จากที่อยากสานฝันเป็นนักดาบกลับต้องผันตัวสู่เส้นทางนองเลือดแค่เพราะอยากปกป้องเขาที่ด้ายแดงแห่งโชคชะตาผลักให้(วิ่ง)ชนกันถึง 2 รอบ แต่วันใดเล่าที่ดาบในมือจะหันคมใส่เขาเสียเอง...เพื่อสำเร็จเป้าหมายของมัน

7 Samurai - ตอนที่29 ข่าวร้ายกับแผนการตีกรอบ โดย psrpowder @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,แอคชั่น,รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,7Samurai ,ไม่ฮาเร็ม,ตัวเอกหญิง ,ดาบพูดได้,ญี่ปุ่น,แอคชั่น,รักวัยรุ่น,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

7 Samurai

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,แอคชั่น,รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

7Samurai ,ไม่ฮาเร็ม,ตัวเอกหญิง ,ดาบพูดได้,ญี่ปุ่น,แอคชั่น,รักวัยรุ่น,แฟนตาซี

รายละเอียด

จากที่อยากสานฝันเป็นนักดาบกลับต้องผันตัวสู่เส้นทางนองเลือดแค่เพราะอยากปกป้องเขาที่ด้ายแดงแห่งโชคชะตาผลักให้(วิ่ง)ชนกันถึง 2 รอบ แต่วันใดเล่าที่ดาบในมือจะหันคมใส่เขาเสียเอง...เพื่อสำเร็จเป้าหมายของมัน

ผู้แต่ง

psrpowder

เรื่องย่อ

สวัสดีค่าา เรา psrpowder น้าาา ยินดีที่ได้รู้จักรี้ดเดอร์ทุกท่านที่ผ่าน(หลง)เข้ามาฮะ!
(เชิญชวนมาติดตามกันได้ที่ Tiktok นะฮะ จะอัพเดตเรื่อย ๆ คับ)



เอาล่ะ….วันนี้เรามีนิยายออริจินอล มานำเสนอ!!

ชื่อเรื่องว่า 7 Samurai (ถ้าสงสัยว่าทำไมชื่อนี้ คงบอกได้แค่ว่าเป็นความเบียวของไรท์เองแหละค่ะ555)

เป็นแนวแฟนตาซี เซ็ตติ้งประเทศญี่ปุ่นยุคปี3000 มีฉากต่อสู้ฟิลใช้ดาบตบตีกันไปมา ชิ้งๆๆ

ผสมความรักแบบวัยใสน่ารัก(มองตาปุ๊ปก็ปิ้งกันปั๊บ!) 

แถมปมเรื่องชวนซึ้งใจ (คนอ่านซึ้งมั้ยไม่รู้แต่ไรท์น้ำตาหยด ;-; )

 
ใด ๆ มันอาจจะไม่ตามกระแส ไม่ตามตลาด แต่เราอยากลงเรื่องที่ตั้งใจสร้างให้ทุกคนได้อ่านจริง ๆ
และอยากขอโอกาสทุกท่านที่แวบผ่านเข้ามา คอยชี้แนะแนวทางให้ไรท์คนนี้ด้วยนะคะ
ปล. เรื่องอาจไม่ได้หวือหวาหรือน่าตื่นเต้น แต่อยากให้จับตา จับมือ จับหูดูการเติบโตของน้อง ๆ ไปด้วยกันน้าา 


==============================================

***นิยายเรื่องนี้มีฉากต่อสู้และฉากความรุนแรงอื่น ๆ แทรกในบางตอน***

แต่จะมีการแจ้ง Trigger warning ก่อนเริ่มอ่านทุกครั้ง 

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

==============================================

ชิสึจิ นาโอริ ตัดสินใจทำตามความฝันวัยเด็ก เธอเลือกสอบเข้าที่โรงเรียนเฉพาะทางสำหรับนักดาบ และได้พบกับคู่หูซึ่งเป็นดาบไม้เล่มหนึ่งที่ต้องตาเธอตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็น เลยมอบชื่อให้ว่า จูลิโอ้
และต้องฝ่าฟันทั้งเรื่องเรียน เรื่องครอบครัว เรื่องเฉียดตายไปจนถึง…เรื่องความรัก!? โดยมีเจ้าดาบคู่ใจเป็นสักขีพยานเคียงข้างเสมอ
....แต่ดาบเล่มนี้ 

ไม่ได้มอบเพียงคู่หูแก่เธอ แต่มอบหลายสิ่งนับไม่ถ้วนโดยไม่รู้ตัว



มันมอบสิ่งที่เลวร้าย บ้าคลั่งและหิวกระหาย 
สิ่งที่ยากจะควบคุมและพร้อมจะกลืนกินจิตบริสุทธิ์ของเด็กสาวอย่างเธอ



 "ให้ข้า..ได้ลิ้มรสเลือดพวกมันเสียเถอะ"

"ออกไป...ออกไปจากหัวฉัน!"



มันมอบโชคชะตา ให้ได้พบพานใครคนหนึ่งที่แลกชีวิตเพื่อให้เธอปลอดภัย 
ผู้เป็นดั่งแสงอันล้ำค่าที่ต้องรักษาไว้แม้ตัวตาย



"เพราะสัญญากันแล้ว...ว่าจะออกไปจากที่นี่ด้วยกัน เลยต้องทำทุกทางไม่ให้เสียเธอไป"

"ฉัน...ปกป้องนายได้ใช่ไหม?"



มันมอบเส้นทางใหม่ที่ดอกซากุระดอกตูมอย่างเธอ...จะได้ผลิบานสะพรั่ง ให้สมดั่งปรารถนา



"ในที่สุดก็ถึงวันนี้....วันที่ฉันไม่ต้องปกปิดอีกต่อไป"

"คุณ...คือใคร?"
 

มันมอบตัวตน เรื่องราวและสายสัมพันธ์นับไม่ถ้วนให้แก่เธอ แต่ก็จ้องจะช่วงชิงทุกสิ่งไปเช่นกัน

 

"เพราะนั่น...คือสาเหตุที่มันเกิดมา"

"และมันจะต้องดับสูญ ถ้ากล้าคิดแตะต้องคนที่ฉันรัก!"
 

==============================================


เนื้อเรื่องช่วงแรกอาจจะสโลว์ไปบ้าง แต่อย่าเพิ่งทิ้งกันน้า ; ^ ;

ใครผ่านเข้ามาอ่านและถูกใจ สามารถเป็นกำลังใจ ติชม แนะนำ ให้นักเขียนฝึกหัดคนนี้ได้นะคะ! 

ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ค่า <3 (O w O)


よろしく、psrpowder 

สารบัญ

7 Samurai-ตอนที่1 การเริ่มต้นใหม่,7 Samurai-ตอนที่2 คู่หู,7 Samurai-ตอนที่3 เก่งกาจ,7 Samurai-ตอนที่4 ลังเล,7 Samurai-ตอนที่5 ทดสอบ,7 Samurai-ตอนที่6 สายสัมพันธ์ใหม่(1),7 Samurai-ตอนที่7 สายสัมพันธ์ใหม่(2),7 Samurai-ตอนที่8 สายสัมพันธ์ใหม่(3),7 Samurai-ตอนที่9 สายสัมพันธ์ใหม่(4),7 Samurai-ตอนที่10 ฝึกมือ,7 Samurai-ตอนที่11 เปิดเผย,7 Samurai-ตอนที่12 ถึงเทศกาลแล้ว!,7 Samurai-ตอนที่13 แข่งคู่ที่สอง,7 Samurai-ตอนที่14 ชิงชนะเลิศ,7 Samurai-ตอนที่15 เซอร์ไพรซ์ต้อนรับ!,7 Samurai-ตอนที่16 นัดที่ไม่ได้นัด(1),7 Samurai-ตอนที่17 นัดที่ไม่ได้นัด(2),7 Samurai-ตอนที่18 นัดที่ไม่ได้นัด(3),7 Samurai-ตอนที่19 ติวหนังสือให้ทีสิ,7 Samurai-ตอนที่20 คอร์สสอนเฉพาะกิจ,7 Samurai-ตอนที่21 ชั่วโมงประวัติศาสตร์,7 Samurai-ตอนที่22 วันสอบที่ผ่านไปด้วยดี,7 Samurai-ตอนที่23 ภารกิจพิเศษ(1),7 Samurai-ตอนที่24 ภารกิจพิเศษ(2),7 Samurai-ตอนที่25 ภารกิจพิเศษ(3),7 Samurai-ตอนที่26 ภารกิจพิเศษ(4),7 Samurai-ตอนที่27 ความล้มเหลวและหนทางแก้ไข,7 Samurai-ตอนที่28 ดุจกำลังใจ,7 Samurai-ตอนที่29 ข่าวร้ายกับแผนการตีกรอบ,7 Samurai-ตอนที่30 เริ่มแผน!,7 Samurai-ตอนที่31 ฝ่าฝืน,7 Samurai-ตอนที่32 ช่วยเหลือ,7 Samurai-ตอนที่33 จิตสังหาร,7 Samurai-ตอนที่34 แลกด้วยชีวิต,7 Samurai-ตอนที่35 คำโกหกเพื่อปลอบโยน,7 Samurai-ตอนที่36 เยี่ยมไข้,7 Samurai-ตอนที่37 เรื่องราวที่อยากเล่า,7 Samurai-ตอนที่38 ความตั้งใจอันแน่วแน่,7 Samurai-ตอนที่39 ตามรอย,7 Samurai-ตอนที่40 เหตุร้ายที่เกิดไปพร้อมกัน,7 Samurai-ตอนที่41 แผลใจฝังลึก,7 Samurai-ตอนที่42 เรื่องด่วนและเรื่องร้าย,7 Samurai-ตอนที่43 ความคิดที่ไม่ได้บอก,7 Samurai-ตอนที่44 เชื่อใจ,7 Samurai-ตอนที่45 ข้ออ้างเพื่อตัวเอง,7 Samurai-ตอนที่46 แน่วแน่,7 Samurai-ตอนที่47 ไม่อยากพลาดโอกาส,7 Samurai-ตอนที่48 จิตสำนึกต่อต้าน,7 Samurai-ตอนที่49 ไม่เข้ากัน,7 Samurai-ตอนที่50 ต้นตอของอาการ,7 Samurai-ตอนที่51 นึกสงสัย,7 Samurai-ตอนที่52 คัดเลือก,7 Samurai-ตอนที่53 กลับบ้าน,7 Samurai-ตอนที่54 โลกเสมือน,7 Samurai-ตอนที่55 ผู้ร่วมทาง,7 Samurai-ตอนที่56 ตามรังควาน,7 Samurai-ตอนที่57 ผู้ร่วมทางอีกคน

เนื้อหา

ตอนที่29 ข่าวร้ายกับแผนการตีกรอบ

“นาโอริ...”



เสียงหนึ่งที่คุ้นเคยดังกังวานเสนาะหู....



“ใครเรียกน่ะ?” นาโอริลืมตาตื่นขึ้นพลันหันหาต้นทางของเสียงทว่ากลับไร้ร่องรอยของคน หนำซ้ำบัดนี้เธอยังอยู่ในชุดเรียบสะอาดตา และยืนอยู่ในความมืดมิดเพียงคนเดียว

“นี่คือฝัน?...”



“นาโอริ...” 

น้ำเสียงเดิมเอ่ยเรียกอีกครั้งจากด้านหลังพาให้สาวเจ้าหันตาม และเป็นต้องเบิกตาตกตะลึงเพราะเบื้องหน้าของเธอกลับไม่ใช่ความมืดอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งก่อสร้างเรียงรายที่กำลังถูกห้อมล้อมด้วยทะเลเพลิง บ้านเรือนถูกแผดเผา ซากศพนอนเกลื่อน ชวนสยดสยองจนไม่สามารถทนดูต่อได้  

“ที่ไหนเนี่ย!?” 



ฟูม!

ทันใดนั้นเปลวไฟร้อนพลันลุกลามโหมกระหน่ำและพุ่งเข้าหาร่างบาง มันรวดเร็วจนนาโอริทำได้แค่หลับตาปี๋รอแรงปะทะ ทว่าในชั่วพริบตาที่คลื่นร้อนสัมผัสใบหน้า ความรู้สึกที่ควรจะทรมานเพราะความร้อนกลับกลายเป็นสายลมอุ่นแทนเสียอย่างนั้น

นัยน์ตาสีซากุระลอบมองอย่างนึกสงสัย เธอคงไม่ได้ถูกเผาเกรียมไปแล้วหรอกนะ ก่อนจะเจอกับแผ่นหลังของใครบางคนผู้มีเรือนผมดั่งเช่นดวงตาของเธอ ที่ยืนขั้นกลางระหว่างเธอและเปลวเพลิงมรณะ มือหนาพลันชี้นิ้วไปเบื้องหน้าของตน ราวอยากให้เด็กสาวมองตามมันไป เธอสบเข้ากับปราสาทญี่ปุ่นโบราณหลังใหญ่ แม้จะเทียบไม่ติดกับปราสาทฮิบานะแต่ก็ใหญ่เอาการ

“ปราสาทนั่น...มีอะไรเหรอคะ?” ร่างบางถามไปอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ชายหนุ่มจึงหันกลับมามองที่เธอ ก่อนจะวาดยิ้มอ่อนโยนเช่นเคยให้ น่าเสียดายที่เงาจากเปลวไฟพยายามบดบังหน้าตาของเขาไม่ให้นาโอริเห็น

“มีคนรอเธออยู่”

“คะ?”



ตูม!

ยังไม่ทันได้ถามอะไรไปมากกว่านี้ แรงระเบิดกะทันหันก็พัดเศษซากบ้านให้ทลายลงมาใส่ทั้งนาโอริและชายหนุ่ม ทว่ากลับเหลือเพียงสาวเจ้าคนเดียวในความเงียบเป็นเป่าสาก เขาผู้นั้นได้หายไปแล้ว 

ภาพเบื้องหน้ามืดสนิทขยับเนื้อตัวไม่ได้ดั่งใจ หายใจก็ติดขัด เด็กสาวพยายามดิ้นรนให้หลุดพ้นจากความอึดอัด ก่อนจะสัมผัสได้ถึงแสงสว่างที่แทรกผ่านมาจนต้องหรี่ตา เป็นแสงธรรมดาที่ไม่ได้มอบความรู้สึกใด ๆ ให้ แต่สำหรับเธอในตอนนี้มันเปรียบเสมือนหนทางออกก็ว่าได้



เมื่อคิดเช่นนั้น นาโอริพลันตัดสินใจเอื้อมมือไปหาแสงสว่างตรงหน้าและพยายามคว้ามัน วินาทีที่ปลายนิ้วแตะกับแสงสีขาวมันพลันเจิดจ้าเป็นทวีคูณ กลืนกินร่างบางเข้าไปและพาเธอหวนคืนสู่การตื่นอีกครั้ง...



“อึก...อือ” นาโอริครางเบา ๆ หนังตาหนักถูกยกขึ้นจนปะทะกับแสงจากหลอดไฟขาว เสียงของใครบางคนกำลังพูดคุยกัน ช่างเป็นน้ำเสียงที่คุ้นเคยสำหรับเธอ พาให้ต้องเบนศีรษะไปยังต้นเสียง ดวงตากึ่งปิดกึ่งเปิดสะท้อนร่างของเพื่อนสาวในชุดนักเรียน เธอกำลังพูดคุยกับหญิงสาวอีกคน ผู้เป็นดั่งหัวใจของนาโอริ

“คุณ..แม่?” 



เสียงพูดหยุดชะงักทันทีที่ได้ยินเสียงเรียก ทั้งสองเบิกตากว้างพร้อมกับน้ำตาที่คลอจนเป็นเลื่อม ยูริลุกพรวดจากเก้าอี้และสวมกอดลูกสาวอย่างเบามือที่สุด 

“นาโอะของแม่ ฟื้นแล้ว...ฟื้นแล้ว” น้ำตาแห่งความยินดีไหลรินอาบแก้มนวล  นาโอริเองก็เอื้อมมาโอบกอดอีกฝ่ายเอาไว้แน่นราวกับกลัวว่าจะสลายหายไป หัวใจรู้สึกเจ็บแปล๊บที่ต้องเห็นมารดาร้องไห้เช่นนี้

“นาโอะจัง โล่งอกไปที”

“ซากิ...”

“น้าไปตามหมอมาก่อน ฝากหนูด้วยนะ” เด็กสาวผมสั้นพยักหน้าตอบรับ ยูริจึงรีบก้าวออกนอกห้องไปเหลือเพียงสองเพื่อนสนิทนั่งอยู่ด้วยกัน



นัยน์ตาสีเงินวาวสะท้อนใบหน้าอิดโรยของเพื่อนสาวและนึกเป็นห่วงขึ้นมา แต่ก็รอกระทั่งอีกฝ่ายเริ่มมีสติมากพอจะพูดคุยรู้เรื่องก่อนถึงจะถามไถ่เธอ...



“ยังเจ็บอยู่ไหม นาโอะจัง?”

“นิดหน่อย...แต่ตอนนี้มึนหัวมากกว่าน่ะ” นาโอริเอ่ยพลางสัมผัสศีรษะที่หนักอึ้งเพราะผ้าพันแผลหนาเตอะ ซากิเลยได้โอกาสเล่าให้ฟังว่านาโอรินั้นถูกอาโอบะพบตรงหน้าผาโล่งด้วยสภาพหมดสติ สาวเจ้าหลับไปถึงสองวันเต็มและในระหว่างที่เธอยังไม่ได้สติก็มีเรื่องมากมายเกิดขึ้น ทั้งการตามจับกลุ่มคนร้ายที่ชินระกำลังวางแผน ทำให้รุ่นพี่ของพวกเธอยุ่งกันหัวหมุน รวมถึงอาการบาดเจ็บของฮินาวะอีก โชคดีที่ไม่ได้ร้ายแรงและเขาเองก็กำลังพักฟื้นอยู่

“หมอนั่นไม่เป็นอะไรสินะ...โล่งอกไปที”

“อื้อ โชคดีที่ทั้งสองคนปลอดภัยกลับมา อีกไม่นานก็ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วล่ะ” ซากิวาดยิ้ม พาให้เพื่อนสาวยิ้มตามไปด้วย แต่ไม่ทันไรมันก็หายไปครั้นนาโอรินึกถึงความโชคดีที่เธอกับฮินาวะรอดกลับมาอย่างปลอดภัย



แล้วเขาคนนั้นล่ะ ปลอดภัยหรือเปล่า?



“จริงสิ แล้วโซว์...หมายถึงองค์ชายล่ะ?” เด็กสาวเอ่ยเสียงแผ่ว เธอแทบจะหลุดพูดชื่อของเด็กหนุ่มออกไปจนต้องลอบถอนใจโล่งอก เพราะแม้จะเป็นแค่ความมั่นใจชั่ววูบก่อนจะสลบไป แต่อย่าเพิ่งให้ใครรู้คงดีที่สุด...

“คือว่า..” ซากิเม้มปากแน่นซ้ำยังหลบตาอีกฝ่าย ทำเอานาโอริใจคอไม่ดีจนต้องถามย้ำเสียงสั่น

“ตอบฉันสิซากิ เขาปลอดภัยหรือเปล่า?” นัยน์ตาสีซากุระจดจ้องสีหน้าเศร้าสร้อยของเพื่อนพลันใจวูบหล่น

สายตาของเพื่อนทำให้ซากิต้องสูดหายใจเข้าลึก และจำใจเล่าความจริงที่โหดร้ายสำหรับนาโอริให้ฟัง บรรยากาศในห้องสี่เหลี่ยมพลันอึดอัดจนหายใจไม่ออก มันเงียบเสียจนแทบได้ยินเสียงหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะของคนป่วยบนเตียง ดวงตาสีซากุระนั่นสั่นไหวจนคุมไม่อยู่ เธอไม่อยากจะยอมรับเรื่องราวที่ได้ฟังเลยสักนิด

“ไม่จริง...เธอโกหกใช่ไหม อึก!” นาโอริพยายามดันตัวลุกจากเตียง ทว่าความเจ็บจากรอยช้ำได้กระชากเธอให้ต้องยอมกลับลงไปนอนพลันร้องโอดโอย

“อย่าเพิ่งขยับสิ นาโอะจัง!”





“เกิดอะไรขึ้นน่ะลูก?” ยูริเลิกคิ้วสูงเมื่อได้ยินเสียงของเด็กทั้งสองพอดีกับที่ตนเปิดประตูเข้ามา ซากิรีบส่ายหน้าห้ามปรามเพื่อนของเธอทันทีที่อีกฝ่ายกำลังจะอ้าปากโวยวายต่อ ไม่ทันไรพยาบาลสาวคนหนึ่งจึงเดินตามเข้ามาหาพร้อมกับขอตรวจร่างกายเด็กสาว นาโอริจึงต้องสงบสติอารมณ์และกลั้นใจรอให้ตรวจเสร็จเสียก่อน

“ร่างกายของน้องปรับเข้ากับยาได้ดีเลยฟื้นฟูเร็วมาก อีกสักหนึ่งวันก็สามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ แต่ควรงดกิจกรรมที่ต้องใช้แรงหรือการออกกำลังกายหนัก ๆ นะคะ”

“ขอบคุณมากนะคะ” หญิงสาวก้มโค้งให้นางพยาบาลก่อนเธอจะเดินลับจากประตูไป



ครั้นเหลือเพียงสามคน ยูริพลันเลิกคิ้วสูงและหันขวับมองพวกนาโอริ นัยน์ตาสีเปลือกไม้สะท้อนใบหน้าไร้ชีวิตชีวาของลูกสาวจนยิ่งประหลาดใจเข้าไปใหญ่



“ก่อนน้าจะเข้ามามีเรื่องอะไรหรือเปล่าจ๊ะ?”

“ม ไม่มีอะไรค่ะ แค่เล่าเรื่องสองสามวันมานี้ให้นาโอะจังฟังน่ะค่ะ...” นาโอริไม่ได้แย้งกลับ เธอทำเพียงจ้องมองคนสองคนพูดคุยกัน ทว่าจู่ ๆ ดวงตาสีซากุระได้สังเกตอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่เอวของซากิพลันทำให้นึกถึงเสียงทุ้มของคู่หู

“จูลิโอ้?” สายตากวาดมองไปทั่วห้อง เช่นเดียวกับมือที่เอื้อมควานหารอบตัวแต่กลับไม่พบวี่แวว หัวใจหล่นวูบอีกคราเพราะภาพเหตุการณ์ก่อนที่ตอนจะอยู่ในสภาพเช่นนี้ดันฉายซ้ำในสมอง ภาพของคู่หูของเธอที่ปลดผนึกเป็นดาบคาตานะเล่มสวย กับใบหน้าของเขาคนนั้นที่ยอมจำนนเพื่อช่วยชีวิตเธอเอาไว้....

“โธ่เอ๊ย...”

“นาโอะจังเป็นอะไรหรือเปล่า?”

“ซากิ เธอเห็นจูลิโอ้บ้างไหม ตอนกลับจากป่านั่นได้มีคนพูดถึงหรือเปล่า?” นาโอริย่นคิ้วเป็นกังวลขณะจ้องสีหน้าครุ่นคิดของเพื่อนสาว

“จะว่าไป…ตอนที่มาโรงพยาบาลก็ไม่เห็นอาโอบะซังพูดถึงเลยนะ รุ่นพี่ก็ด้วย...”



การที่ข้างกายเธอไม่มีดาบอยู่ หนำซ้ำเพื่อนร่วมภารกิจของเธอก็ไม่ได้เอ่ยถึงมัน ยิ่งฟังนาโอริก็ยิ่งคิดไปได้ทางเดียว....



“ไอ้พวกนั้นมันเอาดาบของฉันไป” สาวเจ้าเผลอกำมือแน่นจนเกิดรอยแดง ใจเริ่มจะอยู่ไม่สุขเข้าไปใหญ่ 

“หมายถึงคนร้ายน่ะเหรอ? แต่ว่าทำไม...”

“จูลิโอ้เพิ่งจะปลดผนึก พวกมันต้องเอาไปขายหรือไม่ก็เอาไปเก็บแน่เลย อ้า ไม่นะ!” นาโอริแทบอยากจะขยี้หัวระบายความแค้นใจ ถ้าไม่ติดว่าถูกเพื่อนสาวรั้งมือสองข้างไว้เสียก่อน

“ม ไม่ต้องห่วงนะนาโอะจัง เดี๋ยวฉันจะบอกรุ่นพี่นากามูระให้ รุ่นพี่เขาจะต้องช่วยตามหาให้แน่นอน!” 

“อื้อ..ฉันก็หวังแบบนั้น” นาโอริที่เห็นเช่นนั้นจึงอดยิ้มในความอ่อนโยนของคนตรงหน้าไม่ได้ เธอเองก็หวังให้พวกเขาตามหาทั้งองค์ชายหนุ่มและจูลิโอ้ให้เจอโดยเร็วเช่นกัน ถ้าเป็นโชโตะก็คงจะให้ความสำคัญกับดาบของรุ่นน้องอย่างเธอใช่ไหมนะ?



หญิงสาววัยกลางคนหรี่ตานุ่มนวลมองเด็กทั้งสอง ก่อนจะคิดเปลี่ยนบรรยากาศมาคุนี่

“ทั้งสองคนหิวหรือเปล่า? เดี๋ยวแม่จะไปหาอะไรมาให้ทาน”

“อ๊ะ! ไม่เป็นไรค่ะคุณน้า เดี๋ยวหนูลงไปซื้อเองค่ะ” ซากิที่ได้ยินพลันเสนอตัวทันใด

“เอางั้นก็ได้จ้ะ” ยูริยกยิ้ม ไม่นานซากิก็วิ่งออกจากห้องไปพร้อมกระเป๋าเงิน โดยไม่ลืมที่จะถามเพื่อนสาวว่าอยากทานอะไรหรือไม่ ครั้นได้คำตอบเธอก็หายวับไปทันที เหลือเพียงสองแม่ลูกอยู่ในห้องกว้าง 

“หนูซากิเป็นเด็กดีจริง ๆ เลยนะ” ผู้เป็นแม่เอ่ยทำลายความเงียบพลางเขยิบมานั่งบนเตียงผู้ป่วย

“ตอนหนูหลับ แม่คงจะเผาหนูยับเลยล่ะสิท่า”

“ใครเผาอะไรไม่มีหรอก แม่แค่คุยเล็กน้อยเท่านั้นเอง” 

“เชื่อก็ได้..” นาโอริมุ่ยหน้า

“ฮ่า ๆ...ว่าแต่เรายังมีเรื่องที่ต้องคุยกันก่อนหรือเปล่า นาโอริ?”

“อึก...ค่ะแม่” เด็กสาวเผลอกลืนน้ำลายกับคำตอบนั้น ก่อนจะเบนหน้าไปทางหน้าต่างบานใหญ่ที่เผยให้เห็นท้องฟ้าครามและฝูงนกโบยบิน

“ขอโทษนะคะ...ที่ทำให้เป็นห่วง”

“ไม่ใช่แค่ห่วงแต่โกรธด้วย โกรธที่ลูกไม่ยอมบอกว่างานนี้มันอันตรายขนาดไหน”

“ใครจะไปคิดล่ะคะ ว่าจะมีคนลอบโจมตีเข้าจริง ๆ”

“ลูกกำลังดูถูกฮิบานะเกินไป ขึ้นชื่อว่าห้าบุปผาศัตรูก็มีแทบจะล้นเมืองเลยล่ะ” ยูริถอนใจออกมา

“แม่รู้จักห้าบุปผาด้วยเหรอคะ” หญิงสาวชะงักไปพักหนึ่งก่อนจะวาดยิ้มเล็ก ๆ ให้

“มันก็ไม่ใช่ความลับยิ่งใหญ่อะไรนี่ลูก ทำไมแม่จะไม่รู้”

“หนูเพิ่งจะรู้ไม่นานนี้เอง” นาโอริเบ้ปาก

“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ถ้าแม่รู้ว่าลูกจะไปเกี่ยวข้องกับราชวงศ์แบบนั้นแม่คงไม่ยอมเด็ดขาดเลย” เห็นแววตาดุของมารดา นาโอริเป็นต้องมุ่ยหน้าพลันหลุบตาต่ำ ก่อนจะเงยมองอีกครั้งเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสอ่อนโยนบนศีรษะ

“แต่ในเมื่อมันผ่านไปแล้ว แม่ก็ดีใจที่ลูกรอดกลับมา ลูกเก่งมากแล้ว นาโอริ”

“แต่ถึงอย่างนั้น...หนูก็ช่วยเขาไว้ไม่ได้ องค์ชายกลับต้องมาปกป้องหนูอีก” นัยน์ตาสีซากุระวูบไหวไม่ปิดบัง จนหญิงสาวชักสงสัยว่ามันอาจเป็นต้นเหตุที่ลูกสาวเธอทำหน้าเศร้าสร้อยเช่นนี้

“พอจะเล่าให้แม่ฟังได้ไหม?”



นาโอริลังเลใจอยู่พักหนึ่ง จนท้ายที่สุดเด็กสาวก็พยักหน้าตอบและเล่ารายละเอียดในมุมมองของเธอ ตั้งแต่ที่ถูกองค์ชายหนุ่มช่วยจากการโจมตีพร้อมหนีเข้าไปในป่าลึกกระทั่งต่อสู้กับหญิงสาวปริศนา เมื่อต้องหวนนึกถึงภาพสุดท้ายก่อนจะหมดสติอีกครั้ง มันทำให้หัวใจของเธอบีบรัดจนทรมานเกินจะทน

“โธ่ ลูกแม่ ลูกเพิ่งจะได้เรียนรู้ทักษะดาบไม่ถึงปีจะบอกว่าตัวเองไม่สามารถปกป้องใครได้น่ะ มันยังเร็วไปนะ”

“แต่เป็นเพราะหนูประมาทเอง...เขาเลยต้องวิ่งกลับมาช่วย”

“ลูกไม่ใช่องค์ชาย จะรู้ได้ยังไงว่าเขาตัดสินใจกลับมาเพราะอะไร?”

“แม่หมายความว่ายังไง..”

“พระองค์ทำเพื่อปกป้องลูกก็จริง แต่อาจไม่ใช่เพราะลูกกำลังจะแพ้ศัตรูก็ได้นะ” นาโอริยังไม่วายมองผู้เป็นแม่ด้วยสายตาฉงน แต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยถามสิ่งใดต่อซากิก็กลับมาพร้อมกับถุงพลาสติกหลายใบจนน่าตกใจ เจ้าตัวหัวเราะแหะยอมรับว่าไม่รู้นาโอริต้องการอย่างอื่นเพิ่มหรือไม่ เธอเลยจัดการซื้ออาหารและขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้เพื่อนสาวทานแก้เบื่อ ถึงจะโดนยูริบ่นว่าต้องทานอาหารจากทางโรงพยาบาลเป็นหลักก็ตามที



รอยยิ้มเริ่มปรากฏบนใบหน้าสวยของนาโอริ ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นและบรรเทาความกังวล หากแต่ตัวของเธอยังคงแวบภาพคู่หูและเขาผู้นั้นอยู่เสมอ แต่ก็อย่างที่ผู้เป็นแม่บอกว่าก่อนจะไปช่วยใคร สาวเจ้าต้องรักษาตัวให้หายดีเสียก่อน นาโอริจึงได้แต่ถอนใจพักความเครียดและคิดจะอดทนรอฟังข่าวดีจากชินระแทน...

            



ในเวลาเดียวกันทางด้านของชินระ ข้อมูลมากมายถูกรวมไว้ในกระดาษหลายแผ่นกลายเป็นเอกสารกองใหญ่ ยังมีข้อความและรายงานจากหน่วยเงาซึ่งถูกฉายบนจอโฮโลแกรมรอบโต๊ะนับไม่ถ้วน  ซาโตชิที่อยู่ท่ามกลางความโกลาหลนี้กำลังไล่อ่านเอกสารรายงานด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ดวงตาสีซากุระกลอกไล่ตามตัวอักษร มือหนากระชับปากกาในมือพร้อมเขียนอะไรบางอย่างลงบนกระดาษอีกแผ่น ขณะที่เขากำลังจดจ่อกับงานตรงหน้าประตูกระจกของห้องก็ถูกเปิดออกพร้อมกับการมาของชายหนุ่มเรือนผมสีขาวหิมะ 

“ซาโตชิซังครับ” 

“ได้เรื่องว่ายังไงบ้าง” เสียงทุ้มเอ่ยทั้งที่ดวงตายังไล่อ่านเอกสารต่อไป

“ผมเจอสถานที่น่าสงสัยและคิดว่าอาจจะเป็นที่ซ่อนตัวของคนร้ายครับ” มือหนาหยุดชะงักก่อนจะเลื่อนไปสัมผัสที่โต๊ะกระจกทางด้านขวา ปรากฏแผนที่ของประเทศฉายผ่านจอโฮโลแกรมพร้อมปัดมันไปให้เจ้าหน้าที่หนุ่ม อีกฝ่ายปฏิบัติอย่างรู้งาน นิ้วเรียวสัมผัสไปยังส่วนหนึ่งของแผนที่และขยายมันเข้าไปจนอยู่ในระยะที่พอใจจากนั้นจึงส่งกลับไปให้ซาโตชิ

“เมืองตรงนี้...เคยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเก่านี่ ตอนนี้มันน่าจะร้างเพราะอุบัติเหตุครั้งใหญ่ไปแล้ว”

“ใช่ครับ แต่บริเวณนั้นเต็มไปด้วยทหารรับจ้างไม่ทราบสังกัด จากการแต่งกายและวัสดุอาวุธที่ใช้ก็เป็นของเดียวกันกับพวกที่ลักพาตัวองค์รัชทายาทด้วยครับ” ดวงตาสีซากุระหรี่ลงอย่างครุ่นคิด เขาไม่รู้ว่าพวกมันซ่อนตัวอยู่ในปราสาทหรือรอบเมืองกันแน่ การบุกบุ่มบ่ามเข้าไปก็เท่ากับเอาชีวิตไปเททิ้ง ยิ่งไปกว่านั้นนี่อาจจะเป็นกับดักของพวกมันก็ได้...



แต่ยามนี้ ยังมีอะไรสำคัญกว่าชีวิตขององค์ชายหนุ่มอีกงั้นเหรอ?



“ถ้าพวกมันจะเล่นแบบนี้ สงสัยคงต้องตามเกมของมันเสียหน่อย...” ซาโตชิเอ่ย

“หมายความว่ายังไงครับ?”

“เราจะบุกเข้าไปและตีกรอบพวกมันยังไงล่ะ”

“แบบนั้นจะไม่เสี่ยงเกินไปเหรอครับ?” 

“ภูมิประเทศรอบเมืองนั้นมีทั้งป่าและเนินเขาสูง ถ้าด้วยความสามารถของหน่วยเงาก็คงลอบสอยเจ้าพวกบนฟ้าได้ไม่ยาก ส่วนอุปสรรคในป่านั้นก็ให้เป็นหน้าที่หน่วยของฉัน แยกกันไปเป็นสี่ด้านและล้อมพวกมัน”ซาโตชิวาดวงกลมล้อมรอบจุดที่เป็นเมืองร้าง ก่อนจะเลื่อนจอโฮโลแกรมที่ปรากฏข้อมูลยาวเหยียดมาเบื้องหน้า

“ผลตรวจของควันเสียที่พาหนะนั่นปล่อย ก็สรุปได้ว่าพวกมันใช้เรือบินเป็นพาหนะ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องหาที่เพื่อลงจอดและเติมเชื้อเพลิง และจากที่นายรายงาน เรื่องสภาพของปราสาทก็มีความเป็นไปได้ว่าเรือบินจะถูกทำให้ล่องหนและจอดไว้ที่ใดที่หนึ่งใกล้กับปราสาท...หรือดีไม่ดีปราสาทนั่นอาจจะเป็นฐานของพวกมันก็ได้”

“แต่ถ้าเรายิงจากระยะไกล จะถูกพวกมันมองเห็นและอาจถูกรู้ตำแหน่งด้วยนะครับ”

“ก็ปล่อยให้มันรู้ไปสิ เพราะใครว่าเราจะยิงจากฝั่งเดียวเท่านั้นล่ะ...เราจะลอบยิงจากเนินเขาทางทิศใต้ ส่วนคนที่ประจำอยู่ทิศอื่นจะเป็นคนบอกตำแหน่งให้ ขณะเดียวกันก็เป็นกำลังเสริมให้กลุ่มที่อยู่ในป่าด้วย” 

“ส่วนหน้าที่หลักของกลุ่มที่อยู่ภาคพื้นดิน ก็คือทะลวงเข้าไปจนถึงเขตเมืองให้ได้และตีกรอบพวกมันเสีย” ปลายนิ้วจรดลากเป็นเส้นตรงจากบริเวณป่าทึบตรงเข้าสู่เมือง



สิ่งที่ซาโตชิพูดยิ่งเริ่มเหนือกรอบความคิดของชายหนุ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เสียจนเขาเริ่มจะตามมันไม่ทัน....



หลังจากนั้นซาโตชิก็ได้อธิบายต่ออีกพักใหญ่ รวมถึงกำหนดอาวุธที่จะต้องใช้ในภารกิจครั้งนี้อย่างละเอียด ทำให้เจ้าหน้าที่หนุ่มเริ่มจะเข้าใจอะไรหลาย ๆ อย่างในแผนการนี้ขึ้นมา แม้จะดูไม่ซับซ้อนแต่คงจะปั่นประสาทพวกมันได้ไม่น้อยเลยล่ะ

“ถ้างั้นก็รบกวนจัดการทางฝั่งของหน่วยเงาด้วยนะ”

“ครับ” เจ้าของเรือนผมสีขาวหิมะพยักหน้าตอบพร้อมเดินออกจากห้องทำงานไป 

ห้องกระจกได้กลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง ซาโตชิเอื้อมหยิบเอกสารแผ่นต่อไปขึ้นมาอ่านอีกคราพลันถอนหายใจเบา ๆ ตัวเขาเองก็คิดว่าแผนนี้ออกจะบ้าบิ่นไปเสียหน่อย แต่หากไม่ทำเช่นนี้ก็คงไม่มีวันที่จะเอาชนะฝ่ายนั้นได้ 



เพราะเขาสาบานเอาไว้แล้วไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น...



            

ก็จะพาโซอิจิโร่กลับมาให้จงได้



to be continue….

======================================

มาคอมเมนท์แนะนำกันได้นะฮัฟฟฟ

ฝากกดถูกใจ เป็นกำลังใจกันด้วยน้าา <3

つづく、psrpowder