จากที่อยากสานฝันเป็นนักดาบกลับต้องผันตัวสู่เส้นทางนองเลือดแค่เพราะอยากปกป้องเขาที่ด้ายแดงแห่งโชคชะตาผลักให้(วิ่ง)ชนกันถึง 2 รอบ แต่วันใดเล่าที่ดาบในมือจะหันคมใส่เขาเสียเอง...เพื่อสำเร็จเป้าหมายของมัน

7 Samurai - ตอนที่56 ตามรังควาน โดย psrpowder @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,แอคชั่น,รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,7Samurai ,ไม่ฮาเร็ม,ตัวเอกหญิง ,ดาบพูดได้,ญี่ปุ่น,แอคชั่น,รักวัยรุ่น,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

7 Samurai

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,แอคชั่น,รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

7Samurai ,ไม่ฮาเร็ม,ตัวเอกหญิง ,ดาบพูดได้,ญี่ปุ่น,แอคชั่น,รักวัยรุ่น,แฟนตาซี

รายละเอียด

จากที่อยากสานฝันเป็นนักดาบกลับต้องผันตัวสู่เส้นทางนองเลือดแค่เพราะอยากปกป้องเขาที่ด้ายแดงแห่งโชคชะตาผลักให้(วิ่ง)ชนกันถึง 2 รอบ แต่วันใดเล่าที่ดาบในมือจะหันคมใส่เขาเสียเอง...เพื่อสำเร็จเป้าหมายของมัน

ผู้แต่ง

psrpowder

เรื่องย่อ

สวัสดีค่าา เรา psrpowder น้าาา ยินดีที่ได้รู้จักรี้ดเดอร์ทุกท่านที่ผ่าน(หลง)เข้ามาฮะ!
(เชิญชวนมาติดตามกันได้ที่ Tiktok นะฮะ จะอัพเดตเรื่อย ๆ คับ)



เอาล่ะ….วันนี้เรามีนิยายออริจินอล มานำเสนอ!!

ชื่อเรื่องว่า 7 Samurai (ถ้าสงสัยว่าทำไมชื่อนี้ คงบอกได้แค่ว่าเป็นความเบียวของไรท์เองแหละค่ะ555)

เป็นแนวแฟนตาซี เซ็ตติ้งประเทศญี่ปุ่นยุคปี3000 มีฉากต่อสู้ฟิลใช้ดาบตบตีกันไปมา ชิ้งๆๆ

ผสมความรักแบบวัยใสน่ารัก(มองตาปุ๊ปก็ปิ้งกันปั๊บ!) 

แถมปมเรื่องชวนซึ้งใจ (คนอ่านซึ้งมั้ยไม่รู้แต่ไรท์น้ำตาหยด ;-; )

 
ใด ๆ มันอาจจะไม่ตามกระแส ไม่ตามตลาด แต่เราอยากลงเรื่องที่ตั้งใจสร้างให้ทุกคนได้อ่านจริง ๆ
และอยากขอโอกาสทุกท่านที่แวบผ่านเข้ามา คอยชี้แนะแนวทางให้ไรท์คนนี้ด้วยนะคะ
ปล. เรื่องอาจไม่ได้หวือหวาหรือน่าตื่นเต้น แต่อยากให้จับตา จับมือ จับหูดูการเติบโตของน้อง ๆ ไปด้วยกันน้าา 


==============================================

***นิยายเรื่องนี้มีฉากต่อสู้และฉากความรุนแรงอื่น ๆ แทรกในบางตอน***

แต่จะมีการแจ้ง Trigger warning ก่อนเริ่มอ่านทุกครั้ง 

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

==============================================

ชิสึจิ นาโอริ ตัดสินใจทำตามความฝันวัยเด็ก เธอเลือกสอบเข้าที่โรงเรียนเฉพาะทางสำหรับนักดาบ และได้พบกับคู่หูซึ่งเป็นดาบไม้เล่มหนึ่งที่ต้องตาเธอตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็น เลยมอบชื่อให้ว่า จูลิโอ้
และต้องฝ่าฟันทั้งเรื่องเรียน เรื่องครอบครัว เรื่องเฉียดตายไปจนถึง…เรื่องความรัก!? โดยมีเจ้าดาบคู่ใจเป็นสักขีพยานเคียงข้างเสมอ
....แต่ดาบเล่มนี้ 

ไม่ได้มอบเพียงคู่หูแก่เธอ แต่มอบหลายสิ่งนับไม่ถ้วนโดยไม่รู้ตัว



มันมอบสิ่งที่เลวร้าย บ้าคลั่งและหิวกระหาย 
สิ่งที่ยากจะควบคุมและพร้อมจะกลืนกินจิตบริสุทธิ์ของเด็กสาวอย่างเธอ



 "ให้ข้า..ได้ลิ้มรสเลือดพวกมันเสียเถอะ"

"ออกไป...ออกไปจากหัวฉัน!"



มันมอบโชคชะตา ให้ได้พบพานใครคนหนึ่งที่แลกชีวิตเพื่อให้เธอปลอดภัย 
ผู้เป็นดั่งแสงอันล้ำค่าที่ต้องรักษาไว้แม้ตัวตาย



"เพราะสัญญากันแล้ว...ว่าจะออกไปจากที่นี่ด้วยกัน เลยต้องทำทุกทางไม่ให้เสียเธอไป"

"ฉัน...ปกป้องนายได้ใช่ไหม?"



มันมอบเส้นทางใหม่ที่ดอกซากุระดอกตูมอย่างเธอ...จะได้ผลิบานสะพรั่ง ให้สมดั่งปรารถนา



"ในที่สุดก็ถึงวันนี้....วันที่ฉันไม่ต้องปกปิดอีกต่อไป"

"คุณ...คือใคร?"
 

มันมอบตัวตน เรื่องราวและสายสัมพันธ์นับไม่ถ้วนให้แก่เธอ แต่ก็จ้องจะช่วงชิงทุกสิ่งไปเช่นกัน

 

"เพราะนั่น...คือสาเหตุที่มันเกิดมา"

"และมันจะต้องดับสูญ ถ้ากล้าคิดแตะต้องคนที่ฉันรัก!"
 

==============================================


เนื้อเรื่องช่วงแรกอาจจะสโลว์ไปบ้าง แต่อย่าเพิ่งทิ้งกันน้า ; ^ ;

ใครผ่านเข้ามาอ่านและถูกใจ สามารถเป็นกำลังใจ ติชม แนะนำ ให้นักเขียนฝึกหัดคนนี้ได้นะคะ! 

ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ค่า <3 (O w O)


よろしく、psrpowder 

สารบัญ

7 Samurai-ตอนที่1 การเริ่มต้นใหม่,7 Samurai-ตอนที่2 คู่หู,7 Samurai-ตอนที่3 เก่งกาจ,7 Samurai-ตอนที่4 ลังเล,7 Samurai-ตอนที่5 ทดสอบ,7 Samurai-ตอนที่6 สายสัมพันธ์ใหม่(1),7 Samurai-ตอนที่7 สายสัมพันธ์ใหม่(2),7 Samurai-ตอนที่8 สายสัมพันธ์ใหม่(3),7 Samurai-ตอนที่9 สายสัมพันธ์ใหม่(4),7 Samurai-ตอนที่10 ฝึกมือ,7 Samurai-ตอนที่11 เปิดเผย,7 Samurai-ตอนที่12 ถึงเทศกาลแล้ว!,7 Samurai-ตอนที่13 แข่งคู่ที่สอง,7 Samurai-ตอนที่14 ชิงชนะเลิศ,7 Samurai-ตอนที่15 เซอร์ไพรซ์ต้อนรับ!,7 Samurai-ตอนที่16 นัดที่ไม่ได้นัด(1),7 Samurai-ตอนที่17 นัดที่ไม่ได้นัด(2),7 Samurai-ตอนที่18 นัดที่ไม่ได้นัด(3),7 Samurai-ตอนที่19 ติวหนังสือให้ทีสิ,7 Samurai-ตอนที่20 คอร์สสอนเฉพาะกิจ,7 Samurai-ตอนที่21 ชั่วโมงประวัติศาสตร์,7 Samurai-ตอนที่22 วันสอบที่ผ่านไปด้วยดี,7 Samurai-ตอนที่23 ภารกิจพิเศษ(1),7 Samurai-ตอนที่24 ภารกิจพิเศษ(2),7 Samurai-ตอนที่25 ภารกิจพิเศษ(3),7 Samurai-ตอนที่26 ภารกิจพิเศษ(4),7 Samurai-ตอนที่27 ความล้มเหลวและหนทางแก้ไข,7 Samurai-ตอนที่28 ดุจกำลังใจ,7 Samurai-ตอนที่29 ข่าวร้ายกับแผนการตีกรอบ,7 Samurai-ตอนที่30 เริ่มแผน!,7 Samurai-ตอนที่31 ฝ่าฝืน,7 Samurai-ตอนที่32 ช่วยเหลือ,7 Samurai-ตอนที่33 จิตสังหาร,7 Samurai-ตอนที่34 แลกด้วยชีวิต,7 Samurai-ตอนที่35 คำโกหกเพื่อปลอบโยน,7 Samurai-ตอนที่36 เยี่ยมไข้,7 Samurai-ตอนที่37 เรื่องราวที่อยากเล่า,7 Samurai-ตอนที่38 ความตั้งใจอันแน่วแน่,7 Samurai-ตอนที่39 ตามรอย,7 Samurai-ตอนที่40 เหตุร้ายที่เกิดไปพร้อมกัน,7 Samurai-ตอนที่41 แผลใจฝังลึก,7 Samurai-ตอนที่42 เรื่องด่วนและเรื่องร้าย,7 Samurai-ตอนที่43 ความคิดที่ไม่ได้บอก,7 Samurai-ตอนที่44 เชื่อใจ,7 Samurai-ตอนที่45 ข้ออ้างเพื่อตัวเอง,7 Samurai-ตอนที่46 แน่วแน่,7 Samurai-ตอนที่47 ไม่อยากพลาดโอกาส,7 Samurai-ตอนที่48 จิตสำนึกต่อต้าน,7 Samurai-ตอนที่49 ไม่เข้ากัน,7 Samurai-ตอนที่50 ต้นตอของอาการ,7 Samurai-ตอนที่51 นึกสงสัย,7 Samurai-ตอนที่52 คัดเลือก,7 Samurai-ตอนที่53 กลับบ้าน,7 Samurai-ตอนที่54 โลกเสมือน,7 Samurai-ตอนที่55 ผู้ร่วมทาง,7 Samurai-ตอนที่56 ตามรังควาน,7 Samurai-ตอนที่57 ผู้ร่วมทางอีกคน

เนื้อหา

ตอนที่56 ตามรังควาน

***Trigger Warning : ความรุนแรง เลือด บรรยายหน้าตาสิ่งมีชีวิตผิดธรรมชาติ บรรยายฉากเกี่ยวกับงู***
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

ดวงตาเพียงหนึ่งเดียวปูดโปนถลึงมองศัตรูตรงหน้าพลันแสยะยิ้ม สายตานั้นราวกับตรึงร่างของพวกเขาให้ทื่อไม่กล้าแม้แต่จะกระชับดาบในมืออีกครั้ง



และเมื่อเหยื่อไม่คิดขยับ ผู้ล่าอย่างมันจึงเปิดเสียเอง 



โฮก!

มันคำรามเสียงดังก้องพลันวิ่งเข้าใส่ นาโอริจึงเปลี่ยนเป็นท่าเตรียมแทงหวังจะหยุดปีศาจไร้หัวตรงหน้า แต่แล้วมันกลับหมุนตัวสะบัดหางยาวไปเบื้องหน้าพลันปะทะกับคมดาบของเด็กสาวจนเกิดเสียงเหล็กกระทบแสบแก้วหู พละกำลังที่มากกว่าดีดร่างบางกระเด็นถอยไปไกล เซย์ตะที่หันมองตามเผลอเปิดโอกาสให้ร่มปีศาจฉีกปากกว้างพร้อมคะย่ำ ทว่าเขาก็สามารถถีบตัวหลบได้ทันมันจึงได้เขมือบพื้นหินเสียแทน ก่อนจะค่อย ๆ ยกตัวขึ้นจากหลุมร้าวและถลึงมองด้วยดวงตาแดงก่ำ

“แย่ล่ะสิ...” เซย์ตะเหงื่อตกครั้นตระหนักว่าการหลบคมเขี้ยวเมื่อครู่ทำให้ตนหลุดมาอยู่ระหว่างร่างจริงและหางของมันจนได้ สภาพถูกล้อมนี้ยากจะหนีออกไป เพราะส่วนหางที่กำลังโกรธพร้อมจะพุ่งเข้าใส่กับลำตัวที่แม้จะไม่ขยับแต่หากเขาเลือกถอยหลังไปคงโดนกรงเล็บนั่นเฉือนเป็นชิ้นแน่

“เป็นไงเป็-...เอ๊ะ!?”

นัยน์ตาสีไพลินเบิกกว้างเมื่อสะท้อนภาพของนาโอริกระโจนใส่ปีศาจไร้หัวขณะที่มันกำลังสนใจตัวเขา เธอพลันหมุนตัวเตะสุดแรงจนเจ้าร่มตาเดียวหน้าจูบพื้นอีกครา ซ้ำยังถูกเท้าหนักเหยียบเอาไว้สุดแรงแต่มันกลับไม่ยอมง่าย ๆ หางยาวฝืนแรงเหยียบยกมนุษย์ตัวเล็กให้ลอยขึ้น นาโอริเป็นต้องรีบเกาะยอดร่มไว้แน่นไม่ให้หลุดจากการถูกสะบัดไปทั่วถ้ำ

“เซย์ตะซัง...ฝากจัดการตัวมันด้วย!” 

ความแข็งของร่มเล่นเอาหินรอบด้านกะเทาะออกจนเกิดแรงสั่นสะเทือน นาโอริกัดฟันแน่นพลางฝืนรับแรงกระแทกจากหลายด้านซื้อเวลาให้ชายหนุ่มหันขวับมองสัตว์ประหลาดด้านหลัง อุ้งเท้าใหญ่แยกกรงเล็บแหลมออกมาพลันวิ่งใส่ร่างสูงราวรู้ว่าอีกฝ่ายคิดจะทำอะไร มันตั้งท่าจะตะปบเหยื่อทว่านั่นกลับสร้างโอกาสแก่เซย์ตะให้ลอดใต้เท้าและแทงปลายดาบทะลวงกลางหน้าอกของมันเรียกของเหลวสีแดงให้พวยพุ่งเป็นน้ำพุ ความทรมานแผ่ซ่านส่งให้เจ้าร่มปีศาจกรีดร้องออกมาพลันสะบัดแรงขึ้นอีก 



โฮก!

ความผิดปกติเกิดขึ้นเมื่อทั้งหางและตัวไม่มีท่าทีจะสงบลง มันยังคงอาละวาดสร้างความเสียหายในถ้ำไม่เลิก ทั้งสองแทบหยุดหายใจทันทีที่ตระหนักว่าแผนไม่ได้ผล

“อึก!”

เซย์ตะพลันถูกอุ้งเท้าตบกระเด็นกลิ้งไปกับพื้นและกำลังจะโดนกรงเล็บยาวเฉือนร่าง ชั่วพริบตานัยน์ตาสีไพลินเร่งเพ่งมองการเคลื่อนไหวตรงหน้าพร้อมยกคมดาบแทงอุ้งเท้ามันพอดิบพอดี ใบมีดเหล็กเสียบทะลุผิวหนาบัดนี้เท้าหน้าของมันข้างหนึ่งจึงถูกตรึงไว้กับพื้นหินและหยุดการเคลื่อนไหวได้สำเร็จ

นาโอริที่เล็งเห็นจังหวะทองรีบกระชับดาบในมือแน่น มือเรียวหมุนปลายดาบคมเข้าหาปีศาจร่มพลันแทงดวงตาโปนนั่นมิดดาบ ทันทีที่มันหยุดดีดดิ้นไปชั่วขณะ นาโอริพลันกระโดดลงจากร่มพร้อมตวัดดาบเฉือนส่วนหางที่ขดม้วนจนขาดสะบั้น ทว่าเธอกลับไม่วางใจและวิ่งเข้าไปแทงจุดที่คิดว่าเป็นหัวใจอย่างไม่ลังเล



โฮก!

มันโหยหวนดังก้อง ทั้งสองยื้อยุดกับแรงขัดขืนของปีศาจไร้หัวอยู่พักหนึ่ง กระทั่งร่างใหญ่แน่นิ่งกับพื้นบ่งบอกว่าพวกเขาได้รับชัยชนะแล้ว...

“เฮ้อ! อย่างเหนื่อย!” ร่างบางตะโกนลั่นพลางทิ้งตัวนั่ง ไม่ต่างกับชายหนุ่มที่เพิ่งดันตัวเองออกจากใต้อุ้งเท้าใหญ่

“หวุดหวิดเหมือนกันแฮะ ถ้าไม่ได้เธอผมคงแย่แน่เลย”

“เพราะช่วยกันต่างหากค่ะ บอกแล้วสองคนดีกว่าตั้งเยอะ” คำพูดสุดท้ายเธอเอ่ยพร้อมก้มมองอาวุธศักดิ์สิทธิ์ในมือและรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงฮัมเบา ๆ กลับมาด้วย

“ฮ่า ๆ ถึงผมจะไม่ได้ทำอะไรเท่าไหร่ก็เถอะ...หืม?” เซย์ตะชะงักงันเมื่อจู่ ๆ ก็เกิดแสงวูบวาบให้เห็นผ่านหางตา เขาหันมองไปยังร่างสัตว์ประหลาดพลันสังเกตเห็นสัญลักษณ์กากบาทปรากฏขึ้นบนร่างแน่นิ่งของมัน

“ก่อนหน้านี้ไม่มีนี่นา...” ชายหนุ่มย่นคิ้วขณะเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ พาให้นาโอริเดินตามมาด้วย

“เราควรต้องทำอะไรกับมันเหรอคะ?”

“นั่นสิ...เธอลองผ่ามันดูไหม?”

“ฉ ฉันเหรอคะ?” เด็กสาวทำหน้าเหวอพลางชี้นิ้วใส่ตัวเองและไม่วายเห็นอีกฝ่ายพยักหน้าตอบ ดวงตากลมน่ารักนั่นกำลังคะยั้นคะยอเธอ สาวเจ้าจึงไม่มีทางเลือกนอกจากเดินเข้าไปใกล้ซากสัตว์ประหลาด

“ฟู่ว เอาวะ...”

นาโอริเป่าปากทำใจอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนจะกลั้นใจผ่าตัวของมันตามรอยกากบาทเปิดเนื้อแดงสดให้เผยอตามการดึงดาบออก มือเรียวค่อย ๆ ล้วงผ่านรอยแผลลึกลงไป สัมผัสหนืดมือชวนแขยงปกคลุมไปทั้งแขน เธอฝืนใจเคลื่อนมือหาสิ่งที่อาจซ่อนอยู่กระทั่งสัมผัสเข้ากับวัตถุบางอย่างก่อนจะดึงมันออกมาในทันใด

“นี่มัน...เหรียญตรา?” ในมือเปื้อนเลือดคือโลหะทรงกลมขนาดพอดีฝ่ามือ ด้านหนึ่งของมันถูกเจาะเป็นรูและมีกระดาษยันต์ผูกไว้

“เอาไว้ใช้เปิดทางข้างหน้าหรือเปล่า?”

“จากที่ดู...กำแพงหินไม่มีส่วนไหนให้ยัดเจ้าเหรียญนี่ได้เลยค่ะ”

“อืม ผมว่าเก็บไว้ก่อนดีกว่า ไม่แน่ว่าอาจจะได้ใช้ตอนอื่นนะ” นาโอริพยักหน้าเห็นด้วยพร้อมทำความสะอาดมันและเก็บไว้กระเป๋าเสื้อไว้ ก่อนจะกลับไปจมอยู่กับปัญหาเดิมอีกครั้ง



คือการหาทางไปต่อจากไอ้ถ้ำบ้านี่...



“เอาล่ะ...ปัญหาคือเราจะหาทางออกจากตรงนี้ได้ยังไง?”

ดวงตาสองคู่หันมองกำแพงหินพร้อมเพรียง เป็นนาโอริที่เดินไปสัมผัสมันอีกครั้งพลางไม่อยากตัดใจจากหนทางเบื้องหน้า เพราะแค่ต่อกรกับสัตว์ประหลาดนี่ก็กินเวลาไปมากโขแล้ว ขืนให้เดินย้อนกลับไปหลงอีกเธอไม่เอาหรอก

“มันต้องมีทางสิ...” นัยน์ตาสีซากุระกวาดมองทุกซอกมุม หวังให้มีอะไรที่พอจะช่วยทำลายหินนี้ได้บ้าง

“โอ๊ะ!”

แต่แล้วจู่ ๆ ความคิดบรรเจิดก็ผุดเข้ามาในหัวครั้นเห็นรอยร้าวตามผนังถ้ำพวกกับร่มปีศาจที่แน่นิ่งอยู่ ร่างบางเดินตรงไปหามันพร้อมเฉือนเฉพาะส่วนของร่มออกมา เมื่อไม่มีแกนหางแล้วมันก็ไม่ต่างจากร่มกระดาษทั่วไปที่เพิ่มความสยดสยองและมีความทนทานสูงมากเท่านั้น

            

ตึง

นาโอริลองเหวี่ยงมันใส่กำแพงใกล้ ๆ จนเกิดเป็นรอยร้าวก่อนจะวาดยิ้มพอใจ เซย์ตะที่มองการกระทำนั้นได้แต่เอียงคอสงสัยอย่างช่วยไม่ได้ ทว่าเขากลับสังหรณ์ไม่ดีเอาเสียเลย

“นั่นเธอจะทำอะไรเหรอ?”

“ฉันจะพาเราออกจากที่นี่ไงคะ” เด็กสาวยิ้มร่าพลางเดินไปใกล้กำแพงหินอีกนิด แกนร่มถูกกระชับแน่นและถูกฟาดใส่เนื้อหินอย่างจัง แรงสั่นเล็ก ๆ เกิดขึ้นพร้อมกับเศษหินที่ร่วงหล่นจากเพดานถ้ำ ชายหนุ่มเป็นต้องเหงื่อตกทันทีที่ตกผลึกว่าสาวเจ้ากำลังทำอะไร

“ด เดี๋ยวมันก็ถล่มหรอก!”     

“เชื่อฉันสิคะ แปปเดียวก็ได้ออกไปแล้ว” นาโอริกล่าวและกำแกนร่มแน่น เธอวาดยิ้มออกมาราวสนุกกับสิ่งที่ทำอยู่ไม่น้อย

“แข็งดีนักใช่ไหม....งั้นแม่จะฟาดไม่เกรงใจล่ะ!”



ตึง ๆ...ครืน!

หลังจากออกแรงอยู่นาน ในที่สุดทางตันตรงหน้าก็พังทลายเปิดเส้นทางสว่างจ้าแก่คนทั้งสอง แน่นอนว่ารวมถึงตัวถ้ำที่โคลงเคลงเพราะเสียสมดุลและเริ่มถล่มลงมา โชคดีที่พวกเขาวิ่งออกมาได้ทันพอดีกับหินก้อนใหญ่ที่หล่นมาปิดทางไม่งั้นคงได้ตกรอบเป็นแน่

เซย์ตะได้แต่ปาดเหงื่อขณะชื่นชมความบ้าบิ่นของเด็กสาว ซึ่งเจ้าตัวก็ยิ้มรับไม่ปิดบังทั้งยังเก็บเจ้าปีศาจร่มน่ากลัวนั่นติดตัวไปด้วยและบอกว่า “เผื่อใช้ยามจำเป็น” ทำเอาชายหนุ่มแย้งอะไรไม่ได้เพราะอีกฝ่ายตัดสินใจแล้ว

.

.           

.

เส้นทางใหม่นำไปสู่พื้นที่ที่ไม่รู้จัก นาโอริไม่แน่ใจว่าพวกเธอออกมาถูกทางหรือไม่แต่มันก็มีทางให้สามารถเดินต่อไปได้ หนำซ้ำเมื่อหันหลังกลับไปมองจะเห็นว่ามันคือต้นน้ำตกสูงซึ่งเป็นที่เดียวกับที่เธอเห็นก่อนจะเข้าถ้ำหินมา เวลาไม่คอยท่าชายหนุ่มจึงเสนอให้รีบไปต่อ ทว่าไม่นานนักพวกเขาก็เดินกลับสู่พื้นท่วมน้ำอีกครั้งจนเริ่มไม่มั่นใจว่าทั้งแผ่นดินนี่คือน้ำตกขนาดใหญ่หรือเปล่า

“อ๊ะ ตรงนั้นมีสะพานด้วยครับ” นาโอริหันมองตามคำของเซย์ตะและเห็นสะพานโค้งสีน้ำตาลพาดผ่านสองฝั่งแม่น้ำ เธอสังเกตอีกว่ากระแสน้ำรอบตัวกำลังไหลไปหาแม่น้ำนั่นเป็นทิศทางเดียวกัน



บ่งบอกว่าเบื้องล่างนั่นลึกเพียงใด...



“ไม่มีทางอื่นให้ไปแล้วเหรอคะ...สะพานมันดูไม่น่าไว้ใจเลย”

“พูดอะไรอย่างนั้น ตลอดทางก็ไม่เห็นมีอะไรมาโจมตีเลยนะครับ”

“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ฉันขอดูรอบ ๆ ก่อนแล้วกันค่ะ” เจ้าของเรือนผมสีเปลือกไม้เอ่ยขณะเดินแยกไปสอดส่องบริเวณใกล้เคียง

แต่หารู้ไม่ว่ายามที่เธอละสายตาจากเซย์ตะ เขากลับไปหยุดยืนอยู่ที่เชิงสะพานและจ้องมันไม่วาง ก่อนจะเหลือบมองร่างบางซึ่งหันหลังให้อยู่ นัยน์ตาสีไพลินนิ่งสงบราวไม่รู้สึกใด ๆ กับสิ่งที่กำลังจะทำ ไม่ทันไรเจ้าตัวจึงตัดสินใจเหยียบไปบนสะพานไม้ เสียงเอี๊ยดอ๊าดเรียกให้นาโอริกลับมาสนใจด้านหลังพลันเห็นอีกฝ่ายที่คิดจะเดินข้ามไป

“เซย์ตะซัง รอก่อ-”



ซ่า!

คำพูดมลายสิ้นทันทีที่ผิวน้ำนิ่งกระจายตัวออกพร้อมกับปากของสิ่งมีชีวิตมหึมายิ่งกว่าสัตว์ประหลาดเมื่อครู่ มันฉีกปากกว้างจนแทบตั้งฉากเผยเขี้ยวแหลมกับดวงตาของสัตว์เดรัจฉานขาวซีด เกล็ดสีขาวโพลนมันเลื่อมเพราะชุ่มน้ำสะท้อนผ่านแววตาตกตะลึงของคนทั้งสอง พวกเธอรู้ได้ทันทีว่ามันคือสัตว์อันตรายทั้งในโลกเสมือนและความจริง



หรือก็คืออสรพิษ...ที่ขนาดเทียบเท่าตึกสูงเลยล่ะ!



นาโอริตอบสนองทันควันและกระโดดคว้าร่างสูงออกจากระยะหวังเขมือบนั่น ทำให้เขี้ยวคมฝังลงที่แผ่นไม้กระชากสะพานแหลกเป็นชิ้น มนุษย์ตัวจ้อยจึงพลัดตกลงสู่น้ำลึก เด็กสาวกระชับแรงจับที่เสื้ออีกฝ่ายแน่นขณะพยายามกลั้นหายใจ ทว่าเธอไม่ได้เตรียมตัวมาดีพอจึงเผลอใช้อากาศสำรองจนเกลี้ยงในพริบตา ริมฝีปากบางพะงาบตามสัญชาตญาณกระทั่งตระหนักว่าตัวเองไม่ได้ขาดอากาศหายใจแต่อย่างใดซ้ำยังสามารถหายใจได้ เพียงแค่สมองกลับรู้สึกเหมือนถูกกดทับจนเริ่มเลือนราง



ซ่า!

อสรพิษยักษ์ที่พลาดเหยื่อแหวกว่ายสู่ใต้น้ำอีกคราพลันกลอกตาปูดโปนหาเป้าหมาย ปลายลิ้นแฉกแลบเข้าออกสัมผัสถึงการเคลื่อนไหวจากด้านหลัง ก่อนมันจะหันหัวฝ่าคลื่นน้ำกลับไปด้านที่นาโอริอยู่อย่างคล่องแคล่วผิดกับขนาดตัว

เด็กสาวเบิกตากว้างพร้อมหันซ้ายขวาหาอะไรกำบัง ประจวบกับที่เบื้องหน้ามีชิ้นส่วนของสะพานกำลังจมลงมาสาวเจ้าจึงใช้มือที่ว่างดึงมันให้เข้ามาใกล้ตัว ทว่าแรงของเธอคนเดียวไม่สามารถลากมันลงมาได้ทัน แต่แล้วชิ้นไม้หนักก็เลื่อนลงมาแนบตัวอย่างรวดเร็วด้วยความช่วยเหลือจากเซย์ตะที่ยื่นมือมาช่วย

“จุ่มโคลนไปเลย!” เขากล่าวเสียงอู้อี้ผ่านน้ำแต่เพียงพอจะให้นาโอริเข้าใจถึงความหมายเร่งด่วนนั่น ทั้งคู่ยอมปล่อยให้ชิ้นไม้กดร่างให้ฝังในพื้นโคลน แทบจะพอดีกับที่เงามหึมาพาดผ่านน่านน้ำตามด้วยกระแสน้ำยุ่งเหยิงตามการเคลื่อนตัวของมัน

            

ฟ่อ

มันส่งเสียงครั้นดวงตาโปนขยับมองหาจุดซ่อนตัวของเหยื่อ มันหยุดนิ่งใกล้กับจุดที่พวกนาโอริอยู่จนเห็นเกล็ดเลื่อมซ้อนทับเป็นชั้น ราวกลั่นแกล้งไม่ให้มนุษย์ตัวจ้อยสูดหายใจจนปล่อยฟองอากาศออกมา ทว่าความอดทนของมันนั้นมีไม่มากเช่นกัน ในการแข่งความอดทนครั้งนี้ท้ายที่สุดพวกนาโอริจึงเป็นฝ่ายชนะไป



เมื่ออสรพิษอันตรายเลือกจะแหวกว่ายหายลับไปในน้ำลึก ผ่านไปครู่หนึ่งจนแน่ใจสองหนุ่มสาวจึงสูดอากาศเต็มปอดและว่ายกลับขึ้นชายฝั่งโดยด่วนที่สุด

“นาโอริ เป็นอะไรไหม!?” จูลิโอ้ร้องลั่นทันทีที่เด็กสาวโผล่พ้นน้ำ

“ฉัน...ฉันสบายดี”

“โล่งไปที ใครจะคิดว่าเธอจะโดดตามไปแบบนั้นเล่า!”

“มันขยับไปเองน่ะ...แต่เรายังไม่จบกับตัวประหลาดอีกเหรอเนี่ย” นาโอรินอนแผ่กับพื้นแฉะพลันหอบหายใจรัวตามมาด้วยเซย์ตะที่นั่งลงข้าง ๆ 

“ช่วยไม่ได้...ก็มันโลกเสมือนนี่ครับ”

“นั่นสิคะ...เอ๊ย เดี๋ยวก่อนเลยคุณน่ะ ยังจะมาพูดอีก ทำไมถึงเดินไปคนเดียวแบบนั้นล่ะคะ ถ้าฉันไม่ช่วยไว้คุณได้ตกรอบไปแล้วนะ!”

“ผ ผมขอโทษจริง ๆ ครับ คิดว่ามันน่าจะปลอดภัยเลยลองเดินขึ้นไป...ไม่คิดว่าจะเป็นกับดัก” ชายหนุ่มพนมมือลวก ๆ พลางปั้นหน้าเหมือนเด็กสำนึกผิด ไม่รู้เป็นเพราะเห็นว่าเขาสำนึกอย่างจริงใจหรือเพราะถูกใบหน้าน่ารักนั่นโน้มน้าว เด็กสาวจึงโกรธเขาไม่ลงเสียที 



จะยังไงก็แล้วแต่ ตอนนี้พวกเธอได้ข้ามฝั่งมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คงทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องมุ่งหน้าต่อ



เส้นทางคดเคี้ยวเบื้องหน้านำพาพวกเธอไปสู่ถ้ำอีกหนึ่งแห่งซึ่งทอดยาวลงไปสู่ส่วนลึกเรียกว่าสุดลูกหูลูกตา เพียงเพ่งมองปลายทางอันมืดมิดตรงหน้าก็เดาได้ไม่ยากว่ามันกำลังดำดิ่งสู่ใต้ผืนน้ำอีกครา และหลังจากรู้ถึงตัวตนของสิ่งมีชีวิตในน่านน้ำลึกไปหมาด ๆ สันหลังก็พลันเย็นวูบวาบขึ้นมา ราวกับต้องย่างก้าวสู่ถิ่นฐานของมันซึ่งมีเพียงเนื้อหินขั้นกลาง

“มีทางเดียวสินะครับ...งั้นเราไปกั-”

“เดี๋ยวก่อนค่ะ ดูนี่สิ” นาโอริรีบรั้งแขนเซย์ตะไว้เพื่อไม่ให้เขาไปเหยียบบางสิ่งจนใช้ตรวจดูไม่ได้ ร่างสูงเป็นต้องก้มมองตามที่อีกฝ่ายชี้และเห็นร่องรอยยุบของดินโคลนเป็นรอยรองเท้ามนุษย์

“ดูเหมือนจะมีคนมาถึงก่อนพวกเรานะ ทางที่ดีค่อย ๆ เดินไปดีกว่าค่ะ”

“โอเค รับทราบครับ” เสียงทุ้มตอบรับสดใสทำเอาคนได้ยินเหงื่อตกอย่างช่วยไม่ได้ นี่เธอจะไว้ใจคำของเขาได้ไหมเนี่ย?



ครั้นกังวลไปมีแต่จะเสียเวลา ทั้งสองจึงก้าวลงบันไดชันและมุ่งหน้าสู่จุดสิ้นสุดสักแห่งหนึ่งของทางแคบนี้ วินาทีที่แสงจากปากทางเริ่มจะส่องไม่ถึง ความมืดรอบด้านจึงคืบคลานกลืนกินจนวิสัยทัศน์มัวหมอง บันไดทุกขั้นที่เหยียบเริ่มขยายกว้างและไม่ชันอีกต่อไปทว่ากลับแทนที่ด้วยละอองเย็นจากหยาดน้ำที่ร่วงหล่นเหนือเพดานหินจนขั้นบันไดหินเจิ่งนองไปด้วยน้ำ ยิ่งตอกย้ำว่าผืนน้ำลึกนั้นอยู่ห่างไปแค่เหนือศีรษะซึ่งมันสามารถทะลักมาจัดการพวกเธอได้ทุกเมื่อ



ก้าวลงลึกไปอีกนอกจากสัมผัสชื้นปนเย็นที่กระทบผิวหนัง บรรยากาศเงียบสงัดจนขับเสียงหายใจให้ดังก้องพาลกดดันผู้แข่งขันทั้งสองให้อยากลืมการหายใจไปชั่วขณะ ทว่าในทางแคบไร้ซึ่งเสียงมันกลับมีบางสิ่งเสมือนจะเจาะทะลวงเนื้อหินหนามาถึงด้านใน มันเฉียบคม หิวกระหาย รู้ทันต่อคลื่นร้อนด้านหลังเนื้อหิน



มันคือสายตา...ของสิ่งที่ครองน่านน้ำเสมือนจริงของโลกนี้ไว้



“ทำไมผมรู้สึกแปลก ๆ ...” เซย์ตะกระซิบขณะก้าวลงขั้นบันไดเชื่องช้า

“ฉันก็เหมือนกัน...ถึงจะมองไม่เห็นแต่พอเดาได้เลยค่ะ...ว่าไอ้งูตัวเมื่อกี้ต้องมองพวกเราอยู่แน่ ๆ” นาโอริซึ่งถูกความกดดันนี้เล่นงานเป็นต้องเผลอกำอาวุธศักดิ์สิทธิ์แน่น

“จะบอกว่ามันรู้-..”



ครืน

ไม่ทันได้เอ่ยจบ จู่ ๆ ความเงียบสงบและพื้นที่ที่เคยมั่นคงกลับสั่นสะเทือนด้วยแรงบางอย่าง ทุกครั้งที่เกิดเสียงตึงตังจะตามด้วยการสะเทือนหนักหน่วงทำให้ทรงตัวลำบาก ทว่าสิ่งที่เป็นอยู่ยังไม่น่าตระหนกเท่าเสียงของเนื้อหินร้าวเหนือศีรษะ รอยแตกที่มองไม่เห็นในความมืดกำลังขยายใหญ่ขึ้นทุกวินาทีตามมาด้วยสายน้ำเอ่อทะลักจากมัน

นาโอริพลันเห็นท่าไม่ดีขืนยังไม่ขยับตัวคงได้ถูกน้ำซัดไปจนตกรอบ ไม่ก็ถูกต้นเหตุของแรงสะเทือนนี่เขมือบเข้าไปเสียก่อนแน่ สาวเจ้าไม่รีรอพร้อมดึงมือเซย์ตะให้วิ่งหนีรอยร้าวที่แตกระแหงเร็วเป็นทวีคูณ สองขาซึ่งเคยก้าวลงบันได้บัดนี้จำต้องกระโดดลัดพวกมันไปให้ได้มากที่สุด อาศัยพื้นเจิ่งน้ำให้ความคล่องตัวในการไหลไปตามบันไดหิน ทว่าการสั่นไหวนั่นก็ยังเป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่ให้เชื่องช้า รู้ตัวอีกทีเสียงแตกร้าวของหินก็ไล่ตามมาจนทัน

“นั่นประตูหรือเปล่าครับ!?” เสียงทุ้มตะโกนแทรกเสียงซู่ซ่าของน้ำ พาให้นาโอริต้องเพ่งสายตาขั้นสุดก่อนจะสังเกตว่าทางที่พวกเธอกำลังไปไม่คดเคี้ยวอีกต่อไปและเผยให้เห็นประตูสีขาวสะอาดตัดกับชั้นหินมาแต่ไกล จะออกหรือเข้านั้นสาวเจ้าไม่แน่ใจ แต่ถ้ามันคือทางเดียวที่จะหลุดพ้นจากอันตรายเบื้องหลังได้ ก็มีแต่ต้องวิ่งใส่อย่างเดียว!



ครืน...ตูม!

หัวใจพลันวูบหล่นครั้นท้ายที่สุดกำแพงหินก็ไม่สามารถทนแรงสะเทือนไหว มันจึงถล่มเปิดทางน้ำให้พวยพุ่งราวเขื่อนแตกพัดทั้งนาโอริและเซย์ตะให้ลอยไปกับกระแสน้ำรุนแรง เรียกว่าธรรมชาติเสมือนนี้เป็นใจส่งพวกเขาให้ถึงทางเข้าประตูเร็วขึ้น ทว่ากลับไม่ได้มีเพียงน้ำที่เข้ามาสู่ทางแคบ เจ้าตัวการของเรื่องก็แทรกตัวผ่านซากหินลอยน้ำพลันแหวกว่ายอย่างว่องไวเพื่อตามเหยื่อของมันอย่างบ้าคลั่ง แม้เนื้อตัวจะกระแทกหรือครูดกับเนื้อหินจนเป็นรอยก็หาได้สนใจ เสียงขู่ฟ่อดังกระหึ่มแม้อยู่ใต้น้ำจนไปเรียกเตือนคนตัวจ้อยทั้งสองให้เหลียวมอง

“ตามมาถึงนี่จริงด้วย ให้ตายสิ!” นาโอริเบ้หน้าพลันกวาดตามองรอบด้าน น่าเสียดายที่รอบด้านเป็นเพียงกำแพงหินโล้น ๆ จึงไม่มีอะไรให้ใช้งาน แต่กระแสน้ำแรงสม่ำเสมอนี่ยังพอเป็นตัวช่วยสำหรับความคิดฉับพลันของเธอได้



มือเรียวกระชับมือของเซย์ตะแน่นให้แน่ใจว่าเขายังอยู่กับเธอในความืดอันวุ่นวาย ประจวบเหมาะกับที่นัยน์ตาสีซากุระสังเกตเห็นแสงวูบวาบลอดผ่านบานประตู ณ ปลายทาง ปรากฏว่ามันกำลังเปิดอ้ารอรับผู้มาใหม่อยู่ ครั้นหันกลับมามองเบื้องหลังซึ่งได้ยินเสียงขู่ดังไล่หลังมา เธอจึงกัดฟันแน่นพลันตัดสินใจจะทำในสิ่งที่คิด

“เหวอ!” เซย์ตะเผลอร้องออกมาเพราะถูกแรงเหวี่ยงจากเด็กสาวโยนเขาไปทางประตู ทำให้นาโอริกลายเป็นคนรับหน้าอสรพิษยักษ์นี่แทน เขาตั้งท่าจะตะโกนเรียกเธอทว่าความบ้าบิ่นของสาวเจ้ายังไม่หมดเท่านั้น



เพราะทันทีที่ส่งชายหนุ่มไปถึงปลายทางก่อนแล้ว นาโอริก็หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายอย่างไม่เกรงกลัว วินาทีที่มันอ้าปากกว้างจนเผยเห็นเขี้ยวคมเรียกว่าพริบตาเดียวก็สามารถเขมือบร่างบางได้ แต่เจ้าของแผนเสี่ยงชีวิตนี่จะยอมให้เป็นเช่นนั้นไปได้อย่างไร จังหวะที่ปลายเท้านาโอริเกือบจะสัมผัสเขี้ยวยักษ์ใหญ่ มือเรียวพลันว่องไวดึงร่มปีศาจที่เหน็บไว้กับหลังออกมากางและให้มันรับการโจมตีเสียแทน



ตึง! ตึง! ตึง!  

เขี้ยวคมซึ่งพยายามออกแรงขบเค้นทำให้ทะลุตัวร่มมาเล็กน้อย แต่เรี่ยวแรงของสัตว์ร้ายไม่อาจสู้ความทนทานของร่มได้ ทันทีที่ใส่แรงขย้ำลงมาจึงกลายเป็นถูกขัดจนงับได้ไม่สุด เลยทำให้ปากของมันติดอยู่กับร่มและต้องดีดดิ้นเพื่อดึงออก แม้ตัวร่มจะไปหุบลงมาและใช้เป็นตัวง้างปากกว้างนั้นไว้อยู่ก็ตาม แรงกระแทกของมันกับความพยายามอันไร้ประโยชน์กลับช่วยดันให้นาโอริเบื้องหลังร่มไปถึงประตูเร็วขึ้น



กึก

วินาทีที่ร่มปีศาจเริ่มจะต้านพลังคลุ้มคลั่งนี่ไม่ไหว แทบจะพอดิบพอดีกับที่ดวงตากลมเห็นประตูเปิดอ้ารออยู่ ร่างบางจึงอาศัยแรงผลักมหาศาลจากอสรพิษเพื่อถีบปลายด้ามของร่มส่งตัวเองพุ่งเข้าประตูมาสำเร็จ ก่อนจะได้เซย์ตะรอรับเธออยู่ด้านใน 



ปึง!

ครั้นผู้แข่งขันย่างกรายเข้าสู่พื้นที่ใหม่ ประตูสีขาวนวลพลันรู้งานและงับปิดอย่างรวดเร็วจนเกิดการสะเทือนหนักหน่วงคล้ายจะถูกพังทลายอีกรอบ เสียงขู่ฟ่อชวนขนลุกยังคงดังอย่างบ้าคลั่งทำให้เซย์ตะกับนาโอริตั้งท่าจะวิ่งต่อ ทว่าจู่ ๆ เถาวัลย์หนากลับเลื้อยมาจากรอบด้านพร้อมเข้าบดบังประตูจนมองไม่เห็นแม้แต่สีขาวของมันอีกต่อไป เช่นเดียวกับเสียงตึงตังด้านนอกที่เบาลงไปด้วย 



กระทั่งทุกอย่างกลับสู่ความเงียบสงัดจนใจหาย



“ฟู่ว เกือบไปแล้ว!” ร่างบางทรุดตัวลงนั่งกับพื้นเมื่อผละออกจากร่างสูง ไม่ทันไรจึงได้ยินเสียงทุ้มมาจากเซย์ตะ

“แบบนั้นมันเสี่ยงตกรอบมากเลยนะครับ ถ้าไม่มีร่มนั่นจะทำยังไงล่ะ?”

“ก็เพราะมี ฉันถึงได้กล้าไงคะ โชคดีนะที่เอาติดมาด้วย...ว่าแต่คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?” เด็กสาวเงยมองร่างสูงด้วยสีหน้าปกติดีทุกอย่าง ผิดกับคนถูกช่วยเหลือที่ยังวาดสีหน้าตกตะลึงไม่หายและต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินคำถาม

“ผ ผมไม่เป็นไรครับ ลำบากเธออีกแล้ว”

“ทำไมทำหน้าตกใจอย่างนั้นล่ะคะ”

“เอ่อ แค่คิดไม่ถึงว่าเธอจะยอมทำขนาดนี้น่ะ” เซย์ตะเอ่ยพลางย่อตัวลงมาหา 

“ฉันก็ไม่คิดว่าจะต้องทำขนาดนั้นหรอกค่ะ...แต่หัวมันคิดไปเองว่าต้องทำก็เลยทำ...” นัยน์ตาสีฟ้าไพลินเผลอสั่นไหวยามจ้องใบหน้าสวยไม่วาง ในใจยังมีแต่ความเหลือเชื่อกับสิ่งที่เพิ่งเกิด เพราะเขาไม่คิดจริง ๆ ว่าจะมีใครที่ไหนกล้าเอาตัวเองไปเสี่ยงให้ตกรอบในการแข่งขันแบบนาโอริ ถึงจะบอกว่าทำไปโดยไม่รู้ตัวก็ตามที...



แต่มันจะมีกี่คนกันที่ทำเช่นนี้?



“นับถือเลยครับ...แต่เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน เรายังมีทางให้ต้องตะลุยต่ออีกนะ” ชายหนุ่มเอ่ยพลางปรายมองเบื้องหลัง ซึ่งมีแต่กำแพงสีขาวกับเถาวัลย์แมกไม้สีเขียว พาให้นาโอริต้องกวาดตามองไปรอบด้านและเพิ่งจะสังเกตว่าพื้นที่ใหม่ที่เข้ามานั้นสว่างไสวผิดกับเมื่อครู่ลิบลับ หนำซ้ำในสายตายังสะท้อนภาพของดอกไม้สีม่วงสดห้อยลงมาจากเส้นทางยาวเช่นเดียวกับสายลมอ่อน ๆ ที่พัดมาจากด้านนั้น

“เหมือนอุโมงค์ดอกฟูจิ*เลย”

“เห็นทีจะใช่นะครับ แถมเส้นทางก็ถูกเปิดไว้ก่อนแล้วด้วย คนที่มาก่อนเราน่าจะเพิ่งผ่านทางไปไม่นาน” ร่างสูงเอ่ยขณะเดินไปใกล้ปากทางอุโมงค์ มือหนาเอื้อมแตะเถาวัลย์ส่วนหนึ่งซึ่งมีร่องรอยถูกตัดอยู่

“อยากรู้ชะมัดว่าคนที่มาก่อนเขาผ่านไอ้งูนั่นมาได้ยังไง”

“คงเพราะไม่ได้ไปโดนกับดักงูเข้าล่ะมั้งครับ”

“แหม ก็เพราะใครล่ะคะ...” นาโอริเบ้ปากครั้นเดินมาตีคู่กับอีกฝ่าย เลยได้เห็นรอยยิ้มเบิกบานจากเจ้าตัวเป็นของตอบแทนคำแซวเมื่อครู่ แต่ท้ายที่ความสนใจก็ต้องกลับมายังอุโมงค์เบื้องหน้าอีกคราเพราะการแข่งขันยังไม่จบเพียงเท่านี้ ทั้งสองจึงพร้อมใจกันเดินเข้าไปด้านในเพื่อทอดสายตามองให้ประจักษ์ และไม่ว่าด่านทดสอบตรงหน้าจะเป็นยังไง...



ก็คงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าสิ่งที่ไล่ตามพวกเขาเมื่อกี้แล้วล่ะ



to be continue….

======================================

คำศัพท์เพิ่มเติม!

ดอกฟูจิ/ต้นฟูจิ(藤) = ชื่อเรียกของต้นวิสทีเรียในภาษาญี่ปุ่น   

======================================

มาคอมเมนท์แนะนำกันได้นะฮัฟฟฟ

ฝากกดถูกใจ เป็นกำลังใจกันด้วยน้าา <3



つづく、psrpowder