาเฉียบคมตวัดมองทิศทางของการโจมตีพร้อมง้างสายธนูจนสุด และส่งลูกศรแหลมคมให้ทะลวงกลับไปหาศัตรูด้านหลังเปลวเพลิงนั่น ก่อนจะได้ยินเสียงครวญครางดังลั่น
“ยังไม่ตายเรอะ...” อาโอบะสบถพลางปล่อยธนูอีกดอกซ้ำตำแหน่งเดิม กระทั่งเสียงร้องนั่นเงียบไป
“ทุกคนไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” ทั้งสามพยักหน้าตอบให้อีกฝ่ายสบายใจ ก่อนจะเป็นอาโอบะที่สังเกตว่าทั้งนาโอริและองค์ชายหนุ่มไม่ได้อยู่ด้วย
ครั้นตระหนักว่าสองคนนั้นอาจจะเจอกับศัตรูอยู่สักที่หนึ่ง เธอจึงสั่งให้โชโตะคุ้มกันรุ่นน้องทั้งสอง โดยมอบอุปกรณ์บางอย่างที่มีรูปทรงสามเหลี่ยมพอดีมือให้แก่เขา ก่อนจะบอกให้ทั้งสามหาจุดที่ห่างจากไฟป่าและเขวี้ยงเจ้าอุปกรณ์นี้ขึ้นฟ้าไปให้ได้ไกลที่สุด มันจะนำพาตัวเองไปยังสถานีรับสัญญาณของชินระและส่งกำลังเสริมมาช่วยได้
“โทรติดต่อทางชินระไม่ได้เหรอคะ?”
“ไม่ได้ ฉันลองหลายครั้งแล้วล่ะ แต่เหมือนจะถูกอุปกรณ์บางอย่างดักสัญญาณไว้ เพราะงั้นต้องฝากพวกเธอด้วย”
“แล้วคุณล่ะครับ?” โชโตะขมวดคิ้ว
“ฉันจะไปหาเด็กสองคนนั่น ลำพังรุ่นน้องของเธอน่ะปกป้ององค์รัชทายาทไม่ไหวหรอก” อาโอบะเอ่ยพลางตั้งท่าจะเดินเข้าไปในป่า
“ถ้าเป็นไปได้ ให้ออกจากเขตป่าทึบนี่ให้เร็วที่สุด แล้วไม่ต้องหันกลับมาล่ะ!”
“แล้วภารกิจของเราล่ะ?” ฮินาวะแย้ง เพราะการที่เธอสั่งแบบนี้ เท่ากับว่าให้พวกเขาทิ้งทั้งองค์รัชทายาทและเพื่อนตัวเองไว้ในป่าแล้วเอาตัวรอดชัด ๆ
“ภารกิจนั่นน่ะมันพังไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้ไม่ใช่สถานการณ์ที่เด็กอย่างพวกเธอจะแย้งได้ ทำตามที่ฉันสั่งก็พอ” เจ้าของเรือนผมสีน้ำเงินเถียงกลับทันควัน
“ถ้าเข้าใจแล้วก็รีบไป!” ครั้นได้ยินคำสั่งเด็ดขาด โชโตะจึงสบตากับรุ่นน้องทั้งสองให้วิ่งตามเขาไปในทันที แทบจะพร้อมกับที่กลุ่มคนในชุดคลุมอีกกลุ่มกระโจนออกมาจากมุมมืดหวังจะจัดการร่างเพรียวตรงหน้า
เมื่อรับรู้ว่าเด็กทั้งสามอยู่ในระยะที่ห่างพอตัวแล้ว อาโอบะจึงพุ่งเข้าหากลุ่มศัตรูพลันตวัดดาบจากฝัก สะบั้นคอคนแล้วคนเล่าจนเธอแทบจะชโลมไปด้วยเลือด
ฉึบ!
คมดาบสีเงินเฉือนผ่านทุกส่วนของร่างกายเนื้อ หญิงสาวยังคงสับเท้าวิ่งเข้าใส่อย่างไม่หวั่นเกรง จนพื้นเขียวขจีเริ่มถูกแต่งแต้มด้วยของเหลวสีแดงฉาน ประสานกับเสียงร้องเจ็บปวดเจียนขาดใจ
“พวกนี้มัน...ทหารรับจ้างเหรอ?” เธอกล่าวพลางเขี่ยร่างไร้วิญญาณเพื่อดูให้ชัดตา ดวงตาสีน้ำเงินเข้มหรี่ลงอย่างพินิจ จนกระทั่ง...
ปัก!
ลูกตุ้มหนามเหล็กใหญ่กว่าหัวคนพุ่งตรงเข้าใส่ร่างเพรียว อาโอบะตอบสนองว่องไวและเอี้ยวตัวหลบได้ฉิวเฉียด ลูกตุ้มที่โจมตีพลาดจึงปะทะกับพื้นดินจนเกิดเป็นหลุมลึก
“ตายแล้ว พลาดงั้นเหรอเนี่ย เสียดายจัง” น้ำเสียงขี้เล่นของใครบางคนดังก้องไปทั่วป่าทึบ
“ใครอีกวะ?” อาโอบะสบถพลันเงยมองที่เจ้าของเสียง ซึ่งยืนอยู่บนต้นไม้สูงเบื้องหน้า จากระยะสายตาแล้วเธอพอจะสังเกตได้ว่าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิง และรอยยิ้มกว้างใต้ฮู๊ดคลุมนั่นก็ดูอันตรายมากเสียด้วย....
ขณะเดียวกับที่พวกโชโตะและอาโอบะเพิ่งแยกกันคนละทาง พวกนาโอริกำลังวิ่งไปโดยไร้จุดมุ่งหมาย แม้จะรู้ว่าตนเองออกห่างจากจุดเกิดเหตุมามากโขแล้วก็ตาม ทว่ากลับรู้สึกถึงฝีเท้าที่ตามพวกเขาไม่ยอมห่าง กระทั่งมาโผล่ที่หน้าผาโล่งกว้างไร้ซึ่งต้นไม้ปกคลุม ซ้ำเบื้องล่างยังเป็นเหวลึก
“พวกเรามาสุดทางแล้ว...” เด็กสาวเอ่ยปนหอบ ดวงตากลมโตจ้องมองลานโล่งตรงหน้า ไม่รู้ทำไมแต่มันกลับทำให้เธอเริ่มอยากจะกลับเข้าไปในป่ารกทึบมากกว่าอยู่กลางแจ้งเช่นนี้
“คงต้องหาเส้นทางอื่น ไป..”
คำพูดสุดท้ายถูกกลืนลงคอนาโอริ เมื่อเห็นผู้มาใหม่เข้ามาใกล้ในระยะแทบจะประชิด เพียงเสี้ยววินาทีที่อีกฝ่ายจะสัมผัสตัวองค์ชายหนุ่ม ตำแหน่งของคนสองคนพลันถูกสลับรวดเร็ว และกลายเป็นนาโอริที่ยืนขวางศัตรูไว้ เช่นเดียวกับร่างใต้ผ้าคลุมที่เปลี่ยนเป็นตวัดขาใส่คนที่เข้ามาจุ้นจ้าน
ปัก!
นาโอริถูกแรงเตะดีดไปกระแทกเข้ากับต้นไม้ใหญ่อย่างจัง จนถึงกับกระอักเลือดคำโต ความเจ็บปวดแผ่ซ่านจากช่วงหลังไปทั้งตัว เธอรู้สึกได้ว่ากระดูกบางซี่เกิดการแตกร้าวจากข้างใน
“นาโอริ!”
เด็กสาวพยุงตัวลุกขึ้นจากพื้นฝืนทนความทรมานที่แล่นผ่านทุกช่วงที่ขยับ เธอไม่สามารถจับต้นชนปลายได้ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร ทว่ามีเพียงภาพของคนใต้ผ้าคลุมที่กำลังเดินเข้าใกล้องค์ชายหนุ่มเท่านั้น ที่นาโอริรู้ว่าจะปล่อยให้เกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด!
เคร้ง
ร่างบางพุ่งเข้าประชิดตัวอีกฝ่ายก่อนจะเหวี่ยงดาบไม้เข้าใส่อย่างจัง แน่นอนว่าฝ่ายศัตรูสามารถรับได้แต่นั่นก็ตรงตามความต้องการของเจ้าตัวพอดิบพอดี
“รีบหนีไปสิ!” นาโอริตะโกนลั่น
“พูดบ้าอะไร...”
“คนพวกนี้มันต้องการตัวท่าน จะให้เป็นแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด รีบไปสิ!” ดวงตาสีซากุระสบเข้ากับเด็กหนุ่ม แม้จะยังกัดฟันต้านดาบกับศัตรูอยู่
“ใกล้ ๆ นี้น่าจะมีคนของชินระอยู่ ถ้าวิ่งกลับไปน่าจะเจอเธอ!” ไม่รีรอนาโอริพลันใช้โอกาสนั้นคว้าระเบิดควันมาปาใส่หน้าศัตรูอย่างจัง
ด้วยควันคลุ้งไปทั่วบดบังวิสัยทัศน์อีกครั้ง เป็นโอกาสเดียวที่เด็กสาวสร้างให้ องค์ชายหนุ่มจึงจำใจต้องถอยหลังหนีและวิ่งฝ่าม่านควันกลับไปในป่าลึก
ภายในหมอกควันคลุ้ง เหลือเพียงเด็กสาวที่ใช้จังหวะฝ่ายศัตรูเปิดช่องโหว่ คว้าลำคอพลันเหวี่ยงเธอไปทางหน้าผาโล่ง เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายตามเด็กหนุ่มไปได้ แม้จะต้องทนกับความเจ็บในร่างกาย แต่นาโอริยังสามารถใช้แรงเท่าที่มีโยนศัตรูให้กระเด็นออกไปไกลตามที่ต้องการ
ร่างใต้ผ้าคลุมที่ถูกเหวี่ยงออกมาพลันดีดตัวกลับมาตั้งหลักได้ทัน ก่อนจะวิ่งเข้าปะทะกับนาโอริซึ่งพุ่งตามมาจากเงามืดพร้อมกัน ดาบสองเล่มโต้กันถี่ยิบ ต่างคนต่างหลบคมดาบของอีกฝ่าย แต่ดูจะเป็นนาโอริที่เสียเปรียบเนื่องจากสภาพร่างกายที่ไม่พร้อม ซ้ำยังสู้กับดาบของจริง ไม่มีทางที่ดาบไม้จะชนะได้เลย
ฉึบ!
ครั้นเผลอพลาดท่าจึงถูกใบมีดคมของศัตรูเฉือนต้นแขนเข้าให้ เลือดอุ่นไหลซิบจากปากแผลเพิ่มความเจ็บปวดให้กับร่างบางเป็นทวีคูณ นาโอริกุมบาดแผลที่แขนขวาแน่น พยายามกัดฟันทนมันให้ได้มากที่สุด แต่ไม่ทันจะได้รับมือกับความทรมาน การโจมตีครั้งใหม่จากศัตรูก็เข้ามา บังคับให้นาโอริต้องยกอาวุธศักดิ์สิทธิ์มารับไว้ พลันถูกอีกฝ่ายทุ่มแรงใส่จนบริเวณที่เท้าสัมผัสเกิดเป็นรอยร้าว ดวงตาสีซากุระจับจ้องร่างใต้ผ้าคลุ้มนั่นเขม็งพยายามส่งแรงต้านให้ได้มากที่สุด ไม่เช่นนั้นคงได้ถูกผ่าเป็นสองซีกแน่
และวินาทีนั้นที่นาโอริได้อยู่ระยะประชิด จนตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นคนตัวเล็กร่างบางดั่งเช่นเธอ หนำซ้ำดวงตาไร้ชีวิตชีวาใต้เงาแสงก็แต่งเติมด้วยสีสัน ที่เรียกว่าเหมือนกับนาโอริไม่มีผิด....
“กลัวสินะ...” ริมฝีปากเหยียดตรงของฝ่ายศัตรูได้ขยับเอ่ยเสียงเย็นวาบ
“พูดอะไร..”
“เธอกำลังกลัว...กลัวที่จะตาย”
“ไม่ใช่! ฉันไม่กลัวของแบบนั้นหรอก” เด็กสาวตอบเสียงเครือ ราวกำลังถูกเสียงเรียบทิ่มแทงหัวใจและความกล้า
“แล้วใบหน้าในตอนนี้ของเธอล่ะ....ฉันไม่เห็นว่ามันจะไม่จริงตรงไหนเลย” และอีกครั้งที่คำพูดของฝ่ายศัตรูทิ่มแทงนาโอริ มือเรียวสั่นระริกพาให้เรี่ยวแรงลดฮวบอย่างช่วยไม่ได้
“ฉันไม่ได้...” นัยน์ตาสีซากุระวูบไหวไม่กล้าแม้แต่จะจ้องดวงตาสีเดียวกันนั้นกลับ
“หึ...”
ปัก!
มันเป็นแผนการของหญิงสาวที่ทำให้อีกฝ่ายเปิดช่องโหว ขาเรียวเตะเข้าสะโพกอย่างจัง ส่งร่างของนาโอริกลิ้งหลุนไปหยุดอยู่แทบจะสุดริมหน้าผา ร่างกายสั่นเทิ้มเปรอะเปื้อนฝุ่นจนมอมแมมไปทั้งตัว เธอเริ่มจะทนกับความเจ็บปวดไม่ไหว เพราะมันมากเกินไปสำหรับเด็กมัธยมคนหนึ่ง...
หัวสมองคิดถึงคำพูดของศัตรูและจิตใจของเธอมันยอมรับไปเสียแล้ว ว่าตัวเธอนั้นไม่อยากตาย ไม่อยากทรมานอย่างที่เป็นเช่นนี้
“ลุกขึ้นสิ นาโอริ!”
วินาทีที่ความมืดครอบงำจิตใจ มีเพียงเสียงนุ่มของจูลิโอ้ที่เป็นดั่งแสงสว่าง ดึงสติของเด็กสาวให้กลับมา นัยน์ตาสีซากุระจับจ้องดาบไม้ในมือ ที่แม้จะถูกเตะจนกระเด็นกระดอนก็ไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือเป็นอันขาด
“เธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อมาตายไม่ใช่หรือไง ลุกขึ้นสิ!” ภาพขององค์ชายหนุ่มพลันถูกประทับในความคิด เสียงของคู่หูกำลังชี้นำให้เธอ บอกกับเธอว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำมาจนถึงตอนนี้ บาดแผลมากมายบนร่างกาย ยังยืนยันไม่พออีกหรือว่าเธอต้องการจะทำสิ่งใดกันแน่....
“การที่รับรู้ว่ามีคนกำลังโดนหมายเอาชีวิตอยู่แบบนี้ มันไม่มีทางจะทนปล่อยผ่านได้หรอก”
“นั่นสิ จะมามัวนอนอยู่เฉยได้ยังไง เรายังไม่ได้ปกป้องเขา....จริง ๆ จัง ๆ เลยนะ!” ร่างบางฝืนดันตัวขึ้นจากพื้น ฝ่ายศัตรูที่เห็นท่าไม่ดี พลันพุ่งเข้าหาเด็กสาวกะจะดับลมหายใจด้วยคมดาบที่ถูกวาดขึ้นและกำลังจะฟาดใส่อย่างจัง
มือขวาที่บาดเจ็บของนาโอริกำดาบแน่น พร้อมตวัดดาบเข้ารับการโจมตีอย่างมั่นคง เธอต้านดาบไว้แบบนั้นพลางดันตัวลุกจากพื้นมาประจันหน้ากับหญิงสาวใต้ผ้าคลุม ร่างบางสูดหายใจลึกและประสานการรับรู้เข้ากับคู่หู อีกฝ่ายไม่ปล่อยให้เธอทำสำเร็จพลันตั้งใจจะเตะใส่ร่างบางอีกครั้ง
ทว่าเด็กสาวย่อมไม่พลาดครั้งที่สอง เธอสามารถรับแรงเตะนั้นได้ด้วยมือเปล่า พลันกระชากขาของอีกฝ่ายจนเสียหลักล้มลงกับพื้นด้วยแรงมหาศาลด้วยความช่วยเหลือจากจูลิโอ้
“ชิ...” หญิงสาวเดาะลิ้นกับความผิดพลาดของตัวเอง
นาโอริเปลี่ยนท่าจับดาบให้ด้ามดาบหันเข้าหาศัตรูและกระแทกเข้าที่ใบหน้าเต็มแรง เลือดกำเดาพุ่งกระเซ็นไปทั่วก่อนจะตามด้วยหมัดซ้ายที่กระทุ้งใส่หน้าท้องเต็มเปา ทำเอาร่างเล็กใต้ผ้าคลุมกระอักเลือดคำโต นาโอริไม่ปล่อยโอกาสเสียเปล่า ดาบไม้ถูกเหวี่ยงซ้ำหาศัตรู ทว่าอีกฝ่ายเองก็ไม่พลาดเป็นครั้งที่สองเช่นกัน
การโต้กันของดาบสองเล่มเริ่มขึ้นอีกครั้ง คราวนี้นาโอริเป็นผู้ได้เปรียบโดยสมบูรณ์ ดวงตาสีซากุระกวาดมองท่วงท่าของอีกฝ่ายอยู่หลายหนจากการโต้ในแต่ละครั้ง และเริ่มจับทางการเคลื่อนไหวได้ทีละนิด
“เสร็จฉันล่ะ!”
เมื่อคิดจะจบศึกนี้เสียที เด็กสาวจึงทุ่มแรงใส่อีกฝ่ายหวังให้เสียหลัก ทว่าไม่ใช่แค่เธอเท่านั้นที่ใช้การโต้ดาบเมื่อครู่เรียนรู้ท่วงท่าคู่ต่อสู้
“อย่าหวัง!” หญิงสาวใต้ผ้าคลุมผ่อนแรงลงกะทันหัน ทำเอานาโอริเสียหลักจากการใส่แรงมากเกินไป เปิดช่องให้ฝ่ายศัตรูเอี้ยวตัวมาฟาดคมดาบใส่แผ่นหลังเล็กอย่างจัง
วืด
นาโอริกัดฟันหลบคมดาบนั้นได้เฉียดฉิวก่อนจะโต้กลับด้วยสันดาบ ไม่วายถูกอีกฝ่ายใช้มือรับได้ ทำให้นาโอริขยับตัวออกห่างไม่ได้ และเผลอเปิดช่องโหว่ให้หญิงสาวจ่อคมดาบใส่ต้นคอ
“อ่อนหัด...มีฝีมือแค่นี้เองสินะ สมควรตายแล้วจริง ๆ” หญิงสาวเย้ยหยันพร้อมบีบมือนาโอริจนเจ้าตัวนิ่วหน้า แต่หารู้ตัวไม่ ว่าเธอกำลังเดินตามเกมของสาวเจ้าเสียแล้ว
“อ๋อเหรอ?”
นาโอริพลันใช้แรงของอีกฝ่ายให้เป็นประโยชน์ เธอเกร็งแขนตีลังกาข้ามหัวศัตรู ทำเอาอีกฝ่ายถึงกับผงะเมื่อเห็นท่าแปลกประหลาดที่ไม่เคยมีใครทำ ก่อนจะตวัดตัวกลับพร้อมตอกส้นเท้าใส่กลางหลังอีกฝ่าย ทำเอาหน้ากระแทกกับพื้นจนฝุ่นตลบ เด็กสาวไม่รอช้ารีบตวัดดาบไม้ใส่ศัตรู ทว่าเธอกลับลืมไปว่าตนเองไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์
“อึก!” จู่ ๆ ร่างกายของเธอกลับหนักอึ้งพลันทรุดตัวลงกับพื้นด้วยความทรมาน และกระอักเลือดออกมาคำใหญ่ แม้จะพยายามฝืนแต่มันกลับยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดที่ยืนยังแทบจะไม่ไหว
ชิ้ง
วินาทีนั้นร่างกายเกิดเย็นวาบ ครั้นร่างใต้ผ้าคลุมอาศัยช่วงที่นาโอริสู้กับความรวดร้าวในร่างกายลุกขึ้นมาตั้งหลัก พร้อมจ่อคมดาบเหล็กใกล้กับหัวใจ เพื่อรอปลิดชีวิตเธอในทันที
“ขอบคุณที่มาร่วมเล่นกับฉันนะ....ลาก่อน” ใบมีดคมตั้งท่าจะตวัดลงตัดขั้วหัวใจ
วินาทีแห่งความตายกำลังใกล้เข้ามา นัยน์ตาสีซากุระหม่นหมองลงเช่นเดียวกับร่างกายที่บอบช้ำจนด้านชา นาโอริมองภาพของคนที่จะจบชีวิตเธอ
นี่เธอจะต้องมาตายเช่นนี้งั้นเหรอ...แบบนี้เท่ากับว่าเธอได้ทำตามความฝันแล้วหรือยังนะ?
เธอมาลงเอยอยู่ตรงนี้ เพราะความฝันที่อยากเป็นนักดาบ
และนักดาบ...สักวันก็จะต้องตายด้วยดาบ
เหมือนในตอนนี้....
“ถ้าอันตรายมาที่ตรงนี้....”
น้ำเสียงคุ้นเคยชวนโหยหาดังกังวานในความคิด ภาพทุกอย่างกลับดูเชื่องช้าจนน่าตกใจ ท่วงท่าของหญิงสาวที่ฟันดาบลงมา ป่านนี้ควรจะผ่าหัวใจของนาโอริเป็นสองซีกไปแล้ว ทว่ามันกลับค่อย ๆ เคลื่อนที่เชื่องช้ายิ่งกว่าเทปที่ยาน
“ฉันจะไปช่วยเธอ”
ไออุ่นที่น่าโหยหาไล้โลมแก้มนวล เช่นเดียวกับกลีบดอกซากุระที่ปลิวว่อนรอบตัวเด็กสาว ทั้งที่แถบนั้นมีเพียงต้นไม้ใบเขียวเท่านั้น ดวงตาที่หมองหม่นพลันหล่อเลี้ยงด้วยแสงอีกครา ยามเห็นท่อนแขนของใครบางคนเอื้อมมาจากด้านหลังและกอบกุมอาวุธศักดิ์สิทธิ์ไว้ ก่อนจะช่วยพยุงมือที่ไร้เรี่ยวแรงให้ยกไปหยุดตรงปลายดาบของฝ่ายศัตรู ซึ่งมันก็คือท่าการตั้งรับดาบ
“ไม่ต้องห่วง...ฉันจะเป็นแรงให้เธอเอง อดทนหน่อยนะ”
“อื้อ...” เด็กสาวเผลอไผลตอบรับ พร้อมกับพละกำลังที่เพิ่มพูนอย่างน่าประหลาด มือเรียวกระชับดาบแน่นพร้อมกันกับอุ้งมือใหญ่ที่กุมมือเด็กสาวอีกที
“จะมาแล้วนะ....ต้านให้ดี ๆ ล่ะ”
ครั้นจบคำพูดนั้น ประดุจเวลากลับเป็นดังเดิม ดาบคาตานะที่เคยเชื่องช้าพลันฟาดลงมาสุดแรง ทว่าเป็นต้องชะงักเมื่อถูกดาบไม้ตั้งขึ้นรับมันอย่างจัง
“ตั้งแต่เมื่อไหร่!?” น้ำเสียงเรียบส่อแววตระหนก
ทันใดนั้นแสงสีขาวสว่างวาบพลันสาดส่องต่อหน้าคนทั้งสอง ทำให้ฝ่ายศัตรูต้องผละออกอย่างช่วยไม่ได้ มันช่างเจิดจ้าเสียจนไม่อาจลืมตาขึ้นมามอง สายลมที่เคยนิ่งสงัดบัดนี้กำลังโหมกระหน่ำราวกับตอบรับแสงบริสุทธ์นี้ และเมื่อความสว่างเลือนหายไป ดวงตาไร้ชีวิตชีวาถึงกับเบิกกว้างยามเห็นภาพตรงหน้า
เพราะบัดนี้ในมือของเด็กสาวหาได้เป็นดาบไม้ที่สลักชื่อ จูลิโอ้ อีกต่อไป....
แต่กลายเป็นดาบคาตานะสีน้ำเงินเข้มดั่งท้องฟ้ายามราตรี ที่พร้อมจะเชือดเฉือนอุปสรรคไปพร้อมกับคู่หูของมัน...
to be continue….
=================================
อ่านจบแล้ว ฝากกดใจ กดติดตามให้กันด้วยน้าาา <3
つづく、psrpowder