น้ำหยดลงหินทุกวัน หินบอกรำคาญ แต่ถามว่าจะหยุดไหม ก็...ไม่จ้ะ! //ฉันก็รักของฉันเข้าใจบ้างไหม~~
รัก,ตลก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,ไทย,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ขนมจีบขนมใจ (1)
สวัสดีเช้าที่แสนสดใส ให้ทายว่าตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหนเอ่ย... เฉลย! มารอพ่อยอดรักยอดดวงใจอยู่ตรงลานจอดรถข้างคณะวิศวะน่ะซี่~ มันคือทางเดียวที่จะเจอเขาได้ในเวลานี้นั่นเอง
เดินวนไปมารอบรถมอเตอร์ไซค์ เบื่อก็หยิบโทรศัพท์มือถือมาเปิดดูนั่นนี่บ้าง คือไม่ใช่คนติดโซเชียลอะไรเท่าไรไง ส่วนใหญ่จะใช้คุยงานอ่านนิยายอ่านการ์ตูนมากกว่า
ฉันสืบตารางเวลาเรียนของเขามาหมดแล้วเรียบร้อย มีเรียนเช้าทุกวันฉะนั้นสามารถมาหาเขาเวลาเช้าแบบนี้ได้
ยืนรอประมาณครึ่งชั่วโมงพ่อยอดยาหยีก็ขับรถยนต์คันโก้เลี้ยวเข้ามา ความร่ำรวยนี้เป็นที่เลื่องชื่อลือนามมากนะคะ ทายาทคนเล็กของท่านเจ้าสัวพิชิตกับคุณหญิงทิพาวดีน่ะ
ตระกูลนี้เขาทำธุรกิจเกี่ยวกับขนส่งโลจิสติกส์รายใหญ่ทั้งในและนอก อีกทั้งยังเป็นเจ้าของธุรกิจค้าปลีกร้านสะดวกซื้อที่มีมากกว่าหนึ่งหมื่นสาขาทั่วประเทศ ไม่นับรวมสาขาต่างประเทศซึ่งก็มีไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันแห่ง และมีโรงงานผลิตสินค้าเพื่อนำมาจำหน่ายเองโดยเฉพาะ
แฮะ แฮะ หวังสูงสุด ๆ เลยฉันเนี่ย...
ทำไงได้ไอ้เราก็รักเขาโดยไม่สนเรื่องฐานะตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
รถยนต์คันหรูจอดเข้าซองเรียบร้อย ฉันฉีกยิ้มรีบวิ่งไปหาขณะที่เขาเปิดประตูรถลงมา
"สวัสดีค่ะเตย์" ร้องทักทายเสียงใส
ชายหนุ่มคนดีทำเพียงแค่มองมานิ่ง ๆ เท่านั้นทำเอาฉันรู้สึกเก้อเขินแต่ก็แค่แป๊บเดียว ไม่เป็นไรจ้า กิ๋งเข้าใจว่าเตย์ยังไม่ชิน
"เอานี่! ขนมจีบขนมใจน้าาา เราทำเองกับมือ รับรองเรื่องรสชาติและความสะอาด"
ยื่นถุงกระดาษที่ในนั้นมีกล่องขนมจีบใส่ไว้ให้ยอดรักยอดดวงใจ ตอนแรกเขาทำท่าทีไม่อยากรับแต่สุดท้ายก็ทนต่อสายตาเว้าวอนประดุจลูกแมวอ้อนของฉัน(?)ไม่ไหวจึงรับไปถือไว้
"ทานให้อร่อยนะคะ แล้วก็... ตอนกลางวันขอมาทานข้าวด้วยได้ไหม"
ซึ่งเหมือนเดิมเขาเลือกที่จะเงียบ ไม่ตอบรับคำขอ ส่วนฉันก็ยังคงฉีกยิ้มมองข้ามความเย็นชาเช่นทุกที
"ไม่ตอบอีกแล้ว งั้นเราถือว่าเธออนุญาตนะ เจอกันตอนกลางวันค่ะ บายยยย"
รวบรัดพลางโบกมือลา วิ่งกลับมาที่มอเตอร์ไซค์คู่ใจเพื่อขี่กลับไปยังคณะของตัวเอง
ภารกิจยามเช้า สำเร็จ!
เด็กแฟชั่นเขาทำอะไรกัน
ไม่รู้ที่อื่นการเรียนการสอนเป็นยังไงแต่ที่นี่เราอยู่กันแบบสบาย ๆ ปีหนึ่งทฤษฎีล้วน พอขึ้นปีสองลงมือปฏิบัติจริง อนาคตไอ้เราก็อยากเปิดร้านขายเสื้อผ้าที่ออกแบบและตัดเย็บด้วยมือตัวเองเลยต้องตั้งใจมากหน่อย
ขณะที่แก๊งเพื่อนก็ไม่ได้แยกย้ายกันไปไกล อยู่คณะเดียวกันเนี่ยแหละค่ะ แค่อยู่คนละสาขา เวลาเรียนตรงกันบ้างไม่ตรงกันบ้าง อาศัยนัดพบปะนอกเวลาเอา
เช่นวันนี้ที่มีเรียนเช้าเหมือนกัน กลางวันจึงนัดหมายไปกินข้าวที่โรงอาหารวิศวะ ซึ่งพวกนั้นก็เห็นดีเห็นงามเพราะอยากช่วยเพื่อนจีบผู้ชาย
เราเลิกก่อนเลยลงมานั่งรอใต้อาคารพลางออกแบบชุดที่จะต้องตัดส่งก่อนสอบปลายภาคเพื่อฆ่าเวลา คอนเซปต์คือความสดใสร่าเริง ฟังดูง่ายใช่ไหมล่ะ แต่สำหรับนี่รู้สึกว่ามันยากจังเลย
เอ๊ะ! นี่แนะนำตัวไปหรือยังนะ ถ้าแนะนำแล้วก็จะแนะนำอีกที ชื่อ กุ๋งกิ๋ง นะคะ ชื่อจริงนางสาว บารมิตา ป้องเกียรติ อายุ 20 ปี เป็นลูกคนที่สองของบ้าน ป๋าเป็นเสี่ยเจ้าของสวนผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดระยอง ส่วนหม่าม้าเป็นเจ้าของร้านขายบะหมี่เจ้าดังที่มักมีนักรีวิวมาถ่ายทำบ่อย ๆ และสุดท้ายพี่ชายสุดล่ำบึกตอนนี้รับหน้าที่ดูแลสวนแทนป๋าอย่างเต็มตัว
"มาแล้วจ้า~" สามกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาหา วันนี้ถักเปียผูกผ้าลายดอกซากุระน่ารักมากเลย
"น่ารักจังสาม" เอ่ยทักทายเพื่อนรักพร้อมเก็บของใส่กระเป๋าสะพายข้างใบใหญ่
"ปากหวานมาก เดี๋ยวซื้อบราวนี่ให้สองชิ้นเลย" สามนั่งลงข้างกันพลางยื่นมือมาบีบแก้มฉันด้วยความมันเขี้ยว
"แต๊งกิ้ว ๆ งืออออ อยู่ในช่วงกระเป๋าตังค์ฟีบพอดี" กอดเพื่อนพร้อมกับเอาหัวถูไถไหล่อย่างออดอ้อน
สามน่ะรวยจะตาย เป็นลูกสาวคนเดียวที่มีพ่อเป็นศัลยแพทย์และมีแม่เป็นเจ้าของตลาดใหญ่ ไอ้เราก็เกาะเพื่อนกินมาแต่ไหนแต่ไรด้วยสิ เลยไม่ค่อยจะเกรงใจนักหรอก
"หมดไปกับผ้าน่ะสิใช่ไหม"
"ใช่ เห็นเป็นไม่ได้ต้องพุ่งไปเลือก แล้วแบบนี้มันจะไปเหลือได้ไง" เป็นคนคลั่งไคล้ผ้ามากค่ะ ถูกใจเข้าหน่อยซื้อเก็บตลอด เอาไว้ตัดทำชุดขายนั่นแหละ
"เอาจากเราไปใช้ก่อนไหม คืนตอนไหนก็ได้" ไม่พูดเปล่าหยิบกระเป๋าตังค์ออกมาเปิดแล้วนั่น
ใจป้ำเกิ๊น!
"ไม่เอา ๆ เดี๋ยวเคยตัว" ปฏิเสธสิรอไร ไม่ได้คบเพราะเงินซะหน่อย
"ก็เป็นซะแบบนี้"
"ได้อยู่น่า บ่นไปงั้นแหละ"
"เดี๋ยวบอกหม่าม้าดีกว่าว่ามีเด็กเอาเงินค่าขนมไปใช้สุรุ่ยสุร่ายจนหมด"
"อื้อ อย่าหางานให้กันเชียวนะ!"
"คิคิคิ"
ขณะกำลังคุยเล่นกับสามอยู่นั้นน้ำเงี้ยวก็มากระโดดกอดพร้อมกับจุ๊บแก้มเราคนละที
"คุยไรกันน่ะ!" สดใสไม่แพ้แสงแดดเลยฮะเพื่อน
"ก็แม่คนนี้น่ะสิ เงินหมดตั้งแต่ต้นเดือน" สามได้ทีฟ้อง
"เหอเหอ เกินไปหรือเปล่าคุณกุ๋งกิ๋ง แต่ว่าก็ว่าเถอะรายจ่ายเดือนนี้ของเงี้ยวเองก็เยอะพอตัว พูดแล้วก็เครียดว่ะ"
ปัญหาเงินค่าขนมไม่พอใช้ทำได้เพียงแค่บ่นเพราะขอเพิ่มไม่ได้มีแต่จะต้องทำงานหาเพิ่มเติมเอาเอง ตัวฉันใช้วิธีช่วยงานที่ร้านบะหมี่ของหม่าม้าซึ่งค่าแรงก็ไม่ได้มากมายอะไร
เราสามคนนั่งคุยกันเรื่องนี้ในเชิงบ่นมากกว่า สุดท้ายหากเงินไม่พอจริง ๆ ก็ต้องเอ่ยปากขอป๋ากับหม่าม้าอยู่ดีนั่นแหละ
ไม่นานนักพาสเทลกับลูกเจี๊ยบก็มา สองคนนี้เป็นผู้ชายนะคะ ชื่อน่ารักเข้ากับหน้าตาทีเดียวเชียวล่ะ ก็ทั้งสองคนน่ะเป็นชายหนุ่มที่มีความหล่อและจิ้มลิ้มในคราวเดียวกัน มองแล้วไม่เบื่อ
แน่นอนว่าทั้งสองคนไม่ได้ชอบผู้หญิงจ้า มีสเปคเป็นผู้ชายเนาะ เอ็นดูได้อย่างเดียว
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราทั้งห้าคนรีบยกโขยงไปยังคณะวิศวะ คณะที่มีผู้ชายมากกว่าผู้หญิง คลาสนึงจะเห็นสักคนสองคน แล้วเหมือนคัดหน้าตาเพราะหล่อสวยสู้กับคณะนิเทศได้สบาย
---50%---