เป็นพนักงานทำความสะอาดคอนโดอยู่ดีๆ ก็กลายมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กซะอย่างนั้น เด็กธรรมดาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ทายาทมาเฟียไม่ใช่เหรอ! แล้วทำไม่พ่อถึงดุแบบนี้!

เขาบอกให้ผมเป็นพี่เลี้ยงทายาทมาเฟีย - EP3 พี่เลี้ยงคนใหม่ โดย A.D. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,ตลก,ไทย,ผู้ใหญ่,ดราม่า,เลี้ยงเด็ก,เด็กน้อย,18+,คอมเมดี้,สู้ชีวิต,มาเฟีย,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เขาบอกให้ผมเป็นพี่เลี้ยงทายาทมาเฟีย

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,ตลก,ไทย,ผู้ใหญ่

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,เลี้ยงเด็ก,เด็กน้อย,18+,คอมเมดี้,สู้ชีวิต,มาเฟีย,นิยายวาย,#BL

รายละเอียด

เป็นพนักงานทำความสะอาดคอนโดอยู่ดีๆ ก็กลายมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กซะอย่างนั้น เด็กธรรมดาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ทายาทมาเฟียไม่ใช่เหรอ! แล้วทำไม่พ่อถึงดุแบบนี้!

ผู้แต่ง

A.D.

เรื่องย่อ

สารบัญ

เขาบอกให้ผมเป็นพี่เลี้ยงทายาทมาเฟีย-EP1 งานง่ายๆ แค่ทำความสะอาด,เขาบอกให้ผมเป็นพี่เลี้ยงทายาทมาเฟีย-EP2 เสร็จแล้วครับ,เขาบอกให้ผมเป็นพี่เลี้ยงทายาทมาเฟีย-EP3 พี่เลี้ยงคนใหม่,เขาบอกให้ผมเป็นพี่เลี้ยงทายาทมาเฟีย-EP4 หน้าที่พี่เลี้ยง,เขาบอกให้ผมเป็นพี่เลี้ยงทายาทมาเฟีย-EP5 มันเกิดขึ้นเร็วมาก,เขาบอกให้ผมเป็นพี่เลี้ยงทายาทมาเฟีย-EP6 ทำยังไงดี NC

เนื้อหา

EP3 พี่เลี้ยงคนใหม่

นั่งรวมสติอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลุกขึ้นไปโทรตามช่างตามที่เจ้าของห้องสั่ง ไม่นานช่างประจำคอนโดก็เข้ามา ต้นคูนที่เก็บอุปกรณ์ต่างๆ เรียบร้อยแล้วไม่มีอะไรทำเพิ่มเติม จึงเข้าไปเป็นลูกมือช่างจนงานเสร็จ

"ขอบคุณนะครับ" ร่างสูงผมสีเข้มกล่าวขอบคุณช่างที่กำลังออกไป ก่อนปิดประตูลง เมื่อหันหลังจะเดินไปห้องรับแขกกลับเห็นอคินในชุดคลุมตัวใหม่ยืนมองอยู่ จึงอุทานออกมาด้วยความตกใจ

"โอ๊ย แม่งเอ๊ย!" มายืนเงียบๆ ทำไมไม่มีอะไรเหรอวะ! ท่อนหลังต้นคูนงับปากทันจึงไม่ได้พูดออกไป 

"มี..มีอะไรรึเปล่าครับ" ต้นคูนถามขึ้นทำลายความเงียบ

"..."

"..." เพราะไม่มีใครพูดจึงกลายเป็นความเงียบที่รู้สึกเย็นเยียบกว่าเดิม

"เอ่อ...ให้ผมทำความสะอาดห้องนั้น...ด้วยไหมครับ" ต้นคูนทำใจเย็นถามอีกครั้ง ถึงอย่างไรก็ไม่อยากมายืนจ้องตากันอยู่แบบนี้ ห้องที่ว่าก็คือห้องที่อคินใช้ทำศึกสามด้านเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนนั่นเอง

"เอาสิ" เสียงทุ้มใหญ่ตอบกลับ ขยับตัวเดินเข้าห้องที่ว่า

ต้นคูนยิ้มกริ่ม อย่างน้อยอคินก็ไม่ได้ปล่อยให้เขาพูดคนเดียวจนเป็นบ้า ร่างสูงเพรียวมีมัดกล้ามพอเหมาะเดินไปหยิบอุปกรณ์ที่เพิ่งเก็บไปอีกครั้งก่อนจะตามเข้าห้องไป

ทว่าก็ต้องหยุดตัวเองไว้ที่ประตูเพราะรู้สึกถึงบรรยากาศอันตรายแปลกๆ

ไอ้ห้องนี่...มันถูกใช้งานแบบนั้นใช่มั้ยนะ? ถ้าเราเข้าไป เอ่อ...ไม่หรอก มาทำงานไง ก็แค่ทำความสะอาด

ไล่ความคิดไร้สาระออกจากหัวได้ต้นคูนจึงเริ่มเข้าไปทำความสะอาด อย่างที่ชายหนุ่มคิดภาพของเตียงราวกับผ่านศึกหนักระดับสงครามโลก เละเทะและมีกลิ่นที่เขาทั้งคุ้นเคยและไม่คุ้นคละคลุ้งไปทั่ว

ต้นคูนเริ่มจากเก็บซากถุงยางลงถัง และพลิกผ้าปูออกหวังเก็บไปซัก ทว่ามีเสียงหนึ่งขัดขึ้น

"ไม่ต้อง ฉันจะทิ้งเลย" เป็นอคินที่ออกมาจากห้องแต่งตัวในชุดลำลองผ้ายืดสเวตสีเทาเข้ม

"งั้นเอาไว้ไหนดีครับ" ต้นคูนถาม

"เอาไว้ตรงนั้นแหละ จะเอาออกมาทำไม เดี๋ยวมีพนักงานเข้ามาเก็บไปเอง" อคินชักสีหน้าพูดราวกับรำคาญ ก่อนจะรับโทรศัพท์สายหนึ่งที่โทรเข้ามา

ผีเข้าผีออกหรือไง เมื่อกี้ยังวางท่าทำเป็นอ่อย

ลับหลังอคินที่เดินไประเบียงนอกห้อง ต้นคูนก็แสร้งทำสีหน้าล้อเลียน ขยับปากขมุบขมิบพูดตามอคินเมื่อกี้ด้วยความหมั่นไส้

"แล้วทำไมมึงไม่ไปลากกลับมา! เลี้ยงเสียข้าวสุก!"

เสียงตวาดทะลุระเบียงเข้ามาจนต้นคูนต้องหันไปมอง อคินมีสีหน้าโมโหพร้อมตะโกนว่าคนปลายสายไปด้วย จับใจความได้บ้างว่ามีพี่เลี้ยงเด็กคนหนึ่งหนีออกไประหว่างทำงาน ต้นคูนได้แต่ยืนขนลุกทำเป็นไม่ใส่ใจ ดีที่ตนทำงานนี้แค่ 7 วัน หากอยู่ไปนานๆ ก็คงหนีเช่นกัน

หลังนำผ้าปูออกไปวางด้านนอกต้นคูนก็เดินกลับเข้าไปในห้องอีกครั้งเพื่อนเก็บกวาดพื้นต่อ เป็นจังหวะเดียวกับที่อคินเดินเข้ามาพอดี บรรยากาศรอบข้างดูขมุกขมัว ไม่น่าเข้าใกล้ ต้นคูนจึงทำตัวเงียบเดินย่องเบาแสร้งให้ตัวเองเหมือนไรฝุ่นมากที่สุด ไม่ให้เสียงไปกระทบคนกำลังหงุดหงิดเพราะกลัวจะโดนลูกหลง

"รีบหาคนใหม่สิวะ คิดเองไม่เป็นรึไง! หรือจะให้กูไปหาให้?" อคินสบถออกมาด้วยอารมณ์โมโหก่อนจะว่างสาย ก่อนจะเดินไปหยิบพอตไฟฟ้าที่โต๊ะข้างเตียงขึ้นมาสูบ สายตาคมปลาบเหลือบไปเห็นเตียงที่ว่างไร้ผ้าปูจึงตวัดไปมองต้นคูนที่ก้มตัวต่ำหมอบกับพื้นอีกฝั่งข้างเตียงโก่งก้นขึ้นสูงราวกับหาอะไรบางอย่าง

"ทำอะไร" อคินถามขึ้นขมวดคิ้วมองก้นพนักงานทำความสะอาดคนใหม่ เขาไม่ได้ตั้งใจจะมองแค่มันเด่นเพราะอีกฝ่ายก้มจนหัวหายไปกับข้างเตียงเท่านั้น

ต้นคูนที่กำลังเก็บเศษถุงยางที่อยู่ข้างซอกระหว่างโต๊ะโคมไฟกับเตียงอยู่ เมื่อได้ยินคำถามจึงนิ่งคิดไปพักใหญ่ว่าอีกฝ่ายพูดกับตนไหม แต่ดูเหมือนอคินจะไม่รอให้เขาคิดเสร็จ

"ฉันถามว่าทำอะไร!"

"ครับ! เอ่อ ผมกำลังเก็บอันนี้..." ได้ยินเสียงตวาดจึงรีบผุดขึ้นนั่งพร้อมโชว์ซากถุงยางใช้แล้วขึ้นชูเป็นหลักฐานทันที

อคินสำลักควันเล็กน้อยเมื่อเห็นสิ่งที่ต้นคูนหยิบขึ้นมา ก่อนจะทำเปลี่ยนไปเรื่องอื่น

"แล้วผ้าปูไปไหน"

"ผมพับใส่ตะกร้าแล้วเอาไปไว้แถวทางเข้าครับ พนักงานจะได้มาเก็บง่ายๆ"

"ฉันบอกให้นายทำรึไง " อคินสูบพอต

"ปะ เปล่าครับ..." ต้นคูนก้มหน้างุด เขาก็แค่หวังดีกับพนักงานเท่านั้นเอง 

"ฉันสั่งอะไรนายก็ต้องทำแบบนั้น อย่ามาคิดเองหวังดีอะไรพรรค์นั้น เข้าใจไหม" อคินที่อยู่อีกฝั่งเตียงมองกดต่ำไปที่ต้นคูนซึ่งนั่งอยู่บนพื้นอีกด้าน

"ครับ.." ร่างเล็กกว่าได้แต่ก้มหน้าทำท่าทางสงสารจึงไม่ทันเห็นสายตาพิจารณาบางอย่างของร่างสูง ความเงียบเข้าปกคลุม ต้นคูนที่รู้สึกถึงสายตาของอีกฝ่ายจึงไม่กล้าลุกขึ้นหรือขยับตัว จนกระทั่งอคินพูดเสียงเรียบขึ้นมา

"นายเคยเลี้ยงเด็กไหม"

"ครับ? เอ่อ ผมลูกคนเดียว โสดมา 23 ปีแล้ว ยังไม่ได้แต่งงานครับ" เขาเลือกจะโกหกออกไปเพราะรู้สึกถึงลางสังหรณ์บางอย่าง

"แต่ฉันรู้มาว่านายมีน้องสองคน หึ ใจกล้าจริงๆ" อคินหัวเราะสั้นๆ พลางยิ้มเยาะ ต้นคูนหน้าซีดรีบเงยมองอีกฝ่าย ไม่ทันได้ถามอะไรอคินก็แทรกขึ้นมาก่อน "ถ้าตามฉันมาเงียบๆ จะไม่มีใครเป็นอะไรหรอก"

หมายถึงยังไง แล้วถ้าไม่ตามไปจะมีใครเป็นอะไรเหรอ?!

"จะ จะให้ผมไปไหนครับ" ต้นคูนถามเสียงสั่น

"อย่าถามให้มาก" อคินพูดเสียงต่ำ มองต้นคูนด้วยสายตาเย็นชา

แม่งเอ๊ย จะพาไปขายไหมเนี่ย คิดแล้วเชียวว่างานทำความสะอาดที่ไหนมันจะเงินดีแบบนี้!

"ไม่คือ ผมไม่เข้าใจครับ คุณจะให้ผมไปไหน ผมอยากทำงานนี้จริงๆ นะ" ต้นคูนร้อนรนคลานขึ้นเตียงอยู่ตรงหน้าอคิน สายตาสับสนระคนหวาดกลัว

"นายไม่ได้ชอบทำความสะอาด นายชอบเงินไม่ใช่เหรอ" ร่างเล็กสะอึก ก็ใช่อยู่ที่เขาชอบเงินแต่ เงินที่ว่าก็ต้องมาจากงานที่เขาเต็มใจจะทำ

อคินมองต้นคูนที่นิ่งไป ท่าทางดูอดกลั้นเพราะเขาพูดแทงใจดำ มือหนาเชยคางต้นคูนขึ้นให้สบตากับตน ทว่าอีกฝ่ายกลับหลบเลี่ยงมองไปทางอื่น ริมฝีปากบางขยับพูดอีกครั้ง

"ฉันแค่จะหางานใหม่ให้นาย ในเมื่อนายมีน้อง คงเคยเลี้ยงเด็กมาบ้าง" ไม่พูดเปล่าอคินจับใบหน้าเรียวของต้นคูนพลิกไปมาเพื่อสำรวจ ก่อนจะพึมพำ "อืม...นายเป็นแบบที่เด็กนั่นถูกใจเลยนะ"

"ครับ?" ต้นคูนที่ได้ยินแว่วๆ จึงเอียงคอตอบรับงงๆ อคินปล่อยมือจากใบหน้าอีกฝ่าย

เมื่อเป็นอิสระต้นคูนจึงถามกลับ

"คุณไม่ได้จะบังคับผมใช่ไหมครับ" ทำน้ำเสียงออดอ้อนเพิ่มความเห็นใจพร้อมเงยหน้าส่งสายตาเป็นประกาย คิดว่าอย่างน้อยตนควรลองเชิงดูก่อนเผื่อใช้ได้ผล คราวหน้าจะได้ทำอีก ทว่าสิ่งที่ได้คือชายตรงหน้าขมวดคิ้วมุ่นราวกับหงุดหงิดรำคาญ

"เห็นฉันเป็นพวกชอบบังคับรึไง" 

โอโห พี่จะเอาความจริงหรือจิ๊จ๊ะครับ? แน่นอนว่าต้นคูนไม่ได้พูดออกไปให้เรื่องเข้าตัว

"เปล่าครับๆ ผมแค่ถามเฉยๆ" ทำได้เพียงส่ายหน้ารัวๆ เท่านั้น

"ออกไปรอข้างนอก ฉันจะพานายไปดูเด็กที่ต้องเลี้ยง"

"ครับ? คือผมยังทำความสะ..." ต้นคูนยังสับสนที่โดนสั่งกะทันหัน

"หรือนายจะช่วยฉันเอาออก" อคินกล่าวพร้อมกับเหลือบมองเบื้องล่างของตนเอง ต้นคูนมองตามสายตาไปก็พบเข้ากับอวัยวะปริศนาตรงหว่างขาแกร่งตั้งตระหง่านแทบจะทะลุเนื้อผ้าอยู่ในระดับสายตาของตนเอง ชายหนุ่มตาโตผงะไปเล็กน้อยก่อนจะพูดตะกุกตะกัก

"อ่า เอ่อ ผมทำให้แล้ว...พี่จะเหี่ยวเปล่าๆ ...เชิญเลยครับเชิญเลย" ว่าพลางค่อยๆ ขยับถอยหลังลงเตียงไปจนถึงหน้าประตู พาตัวเองออกจากห้องพร้อมปิดประตูให้เสร็จเรียบร้อย

ประตูห้องปิดลงต้นคูนยืนพิงกำแพงปาดเหงื่อทิพย์ ขยับคอเสื้อแก้ร้อยนจากความรู้สึกวูบวาบในร่างกาย พลางขมวดคิ้วมุ่นหันไปมองที่ประตู พูดเสียงแผ่ว

"เพิ่งทำไปไม่ใช่เรอะ มาตั้งชี้หน้าอีกได้ไงวะ แบบนี้เรียกป่วยแล้วป๊ะ ประหลาด โรคจิต แจ้งทำตรวจ...ไม่ ไม่ได้ น่ากลัวฉิบหาย แค่ 7 วันเอง ทนๆ เอาแล้วกันไอ้คูน" แม้จะบ่นแต่ต้นคูนก็พูดเบาๆ เพราะกลัวคนในห้องจะได้ยิน พลางเดินห่างจากประตูออกมาเรื่อยๆ ในเมื่อไม่มีอะไรให้ทำแล้วเลยไปนั่งรอที่โซฟาแทน ทว่าด้วยความเหนื่อยล้าจึงเผลอหลับไปทั้งอย่างนั้น



อคินที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดใหม่สวมเสื้อเชิ้ตสีเข้มกับกางเกงแสล็กสีขาวขับให้ผิวดูสว่างยิ่งขึ้น สองขายาวเดินมาหยุดที่หน้าห้อง มองหาชายพนักงานทำความสะอาดทว่ากลับไม่พบ คิ้วหนาขมวดเข้าหากันก่อนจะได้ยินเสียงบางอย่าง

"ขอโทษ...งืม...พี่ไม่ได้จะ...หมูเธอ.." เสียงเบาบางฟังไม่ได้ศัพท์มาจากโซฟาตัวยาว ชายหนุ่มเดินเข้าไปชะโงกดูก็พบต้นคูนนอนแผ่เกาพุง ขาตกจากโซฟาไปข้างหนึ่งดูหลับสบาย

"นี่" อคินเรียก แต่ไม่ได้รับการตอบกลับจากคนที่นอนอยู่เลย ร่างสูงจิ๊ปาก เดินไปอีกฝั่งโน้มตัวจะไปดึงแขนให้ตื่น ทว่าเมื่อจับไปที่แขนเรียวเขาก็นิ่งไปเล็กน้อย ผอมเกินไป  ได้แต่คิดก่อนจะเปลี่ยนไปดึงต้นคูนขึ้นนั่งแทน ทว่าชายตรงหน้าก็ไม่มีทีท่าจะตื่น

อคินเริ่มปวดหัวเล็กน้อย ถอนหายใจเฮือกหนึ่งแววตาปรากฏความเบื่อหน่ายและหงุดหงิด ก่อนจะตัดสินใจอุ้มต้นคูนขึ้นมาแบกพาดบ่าและพาออกจากห้องเดินไปยังลิฟต์ลงไปชั้นจอดรถใต้ดินที่ตนเองซื้อไว้ทั้งชั้น เหล่าลูกน้องที่รออยู่หน้าลิฟต์แสดงอาการตกใจที่เจ้านายของตนแบกคนพาดบ่ามา เกรงว่าอาจจะเป็นศพ แต่ก็น่าแปลกที่ไม่เรียกพวกตนขึ้นไปจัดการให้

อคินที่เห็นลูกน้องยืนรอเป็นโขยงก็เรียกใครสักคนมารับตัวต้นคูนไป มีชายคนหนึ่งที่ยืนใกล้ที่สุดเดินเข้ามารับไปแบกแทน

"เอ่อ ให้จัดการยังไงดีครับ" ชายตัวใหญ่ถามอย่างแข็งขัน เดาว่าคนคนนี้อาจจะเป็นคู่อริที่ลักลอบเข้ามาทำร้ายเจ้านาย ตอนแรกนึกว่าตายไปแล้วแต่พอได้จับตัวจึงรู้ว่ายังหายใจ เลยคิดว่าเจ้านายจะให้จัดการปิดงาน

"พาไปบ้านใหญ่" อคินตอบ สองขายาวไม่หยุดก้าวไปยังรถสปอร์ตคันขาวของตนเอง

"ครับ? ปกติไม่..." ลูกน้องที่แบกต้นคูนพาดบ่าเดินตามถามด้วยความสงสัย เพราะปกติไม่เคยมีการจัดการศพศัตรูที่นั่นเลยเนื่องจากเป็นสถานที่ลับ

"ต้องพาพี่เลี้ยงคนใหม่ไปทดลองงานสิ"

อคินที่ขึ้นรถเรียบร้อยเปิดกระจกตอบลูกน้องก่อนจะขับออกไป เหล่าบรรดาคนใต้อาณัติที่ได้ยินต่างตกใจส่งเสียงฮือฮากลายเป็นข่าวลือว่า เจ้านายตนทุ่มเทแรงกายวางยาลักพาตัวพี่เลี้ยงคนใหม่กลับไปเป็นของขวัญให้นายน้อยที่บ้าน