จากที่อยากสานฝันเป็นนักดาบกลับต้องผันตัวสู่เส้นทางนองเลือดแค่เพราะอยากปกป้องเขาที่ด้ายแดงแห่งโชคชะตาผลักให้(วิ่ง)ชนกันถึง 2 รอบ แต่วันใดเล่าที่ดาบในมือจะหันคมใส่เขาเสียเอง...เพื่อสำเร็จเป้าหมายของมัน
แฟนตาซี,แอคชั่น,รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,7Samurai ,ไม่ฮาเร็ม,ตัวเอกหญิง ,ดาบพูดได้,ญี่ปุ่น,แอคชั่น,รักวัยรุ่น,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
จากที่อยากสานฝันเป็นนักดาบกลับต้องผันตัวสู่เส้นทางนองเลือดแค่เพราะอยากปกป้องเขาที่ด้ายแดงแห่งโชคชะตาผลักให้(วิ่ง)ชนกันถึง 2 รอบ แต่วันใดเล่าที่ดาบในมือจะหันคมใส่เขาเสียเอง...เพื่อสำเร็จเป้าหมายของมัน
ผู้แต่ง
psrpowder
เรื่องย่อ
สวัสดีค่าา เรา psrpowder น้าาา ยินดีที่ได้รู้จักรี้ดเดอร์ทุกท่านที่ผ่าน(หลง)เข้ามาฮะ!
(เชิญชวนมาติดตามกันได้ที่
Tiktok นะฮะ จะอัพเดตเรื่อย ๆ คับ)
เอาล่ะ….วันนี้เรามีนิยายออริจินอล มานำเสนอ!!
ชื่อเรื่องว่า 7 Samurai (ถ้าสงสัยว่าทำไมชื่อนี้ คงบอกได้แค่ว่าเป็นความเบียวของไรท์เองแหละค่ะ555)
เป็นแนวแฟนตาซี เซ็ตติ้งประเทศญี่ปุ่นยุคปี3000 มีฉากต่อสู้ฟิลใช้ดาบตบตีกันไปมา ชิ้งๆๆ
ผสมความรักแบบวัยใสน่ารัก(มองตาปุ๊ปก็ปิ้งกันปั๊บ!)
แถมปมเรื่องชวนซึ้งใจ (คนอ่านซึ้งมั้ยไม่รู้แต่ไรท์น้ำตาหยด ;-; )
ใด ๆ มันอาจจะไม่ตามกระแส ไม่ตามตลาด แต่เราอยากลงเรื่องที่ตั้งใจสร้างให้ทุกคนได้อ่านจริง ๆ
และอยากขอโอกาสทุกท่านที่แวบผ่านเข้ามา คอยชี้แนะแนวทางให้ไรท์คนนี้ด้วยนะคะ
ปล. เรื่องอาจไม่ได้หวือหวาหรือน่าตื่นเต้น แต่อยากให้จับตา จับมือ จับหูดูการเติบโตของน้อง ๆ ไปด้วยกันน้าา
==============================================
***นิยายเรื่องนี้มีฉากต่อสู้และฉากความรุนแรงอื่น ๆ แทรกในบางตอน***
แต่จะมีการแจ้ง Trigger warning ก่อนเริ่มอ่านทุกครั้ง
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
==============================================
ชิสึจิ นาโอริ ตัดสินใจทำตามความฝันวัยเด็ก เธอเลือกสอบเข้าที่โรงเรียนเฉพาะทางสำหรับนักดาบ และได้พบกับคู่หูซึ่งเป็นดาบไม้เล่มหนึ่งที่ต้องตาเธอตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็น เลยมอบชื่อให้ว่า จูลิโอ้
และต้องฝ่าฟันทั้งเรื่องเรียน เรื่องครอบครัว เรื่องเฉียดตายไปจนถึง…เรื่องความรัก!? โดยมีเจ้าดาบคู่ใจเป็นสักขีพยานเคียงข้างเสมอ
....แต่ดาบเล่มนี้
ไม่ได้มอบเพียงคู่หูแก่เธอ แต่มอบหลายสิ่งนับไม่ถ้วนโดยไม่รู้ตัว
มันมอบสิ่งที่เลวร้าย บ้าคลั่งและหิวกระหาย
สิ่งที่ยากจะควบคุมและพร้อมจะกลืนกินจิตบริสุทธิ์ของเด็กสาวอย่างเธอ
"ให้ข้า..ได้ลิ้มรสเลือดพวกมันเสียเถอะ"
"ออกไป...ออกไปจากหัวฉัน!"
มันมอบโชคชะตา ให้ได้พบพานใครคนหนึ่งที่แลกชีวิตเพื่อให้เธอปลอดภัย
ผู้เป็นดั่งแสงอันล้ำค่าที่ต้องรักษาไว้แม้ตัวตาย
"เพราะสัญญากันแล้ว...ว่าจะออกไปจากที่นี่ด้วยกัน เลยต้องทำทุกทางไม่ให้เสียเธอไป"
"ฉัน...ปกป้องนายได้ใช่ไหม?"
มันมอบเส้นทางใหม่ที่ดอกซากุระดอกตูมอย่างเธอ...จะได้ผลิบานสะพรั่ง ให้สมดั่งปรารถนา
"ในที่สุดก็ถึงวันนี้....วันที่ฉันไม่ต้องปกปิดอีกต่อไป"
"คุณ...คือใคร?"
มันมอบตัวตน เรื่องราวและสายสัมพันธ์นับไม่ถ้วนให้แก่เธอ แต่ก็จ้องจะช่วงชิงทุกสิ่งไปเช่นกัน
"เพราะนั่น...คือสาเหตุที่มันเกิดมา"
"และมันจะต้องดับสูญ ถ้ากล้าคิดแตะต้องคนที่ฉันรัก!"
==============================================
เนื้อเรื่องช่วงแรกอาจจะสโลว์ไปบ้าง แต่อย่าเพิ่งทิ้งกันน้า ; ^ ;
ใครผ่านเข้ามาอ่านและถูกใจ สามารถเป็นกำลังใจ ติชม แนะนำ ให้นักเขียนฝึกหัดคนนี้ได้นะคะ!
ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ค่า <3 (O w O)
よろしく、psrpowder
***Trigger warning : เลือด ความรุนแรง การข่มขู่ การทรมาน***
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ท่ามกลางควันหนาพวยพุ่งสู่ท้องฟ้า ต้นไม้ที่เคยเขียวขจีบัดนี้ถูกเผาไหม้จนเกรียมล้มลงสู่พื้นดิน ขณะที่นาโอริกำลังต่อสู้กับบุคคลปริศนาอยู่นั้น ทางฝั่งของพวกซากิเองก็กำลังเจอกับปัญหาใหญ่ เพราะไม่วายถูกคนใต้ชุดคลุมติดอาวุธ พยายามขัดขวางไม่ให้ทั้งสามฝ่าความโกลาหลออกไปได้
เคร้ง!
ฮินาวะตวัดโต้กับอาวุธคมที่จู่โจมเข้ามาจากหลายทิศทาง กวัดแกว่งดาบฉวัดเฉวียนปัดป้องอันตรายให้ห่างจากเด็กสาวผมสั้นเบื้องหลัง ร่างสูงเบี่ยงหลบการโจมตีพลันปลายแหลมจากหนึ่งในหอกคมให้จมดิน ใบมีดเฉือนลำคอขาดสะบั้นจนร่างใต้นอนแน่นิ่งไป ให้เวลาฮินาวะได้พักหายใจ ก่อนจะตรงไปหาอีกสองคนที่อยู่เบื้องหลัง
“ทนอีกหน่อยนะ เราต้องแข่งกับไฟป่านี่ให้ทัน” รุ่นพี่หนุ่มเอ่ยพลันจับจ้องเปลวเพลิงที่ลามต้นไม้ไล่หลังมาติด ๆ และไม่มีวี่แววจะมอดลง
“ค่ะ งั้นพวกเรารีบไป...”
“ย๊าก!”
“โฮชิ ระวัง!” ฮินาวะตะโกนลั่นครั้นมีเงาของหนึ่งในคนใต้ผ้าคลุมกระโจนออกมาพร้อมเหวี่ยงท่อนเหล็กใส่ซากิ เขาคว้าร่างบางไว้พลันหันตัวรับการโจมตี จนถูกฟาดเข้าที่ท้ายทอยอย่างจัง จนทั้งคนช่วยและถูกช่วยพากันล้มลงไปนอนกับพื้น
“โมโมเสะคุง!?”
ฟึบ!
ร่างใต้ผ้าคลุมตั้งท่าจะเหวี่ยงอาวุธหนักอีกครั้ง ทว่าเขากลับว่องไวสัมผัสถึงกลิ่นอายของโชโตะได้ทัน จึงตวัดท่อนเหล็กเข้าหาเด็กหนุ่มแทน
“อึก!” โชโตะถูกกระบองเหล็กขนาดเท่าตัวคนฟาดใส่ พลันกระเด็นไปหยุดที่โคนต้นไม้ใหญ่ โชคดีที่เจ้าตัวใช้อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชะลอแรงกระแทก ไม่เช่นนั้นคงมีอวัยวะบางส่วนแตกร้าวกันบ้าง
“รุ่นพี่คะ!” ซากิร้องลั่นครั้นเห็นประธานนักเรียนหนุ่มถูกซัดไปไกล แต่ตัวเธอไม่สามารถขยับไปไหนได้ เพราะต้องประคองเพื่อนหนุ่มที่บาดเจ็บสาหัสและหมดสติไปแล้ว ทันใดนั้นดวงตาสีเงินพลันเบิกกว้างทันทีที่รู้ตัวว่าตนอยู่ในวิถีของท่อนเหล็กหนัก มันกำลังจะฟาดใส่เธอ!
ฉัวะ
ท่อนเหล็กอันตรายชะงักแทบจะแตะปลายจมูกซากิ และเป็นโชโตะที่เฉือนศัตรูขาดเป็นสองซีกส่งเลือดคาวพวยพุ่งตามรอยผ่า แต่เขาหาได้สนใจเนื้อตัวที่เปรอะเปื้อนเลือดและรีบวิ่งเข้าไปหารุ่นน้องทั้งสองทันที
“ฮินาวะคุง เป็นยังไงบ้าง?” โชโตะก้มมองเด็กหนุ่มซึ่งยังคงไม่ได้สติเพราะถูกกระแทกเข้าที่ศีรษะอย่างจัง พลันกวาดมองป่าลึกเบื้องหลัง จิตของเขายังสัมผัสถึงอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามา หากเสียเวลาอยู่ตรงนี้นาน คงขอความช่วยเหลือไม่สำเร็จแน่
“เรารีบไปต่อเถอะครับ เดี๋ยวพี่แบกเขาไปเอง” โชโตะตั้งท่าจะดึงตัวฮินาวะมา
“ฉันทำเองค่ะ!”
“หา?” รุ่นพี่หนุ่มอุทานกับคำพูดนั้น แต่ก็กระจ่างในวินาทีต่อมาเมื่อซากิกลับแบกร่างสูงขึ้นหลัง และลุกขึ้นอย่างง่ายดาย ราวกับเพื่อนตนไม่ได้มีน้ำหนักขนาดนั้น เล่นเอาโชโตะอ้าปากค้าง เพราะถึงจะรู้จากฮิเมะโกะมาบ้าง ว่าซากิมีพละกำลังที่มากกว่าคนอื่น แต่ก็ไม่คิดว่าจะเยอะขนาดนี้....
“ไปกันเถอะค่ะ รุ่นพี่!” ซากิตะโกนเรียกสติของคนเป็นพี่ที่มัวตกใจจนลืมหน้าที่ให้รีบวิ่งตามเธอไปติด ๆ
เมื่อทั้งสองวิ่งฝ่าต้นไม้ซิกแซ็กที่เหมือนไม่มีวันสิ้นสุด ทว่าดุจความหวังเล็กจ้อยที่พวกเขาวิ่งเท้าเร็วพอจะสลัดไฟป่าไว้ด้านหลัง ประธานนักเรียนหนุ่มจึงหยิบเครื่องส่งสัญญาณจากกระเป๋าเสื้อและกดปุ่มเพื่อให้มันทำงาน อุปกรณ์ทรงสามเหลี่ยมขยายตัวเผยให้เห็นไอพ่นจิ๋วที่พร้อมจะทำงาน ตอนนี้แหละเป็นโอกาสทอง!
ดวงตาสีเขียวมรกตจดจ้องทัศนียภาพเบื้องบน พลันตัดสินใจจะขว้างเจ้าเครื่องส่งสัญญาณให้ทะยานสู่ท้องฟ้า และเรียกความช่วยเหลือมาให้พวกเขา
วูบ! ฉึก!
บางสิ่งพุ่งตัวรวดเร็วตัดผ่านชั้นอากาศ แทงเข้าที่หลังมือของโชโตะอย่างจังก่อนที่เขาจะได้โยนเครื่องส่งสัญญาณ มันคือมีดผ่าตัดที่ลับคมมาดี คมแหลมที่เฉือนเข้าเนื้อแผ่ซ่านความเจ็บ จนยากจะควบคุมให้ถือสิ่งในมือได้ เด็กหนุ่มกัดฟันสะกดความทรมานไว้พลางหันขวับมองเจ้าของอาวุธอันตราย นัยน์ตาสีเขียวมรกตสบเข้ากับผู้มาใหม่ซึ่งนั่งอยู่บนต้นไม้ใหญ่ไม่ไกลจากพวกเขา
“อ๊ะๆ ของแบบนั้นขืนปล่อยให้หลุดมือไปก็อันตรายแย่น่ะสิ” เสียงทุ้มของชายหนุ่มเอ่ยปนหัวเราะเยาะ
“อะไรของใครกันแน่ที่อันตราย?” โชโตะเอ่ยเสียงเรียบ ก่อนจะดึงมีดผ่าตัดออกจากมือราวไม่รู้สึกเจ็บปวด และปล่อยเลือดสีสดไหลจากบาดแผล ครั้นมองสีหน้าสงบนิ่งของเด็กหนุ่ม ริมฝีปากแห้งผากจนแตกระแหงพลันแสยะยิ้มภายใต้ผ้าคลุมอย่างนึกสนุก เขาผลักตัวเองจากต้นไม้สูงและลงมายืนบนพื้นดินด้วยท่าทีสบาย
ดวงตาคมของเด็กหนุ่มเบิกกว้างเมื่อเห็นร่างของฝ่ายตรงข้ามชัด ๆ เพราะแสงที่ตกกระทบ ผิวหนังภายใต้ผ้าคลุมสีเข้มซีดเซียวเกินกว่าจะใช้คำว่า ขาว หรือ เผือก อย่างกับไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยงมาเป็นเวลานาน รอยแผลตามตัวที่เริ่มฟกช้ำจนเด่นชัดบนผิวซีด
“แกเป็นใคร?”
“รู้ไว้แค่นายจ้างของฉันไม่ชอบที่มีคนมาขวางงานก็พอ” โชโตะหรี่ตาพินิจ เขาพยายามนึกหาทางที่จะสลัดอุปสรรคตรงหน้าให้ได้โดยเร็วที่สุด ถึงจะสัมผัสการเคลื่อนไหวอื่นไม่ได้และตกผลึกว่ามีแค่ชายตรงหน้าเท่านั้นที่ขวางทางอยู่ อย่างไรก็ตามยังไงก็คงเลี่ยงการต่อสู้ไม่ได้เป็นแน่....
แต่ชีวิตของพวกรุ่นน้องกับอุปกรณ์ส่งสัญญาณต้องมาก่อน!
“เข้าไปหลบในป่า เร็ว!” โชโตะพลันโยนเครื่องส่งสัญญาณให้ซากิพร้อมออกคำสั่งกับเธอ เด็กสาวจึงพุ่งตัวกลับไปในมุมมืดของป่าทันควัน
“คิดจะหนีงั้นเรอะ!” ร่างใต้ผ้าคลุมพุ่งประชิดตัวเด็กทั้งสองแทบจะทันที
“อย่ามายุ่งกับรุ่นน้องของฉัน!” ทว่าโชโตะไม่ยอมให้เขาแตะพวกซากิได้แม้แต่ปลายเล็บ และกระชากคอชายผู้นั้นให้ถอยออกมา พลันเหวี่ยงหมัดขวาต่อยเต็มดั้งจมูก จนเลือดกำเดาพุ่งกระฉูด
เด็กหนุ่มตวัดอาวุธศักดิ์สิทธิ์หวังจะเฉือนศัตรูให้ขาดสะบั้น ทว่าอีกฝ่ายกลับใช้มือรับคมดาบเสียอย่างนั้น แม้ใบมีดจะกินเนื้อเข้าไปจนเกิดแผลเหวอะ แต่ก็ไม่สามารถหาความรู้สึกเจ็บปวดจากใบหน้าแสยะยิ้มนั้นได้
“ใช้ลูกเล่นตื้น ๆ กับฉันยังเร็วไปร้อยปี ไอ้หนู!”
จิตสังหารพลันรุนแรงขึ้น โชโตะจึงรีบถีบตัวถอยห่างมาตั้งหลัก เขาลอบมอง ณ ตำแหน่งที่พวกรุ่นน้องของเขาไปซ่อนตัว พลางคิดหาวิธีกำจัดเจ้าอุปสรรคตรงหน้าให้พ้นทาง แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น
“จริงสิ” ราวกับนึกอะไรออก เด็กหนุ่มวาดยิ้มยียวนทันใด
“รู้ไหม การยิ้มระรื่นกับความเจ็บปวดที่ได้รับน่ะ มันเป็นการกระทำของพวกอ่อนแอเท่านั้นแหละ”
“ว่าไงนะ” น้ำเสียงทุ้มเริ่มฉายแววหงุดหงิดอย่างรวดเร็ว
“เพราะแกมันอ่อนแอ...จนไม่แม้แต่จะสามารถป้องกันตัวเองไม่ให้เจ็บ เลยได้แต่ยิ้มรับความน่าสมเพชของตัวเองสินะ” ใบหน้าอ่อนโยนวาดยิ้มเย้ยหยัน พลันสังเกตเห็นไฟโทสะแทบจะพุ่งออกมาจากใต้ฮู๊ดคลุมนั่น เด็กหนุ่มเลยเลือกจะสุมไฟเข้าไปอีกสักรอบ
“แต่ไหน ๆ แกก็ชอบขนาดนี้ งั้นฉันขอใช้แกเป็นกระสอบทราย ให้มันมีประโยชน์กับเขาหน่อยแล้วกันนะ”
“แก...”
และไฟก็ลุกโชนสำเร็จ!
“แก!” เหยื่อที่ติดกับเข้าให้พลันถลึงตาแดงก่ำแทบจะหลุดจากเบ้า ชั่วพริบตาร่างใต้ผ้าคลุมก็ตวัดดาบในฝักออกมา ปะทะกับโชโตะเต็มแรง เกิดเป็นเสียงเหล็กกระทบกันถี่ยิบ ก่อนจะเป็นเด็กหนุ่มที่ได้โอกาสตวัดดาบเฉือนแผงอกของศัตรูจนเป็นแผลเหวอะสยดสยอง คนถูกฟันกอบกุมเสื้อผ้าที่ขาดเป็นทางยาว ก่อนจะโพล่งใส่ด้วยความโกรธ
“ไอ้เด็กเวร รู้ไหมนี่มันเสื้อตัวโปรดของฉันนะเว้ย!” เขากระโจนใส่เด็กหนุ่มเร็วกว่าตาจะมองเห็น สะบัดใบมีดใส่สุดแรงทำเอาโชโตะเซถอยไปชนกับต้นไม้และเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ไม่พ้นถูกปลายดาบจ่อ ณ ตำแหน่งหัวใจและพุ่งแทงทันที
ฉึก
โชโตะพลิกตัวหลบเฉียดฉิว ปล่อยปลายดาบศัตรูแทงลงทะลวงเนื้อไม้ จนขยับหนีไม่ได้พริบตาหนึ่ง เปิดช่องให้เขาใช้ปลายเท้าเสยคางจนเลือดกบปาก
ร่างใต้ผ้าคลุมยังคงตามไม่เลิก และปะทะกับเด็กหนุ่มซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกระทั่งเจอช่องโหว่ ที่อาจจะพลิกเกมได้....
ฉวับ
ใบมีดคมปาดสีข้างของเด็กหนุ่มได้สำเร็จ แต่ก็ถูกสวนกลับด้วยปลายดาบแหลมที่แทงทะลุไหล่ซ้าย ทว่าเป็นฝ่ายโชโตะที่เสียเปรียบ เพราะศัตรูของเขาไม่ได้มีความเจ็บปวดทรมานใด ๆ อย่างที่เขาได้รับ และยังจะดูชื่นชอบมันเอามากเสียด้วย
“อ๊า...ความแสบคันนี้ฉันล่ะชอบมันเหลือเกิน!” เสียงทุ้มนั้นบิดเบี้ยว เขากระชับแขนของโชโตะแน่น บังคับให้ใบมีดเฉือนเนื้อตัวเองลึกขึ้น ลึกขึ้นอีกจนแทบทะลวง หลอดเลือดฉีกขาดผลักของเหลวข้นให้พวยพุ่งออกมาจนเปรอะเปื้อนไปทั่วเนื้อตัวซีด อุ้งมือหนาที่บีบแขนเด็กหนุ่มแน่นไม่ปล่อยให้เขาขยับหนีได้ ทำให้มีเวลาพอจะจ่อปลายแหลมใส่หน้าท้องของโชโตะ และไม่วายวาดยิ้มสยดสยอง
“ทำถูกใจแบบนี้...สงสัยคงต้องตกรางวัลงาม ๆ เสียแล้ว”
ใต้เงาฮู๊ดคลุมเผยใบหน้าแห่งชัยชนะไม่ปิดบัง เขาคิดว่าจะทรมานร่างตรงหน้าอย่างไรให้สาสมกับความเละเทะที่ทำกับตนดี....
“ได้ แต่ว่านะ...ฉันไม่ชอบสีหน้าแกว่ะ ขอแก้หน่อยก็แล้วกัน!” โชโตะวาดยิ้มพร้อมยกมือข้างซ้ายขึ้นเหนือหัว อีกฝ่ายถึงกับเลิกคิ้วสูง และเผลอเสียท่าให้จนได้
ปัก!
วินาทีที่โชโตะเอี้ยวตัวหลบเปิดทางสะดวกให้วัตถุบางอย่างทะลวงเงามืด มากระแทกร่างใต้ผ้าคลุมเต็มแรงจนผงะหงายหลัง มือหยาบเผลอปล่อยจากด้ามดาบสีเขียวเข้ม เปิดโอกาสให้โชโตะดึงมันกลับมาได้ในที่สุด
เด็กหนุ่มสูดหายใจเข้าลึกจดจ่อที่เป้าหมายพลันเชื่อมประสาทรับรู้กับคู่หู นัยน์ตาสีเขียวมรกตมองเห็นจุดสำคัญบนร่างกายตรงหน้าทะลุปรุโปร่งในชั่วพริบตา พลันวาดตัดผ่านทุกจุดอย่างพลิ้วไหวราวกับสายน้ำ
ฉวับ! แผละ!
รู้ตัวอีกทีร่างของชายผู้โชคร้ายก็แปรเปลี่ยนเป็นชิ้นเนื้อหลายชิ้นกระจัดกระจายทั่วพื้น เลือดข้นสาดกระเซ็นย้อมพื้นดินเป็นสีแดงเข้ม รวมถึงตัวของเด็กหนุ่มด้วย
“แบบนี้สิ...ถึงจะเป็นการตกรางวัลงาม ๆ ” ริมฝีปากสวยยิ้มกริ่ม พลางจ้องมองชิ้นเนื้ออาบเลือดตรงหน้าอย่างพึงพอใจก่อนจะมีเสียงใหม่ดังขึ้นอย่างเหนื่อยใจ
“เลิกทำสีหน้าแบบนั้นเสียทีเถอะโชว์ ฉันล่ะเสียวสันหลังทุกที” เสียงเล็กคล้ายคลึงเด็กผู้หญิง ดังมาจากอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของหัวหน้าสมาชิกเจ็ดซามูไร เด็กหนุ่มก้มมองคู่หูของตนและส่งยิ้มน่ารักที่ผิดกับเมื่อสักครู่นี้ให้
“ยังไม่ชินอีกเหรอครับ ฟูกะซัง?”
“ไม่มีทาง! โชของฉันต้องเป็นเด็กน่ารักสิ เชอะ!” ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มอย่างเอ็นดู ช่างไม่เข้ากับเลือดเข้มที่เปื้อนบนใบหน้าเอาเสียเลย...
หลังสิ้นสุดบทสนทนากับคู่หู โชโตะจึงหันไปยังป่ารกทึบซึ่งปรากฏร่างของซากิโดยมีฮินาวะอยู่บนหลัง เธอเดินออกมาช้า ๆ พยายามไม่เหลือบมองกองเลือดน่าแขยงนั่นและตรงลิ่วไปหารุ่นพี่หนุ่มทันที
“รุ่นพี่คะ ที่เอว...” ดวงตาสีเงินวาวจับจ้องที่บาดแผลแดงสด ทว่าผู้เป็นพี่กลับโบกมือไม่ยี่หระเสียอย่างนั้น
“ไม่ต้องห่วงครับ มันแค่เฉียดน่ะ โชคดีที่มีเกราะด้านใน” เด็กหนุ่มเอ่ยพลางถลกชายเสื้อ เผยให้เห็นเสื้อเกราะอ่อนที่ถูกใส่อยู่ด้านในอีกชั้นหนึ่ง
“แต่มันก็เข้าเนื้อนะคะ”
“แค่นี้เล็กน้อยครับ...แต่พี่อาจจะโดนเจ้านี่เล่นงานหนักกว่านี้ก็ได้ ถ้าเธอไม่ช่วยไว้”
“ค ค่ะ...” เด็กสาวหัวเรอะแก้เก้อ
เพราะเธอนั่นแหละที่เป็นคนขว้างอุปกรณ์ส่งสัญญาณใส่ศัตรู และสร้างโอกาสให้กับโชโตะเพื่อที่จะชนะมัน หากไม่ได้แรงจากซากิล่ะก็ ป่านนี้รุ่นพี่หนุ่มคงไม่ได้มีแค่รอยถากบนร่างกายหรอก
“เอาล่ะ ทีนี้ก็เหลือแค่ส่งสัญญาณ...” ประธานนักเรียนหนุ่มเอ่ย พลางเดินไปหยิบเครื่องส่งสัญญาณซึ่งตกบริเวณใกล้กับกองเลือดขึ้นมา ก่อนจะตรวจสอบความเสียหาย แม้จะมีบุบไปบ้างแต่ก็สามารถใช้งานได้ เขาจึงเหวี่ยงมันขึ้นท้องฟ้าไปสุดแรงอีกครั้ง
เมื่อถึงชั้นบรรยากาศที่ลอยตัวได้ มันพลันขยายส่วนใบพัดออกมาพร้อมพุ่งทะลวงหมู่เมฆไปด้วยความเร็วแสง ในที่สุดก็ถึงเวลาที่กำลังเสริมจะมาเสียที...
“ต้องรีบออกไปจากป่านี่ อย่างน้อยก็ให้ฮินาวะคุงถึงมือหมอก่อน” โชโตะเอ่ย ความจริงแล้วเขาก็รู้สึกผิดอยู่เนือง ๆ ที่ต้องปล่อยให้อาโอบะและนาโอริรับมือกับเรื่องตรงนี้ แต่ในเมื่อมีคนเจ็บเขาก็ไม่สามารถละทิ้งได้เช่นกัน
ว่าแล้วพวกเขาจึงพากันวิ่งออกจากป่าทึบในทันทีทิ้งให้กองเนื้อชุ่มเลือดน่าสยดสยองนั่นไว้ข้างหลัง....
ครั้นจบเรื่องวุ่นไปด้านหนึ่ง ทางด้านของอาโอบะเองก็ถูกอุปสรรคชิ้นใหญ่ขวางทางภารกิจของเธอไม่ต่างกัน
ตุม!
“พี่สาว มาเล่นกันเถอะนะ!” เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กผู้หญิงภายใต้ผ้าคลุมสีเข้มดังกังวานไปทั่วราวกับว่าเธออยู่รอบ ๆตัว พร้อมกับลูกตุ้มเหล็กที่ฟาดใส่ร่างเพรียวไม่ยั้ง ทำเอาพื้นรอบข้างกลายเป็นหลุมลึก
“อะไรของแกวะ ถ้าอยากเล่นก็กลับบ้านไปหาแม่นู่นไป!” อาโอบะขมวดคิ้วไม่สบอารมณ์ พลันเปลี่ยนทิศทางวิ่งออกจากจุดที่ถูกลูกเหล็กเหวี่ยงใส่ระรัว
“หน็อย...”
ฟึบ
“บอกให้มาเล่นด้วยกันไง!” ชั่วพริบตาเจ้าของเสียงเล็กก็ไล่ตามหญิงสาวทัน ไม่วายเหวี่ยงลูกตุ้มเหล็กเข้าใส่อาโอบะอย่างจัง เธอเลยจำเป็นต้องยกดาบคู่ใจมาปัดป้อง และตวัดคมดาบตัดโซ่เหล็กที่ยึดกับลูกตุ้มจนขาดสะบั้น ก่อนจะหันหลังกลับไปยังทางที่จะไปไม่สนใจร่างเล็กใต้ผ้าคลุม
“ก็บอกว่าไม่เล่นไงโว้ย หูหนวกหรือไง?” ร่างเล็กมองดูอีกฝ่ายที่วิ่งไปไกลเรื่อย ๆ ก่อนจะหยิบอาวุธชิ้นโปรดของเธอขึ้นมาดู
“ไปเสียแล้ว...” เด็กสาวพูดอย่างไม่ยี่หระก่อนจะฉีกยิ้มกว้างจนน่าขนลุก
“เอาเถอะ อย่างน้อยก็คงยื้อเวลาได้นิดหน่อยล่ะนะ ฮิ ๆ”
ณ ลานโล่งกว้างติดกับหน้าผาสูงชัน บรรยากาศตึงเครียดแทรกผ่านสายลมที่โหมกระหน่ำ บัดนี้เด็กสาวผู้มีเรือนผมสีเปลือกไม้ได้กำดาบคาตานะในมือแน่น ดวงตาที่พร่ามัวถูกเรียกกลับมาชัดเจนอีกครั้ง และเฉียบคมกว่าครั้งไหน
“เกิดอะไร...ขึ้น?” นาโอริพึมพำ ก่อนจะสบเข้ากับแสงแวววาวจากคมดาบสวย เธอเบิกตากว้างแทบไม่เชื่อสายตาตนเอง ทั้งสัมผัส ทั้งน้ำหนัก มันช่วยยืนยันว่าสิ่งที่เธอกำลังถืออยู่มันคือดาบคาตานะ ดาบญี่ปุ่นที่เธอหลงใหล...
“ม ไม่จริงน่า ดาบนั่น!” เสียงสั่นเครือเอื้อนเอ่ยจากหญิงสาวใต้ผ้าคลุม บัดนี้เธอกลับตัวสั่นจนแทบจะทรุดลงไปนั่ง ครั้นเห็นเด็กสาวตั้งท่าจะพยุงตัวเอง เธอพลันกลัวขึ้นสมองจึงชี้ปลายดาบเข้าหานาโอริและตะคอกใส่
“อย่าขยับนะ!” นัยน์ตาสีซากุระหม่นสั่นไหวห้ามไม่อยู่ เธอไม่อยากจะให้ร่างสะบักสะบอมตรงหน้าขยับแม้แต่นิดเดียว
“ต ต้องฆ่าทิ้งเดี๋ยวนี้...” ไม่อยากเห็นร่างนั่นมีลมหายใจอยู่อีก!
“ตายซะ!” ชั่วอึดใจหญิงสาวพุ่งเข้าใส่นาโอริที่นั่งอยู่ มือสองข้างง้างดาบขึ้นและฟาดสุดแรงเกิด
เคร้ง!
เจ้าของดวงตาสีซากุระทั้งสองคนเบิกกว้างกับเหตุการณ์ตรงหน้า เพราะนาโอริไม่ได้ถูกดาบคมฟันร่าง และเธอก็ไม่ได้ยกดาบขึ้นมาต้านมันด้วย...
“ทำไม...” นาโอริเอ่ยเสียงสั่นเครือ
เบื้องหน้าเจ้าของเรือนผมสีเปลือกไม้ คือเด็กหนุ่มที่ควรจะหนีไปไกลแล้ว แต่บัดนี้เขากลับกำลังต้านดาบกับศัตรูไม่ทราบชื่ออยู่เพื่อปกป้องเด็กสาว ยิ่งเห็นรอยไหม้บนมือที่จับดาบ ก็ตกผลึกทันทีว่าเจ้าตัวไม่ได้ตั้งใจจะวิ่งหนีไป แต่หลบไปหาอาวุธมาถือต่างหาก
ดั่งแสงสว่างที่ช่วยชีวิตนาโอริเอาไว้...ทว่าในความอุ่นใจ ความขุ่นเคืองก็พวยพุ่งขึ้นมาเช่นกัน
“ทำไมท่านไม่หนีไป”
“ให้หนีไปแล้วทิ้งเธอไว้น่ะ....เราทำไม่ได้จริง ๆ ” เขาหยุดไว้เท่านั้น ก่อนจะใส่แรงผลักร่างใต้ผ้าคลุมจนหงายหลัง ตามด้วยปลายดาบคมที่พุ่งเข้าใส่ทันทีที่ได้โอกาส
ดาบสองเล่มปะทะกันรุนแรงจนเกิดประกายไฟ ทว่าครานี้ฝีมือของเด็กหนุ่มกลับห่างชั้นผิดกับนาโอริ มันหนักหน่วงและว่องไว จนฝ่ายศัตรูเริ่มที่จะรับการโจมตีนั้นไม่ได้ ทำให้เกิดบาดแผลตามร่างกาย
“เขาสั่งไม่ให้ทำอะไรเป้าหมายแท้ ๆ” หญิงสาวกัดฟันกรอด โดยไม่รู้ว่าความกังวลที่มีกำลังเปิดช่องโหว่ให้โดนโจมตีเสียได้
ฉึก
“อ้าก!” เสียงแหลมกรีดร้องเมื่อถูกปลายดาบคมแทงเข้าที่ต้นแขนข้างซ้าย
หญิงสาวรีบถีบร่างอีกฝ่ายให้กระเด็นออกห่างก่อนจะกุมแขนของตน แต่เขาไม่ปล่อยให้เธอได้มีเวลารับรู้ความเจ็บและวาดดาบใส่อีกครั้ง ครั้งนี้มันต่อเนื่องและดุเดือดกว่าครั้งก่อน นาโอริที่นั่งมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา พยายามที่จะลุกขึ้นอีกครั้ง เธอคิดว่าถ้าหากไม่ทำอะไรสักอย่างคงได้กลายเป็นตัวถ่วงของเด็กหนุ่มแน่ ๆ
ฟึบ
วินาทีนั้น นัยน์ตาสีซากุระสังเกตเห็นลูกธนูแหลม ถูกยิงมาฝ่าหมู่เมฆมุ่งตรงมายังองค์ชายหนุ่ม ตอนนั้นเธอต้องทำอะไรสักอย่าง และสิ่งเดียวที่คิดได้คือใช้ตัวเองเป็นโล่กำบัง
“ระวังค่ะ!” นาโอริที่เห็นสิ่งนั้นจึงใช้แรงเฮือกสุดท้ายวิ่งเข้าไป และผลักอีกฝ่ายให้พ้นจากวิถีลูกศร
ฉึก
หัวธนูปักเข้าที่กลางลำตัวและเผยธาตุแท้ของมันออกมา เมื่อเด็กสาวพลันกรีดร้องโหยหวนเพราะถูกกระแสไฟฟ้าแรงสูงแล่นเข้าทุกส่วนของร่างกาย ลมหายใจติดขัดไม่เป็นจังหวะ เนื้อตัวแข็งทื่อไปเสียดื้อ ๆ แม้แต่แรงจะถือดาบก็หมดไป
“นาโอริ!” องค์ชายหนุ่มลุกพรวดไปหาอีกฝ่าย เขาโอบร่างบางให้พิงกับอกของตนพลางร้องเรียกเธอซ้ำไปมา ไม่ทันไรจึงมีเสียงฝีเท้าดังมาจากในป่าทึบ เผยให้เห็นร่างคนตัวเล็กในผ้าคลุมยาวสีน้ำตาลเข้มที่เดินออกมาด้วยท่าทางร่าเริงพร้อมกับลูกตุ้มที่ขาด
“โอ๊ะ อยู่นี่กันเองเหรอ?”
“คงไม่ได้มีใครตามมาใช่ไหม” หญิงสาวใต้ผ้าคลุมเอ่ยขณะพยุงร่างบอบช้ำของตนให้ยืนขึ้น
“ไม่ต้องห่วง ฉันถ่วงไว้ให้แล้วน่า แถมป่านี้ก็ตั้งกว้างใหญ่กว่าจะหาเจอคงอีกนาน”
“ดี...เพราะเป้าหมายก็อยู่กับเราแล้ว ที่เหลือก็แค่รอ...”
พรึบ!
ปลายขอบหน้าผาเกิดการบิดเบี้ยวของอากาศอีกครั้ง ปรากฏร่างของเรือบินยักษ์จอดเทียบกับหน้าผาสูง ประตูเหล็กถูกเปิดออกพร้อมกับร่างสูงของชายหนุ่มผู้อยู่ใต้ผ้าคลุมเข้มเช่นเดียวกันก้าวเท้าลงมา
“ซาโซริ” เสียงเล็กเอ่ยอย่างแผ่วเบาพลางจ้องมองชายหนุ่มข้างกาย ดวงตาสีซากุระเช่นเดียวกันกวาดตามองบาดแผลหลายจุดบนร่างบางตรงหน้า ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสายตาอาฆาตทันทีที่จับจ้ององค์ชายเป้าหมาย
“ถวายความเคารพองค์ชายผู้สูงส่ง” น้ำเสียงเย็นวาบสะกดศัตรูได้อยู่หมัด และสังเกตเห็นเด็กหนุ่มสูงศักดิ์กระชับมือที่โอบนาโอริไว้แน่นขึ้นราวปกป้องเธอ
“ท่านเป็นห่วงเด็กคนนั้นเหรอ....งั้นก็มากับพวกเราสิ แล้วนังเด็กนั่นก็จะปลอดภัย” คนที่ตกใจกับคำพูดนั้นกลับเป็นนาโอริ เธอเค้นแรงและกลั่นกรองคำพูดในหัวที่มี
“เขาจะไม่ไปไหนกับพวกแกทั้งนั้นแหละ อึก!” นาโอรินิ่วหน้าทรมาน ครั้นถูกกระชากผมอย่างแรง
“เงียบก่อนสิพี่สาว ซาโซริยังพูดไม่จบเลย”
“ปล่อยเธอ!”
“ท่านอยู่นิ่ง ๆ ดีกว่านะ” เสียงเล็กเอ่ยพร้อมกับชี้มีดสั้นใส่เด็กหนุ่ม
“จะลงอะไรก็มาลงที่ฉัน แต่พวกแกห้ามทำอะไรเขาเด็ดขาด!” นาโอริร้องลั่น หัวใจสั่นไหวอย่างห้ามไม่ได้ เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังเชิญชวนสิ่งที่น่ากลัวที่สุดเข้ามาหาตนเอง
“จะเอายังไงฝ่าบาท ท่านจะไปกับเราแต่โดยดีไหม? ตอบเร็วหน่อยก็ดี เพราะความอดทนฉันมีค่อนข้างน้อย..” ร่างสูงเอ่ยพร้อมเดินเข้ามาจ่อมีดสั้นใส่นัยน์ตาของนาโอริ
“คิดว่าแกจะสั่งเราได้หรือยังไง?” เด็กหนุ่มฝืนทำเป็นใจแข็ง และตวัดสายตาจ้องศัตรูตรงหน้า
“จะได้หรือไม่ ก็พิสูจน์ด้วยการแทงดวงตาน่ารังเกียจของเด็กนี่แล้วกัน” ปลายมีดเคลื่อนเข้าหาดวงตาสีซากุระ นาโอริเม้มปากแน่นรอรับความเจ็บปวดที่กำลังจะมาถึง
ภาพตรงหน้าแทบจะขยี้หัวใจเด็กหนุ่มในพริบตา จนในที่สุดเขาก็ไม่สามารถทนต่อไปได้ จึงจำใจคว้ามือที่ถือมีดนั้นพลันตะโกนออกมาสุดเสียง
“ตกลง!...เราตกลง” ร่างสูงแสยะยิ้มพอใจและยอมลดมีดลงจากดวงตาคู่สวย
“ทำไม” นาโอริร้องไห้ออกมา เธออยากกู่ร้องใจจะขาดให้คนตรงหน้าวิ่งหนีไปอีกครั้ง เธอยอมที่จะเป็นฝ่ายถูกทรมานยังดีเสียกว่า มันต้องไม่ใช่แบบนี้...
“เราขอโทษ”
“ยอมตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่อง...น่าขำดีว่าไหมที่ต้องมาให้เด็กผู้หญิงบอบบางคนหนึ่งปกป้องจนตัวตายแบบนี้ ไม่ขี้ขลาดไปหน่อยเรอะองค์ชาย?”
“ไม่ต้องพูดมาก ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้” เด็กหนุ่มกดเสียงต่ำ
“เอาเถอะ ถ้ามันจะทำให้แกยอมมากับพวกเราแต่โดยดีก็พอ แต่ถ้าเกิดคิดตุกติกละก็....คงรู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?”
“เราพูดคำไหนคำนั้น...แกต่างหากที่อย่าตุกติก”องค์ชายแห่งฮิบานะย่างก้าวไปหาชายร่างสูง
“ไม่นะคะ อย่าทำแบบนี้ ท่านไม่จำเป็นต้อง...”
“จำเป็นสิ” เขาเอ่ยแทรกพลันหันมองเด็กสาวที่ร่ำไห้เจียนขาดใจ
“เพราะเราต้องปกป้องเธอไงล่ะ” รอยยิ้มอย่างอ่อนโยนเป็นที่สุดถูกวาดบนใบหน้า เขาสบกับดวงตาสีซากุระเป็นครั้งสุดท้าย และพร้อมจะไม่เหลียวมองอีก
วินาทีนั้นในสายตานาโอริ มันกลับซ้อนทับพอดิบพอดีกับใครคนหนึ่งที่คิดถึง ความสงสัยในใจได้ถูกคลี่คลายแล้วในเวลาเช่นนี้...
“อย่านะ! อึก!” ไม่ทันจะได้ร้องเรียกคนตรงหน้า สัมผัสหนักหน่วงที่หลังคอของเธอทำให้ภาพเบื้องหน้ามืดลงในชั่วพริบตา ร่างบางหน้าคะมำลงกับพื้นดิน หนังตาหนักอึ้งกำลังจะปิดสนิท ภาพสุดท้ายที่เลือนราง คือร่างของคนที่เธอไม่สามารถปกป้องเอาไว้ได้ กำลังห่างไกลออกไป
“อย่าไปนะ...”
“โซว์...”
to be continue…
======================================
มาคอมเมนท์แนะนำกันได้นะฮัฟฟฟ
ฝากกดถูกใจ เป็นกำลังใจกันด้วยน้าา <3
つづく、psrpowder