เป็นพนักงานทำความสะอาดคอนโดอยู่ดีๆ ก็กลายมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กซะอย่างนั้น เด็กธรรมดาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ทายาทมาเฟียไม่ใช่เหรอ! แล้วทำไม่พ่อถึงดุแบบนี้!

เขาบอกให้ผมเป็นพี่เลี้ยงทายาทมาเฟีย - EP4 หน้าที่พี่เลี้ยง โดย A.D. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,ตลก,ไทย,ผู้ใหญ่,ดราม่า,เลี้ยงเด็ก,เด็กน้อย,18+,คอมเมดี้,สู้ชีวิต,มาเฟีย,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เขาบอกให้ผมเป็นพี่เลี้ยงทายาทมาเฟีย

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,ตลก,ไทย,ผู้ใหญ่

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,เลี้ยงเด็ก,เด็กน้อย,18+,คอมเมดี้,สู้ชีวิต,มาเฟีย,นิยายวาย,#BL

รายละเอียด

เป็นพนักงานทำความสะอาดคอนโดอยู่ดีๆ ก็กลายมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กซะอย่างนั้น เด็กธรรมดาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ทายาทมาเฟียไม่ใช่เหรอ! แล้วทำไม่พ่อถึงดุแบบนี้!

ผู้แต่ง

A.D.

เรื่องย่อ

สารบัญ

เขาบอกให้ผมเป็นพี่เลี้ยงทายาทมาเฟีย-EP1 งานง่ายๆ แค่ทำความสะอาด,เขาบอกให้ผมเป็นพี่เลี้ยงทายาทมาเฟีย-EP2 เสร็จแล้วครับ,เขาบอกให้ผมเป็นพี่เลี้ยงทายาทมาเฟีย-EP3 พี่เลี้ยงคนใหม่,เขาบอกให้ผมเป็นพี่เลี้ยงทายาทมาเฟีย-EP4 หน้าที่พี่เลี้ยง,เขาบอกให้ผมเป็นพี่เลี้ยงทายาทมาเฟีย-EP5 มันเกิดขึ้นเร็วมาก,เขาบอกให้ผมเป็นพี่เลี้ยงทายาทมาเฟีย-EP6 ทำยังไงดี NC

เนื้อหา

EP4 หน้าที่พี่เลี้ยง

ต้นคูนตื่นขึ้นมาอีกครั้งบนเบาะหลังของรถที่ติดฟิล์มทึบรอบด้านยกเว้นด้านหน้า คนขับเป็นชายตัวใหญ่ใส่สูทสีเข้ม ที่นั่งข้างคนขับเองก็เช่นกัน ไม่เว้นแต่ชายสองคนที่นั่งเบียดซ้ายขวาโดยมีต้นคูนอยู่ตรงกลาง เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสัตว์ตัวเล็กๆ ที่ถูกนายพรานกำลังพาไปชำแหละ

แม้ในหัวจะพยายามคิดวิธีหนีมากมาย แต่จุดจบอาจจะเป็นความตายที่น่าอนาถ ดังนั้นต้นคูนจึงเลือกที่จะนั่งเงียบๆ เหมือนตายไปแล้วจนกระทั่งรถจอดสนิท ชายคนขับหันมาพูดกับต้นคูน

"ถึงแล้วครับ คุณพี่เลี้ยงเชิญลงมาได้เลยครับ"

ต้นคูนอ้ำอึ้งอยู่เล็กน้อย พลางคิดอย่างโล่งใจว่า พามาเป็นพี่เลี้ยงเด็กจริงๆ สินะ...

เหล่าชายชุดดำที่นั่งข้างๆ ต่างลงกันไปแล้วต้นคูนจึงได้ค่อยๆ ขยับออกมาจากรถได้สำเร็จ ภาพตรงหน้าคือประตูคฤหาสน์หลังโต พอหันไปมองด้านหลังก็พบเข้ากับลานน้ำพุขนาดกว้าง และรูปปั้นเทพีถือโถที่มีน้ำไหลออกมาขนาดใหญ่ ความสูงของเทพีอาจจะราวๆ 3-4 เมตรเลยทีเดียว รอบๆ ยังมีเหล่าคิวปิดน้อยๆ ที่มีสายน้ำไหลออกจากตรงนั้นล้อมรอบอยู่ อลังการและแปลกประหลาดในสายตาของต้นคูนเป็นอย่างมาก

"เชิญด้านในเลยครับ คุณอคินกำลังรออยู่" เสียงเรียกเตือนสติชายหนุ่มที่กำลังเพลิดเพลินไปกับการสำรวจ หันมาอีกทีประตูไม้หรูหราก็ถูกเปิดกว้างออกพร้อมชายคนขับรถที่กำลังยืนมองอยู่ ถัดมาเหล่าลูกน้องชุดดำที่ยืนเรียงสองฝั่งราวกับกำลังรอต้นคูนผ่านเข้าไป

เขาลอบกลืนน้ำก่อนจะกลั้นใจเดินผ่านพวกคนหน้าเข้มเข้าไปช้าๆ ด้านในเป็นห้องโถงกว้างมีบันไดอยู่ด้านหน้า ทว่าคนขับรถกลับพาต้นคูนไปที่ห้องด้านซ้ายซึ่งคิดว่าเป็นห้องรับรอง

ที่นั่นต้นคูนได้พบกับอคินที่กำลังนั่งสูบพอตไฟฟ้าบนโซฟาเดี่ยวสีดำข้างหน้าต่าง เมื่อเห็นต้นคูนเดินเข้ามาจึงวางพอตในมือลง มีลูกน้องคนหนึ่งเข้าไปรับพอตอย่างรู้งาน แสดงถึงความมีอำนาจสูงสุดในที่นี้ของอคิน

ต้นคูนได้แต่คิดว่าตนหลุดเข้ามาในถิ่นที่ไม่สามารถหันหลังกลับได้แล้วอย่างนั้นใช่ไหมนะ

"หลับสบายไหม" อคินถามขึ้น ต้นคูนพยักหน้าช้าๆ อคินยิ้มมุม "ไม่คิดว่าอาจจะเป็นการนอนครั้งสุดท้ายของนายเลยรึไง" ปาก...! ต้นคูนได้แต่ขบฟันพูดยิ้มๆ ด้วยท่าทางนอบน้อม

"แหะๆ ขอโทษที่เสียมารยาทนอนในห้องคุณนะครับ พอดีผมเพลียนิดหน่อย คราวหน้าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นครับ" เพราะจะไม่ไปเหยียบคอนโดแกอีกแล้ว! ต้นคูนคิดอย่างจริงจัง ตอนมองสำรวจทั้งความหรูหราและบรรยากาศ เจ้านายคนนี้ไม่ใช่แค่เศรษฐีธรรมดาแน่นอน คนตรงหน้าให้ความรู้สึกไม่ต่างกับเจ้าหนี้ของตนเลย รายนั้นเป็นมาเฟียคุมถิ่นในเขตที่ต้นคูนอาศัยมานานแล้ว ดังนั้นเขาจะตามน้ำไปจนอีกฝ่ายไว้ใจ พอถูกปล่อยกลับบ้านก็จะพาน้องๆ หนีไปทันที ทั้งจากมาเฟียตรงหน้าและเจ้าหนี้! ถ้าข้องเกี่ยวไปมากกว่านี้คงมีแต่อันตราย

อคินเหลือบมองต้นคูนที่ยืนทำหน้าตาระแวดระวังอย่างปิดไม่มิด ก่อนหันไปรับเอกสารแผ่นหนึ่งจากเลขาส่วนตัวที่เพิ่งนำมามอบให้ เขากวาดสายตามองสักพักก่อนจะเอ่ยขึ้น

"อืม...จบแค่มัธยมปลาย ยายเสียตอนอายุ 18 ปัจจุบันทำงานใช้หนี้ของพ่อกับแม่ที่ฆ่าตัวตาย แล้วเลี้ยงน้องฝาแฝดสองคนอายุ 10 ปี ...ใช้ได้" จู่ๆ อีกฝ่ายก็ร่ายประวัติโดยย่อขึ้นมา ต้นคูนจึงได้แต่ยืนก้มหน้าฟังสองมือกำแน่น เขาไม่ค่อยชอบที่จะให้คนอื่นมารู้เรื่องราวชีวิตแสนรันทดของตนเองมากนัก ยิ่งไปฟังเองก็ยิ่งไม่ชอบ

"ฉันตกลงรับนายเข้าทำงานเป็นพี่เลี้ยง" สิ้นคำต้นคูนรีบเงยหน้ามองอคินด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ

"ครับ! เดี๋ยวคือผม... ไหนว่าจะไม่บังคับกันไง" เขาเผลอปฏิเสธออกไปเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายที่ตกปากรับคำเองโดยไม่ถามก่อนทั้งที่ก่อนหน้าบอกแบบนั้นไป

"ฉันบังคับนาย?" อคินขมวดคิ้ว เปลี่ยนท่าทีเป็นนั่งไขว่ห้าง ส่งสายตาดุดันไปยังต้นคูน

"กะ ก็ที่คุณทำอยู่มัน...เรียกว่ามัดมือชกไม่ได้ความเห็นผมสักคำ แบบนี้คือบังคับนะครับ" ชายร่างเล็กที่ถูกทำให้หวาดกลัวโดยสายตาราวกับราชสีห์ ทำได้เพียงแค่ตอบเสียงสั่น

"ได้ ฉันขอถามนาย นายจะมาทำงานเป็นพี่เลี้ยงให้กับฉันไหม" 

"เอ่อ ผมขอฟังค่าตอบแทนและเงื่อนไขก่อนได้ไหมครับ" ถึงแม้จะไม่ได้ต้องการทำงานนี้จริงๆ แต่ก็อยากฟังดูก่อนเป็นการแสร้งให้ตายใจ

"นายจะได้รับเงินเดือนมากกว่างานทำความสะอาด 5 เท่า มีอาหารสามมื้อ มีที่พักฟรี สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ และหากต้องอะไรก็สามารถขอกับผู้ดูแลคนนั้นได้เลย หน้าที่ของนายมีแค่ดูแลและเป็นเพื่อนเล่นให้กับโยเซฟลูกชายของฉันแค่นั้นเลย" ข้อเสนอที่ดีเกินไปถูกพูดออกมาจากคนที่มีอำนาจสูงสุดในที่แห่งนี้ ต้นคูนที่เหมือนจะสัมผัสได้ถึงความร่ำรวยแบบใกล้ชิดเป็นครั้งแรกจึงยืนอ้าปากเหวอ ก่อนจะเรียกสติตัวเองกลับมา

"คือว่า...ผมมีหนี้ที่ต้องจ่ายสิ้นเดือนนี้ จะขอเบิกล่วงหน้าได้ไหมครับ" จู่ๆ ความรู้สึกใจกล้าก็ผุดให้ชายผมสีเข้มพูดขึ้น ก่อนจะนึกเสียใจทีหลังที่เผลอไปกับข้อเสนอแบบนั้นเพราะขาดสติ

"ได้ แต่มีเงื่อนไข ถ้านายทำงานไม่ถึงสิ้นเดือนฉันจะคิดบัญชีกับนายรวมดอก ยิ่งกว่าเจ้าหนี้" อคินยิ้มุมปากมองต้นคูนด้วยดวงตาคมเข้มที่วาวโรจน์ดูหน้าหวาดหวั่น ชายตัวเล็กกว่าในห้องรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที แต่ก็ทำให้เขามีสติครบถ้วนอีกครั้ง สัญชาตญาณเอาตัวรอดบอกว่าอีกฝ่ายพูดจริงอย่างแน่นอน

ถึงข้อเสนอจะดี แต่สุดท้ายก็ต้องหนีเพื่อน้องๆ แหละ เงินน่ะค่อยหาใหม่ก็ได้ แต่ชีวิตมีแค่ครั้งเดียวนะไอ้คูน!

ต้นคูนแอบถอนหายใจก่อนจะเอ่ยปากพูด

"ครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวกลับไปเตรียมตัวและบอกพวกน้องๆ ที่บ้านก่อนแล้วพรุ่งนี้ค่อยเริ่มงานกัน" ชายหนุ่มหว่านล้อมตั้งใจจะหาทางออกไปจากที่นี่ให้ได้ก่อน อคินยิ้มปากดูเจ้าเล่ห์พูดเสียงเรียบ

"นายจะรีบไปไหนล่ะ ไม่อยากเจอคนที่จะต้องดูแลหน่อยรึไง ฉันเรียกเขามาพอดี" หลังเสียงของอคินสิ้นสุดลง ก็มีเสียงของประตูด้านหลังต้นคูนเปิดออกพร้อมกับร่างเล็กของเด็กอายุราวๆ 7-8 ขวบวิ่งเข้ามาด้วยท่าทางสดใส

ต้นคูนไม่สามารถละสายตาจากผมสีทองปลิวไหวไปตามแรงโน้มถ่วงราวกับเส้นไหม และดวงตาสีฟ้าสุกสกาวระยิบระยับของเด็กคนนั้นได้เลย ใบหน้ากลมได้รูปมีเบบี้เฟสแบบเด็กๆ ผิวขาวละมุนเหมือนแป้งนิ่ม ร่างกายผอมสมส่วนมีช่วงขายาว ดูโตไปเป็นดาราได้ไม่ยาก

"ปะ ปะ ป๊า" แม้จะพูดติดขัดแต่น้ำเสียงก็กังวานสดใส เป็นครั้งแรกที่ต้นคูนเห็นเด็กคนอื่นน่ารักกว่าน้องฝาแฝดของตนที่ถนอมมาอย่างดี ร่างกายผมบางเข้าไปกอดอคินด้วยความรัก ชายเจ้าของบ้านเองก็มีสีหน้าอ่อนลงเมื่อพบลูก ทว่าเมื่อทั้งสองอยู่ด้วยกันแล้วภาพตรงหน้าราวกับภาพวาดชวนให้คิดว่า

ทำไมไอ้คนหน้านิ่วคิ้วขมวดแล้วยังมีสายอย่างกับจะฆ่าคนแบบหมอนั่นถึงมีลูกน่ารักปานเทวดาตัวน้อยๆ แบบนี้ได้วะ! โลกแตกได้ยัง จะบอกว่านั่นคือทายาทมาเฟียรุ่นถัดไปเรอะ? ใครจะเชื่อ หรือจริงๆ เด็กคนนั้นจะถูกลักพาตัวมา?!

ความคิดฟุ้งซ่านมากมายตีกันวุ่นวายในหัวของต้นคูน จนเขาเกือบวางแผนจะพาเด็กผมทองคนนั้นหนีไปด้วยกันแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะมีซาตานนั่งอยู่ข้างๆ 

"ป๊า คะ ครับ พะ พี่ คนนั้น คือ คือใครครับ" ต้นคูนชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินโยเซฟพูดอีกครั้ง เขาพอจะเข้าใจแล้วว่าเด็กอาจจะมีปัญหาด้านการสื่อสาร

"อา ทักทายพี่เขาสิโยเซฟ พี่เลี้ยงคนใหม่ของลูกไง" อคินพูดเสียงนิ่งแต่แววตาก็เจือความอบอุ่นเมื่อมองไปยังลูกชาย

เด็กน้อยโยเซฟที่ได้ยินก็ฉีกยิ้มกว้างแสดงอาการดีใจบนหน้าแบบปิดไม่มิดรีบเดินไปหาต้นคูนใกล้ๆ พลางสวมกอด ต้นคูนไม่ทันตั้งตัวได้แต่ยืนตัวแข็ง โยเซฟเงยหน้ามองต้นคูนและพูดแนะนำตัว

"ผะ ผะ ผมชื่อ โย โยเซฟครับ" เด็กน้อยฉีกยิ้มกว้างมันทำลายล้างหัวใจที่ตั้งเกราะของต้นคูนจนพังทลาย ชายหนุ่มนั่งลงให้ความสูงพอๆ กับเด็กตรงหน้าก่อนจะแนะนำตัว

"พี่ชื่อต้นคูนครับ" ดวงตาสดใสของโยเซฟทำเอาต้นคูนคิดถึงน้องๆ ขึ้นมาจึงอดเอ็นดูไม่ได้เอื้อมมือไปลูบหัวศีรษะน้อยๆ นั่นเบาๆ

"พี่ พี่ พี่จะมาเป็น พี่...เลี้ยง ขะ ของผมใช่ ใช่...ไหมครับ" พอโดนยิงคำถามที่ตั้งใจจะปฏิเสธซึ่งเต็มไปด้วยน้ำเสียงและสีหน้าคาดหวังของโยเซฟ ทำเอาต้นคูนลังเล

"ครับ ใช่ พี่เป็นพี่เลี้ยงคนใหม่ของเธอ" สุดท้ายเพราะไม่อยากทำลายความหวังของเด็กน้อยต้นคูนจึงตอบตกลงไป ด้วยสีหน้ายิ้มฝืดเฝือน อคินที่มองการแสดงนั่นอยู่ก็อดหลุดหัวเราะเบาๆ ออกมาไม่ได้ ต้นคูนที่ได้ยินจึงกัดฟันในใจ หรือว่าไอ้หมอนั่นรู้อยู่แล้วว่าเราจะหนีเลยเอาลูกตัวเองมาล่อหลอก!

"เย้!" โยเซฟดีใจเข้าไปกอดต้นคูนอีกครั้ง ก่อนถูกอคินบอกให้กลับไปก่อนเพราะต้องตกลงเรื่องจ้างวาน

"โยเซฟออกไปเล่นกับเวนดี้ที่สวนก่อน พ่อต้องคุยธุระกับพี่เลี้ยงของลูกอีกหน่อย แล้วเดี๋ยวจะปล่อยให้ไปเล่นด้วยกัน โอเคใช่ไหม"

"ครับ พี่ พะ พี่ต้นคูน เดี๋ยวมะ มา มาเล่นด้วยกันนะ" โยเซฟโบกมือให้ก่อนจะเดินออกจากห้องไปพร้อมบอดี้การ์ดร่างโตสองคน

"เอาล่ะ ฉันจะให้เวลานายพักผ่อนก่อนแล้วกัน ช่วงเย็นจะมีมื้ออาหารค่ำกับโยเซฟ อย่าลืมมาล่ะ เซ็ตพาเขาไปที่บ้านพัก" ออกคำสั่งเสร็จอคินก็ยืนขึ้นทำท่าจะเดินออกจากห้องไปเช่นกัน

"เดี๋ยวครับ คุณหมายความว่ายังไง" ชายหนุ่มรีบแย้งก่อนอีกฝ่ายจะเดินหาย ต้นคูนงงงวยสับสนกับสถานการณ์เขาไม่เข้าใจที่อคินพูดเท่าไรนักและบ้านพักที่ว่ามันสำหรับอะไร เขาไม่ได้จะค้างที่นี่เสียหน่อย ร่างสูงเดินเข้าไปใกล้ต้นคูน ด้วยความสูงที่ต่างกันมากอคินจึงต้องก้มหน้าลงเล็กน้อยมองร่างเล็กกว่า

"นายตกลงเป็นพี่เลี้ยง ฉันก็เตรียมบ้านพักให้เพื่อที่จะอยู่ทำงานได้สะดวกสบาย การเล่นกับโยเซฟถือเป็นหน้าที่ของนายหากโยเซฟเรียกนายก็ต้องไปหา การดูแลโยเซฟก็เป็นหน้าที่ของนายเหมือนกัน คงไม่ได้คิดจะไปกลับจากห้องพักแคบๆ นั่น แล้วใช้เป็นข้ออ้างทีหลังเวลาดูแลโยเซฟไม่ดีพอหรอกใช่ไหม" แรงกดดันที่ส่งผ่านสายตาเย็นชาทำเอาต้นคูนไม่กล้าขยับปากเถียง ทว่าเพราะเป็นห่วงเด็กๆ จึงต้องกลั้นใจพูดออกไป

"แต่น้องของผมอยู่ที่ห้องพักนั่นนะครับ ถ้าไม่เห็นว่าน้องปลอดภัยต่อให้ตายผมก็ไม่ทำงานนี้หรอก ผมจะกลับไปหาน้อง!" โยเซฟยังมีคนคอยดูแล แต่กับกรณ์ กานต์ มีแค่เขาเท่านั้นที่สามารถดูแลได้

อคินมองสายตาแน่วแน่มั่นคงแสดงถึงความตั้งใจจริงว่าถ้าไม่ได้เจอน้อง ชายหนุ่มตรงหน้าก็พร้อมตายดีกว่าทำงานให้กับตน ทว่าอคินอยากแกล้งคนคนนี้อีกหน่อยจึงแสร้งขมวดคิ้วยื่นหน้าเข้าประชิด ต้นคูนแอบตกใจแต่ตนจะมายอมแพ้ตอนนี้ไม่ได้เขาต้องกลับไปหาน้องๆ จึงยื่นนิ่งแถมเชิดหน้ามองอคินด้วยแววตาขุ่นเคือง ร่างสูงเห็นท่าทางราวกับกระรอกตัวน้อยที่พยายามจะยืนสู้กับนายพรานก็รู้สึกพอใจอย่างน่าประหลาด

"ฉันจะให้คนพาน้องๆ ของนายมาที่นี่ บ้านพักของฉันกว้างขวางพออยู่แล้ว" อคินผละตัวออก เดินผ่านต้นคูนไปก่อนจะหยุดที่หน้าประตูและพูดขึ้นอีกครั้ง "ก่อนมาทานมื้อค่ำอาบน้ำมาด้วยล่ะ"

ต้นคูนเส้นกระตุก ต่อหน้าหลายคนในห้อง ไอ้เวรนั่นมันบอกว่าฉันตัวเหม็นเหรอวะ! 



ภายในสวนกว้างด้านหลังคฤหาสน์โยเซฟกำลังเล่นกับสุนัขพันธ์ุลาบาดอตัวใหญ่โดยการปาจานร่อนให้มันไปคาบ เมื่อเจ้าสุนัขรับได้จึงนำกลับมาให้เจ้านาย โยเซฟลูบหัวมันด้วยความเอ็นดู สายตาของเด็กน้อยยังคงสดใสราวกับเด็กทั่วไปที่เติบโตมาอย่างดี ทว่าบรรยากาศกลับต่างไปจากตอนที่อยู่ในห้องรับรองมากนัก อีกทั้งเขาไม่ได้พูดติดขัดอีกแล้ว

"เวนดี้เก่งมาก เด็กดีของผม" เด็กน้อยชื่นชมสุนัขของตน

"นึกว่าจะเล่นเป็นเด็กอันธพาลเหมือนรอบที่แล้ว" อคินพูดขึ้นพลางเดินเข้ามายืนข้างๆ โยเซฟ มองต่ำไปยังเด็กน้อยตัวสูงแค่ช่วงเอวของเขา โยเซฟไม่ได้เงยหน้ามองหรือพูดตอบ ท่าทางไม่ได้น่ารักน่าเอ็นดูหรือสนิทสนมกับอคินแบบก่อนหน้า

"อาจะมาสนใจทำไม ปกติไม่เห็นสนใจว่าผมจะทำอะไรนี่ อ๋อ หรือเป็นเพราะคนนี้ที่อาพามาเอง?" โยเซฟส่งสายตาล้อเลียนผู้เป็นอาที่ก่อนหน้าในห้องรับรองเคยเรียกว่าป๊า ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ค่อนข้างซับซ้อนเพราะโยเซฟไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของอคิน เป็นแค่เด็กที่อคินรับมาดูแลเป็นบุตรบุญธรรมเท่านั้น ทว่าอคินเองก็ไม่ใช่อาแท้ๆ ของโยเซฟเช่นกัน ทว่าทั้งสองต้องมาเกี่ยวพันโดยมีพ่อของโยเซฟเป็นจุดร่วม

"นายไล่พี่เลี้ยงออกไป 6 คนใน 1 เดือน จะให้ไม่สนใจเลยก็คงไม่ได้" อคินกล่าว เด็กน้อยได้ฟังก็ยักไหล่เถียงหลับ

"ผมไม่ได้ไล่สักหน่อย พวกนั้นหนีไปเอง" อคินมองท่าทางไม่ยี่หระนั่นเองก็อดหมั่นไส้ไม่ได้ มือใหญ่ยื่นไปขยี้ผมสีบลอนด์ทองจนยุ่งเหยิง โยเซฟได้แต่โวยวาย เมื่อพอใจแล้วอคินจึงปล่อย

"ครั้งนี้เล่นให้เบาๆ หน่อย ฉันอุตส่าห์หาแบบที่นายชอบมาเลยนะ แล้วก็ช่วงนี้กำลังยุ่งไม่อยากมาทำเรื่องไร้สาระอย่างหาพี่เลี้ยงให้นายอีก ทำตัวดีๆ" ทิ้งคำพูดไว้แค่นั้นก่อนจะจากไป

ดวงตากลมเต็มไปด้วยความขุ่นมัวเพราะถูกขยี้ผมจนเสียทรงปากเล็กบ่นพึมพำ

"ทำเป็นพูด ใครกันแน่ที่ชอบ"