น้ำหยดลงหินทุกวัน หินบอกรำคาญ แต่ถามว่าจะหยุดไหม ก็...ไม่จ้ะ! //ฉันก็รักของฉันเข้าใจบ้างไหม~~
รัก,ตลก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,ไทย,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Hello My lovely | รักนี้ขอจีบนะคะน้ำหยดลงหินทุกวัน หินบอกรำคาญ แต่ถามว่าจะหยุดไหม ก็...ไม่จ้ะ! //ฉันก็รักของฉันเข้าใจบ้างไหม~~
กินอะไรก็ไม่อร่อยเท่ากินเธอ เอ้ย! กินกับเธอ (1)
ทำงานวันแรกค้นพบว่าไม่ได้สบายอย่างที่คิดนะคะคุณผู้ชม ลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในวัยนักเรียนนักศึกษาที่ต้องทำงานส่งอาจารย์และอ่านหนังสือดึก ๆ
ต่อให้มีร้านสะดวกซื้อพวกเขาก็ยังต้องการกินอาหารที่ปรุงสุกสดใหม่มากกว่าอาหารแช่แข็งอุ่นร้อน กว่าร้านจะไม่มีลูกค้าเข้าแล้วจริง ๆ ก็ปาไปตีสาม
กลับมาถึงบ้านตีห้าอย่าถามว่าได้นอนตอนไหน ไม่มีเวลาจ้ะ! เข้าครัวทำอาหารให้พ่อยอดรักยอดดวงใจต่อทันที ตอนนี้หกโมงเช้ากำลังจัดแฮมเบอร์เกอร์ลงกล่อง มีสลัดเบคอนแล้วก็นักเก็ตกับเฟรนช์ฟรายส์เพิ่มอีกอย่างละกล่องให้ไปด้วย
ต้องขอบคุณผู้สนับสนุนใจดีอย่างหม่าม้าที่ซื้อของมาใส่ไว้ในตู้เย็นให้ เพราะรู้ว่าลูกสาวคนนี้เงินไม่ค่อยมี แต่ก็ดันให้จีบผู้ชายเต็มที่ เอาเลยหม่าม้าเชียร์
บ้านเงียบราวกับไม่มีใครอยู่ ที่เป็นแบบนี้เพราะหม่าม้าออกไปที่ร้านตั้งแต่ตีสาม เตรียมของขายเฉกเช่นทุกวันนั่นแหละ ส่วนป๋ากับพี่ชายอยู่บ้านสวนโน่นแน่ะ จะได้เจอกันแค่เดือนละครั้ง
ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็กลับขึ้นห้องไปอาบน้ำชำระร่างกาย วันนี้มีเรียนยาวถึงหกโมงเย็น เน้นแพทเทิร์นและการออกแบบล้วน ๆ
เวลาเร่งรีบคนเรามักไม่ค่อยได้สนใจสิ่งแวดล้อมหรือความเป็นไปรอบกายสักเท่าไร ฉันเองก็เป็นหนึ่งคนที่แทบไม่ได้มองดูรอบ ๆ ตัวเลย
เมื่อเรามีจุดให้โฟกัสเราก็จะมุ่งตรงไปที่จุดนั้นอย่างเดียว เลี้ยวมอเตอร์ไซค์เข้ามายังที่เดิมลานจอดรถของคณะวิศวะอันแสนใหญ่โต
เตย์ ทมโภลี คนดีคนเดียวที่ใจต้องการเรียนสาขาเครื่องกล คือเขาเก่งแล้วก็ฉลาดจะเข้าคณะไหนก็ย่อมได้ แต่เหตุผลที่เลือกเรียนสาขาเป็นนี้เพราะความชอบส่วนตัว
บ้านมีเงินจะเรียนอะไรก็ได้ เรื่องธุรกิจก็มีพี่ชายคนโตกับคนรองคอยดูแล เขาแค่เอาตัวรอดให้ได้ก็พอ การมีอิสระทางการเงินนี่มันดีจริง ๆ
หาววววว ง่วงนะ แต่เดี๋ยวได้กาแฟสักแก้วก็ดีขึ้น
มีรถเลี้ยวเข้ามาแล้วนั่น ปอเช่ซะด้วย คณะนี้เขามีแต่คนรวย ๆ เนาะ มอเตอร์ไซค์ฮ่างของฉันเทียบไม่ติดสักนิด ถึงอย่างนั้นฉันก็รักแกเหมือนเดิม
โอ๊ะ! เข้าไปจอดที่โซนแก๊งสุดหล่อนี่นา เป็นใครกันเอ่ย... ปกติเตย์จะมาคนแรกของกลุ่มตลอด พอลงมาจากรถเห็นว่าเป็นใครก็โบกมือทักทาย อีกฝ่ายพอเห็นว่าเป็นเราก็เดินตรงมาหา
"ไง มารอเตย์มันเหรอ" เธียรเอ่ยถาม ช็อปสีกรมท่าขับสีผิวขาว ๆ ของเขาดีเนาะ ออร่ามากพ่อ ลูกครึ่งจีนก็จะสูงยาวเข่าดีแบบนี้แหละ
"ใช่จ้า แล้วนี่ทำไมมาเร็วจัง"
"เกิดอยากจะขยันขึ้นมาน่ะ" เวลายิ้มเท่มากนะเนี่ย สาวที่ไหนก็หลงเสน่ห์
"โอ้ว เยี่ยมเลย" ฉันยกนิ้วโป้งให้พลางยิ้มเกร็ง ๆ ทำเอาเขาหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น
"ฮ่า ๆ ๆ อิจฉาไอ้เตย์มันว่ะ"
ไม่รู้ว่าเธียรหมายถึงอะไร ฉันทำเพียงแค่ยืนยิ้ม อาจเพราะเอ็นดูก็ได้คิดในแง่ดีไว้ก่อน
"จริงสิ ไอ้ไก่ทอดเมื่อวานอร่อยดีนะ ได้ยินว่าทำเองเหรอ เก่งขนาดนั้นเชียว?"
"ก็พอตัวเลยล่ะค่ะ ได้ทานด้วยเหรอ"
"เจ้านั่นเอามาแบ่งน่ะ เมนูก่อนหน้าก็เหมือนกัน"
"อ่อ... ค่อยยังชั่วที่เขาไม่เอาทิ้ง ยังแอบกลัวว่าเขาจะเอาทิ้งหรือเปล่า"
"ไม่ทิ้งหรอก สบายใจได้ เหลือเผื่อแผ่มาถึงพวกเราด้วย อร่อย ๆ"
"จ้า~ ขอบคุณน้าสำหรับคำชม"
แล้วเขาก็เงียบเอาแต่มองหน้าฉัน ไอ้เราก็เขินสิโดนคนหล่อจับจ้อง
"อะไรเหรอ" เอ่ยถามเพราะมองกันอยู่นานมาก เดดแอร์จนรู้สึกอึดอัด
"อ่อ แค่กำลังคิดว่าเรียนโรงเรียนเดียวกันแต่ทำไมไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ชั้นปีนึงก็มีแค่หกห้องเอง"
"อ๋อ! คิคิ จะว่ายังไงดี ไปหาดูรูปเก่า ๆ ในเพจก็คงไม่เจอ เพราะตอนนั้นไม่ได้โดดเด่นอะไรเลย ทั้งแก๊งทั้งกลุ่มเลยแหละมั้ง"
"งั้นเหรอ..." เธียรทำหน้าครุ่นคิด
"อื้ม ตอนนั้นแก๊งพวกเธอฮอตมากเลยนี่นา เดินไปไหนมาไหนอย่างกับดารา สาว ๆ ตามกรี๊ดตลอดไม่เห็นหรอ ยิ่งงานกีฬานะโรงเรียนแทบแตก พวกผู้หญิงโรงเรียนข้าง ๆ ยังมาเกาะรั้วกรี๊ดกร๊าดเลยตอนพวกเธอแข่งบอล"
"ก็จริง" เขาพยักหน้าพอใจกับความหล่อของตัวเอง
"ถ้าอยากเห็นว่าตอนนั้นเราหน้าตาเป็นยังไงไปหาดูในหนังสือรุ่นก็ได้ ชื่อ บารมิตา อยู่ห้องสี่"
"โอเค ได้เลยเดี๋ยวไปหาดู"
"อาฮะ" ยกยิ้มให้เขา
"ชอบไอ้เตย์มาตั้งแต่ตอนนั้นเลยสินะ" เขายังสงสัยต่อ ได้เลยถามมาตอบไปไม่ใช่ความลับอะไร
"มอสี่ต่างหาก"
"โอ้! นานแล้วหนิ สุดยอดเลย"
"ใช่ไหมล่ะ" กอดอกยักคิ้ว ของแบบนี้ถ้าไม่มั่นคงในความรู้สึกหนีไปชอบคนอื่นนานแล้ว
"ฮึ ๆ แล้วคิดยังไงถึงตัดสินใจสารภาพรัก"
"ถามเก่งมากกกกก คนที่อยากให้ถามทำไมไม่ถามแบบนี้บ้างก็ไม่รู้"
"กับคนไม่สนิทไอ้เตย์มันแทบไม่พูดเลย เข้าใจมันหน่อยนะ"
ขณะที่กำลังพูดคุยกันไม่จบไม่สิ้นอยู่นั้นเฟอร์รารี่สีเหลืองสวยก็ขับเข้ามา เสียงเครื่องยนต์ดังน่าเกรงขามเชียว
"มาแล้วนั่น" เธียรมองตามรถที่ตรงไปจอดยังที่เดิม
เปลี่ยนรถทุกวันยี่ห้อไม่ซ้ำกัน สุดยอดไปเลยไม่ใช่เหรอ รวยค่ะรวย รวย! อยากเป็นสะใภ้ธฤติพันธ์
ฉันไม่ได้เดินไปหาเขาเหมือนทุกที ทำเพียงแค่มองร่างสูงใหญ่ดูดีลงมาจากรถ พอเห็นเพื่อนตัวเองยืนอยู่กับฉันก็เดินตรงมาหาทันที
"เธียร" เสียงทุ้มเอ่ยเรียก
"มาแล้วเหรอวะ วันนี้กูมาก่อนมึงอีก มาถึงก็เจอคนนี้ยืนรออยู่เลยคุยเล่นเป็นเพื่อน"
คนนี้? แสดงว่าไม่รู้จักชื่อกันสินะ
เตย์ปรายตามองฉันเล็กน้อย ฉันที่จ้องเขาอยู่ก่อนแล้วก็รีบฉีกยิ้มให้ วันนี้ก็หล๊อหล่อเหมือนเดิม เฮ้อ~ ใจละลาย
"สวัสดีค่ะเตย์"
"แหม เสียงอ่อนเสียงหวาน" เธียรเอ่ยแซวพลางทำหน้าล้อเลียน
"อะไรเล่า อิจฉาหรือไง" ยื่นมือไปฟาดแขนอีกฝ่ายด้วยความเขินอาย
"โอ๊ย! นี่มันทำร้ายกันนี่หว่า ส่งของอร่อยมาไถ่โทษซะดี ๆ" มือหนาหมายจะยื่นมาคว้าถุงในมือฉัน
"เนียนเลยนะ ไม่ให้! ถอยออกไปเลย อะนี่ค่ะเตย์ วันนี้เป็นแฮมเบอร์เกอร์ รับรองความอร่อยเหมือนเดิม" ปัด ๆ ตี ๆ มือเธียรให้ขยับออกไปก่อนยื่นถุงอาหารให้พ่อยอดดวงใจ
เตย์รับไปถือไว้แต่ก็ถูกเพื่อนตัวดีคว้าไปอย่างรวดเร็ว ฉันแยกเขี้ยวใส่พร้อมกับกระโจนเข้าไปยื้อแย่ง ด้วยความที่อีกฝ่ายตัวสูงกว่าแข็งแรงกว่าแค่เขาชูถุงขึ้นฉันก็คว้าไม่ถึงแล้ว
"ฮ่า ๆ ๆ ตอนเด็ก ๆ ไม่กินนมก็เงี้ย" ล้อไปเถอะ! เจ้าคนนิสัยไม่ดี
"เธียร" เสียงดุปราม
"ทำไม แกล้งนิดแกล้งหน่อยไม่ได้?"
"ไปกันได้แล้ว"
"โด่ววว มึงเองก็อย่าใจร้ายกับเขานักเลย เล่นตัวอยู่ได้ ...ไปล่ะหนูน้อย ขอบใจสำหรับของอร่อย"
"อ้าาาาา ไม่ได้นะ! นั่นมันของพ่อยอดดวงใจของฉันนะ ห้ามกินเด็ดขาดเลยน้าาาาา" ฉันตะโกนไล่หลัง
"ไม่เหลือแน่!!!" เธียรตะโกนกลับมา
"โธ่! เตย์ดูสิ" หน้างอหันกลับไปฟ้องเขา
"เธียรแค่แกล้ง" แก้ตัวให้เพื่อนอีกแน่ะ จะเข้าข้างกันสักนิดไม่มีหรอก
"งั้นก็อย่าลืมทานนะ"
"....."
"แล้วก็ตอนกลางวันเราขอไปทานข้าวด้วยได้เปล่า วันนี้มีเรียนถึงเย็นเลย อยากเจอหน้าเพื่อเติมกำลังใจ" ว่าแล้วก็ส่งสายตาปิ๊ง ๆ เราชัดเจนเพราะถ้าจะจีบก็ต้องเจอหน้ากันบ่อย ๆ แต่ว่าคราวนี้ถ้าเขาไม่ตอบเราก็จะไม่ไป ไม่ทึกทักเอาเองอีกแล้ว สิ่งเดียวที่กลัวมากตอนนี้คือกลัวเขาอึดอัด
"....." และใช่ค่ะ เขาเลือกที่จะไม่ตอบ แอบผิดหวังนิด ๆ แต่นี่มันก็คือความชัดเจนของเขาที่มีต่อฉันตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงตอนนี้
"โอเค... งั้นเราไปก่อนดีกว่า ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีน้าาา"
ฉีกยิ้มให้อย่างไม่คิดอะไร ขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์ก่อนหยิบหมวกกันน็อคแบบครึ่งใบสีชมพูมาสวมใส่จากนั้นก็...
"บ๊ายบายยยย"
โบกมือแล้วบิดมอเตอร์ไซค์ออกมา อายุแค่นี้หน้าที่เยอะแยะเหลือเกิน ถ้าเงินมันหาง่ายคนทั้งประเทศคงรวยล้นฟ้ากันหมด
เฮ้อ!!!
---50%---