จากที่อยากสานฝันเป็นนักดาบกลับต้องผันตัวสู่เส้นทางนองเลือดแค่เพราะอยากปกป้องเขาที่ด้ายแดงแห่งโชคชะตาผลักให้(วิ่ง)ชนกันถึง 2 รอบ แต่วันใดเล่าที่ดาบในมือจะหันคมใส่เขาเสียเอง...เพื่อสำเร็จเป้าหมายของมัน

7 Samurai - ตอนที่55 ผู้ร่วมทาง โดย psrpowder @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,แอคชั่น,รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,7Samurai ,ไม่ฮาเร็ม,ตัวเอกหญิง ,ดาบพูดได้,ญี่ปุ่น,แอคชั่น,รักวัยรุ่น,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

7 Samurai

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,แอคชั่น,รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

7Samurai ,ไม่ฮาเร็ม,ตัวเอกหญิง ,ดาบพูดได้,ญี่ปุ่น,แอคชั่น,รักวัยรุ่น,แฟนตาซี

รายละเอียด

จากที่อยากสานฝันเป็นนักดาบกลับต้องผันตัวสู่เส้นทางนองเลือดแค่เพราะอยากปกป้องเขาที่ด้ายแดงแห่งโชคชะตาผลักให้(วิ่ง)ชนกันถึง 2 รอบ แต่วันใดเล่าที่ดาบในมือจะหันคมใส่เขาเสียเอง...เพื่อสำเร็จเป้าหมายของมัน

ผู้แต่ง

psrpowder

เรื่องย่อ

สวัสดีค่าา เรา psrpowder น้าาา ยินดีที่ได้รู้จักรี้ดเดอร์ทุกท่านที่ผ่าน(หลง)เข้ามาฮะ!
(เชิญชวนมาติดตามกันได้ที่ Tiktok นะฮะ จะอัพเดตเรื่อย ๆ คับ)



เอาล่ะ….วันนี้เรามีนิยายออริจินอล มานำเสนอ!!

ชื่อเรื่องว่า 7 Samurai (ถ้าสงสัยว่าทำไมชื่อนี้ คงบอกได้แค่ว่าเป็นความเบียวของไรท์เองแหละค่ะ555)

เป็นแนวแฟนตาซี เซ็ตติ้งประเทศญี่ปุ่นยุคปี3000 มีฉากต่อสู้ฟิลใช้ดาบตบตีกันไปมา ชิ้งๆๆ

ผสมความรักแบบวัยใสน่ารัก(มองตาปุ๊ปก็ปิ้งกันปั๊บ!) 

แถมปมเรื่องชวนซึ้งใจ (คนอ่านซึ้งมั้ยไม่รู้แต่ไรท์น้ำตาหยด ;-; )

 
ใด ๆ มันอาจจะไม่ตามกระแส ไม่ตามตลาด แต่เราอยากลงเรื่องที่ตั้งใจสร้างให้ทุกคนได้อ่านจริง ๆ
และอยากขอโอกาสทุกท่านที่แวบผ่านเข้ามา คอยชี้แนะแนวทางให้ไรท์คนนี้ด้วยนะคะ
ปล. เรื่องอาจไม่ได้หวือหวาหรือน่าตื่นเต้น แต่อยากให้จับตา จับมือ จับหูดูการเติบโตของน้อง ๆ ไปด้วยกันน้าา 


==============================================

***นิยายเรื่องนี้มีฉากต่อสู้และฉากความรุนแรงอื่น ๆ แทรกในบางตอน***

แต่จะมีการแจ้ง Trigger warning ก่อนเริ่มอ่านทุกครั้ง 

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

==============================================

ชิสึจิ นาโอริ ตัดสินใจทำตามความฝันวัยเด็ก เธอเลือกสอบเข้าที่โรงเรียนเฉพาะทางสำหรับนักดาบ และได้พบกับคู่หูซึ่งเป็นดาบไม้เล่มหนึ่งที่ต้องตาเธอตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็น เลยมอบชื่อให้ว่า จูลิโอ้
และต้องฝ่าฟันทั้งเรื่องเรียน เรื่องครอบครัว เรื่องเฉียดตายไปจนถึง…เรื่องความรัก!? โดยมีเจ้าดาบคู่ใจเป็นสักขีพยานเคียงข้างเสมอ
....แต่ดาบเล่มนี้ 

ไม่ได้มอบเพียงคู่หูแก่เธอ แต่มอบหลายสิ่งนับไม่ถ้วนโดยไม่รู้ตัว



มันมอบสิ่งที่เลวร้าย บ้าคลั่งและหิวกระหาย 
สิ่งที่ยากจะควบคุมและพร้อมจะกลืนกินจิตบริสุทธิ์ของเด็กสาวอย่างเธอ



 "ให้ข้า..ได้ลิ้มรสเลือดพวกมันเสียเถอะ"

"ออกไป...ออกไปจากหัวฉัน!"



มันมอบโชคชะตา ให้ได้พบพานใครคนหนึ่งที่แลกชีวิตเพื่อให้เธอปลอดภัย 
ผู้เป็นดั่งแสงอันล้ำค่าที่ต้องรักษาไว้แม้ตัวตาย



"เพราะสัญญากันแล้ว...ว่าจะออกไปจากที่นี่ด้วยกัน เลยต้องทำทุกทางไม่ให้เสียเธอไป"

"ฉัน...ปกป้องนายได้ใช่ไหม?"



มันมอบเส้นทางใหม่ที่ดอกซากุระดอกตูมอย่างเธอ...จะได้ผลิบานสะพรั่ง ให้สมดั่งปรารถนา



"ในที่สุดก็ถึงวันนี้....วันที่ฉันไม่ต้องปกปิดอีกต่อไป"

"คุณ...คือใคร?"
 

มันมอบตัวตน เรื่องราวและสายสัมพันธ์นับไม่ถ้วนให้แก่เธอ แต่ก็จ้องจะช่วงชิงทุกสิ่งไปเช่นกัน

 

"เพราะนั่น...คือสาเหตุที่มันเกิดมา"

"และมันจะต้องดับสูญ ถ้ากล้าคิดแตะต้องคนที่ฉันรัก!"
 

==============================================


เนื้อเรื่องช่วงแรกอาจจะสโลว์ไปบ้าง แต่อย่าเพิ่งทิ้งกันน้า ; ^ ;

ใครผ่านเข้ามาอ่านและถูกใจ สามารถเป็นกำลังใจ ติชม แนะนำ ให้นักเขียนฝึกหัดคนนี้ได้นะคะ! 

ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ค่า <3 (O w O)


よろしく、psrpowder 

สารบัญ

7 Samurai-ตอนที่1 การเริ่มต้นใหม่,7 Samurai-ตอนที่2 คู่หู,7 Samurai-ตอนที่3 เก่งกาจ,7 Samurai-ตอนที่4 ลังเล,7 Samurai-ตอนที่5 ทดสอบ,7 Samurai-ตอนที่6 สายสัมพันธ์ใหม่(1),7 Samurai-ตอนที่7 สายสัมพันธ์ใหม่(2),7 Samurai-ตอนที่8 สายสัมพันธ์ใหม่(3),7 Samurai-ตอนที่9 สายสัมพันธ์ใหม่(4),7 Samurai-ตอนที่10 ฝึกมือ,7 Samurai-ตอนที่11 เปิดเผย,7 Samurai-ตอนที่12 ถึงเทศกาลแล้ว!,7 Samurai-ตอนที่13 แข่งคู่ที่สอง,7 Samurai-ตอนที่14 ชิงชนะเลิศ,7 Samurai-ตอนที่15 เซอร์ไพรซ์ต้อนรับ!,7 Samurai-ตอนที่16 นัดที่ไม่ได้นัด(1),7 Samurai-ตอนที่17 นัดที่ไม่ได้นัด(2),7 Samurai-ตอนที่18 นัดที่ไม่ได้นัด(3),7 Samurai-ตอนที่19 ติวหนังสือให้ทีสิ,7 Samurai-ตอนที่20 คอร์สสอนเฉพาะกิจ,7 Samurai-ตอนที่21 ชั่วโมงประวัติศาสตร์,7 Samurai-ตอนที่22 วันสอบที่ผ่านไปด้วยดี,7 Samurai-ตอนที่23 ภารกิจพิเศษ(1),7 Samurai-ตอนที่24 ภารกิจพิเศษ(2),7 Samurai-ตอนที่25 ภารกิจพิเศษ(3),7 Samurai-ตอนที่26 ภารกิจพิเศษ(4),7 Samurai-ตอนที่27 ความล้มเหลวและหนทางแก้ไข,7 Samurai-ตอนที่28 ดุจกำลังใจ,7 Samurai-ตอนที่29 ข่าวร้ายกับแผนการตีกรอบ,7 Samurai-ตอนที่30 เริ่มแผน!,7 Samurai-ตอนที่31 ฝ่าฝืน,7 Samurai-ตอนที่32 ช่วยเหลือ,7 Samurai-ตอนที่33 จิตสังหาร,7 Samurai-ตอนที่34 แลกด้วยชีวิต,7 Samurai-ตอนที่35 คำโกหกเพื่อปลอบโยน,7 Samurai-ตอนที่36 เยี่ยมไข้,7 Samurai-ตอนที่37 เรื่องราวที่อยากเล่า,7 Samurai-ตอนที่38 ความตั้งใจอันแน่วแน่,7 Samurai-ตอนที่39 ตามรอย,7 Samurai-ตอนที่40 เหตุร้ายที่เกิดไปพร้อมกัน,7 Samurai-ตอนที่41 แผลใจฝังลึก,7 Samurai-ตอนที่42 เรื่องด่วนและเรื่องร้าย,7 Samurai-ตอนที่43 ความคิดที่ไม่ได้บอก,7 Samurai-ตอนที่44 เชื่อใจ,7 Samurai-ตอนที่45 ข้ออ้างเพื่อตัวเอง,7 Samurai-ตอนที่46 แน่วแน่,7 Samurai-ตอนที่47 ไม่อยากพลาดโอกาส,7 Samurai-ตอนที่48 จิตสำนึกต่อต้าน,7 Samurai-ตอนที่49 ไม่เข้ากัน,7 Samurai-ตอนที่50 ต้นตอของอาการ,7 Samurai-ตอนที่51 นึกสงสัย,7 Samurai-ตอนที่52 คัดเลือก,7 Samurai-ตอนที่53 กลับบ้าน,7 Samurai-ตอนที่54 โลกเสมือน,7 Samurai-ตอนที่55 ผู้ร่วมทาง,7 Samurai-ตอนที่56 ตามรังควาน,7 Samurai-ตอนที่57 ผู้ร่วมทางอีกคน

เนื้อหา

ตอนที่55 ผู้ร่วมทาง

***Trigger Warning : ความรุนแรง เลือด การบรรยายหน้าตาสิ่งมีชีวิตผิดธรรมชาติ***
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

ห่างไปจากจุดที่บ้านไม้ทรงญี่ปุ่นตั้งเรียงรายและถูกรากไม้ยักษ์ขวางกั้น ผู้เข้าร่วมกลุ่มเล็กกำลังปะทะโรมรันกับศัตรูอย่างดุเดือด พวกหล่อนมีรูปร่างอ้อนแอ้นเช่นหญิงสาว แม้การแต่งแต่งกายจะเลียนแบบมาจากมิโกะ* ทว่าเรือนผมของพวกเธอกลับกระเซอะกระเซิงจนปรกไปทั้งใบหน้าซีด เช่นเดียวกับเสื้อกิโมโนสีขาวที่เปรอะเปื้อนคราบเลือดแดงฉานซ้ำยังขาดวิ่นจากฝีมืออาวุธมีคม

แววตาหิวกระหายคอยจ้องเหยื่อผ่านเงามืดของไรผมทว่ากลับแม่นยำกว่าสิ่งใด ด้วยจำนวนคนที่น้อยกว่าเหล่ามนุษย์ผู้โชคร้าย จึงเสียเปรียบอย่างไม่ต้องสงสัย แต่สิ่งที่ยิ่งทำให้พวกเขาตกที่นั่งลำบากกว่าเดิมคือคมดาบคู่ในมือผอมแห้งนั่น เพราะเมื่อพวกเธอควงดาบใส่เหยื่อมันกลับรวดเร็วปานสายลม สายตาคนทั่วไปแทบจะไม่เห็นด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น



รู้อีกทีความวอดวายก็เข้าประชิดตัวเสียแล้ว...



เคร้ง!...ฉึก

“อ้าก!” เสียงกรีดร้องโหยหวนพร้อมกับร่างของนายทหารคนหนึ่งดีดดิ้นทรมานเพราะความเจ็บที่แผ่ซ่านจากบาดแผลกลางหน้าท้อง เนื้อเหล็กเย็นทะลวงเจาะแผ่นหลังและยกร่างบอบช้ำให้ลอยเคว้งพร้อมกับดาบด้วยแขนข้างเดียว เจ้าหล่อนส่งเสียงคิกคักชอบใจพลางวาดดาบอีกเล่มในมือเสียบย้ำแผลเหวอะดึงเสียงครวญครางน่าเริงใจให้แก่เธอ เหยื่อผู้น่าสงสารกระอักเลือดคำโตพลันงัดแรงเฮือกสุดท้ายเค้นน้ำเสียงเรียกเพื่อนทหารอีกสองคนเบื้องหลัง

“ช่วย...ด้วย”



ฉวับ!

คำขอนั้นไม่มีวันส่งถึง เมื่อร่างของเขาถูกคมเหล็กตวัดผ่าครึ่งจนร่วงไปนอนแน่นิ่งกับพื้นน้ำ ไม่ทันไรร่างไร้วิญญาณสยดสยองนั่นจึงสลายไปกับอากาศ สตรีพรหมจรรย์ผู้กำจัดเหยื่อได้สำเร็จเป็นต้องลูบไล้ใบหน้าซึ่งเปรอะเปื้อนเลือดคาวด้วยความเพลิดเพลิน ก่อนที่เธอจะถลึงมองเหยื่อรายต่อไปที่เหลือรอดซึ่งจัดการพรรคพวกของหล่อนไปหมดแล้ว 

“ม ไม่อยู่แล้วโว้ย!”

ครั้นเท้าเปล่าย่างก้าวผ่านน้ำเจิ่งเป็นเสียงจ๋อมแจ๋มเข้าหาทหารหนุ่มที่อยู่ใกล้ที่สุด ชายอีกคนพลันรีบอาศัยโอกาสที่เพื่อนตนตกเป็นเป้าวิ่งเผ่นแนบไม่คิดชีวิต ปล่อยให้คนโชคร้ายหวั่นผวากับภัยตรงหน้าคนเดียว เพราะแม้จะเป็นเพียงโลกจำลองทว่าจิตสังหารจากศัตรูกลับสมจริงจนยากจะแยกออก ปลุกอารมณ์หวาดผวาของมนุษย์โดยอัตโนมัติเพราะไม่ว่าใครก็กลัวสิ่งที่ไม่มีจริงทั้งนั้น

ร่างสูงตะเกียกตะกายสุดกำลังพลันกำดาบในมือแน่น ใจนึกอยากตอบโต้กลับทว่าปีศาจสาวดันไม่เปิดโอกาสให้ทำและพุ่งตัวเข้าวาดคมดาบสองเล่มพร้อมกันหวังจะสะบั้นร่างของเหยื่อตรงหน้า



เคร้ง!

วินาทีที่ชายหนุ่มกำลังจะถูกจบชีวิต ทันใดนั้นดาบเล่มหนึ่งได้พุ่งแหวกอากาศเข้ามาในระยะ บังคับความสนใจของเจ้าหล่อนให้บิดคมดาบปัดมันจนกระเด็นไปไกลลิ่ว แต่แล้วครั้นถูกทำให้ตกหลุมพรางกลับมีดาบอีกเล่มตวัดเฉือนลำตัวจนฉีกขาด เนื้อเน่าเฟะแทบจะขาดสบั้นพาให้ของเหลวสีเข้มหลั่งไหลนองพื้นน้ำ 

“ตัวจะขาดครึ่งอยู่แล้วยังไม่ตายแฮะ” นาโอริเอ่ยขณะจ้องปีศาจตรงหน้า ทว่าร่างที่ควรจะแยกส่วนและกองกับพื้นกลับยังสามารถหมุนศีรษะกลับหลังอย่างง่ายดายราวไร้กระดูก เพื่อมามองคนที่ขัดจังหวะความสนุกของตัวเอง ภาพชวนสยดสยองแถมยังข่มขวัญเช่นนี้คงมีน้อยคนที่จะทนมองไหว แต่สำหรับสาวเจ้ามันดันสร้างความวูบวาบในใจจนห้ามไม่ได้แทน

“ฮึ้ย...โคตรเท่เลย!” นัยน์ตาสีซากุระนั้นทอประกายอย่างกับเด็ก 

“ใช่เวลาไหมเนี่ย!?”  

ไม่ทันจะสิ้นเสียงจูลิโอ้ ร่างไม่สมประกอบของสตรีพรหมจรรย์ก็เข้าประชิดเด็กสาวในทันใด หล่อนไขว้ดาบเป็นรูปกากบาทพลันตวัดมันอย่างรวดเร็ว นาโอริพลันย่อตัวต่ำหลบได้ทันท่วงทีแม้ปลายผมจะถูกเฉือนไปเล็กน้อยก็ตาม ปีศาจสาวที่พลาดท่าดันเปิดช่องโหว่ให้ร่างบางอ้อมไปด้านหลังเพื่อง้างดาบปลิดชีพมันให้สะบั้น ส่งร่างไร้หัวล้มคะมำลงกับพื้นน้ำและเป็นชัยชนะของเธอไปในที่สุด

“ฟู่ว เกือบไป...คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?” ครั้นตระหนักว่ารอบด้านไม่เหลือภัยอันตรายใด ๆ นาโอริจึงหันมองทหารหนุ่มที่ได้แต่ตะลึงเพราะเพิ่งผ่านวินาทีเป็นตายมา เขาถึงกับสะดุ้งตัวเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคุยกับตน

“ผ ผมไม่เป็นไร ขอบคุณนะ”

“ลุกไหวไหมคะ?” เด็กสาวยื่นมือให้และช่วยพยุงเขาให้ลุกจากธารน้ำเจิ่ง ทันทีที่กลับมายืนได้อีกครั้งร่างสูงก็ก้มโค้งเงอะงะพลางเอ่ยขอบคุณกับเด็กสาวยกใหญ่และแนะนำตัวว่าตนชื่อเซย์ตะ

เขาเป็นชายหนุ่มหน้าหวานผู้มีเรือนผมสีบ๊วยแดงรวมเป็นหางสั้นละกับแผ่นหลังตัดกับนัยน์ตากลมสีน้ำเงินไพลิน หากสาวเจ้าไม่ได้ยินเสียงทุ้มละมุนและไม่เห็นรูปร่างสูงโปร่งใกล้ ๆ เธอคงคิดว่าเขาเป็นทหารหญิงคนหนึ่งที่ตัวสูงเหมือนผู้ชายกระมัง

เซย์ตะยังเล่าอีกว่าเมื่อครู่ตัวเองกำลังเดินสำรวจโลกเสมือนนี่พร้อมกับผู้แข่งขันอีกสองคน เพราะต่างคนต่างคิดว่ามันปลอดภัยกว่าหากร่วมมือกัน กระทั่งมาถึงบริเวณบ้านไม้พิสดารและเจอเหล่าสตรีพรหมจรรย์ซึ่งเฝ้าทางโจมตีเข้าให้ พาให้นาโอริถึงกับอุทานเมื่อความสงสัยถูกคลาย เพราะแบบนี้ตอนที่เธอไปถึงจึงไม่มีวี่แววใครหรืออะไรเลย...

“ต้องขอบคุณเซย์ตะซังแล้วล่ะค่ะ ที่ช่วยเคลียร์ทางให้”

“ผมต่างหาก ถ้าไม่ได้เธอคงตกรอบไปแล้ว” ชายหนุ่มเกาแก้ม

“จะว่าไป...เพื่อนอีกสองคนที่ว่าล่ะคะ?”

“คนนึงหนีไปแล้ว ส่วนอีกคนก็ตาย...หมายถึงตกรอบน่ะครับ” ชายหนุ่มพูดเสียงอ่อยพลางทำคอตกราวสิ้นหวังทำเอานาโอริได้แต่เลิกคิ้วสูง เธอชักเริ่มไม่มั่นใจว่าคนตรงหน้าเป็นทหารจริงหรือเปล่า เพราะกลิ่นอายดูต่างจากคนอื่นพอสมควร เรียกว่าไร้ความน่าเกรงขามคงจะได้

“นาโอริ เราต้องรีบนะไม่งั้นจะถูกแซงหน้าเอา” จูลิโอ้เอ่ยแทรกทันทีที่สังเกตว่าคู่หูเริ่มจะใช้เวลากับบทสนทนานี้นานเกินไป

“อ๊ะ จริงด้วย...” นัยน์ตาสีซากุระลอบมองใบหน้าซึมกะทือของชายหนุ่มและเม้มปากครุ่นคิดอย่างช่วยไม่ได้ ขณะที่เสียงของจูลิโอ้ยังเร่งเร้าสาวเจ้าไม่เลิกพาให้เซย์ตะที่ได้ยินตระหนักว่าคนช่วยเหลือกำลังจะจากไป เขาจึงตั้งท่าจะอ้าปากเอ่ยด้วยอาการร้อนรน

“เอ่อคือ ให้ผมไปด้-..”

“คุณจะไปกับฉันไหมคะ?”

“หา!?” เสียงอุทานดังประสานกันทั้งเซย์ตะและจูลิโอ้ ยกเว้นเจ้าของคำชวนที่เอียงคอมองร่างสูงราวเฝ้ารอคำตอบแต่ไม่วายได้ยินคำบ่นอุบอิบจากคู่หูไปด้วย

“คิดอะไรอยู่ เราไม่มีเวลานะ”

“ใจเย็นน่า มีหลายคนยังไงก็ดีกว่าลุยเดี่ยวอยู่แล้ว” เด็กสาวเอ่ยพลางตบฝักดาบเบา ๆ เธอเบนมองใบหน้าเหวอของชายหนุ่มที่ไม่เชื่อว่าสาวเจ้าจะออกปากชวนเขาเอง

“ผมคิดว่าเธอจะปฏิเสธ”

“ก ก็ฉันไม่อยากทิ้งใครไว้ข้างหลังน่ะค่ะ เห็นแล้วมันหงุดหงิด...แต่ฉันมีข้อตกลงค่ะ คุณจะรับฟังไหม?” นาโอริขมวดคิ้วจริงจังขึ้นมา

“ว่ามาเลยครับ”

“ฉัน...ไม่ต้องการแค่ได้รับพิจารณาเป็นทหารค่ะ แต่ต้องการตำแหน่งองครักษ์เท่านั้นและจะไม่ยอมยกให้ใครเด็ดขาด” นัยน์ตาสีซากุระฉายความแน่วแน่ไม่ปิดบังทั้งที่สะท้อนใบหน้าของอีกฝ่ายแจ่มชัด 

“ถ้าไม่ได้ตำแหน่งองครักษ์ คุณจะยังยอม...ร่วมมือกับฉันไหมคะ?” 



เป็นดั่งแสงที่เจิดจ้ามาแยงตาจนไม่จำเป็นต้องถามถึงเจตจำนงอื่นให้มากความ เพราะชายหนุ่มนั้นได้รับมันมาเต็มเปี่ยมจากประโยคเพียงประโยคเดียวแล้ว

“ตกลงครับ เพราะตำแหน่งอันมีเกียรตินั้นย่อมเหมาะกับคนที่ตั้งใจอยู่แล้ว ผมน่ะชิล ๆ ได้หมดถ้าสดชื่นครับ” เขาวาดยิ้มน่ารักเป็นคำตอบพาให้หัวใจของนาโอริเบาหวิวด้วยความโล่งใจ แต่ก็เหลือเชื่อเช่นกันที่อีกฝ่ายยอมตกลงง่ายเช่นนี้



หนำซ้ำยังสัมผัสถึงความคิดแอบแฝงในคำพูดนั้นไม่ได้เลยสักนิด...



“ขอบคุณนะคะ งั้นต่อจากนี้เราก็เป็นเพื่อนร่วมทางกันแล้ว...ฉันนาโอริ ฝากตัวด้วย”

“เช่นกันครับ ผมสัญญาว่าจะช่วยเธอเต็มที่เลย นาโอริจัง!” เขารวบมือเด็กสาวมากำแน่นพลันวาดยิ้มเบิกบาน ทำเอานาโอริแทบไม่เชื่อสายตาว่าคนตรงหน้ามีอายุมากกว่าเธอเท่าตัวและได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ ปล่อยให้เพื่อนร่วมทางคนใหม่ขอบคุณสรรเสริญเธอต่อไป 

.

.

.

เมื่อเป็นอันตกลงนาโอริจึงออกเดินทางสู่อุปสรรคถัดไปพร้อมกับเซย์ตะ แต่ดูเหมือนว่าพวกเธอจะยังไม่พ้นอาณาเขตของพื้นที่กลับหัวพิสดารนี่ เพราะจู่ ๆ สะพานข้ามทางน้ำก็ดีดตัวชายหนุ่มที่ทะเล่อทะล่าก้าวเข้าไปให้พุ่งเหินฟ้า หากไม่ได้นาโอริคว้าเอาไว้เขาคงถูกหนามเหล็กซึ่งดักรออยู่บนน่านฟ้าจำลองกระหน่ำแทงไปแล้ว

หนำซ้ำด้วยเสียงอุทานตกใจของเซย์ตะ มันกลับดังพอจะเรียกเหล่าปีศาจสาวเจ้าเดิมให้โผล่มาเล่นสนุกเป็นขบวน ไม่พ้นเด็กสาวที่ต้องอาศัยหนามเหล็กอันตรายก่อนหน้านี้กำจัดพวกหล่อนแทน แต่แลกกับต้องปล่อยร่างสูงให้ลอยไปเจอหนามอันตรายด้วยอีกคน โชคช่วยที่มีศพพวกมิโกะสาวเป็นเบาะรองเขาจึงสามารถดีดตัวออกจากแรงถ่วงบิดเบี้ยวสำเร็จ จนหล่นมาหน้าคะมำกับพื้นไม้



ทว่าความวายป่วงยังไม่จบลงง่าย ๆ



ไม่ว่าบริเวณไหนที่พวกนาโอริเหยียบไป จะกับดักแทบทุกชนิดหรือภัยธรรมชาติเซย์ตะมักจะเป็นคนลิ้มลองพวกมันก่อนเสมอ แถมยังเนื้อหอมกับพวกปีศาจในโลกเสมือนเกินไปจนดึงพวกมันให้วิ่งกรูเข้ามาใส่ และไม่พ้นที่นาโอริต้องคอยตามช่วยอยู่ร่ำไปจนสาวเจ้าเริ่มจะเรียกเพื่อนร่วมทางคนนี้ว่า ‘คนอับโชค’ ซึ่งเจ้าตัวดูจะยอมรับอยู่เนือง ๆ ด้วย  

“เป็นแบบนี้ต่อไปเราจะไม่ผ่านเอานะ เธอไม่สนใจการแข่งแล้วหรือไง?” จูลิโอ้กระซิบหงุดหงิดขณะที่เด็กสาวกำลังเดินฝ่ากระแสน้ำลึกท่วมถึงเอวเพื่อไปยังฝั่งตรงข้าม ครานี้เธอให้เซย์ตะนำหน้าเพราะจะได้คอยระวังหลังแทนและเผื่อคว้าเขาทันหากเกิดอะไรขึ้น นี่เธอกำลังสวมบทพี่เลี้ยงหรือยังไงนะ?

“สนใจสิ” เธอตอบเสียงเบา

“งั้นทำไมยังปล่อยให้เขามาถ่วงอยู่อีก?”

“บอกแล้วไงว่าสองคนดีกว่าคนเดียวน่ะ...ถึงเขาจะล่อเท้าไปหน่อยก็เถอะ อีกอย่างเราก็ทำข้อตกลงกันแล้วด้วย” นาโอริถอนใจเบาหวิวไม่ให้คนข้างหน้าได้ยิน

“ฉันเห็นแต่เธอลำบากอยู่คนเดียวเนี่ย”

“เอาน่า เขาอาจจะมีประโยชน์ทีหลังก็ได้ ใครจะรู้” ว่าจบก็ได้ยินเสียงฮึดฮัดจากคู่หูอย่างที่คิด ก่อนจะตามด้วยเสียงเรียกจากเซย์ตะ เขาชี้ไปเบื้องหน้าซึ่งเป็นปากถ้ำขนาดใหญ่ที่มีน้ำตกไหลลงมา ด้านบนถูกปกคลุมด้วยต้นไม้รกทึบจนไม่เห็นว่าต้นน้ำนั้นอยู่สูงเพียงใดและรอบข้างก็ดูจะไม่มีทางให้ไปต่อ ทั้งสองจึงต้องเดินหน้าเข้าสู่ถ้ำมืดอย่างช่วยไม่ได้



จ๋อมแจ๋ม

เสียงย่ำน้ำกังวานรอบ ๆ สัมผัสเย็นชื้นปะทะใบหน้าจนเหนอะหนะประกอบกับกลิ่นเหม็นเขียวขึ้นจมูกจากตะไคร่น้ำ ยิ่งเดินลึกเข้าไปแสงที่เริ่มจะตามมาไม่ถึงก็ยิ่งทำให้โหวงเหวงจนน่ากังวล บรรยากาศวังเวงนั้นบังคับทั้งสองให้ต้องตัวติดกันยิ่งกว่ากาว นาโอริพลันเสนอให้อีกฝ่ายจับแขนเธอไว้และเดินไปด้วยกันซึ่งเจ้าตัวก็ไม่มีปัญหาอะไร



ไปๆ มา ๆ เท้าสองคู่กลับต้องชะงักเมื่อเบื้องหน้าดันเป็นทางแยกสองฝั่งความลังเลจึงเกิดขึ้น...

“แย่ล่ะสิ ควรต้องไปทางไหนกันแน่เนี่ย”

“ร เรื่องนี้ไว้ใจเถอะ ให้ผมนำทางเอง!” เซย์ตะโพล่งออกมาพลันเปลี่ยนเป็นฝ่ายดึงแขนเด็กสาวให้ตามเขาไปแทน

“เดี๋ยวก่อน! คุณแน่ใจได้ยังไงคะ?”

“เชื่อผมเถอะ” เซย์ตะไม่รีรอให้เด็กสาวสงสัยและมุ่งหน้าลัดเลาะไปตามทางคดเคี้ยวอย่างมั่นใจ ผ่านชั้นหินทั้งสูงชันและซับซ้อนจนพาลจะจำไม่ได้ว่าทางไหนคือทางแรกเริ่มที่เข้ามา ทำเอานาโอริเหงื่อตกหวั่นใจอีกครั้งเพราะกลัวความอับโชคของเขาจะทำงานไม่รู้เวลาในถ้ำมืดแห่งนี้

“หือ?”    

ครั้นถูกเซย์ตะพามายังเส้นทางทอดยาวไม่คดเคี้ยวอีกครั้ง จู่ ๆ เจ้าตัวก็ชะงักเท้าไม่มีปี่มีขลุ่ย นาโอริพลันย่นคิ้วมองร่างสูงที่หันมาชูนิ้วโป้งให้เธออยู่ก่อนราวยืนยันว่าความคิดเขาถูกต้อง ทำเอาสาวเจ้างงงวยเข้าไปใหญ่เพราะเบื้องหน้ามันไม่มีอะไรเลยนอกจากความมืดมิด เขาตั้งใจจะทำอะไรกันแน่?

วืด

ทันใดนั้นสายลมจึงกรีดเสียงเล็กแหลมมาถึงหูเช่นเดียวกับใบหน้าสวยที่สัมผัสถึงมันได้ ความสงสัยในหัวเลยตกผลึกอย่างรวดเร็ว 

“ที่แท้ก็รู้สึกถึงลมนี่เอง ทำไมไม่บอกฉันล่ะคะ?”

“ขอโทษที พอดีผมตื่นเต้นไปหน่อยน่ะครับ แหะ ๆ” เซย์ตะหัวเราะกลบเกลื่อนก่อนจะจูงมือเด็กสาวให้เดินไปด้วยกันอีกครั้ง ครั้นก้าวไปตามทาง นาโอริรับรู้ได้ทันทีว่าความชื้นชวนแขยงเริ่มลดลง ซึ่งอาจหมายความว่าพวกเธอกำลังจะเจอทางออกก็เป็นได้



ในที่สุดก็จะได้เลิกรากับเขาวงกตบ้าบอนี่เสียที!



“นั่นมัน...แสง?”

นาโอริเลิกคิ้วสูงครั้นเริ่มมองเห็นแสงบางอย่างอยู่ไม่ไกล นัยน์ตาสีซากุระพยายามหรี่มองเจ้าแสงนั่นก่อนจะรู้สึกถึงแรงดึงแขนให้เพิ่มความเร็วตาม เพราะเซย์ตะที่สังเกตเห็นสิ่งเดียวกันจึงเดินปรี่ไปไม่ลังเลเมื่อคิดว่าตนพบกับทางออกแล้ว

“เอ๊ะ ไม่จริงน่า” ทว่าความคาดหวังนั้นกลับไม่ได้รับการตอบกลับ ทันทีที่เดินไปใกล้แสงไฟมันกลับแปรเปลี่ยนรูปร่างและรวมตัวกันเป็นลูกไฟสีน้ำเงิน ก่อนจะสลายไปทันใดทิ้งให้สองหนุ่มสาวอยู่ในความมืดอีกครั้ง

“ลูกไฟงั้นเหรอ ไหงเป็นงั้นไปได้...” นาโอริเอ่ยอย่างนึกเสียดาย

“สงสัยผมคงพาหลงเสียแล้ว ขอโทษนะครับ อุตส่าห์พาเธอมาอย่างมั่นใจแท้ ๆ” เด็กสาวส่ายหน้าเป็นคำตอบ งานนี้ไม่มีใครผิดทั้งนั้นเพราะเธอเองก็เผลอคิดว่าเป็นทางออกเช่นกัน ร่างบางเลือกจะจับแขนอีกฝ่ายแน่นเพื่อไม่ให้คลาดหลงขณะเดินไปตรงจุดที่ลูกไฟเคยปรากฏ บัดนี้มันกลับกลายเป็นกำแพงหินขวางทาง หนำซ้ำรอบด้านยังไม่มีช่องทางให้ไปต่อ 



เรียกว่าเป็นทางตันอย่างสมบูรณ์แบบเลยล่ะ



“แต่ฉันยังรู้สึกถึงกระแสลมอยู่ ไม่แน่อาจจะพังไปได้นะคะ”

“ดาบพวกเราทำไม่ไหวหรอกครับ ต้องหาอะไรที่หนักกว่านี้” นัยน์ตาสีไพลินลองกวาดมองความมืดรอบด้านพลางครุ่นคิด ในถ้ำหินเช่นนี้จะมีสิ่งใดช่วยพาพวกเขาออกไปได้บ้างหรือควรจะใช้ทางเดิมกลับไปแล้วเริ่มต้นใหม่?



ครั้นคนหนึ่งกำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิดและอีกคนพยายามจะหาช่องที่กระแสลมอาจเล็ดลอดผ่าน พวกเขาไม่ทันสัมผัสถึงฝีเท้าหนักที่คืบคลานเข้ามาผ่านความมืด อะไรบางอย่างถลึงมองผู้รุกล้ำอาณาเขตของมันน้ำลายสออยากจะเขมือบลงไปใจจะขาด ทว่าสายลมกลับเป็นใจโชยกลิ่นสาบของมันเตะจมูกนาโอริ สัญชาตญาณดึงให้เจ้าตัวหันมองด้านหลังและเห็นเงาตะคุ่มกำลังอ้าปากกว้างเบื้องหลังเซย์ตะ

“เซย์ตะซัง ข้างหลัง!” ชายหนุ่มสะดุ้งจากภวังค์พลันหันตามคำกล่าว ลมหายใจเน่าเหม็นคืบคลานใกล้ไม่ทันให้ตั้งตัว สมองประมวลให้ชักดาบออกมาเร็วที่สุดแต่คงไม่ทันการเพราะระยะเฉียดตายซ้ำยังมืดบอดไร้การมองเห็น



ปัก

เสียงบางอย่างกระแทกดังก้องตามด้วยเสียงคำรามทรมาน เซย์ตะพลันรู้สึกถึงแรงกระชากที่แขนดึงให้ตัวเขาไปชนกับผนังหินเบื้องหลัง สายตาพยายามสุดชีวิตเพื่อปรับตัวในความมืดและเริ่มเห็นเงาราง ๆ ของนาโอริอยู่ตรงหน้า จึงตระหนักได้ว่าอีกฝ่ายช่วยเขาจากการจู่โจมเมื่อครู่ ทว่ากลับไม่มีเวลาให้คิดหาเหตุและผลมากนัก เพราะเสียงขู่คำรามยังคงดังก้องยืนยันว่าเจ้าสัตว์ร้ายยังไม่ไปไหนและรอจังหวะเล่นงานพวกเขาอยู่



โฮก!

สิ้นเสียงคำรามกระหึ่ม ลูกไฟสีน้ำเงินจึงก่อตัวรอบ ๆ มันและสร้างแสงสว่าง เผยให้เหยื่อทั้งสองเห็นหน้าตาบิดเบี้ยวของสิ่งมีชีวิตตรงหน้า มันมีใบหน้าเกรี้ยวกราดคล้ายยักษ์ทว่าลำคอกลับยืดยาวจนขดได้เป็นวง ช่วงตัวเป็นสัตว์สี่ขาคล้ายราชสีห์และมีหางที่ตวัดไปมาคล้ายปีศาจร่มคาราคาสะ* นาโอริเผลอกลืนน้ำลายอย่างตกตะลึง บัดนี้เธอแยกไม่ออกระหว่างอารมณ์ตื่นตาตื่นใจกับหวั่นกลัวเจ้าสิ่งตรงหน้า แต่เป็นต้องรีบกระชับอาวุธศักดิ์สิทธิ์แน่นเช่นเดียวกับเซย์ตะ



เพื่อที่จะไม่กลายเป็นเหยื่อของมัน...



ความกดดันโหมกระหน่ำใส่คนทั้งสอง ในสถานการณ์ที่ถูกต้อนจนมุมเช่นนี้จะสามารถจัดการสิ่งน่ากลัวตรงหน้าในพื้นที่จำกัดได้อย่างไร เพราะเพียงแค่มันยืดคอเข้ามาก็แทบจะหลบไปไหนไม่ได้ หัวสมองตกผลึกแล้วว่าดวงไฟสีน้ำเงินนั่นเป็นแค่เหยื่อล่อให้ติดกับดักและเป็นพวกเธอที่ดันเข้ามาติดมัน

“มีแต่ต้องฆ่าเท่านั้นสินะ...” นัยน์ตาสีซากุระกวาดตาสำรวจรอบกายของมันพลันหาจังหวะโจมตี 

ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายต่างลองเชิงกันและกัน แม้เจ้าสัตว์ร้ายนั่นจะปล่อยน้ำลายยืดย้อยราวอดใจจะเขมือบอาหารไม่ไหวก็ตาม แต่มันกลับยังทำตัวแข็งทื่อผิดกับแววตาที่จ้องเหยื่อของมันเขม็ง ทว่าความอดทนนั้นกลับอยู่ได้ไม่นาน เพียงนาโอริขยับเท้าก้าวเดียวเชือกฟางก็ขาดสะบั้น

โฮก!

มันรอไม่ไหวอีกต่อไปพลันยืดคอหาเด็กสาวทันควัน ปากกว้างฉีกอ้าออกพร้อมจะใช้ฟันซี่แหลมกว่าเข็มเข้าขย้ำเหยื่อ ร่างบางเบี่ยงตัวหลบโดยไม่ลืมดึงเซย์ตะให้พ้นอันตรายจนทั้งคู่ล้มลงไปนอนกับพื้นด้วยกัน มันจึงพลาดเป้าพุ่งชนผนังถ้ำหนาอย่างจังและถูกแรงกระแทกทำให้สับสน พอดีกับที่นาโอริสบโอกาสตวัดดาบเข้าที่หลังคอแต่แล้วมันกลับถูกป้องกันด้วยหางร่มของตัวเอง พื้นผิวร่มนั้นแข็งดุจเหล็กกล้าจนแม้แต่ดาบยังแทงไม่เข้า เด็กสาวจึงโดนมันปัดกระเด็นไปไกล

“ร่มบ้าอะไรแข็งเว่อร์!” 



โฮก!

เจ้าตัวน่าเกลียดพลันหมุนตัวกลับมากระโจนเข้าใส่ทั้งสองอีกครั้ง มันม้วนคอตลบด้านหลังไปหาเซย์ตะหวังจะฉีกกระชาก ชายหนุ่มตั้งดาบรับคมเขี้ยวได้ทัน จึงกลายเป็นมันที่โดนตรึงไม่ให้ขยับลำคอได้ 

“แทงคอมันเลย!” 

ปลายดาบของนาโอริที่เสียบผิวหยาบทะลุอย่างรู้งานส่งเลือดคาวกระเซ็นเปรอะไปทั่ว มันส่งเสียงร้องและดิ้นรนให้หลุดจากความทรมาน แต่เด็กสาวกลับยิ่งกดคมแหลมลึกกว่าเดิมจนเสียงร้องโหยหวนทวีความดังก้องไม่หยุด

ทว่าเมื่อหัวขยับไม่ได้มันจึงใช้อุ้งเท้าเข้าตะครุบร่างบางแทน กรงเล็บยาวตะปบใส่รวดเร็วแต่ไม่เท่าเหยื่อของมันที่หงายหลังนอนราบกับพื้นเพื่อหลบการโจมตีและใช้แรงยกดาบขึ้นสูง เจ้าสัตว์ร้ายจึงเฉือนลำคอตัวมันเสียเองจนขาดสะบั้น นาโอริที่ได้ทีรีบชักดาบออกพร้อมกลิ้งตัวไปหาเซย์ตะที่หอบตัวโยนเพราะต้านแรงดิ้นมหาศาลเมื่อครู่

“ซ เซย์ตะซัง เป็นยังไงบ้-...” 



ตึง! ตึง! 

ยังไม่ทันจะได้ถามไถ่ ทั้งคู่ก็ต้องเปลี่ยนความสนใจกลับไปตั้งดาบอีกครา เมื่อลำตัวไร้หัวของมันกระทืบเท้าตึงตังราวฉุนเฉียวทำเอาถ้ำหินสั่นสะเทือน ทันใดนั้นส่วนหางที่เคยสงบเสงี่ยมจึงถูกยืดให้ยาวออกมา ดวงตาเพียงหนึ่งเดียวเบิกโพลงขึ้นกลางตัวร่มพลันแยกเขี้ยวขนลุกใส่ 



โทสะที่เพิ่มขึ้นของสัตว์ร้ายปลุกสัญชาตญาณป้องกันตัวให้ตื่น แม้ไร้ซึ่งหัวแต่ขอเพียงแค่มองเห็น...





จะเหยื่อตัวไหนก็ไม่มีวันรอดพ้น...



to be continue….

======================================

คำศัพท์เพิ่มเติม!

มิโกะ(巫女)= ชื่อเรียกของหญิงสาวผู้เป็นสื่อกลางระหว่างเทพเจ้าและมนุษย์ ปัจจุบันกลายเป็นชื่อเรียกอาชีพของหญิงสาวที่ทำงานในศาลเจ้าชินโตของญี่ปุ่น

ปีศาจร่มคาราคาสะ(唐傘) = ผีญี่ปุ่นที่มีรูปร่างเป็นร่มเก่า ๆ ตามชื่อคาราคาะสะที่แปลว่าร่มกระดาษ มีตาหนึ่งดวงและลิ้นที่ยาว เป็นภูตผีปีศาจจำพวก Tsukumogami (付喪神) ที่เกิดจากของเครื่องใช้ที่มนุษย์สร้างขึ้น ตามความเชื่อที่ว่าสิ่งของใดก็ตามที่มีอายุครบ100ปีจะเกิดพลังวิญญาณ ทำให้มีชีวิตขึ้นมา

======================================

มาคอมเมนท์แนะนำกันได้นะฮัฟฟฟ

ฝากกดถูกใจ เป็นกำลังใจกันด้วยน้าา <3



つづく、psrpowder