น้ำหยดลงหินทุกวัน หินบอกรำคาญ แต่ถามว่าจะหยุดไหม ก็...ไม่จ้ะ! //ฉันก็รักของฉันเข้าใจบ้างไหม~~
รัก,ตลก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,ไทย,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Hello My lovely | รักนี้ขอจีบนะคะน้ำหยดลงหินทุกวัน หินบอกรำคาญ แต่ถามว่าจะหยุดไหม ก็...ไม่จ้ะ! //ฉันก็รักของฉันเข้าใจบ้างไหม~~
กินอะไรก็ไม่อร่อยเท่ากินเธอ เอ้ย! กินกับเธอ (2)
20 : 30 น.
ร้านกาแฟ
ประจำการที่เคาน์เตอร์เรียบร้อย ในร้านยังไม่มีลูกค้าเข้าจึงใช้เวลานี้ตรวจเช็ควัตถุดิบต่าง ๆ ซึ่งเราไม่ต้องเตรียมอะไรเลย ทางร้านเตรียมไว้ให้ทั้งหมด เราแค่มีหน้าที่ทำตามออเดอร์เท่านั้น
บอกเลยว่าโคตรเจ๋ง!
เมนูวันนี้เป็นผัดกระเพราหมูหมึกกุ้งเลือกได้ตามใจชอบ แกงจืดสาหร่าย ยำวุ้นเส้น แล้วก็ชุดรวมของทอด นะคะคุณลูกค้าขาาาา
เช็คของอะไรเสร็จก็มานั่งทบทวนบทเรียนระหว่างรอลูกค้าเข้าร้าน พาลทำให้คิดถึงเรื่องของเขาโดยไม่มีเหตุผล ด้วยความโลภที่อยากจะเข้าใกล้มากกว่านี้
"เฮ้อ~ คงมีโอกาสอยู่ละมั้ง ดูไม่ออกเลยว่าเขาคิดอะไร"
ไอ้เรื่องเผื่อใจน่ะเตือนตัวเองตลอดนั่นแหละ ของแบบนี้มันแน่นอนซะที่ไหน
กริ๊งงงงงงงง
เฮือก!
ตกใจเสียงโทรศัพท์ของร้าน
ฉันรีบลุกไปยกหูรับสาย ผู้จัดการบอกว่าถ้าโทรศัพท์เครื่องนี้มีคนโทรเข้ามาให้สันนิษฐานเอาไว้ก่อนเลยว่าปลายสายคือเจ้าของคอนโด เขามักจะโทรมาสั่งอาหารในเวลานี้ เมื่อทำเสร็จให้เอาขึ้นไปส่งยังชั้นบนสุด
อ่า...
ตื่นเต้นยังไงก็ไม่รู้
"สวัสดีค่ะ ร้านทีคอฟฟี่ยินดีให้บริการค่ะ" ตามแบบที่ผู้จัดการสอนเป๊ะ
(...สั่งอาหารหน่อยครับ)
ปลายสายเอ่ย ทำให้รู้ว่าเจ้าของเป็นผู้ชาย เสียงของเขานั้นทุ้มเข้มและให้ความรู้สึกคุ้นหูอย่างน่าประหลาด
"ค่า~ เมนูของวันนี้มีผัดกระเพรา สามารถเลือกเนื้อสัตว์ได้เป็นหมู ปลาหมึก แล้วก็กุ้งนะคะ ถัดไปเป็นแกงจืดสาหร่าย ยำวุ้นเส้น และอย่างสุดท้ายเป็นชุดรวมของทอดค่ะ ไม่ทราบว่าจะรับเป็นอะไรดี..." พยายามทำเสียงให้ให้และนุ่มนวลแบบสุด ๆ
(เอาทั้งหมดสามชุดครับ)
"รับทั้งหมดสามชุดนะคะ เตรียมอาหารประมาณยี่สิบนาที เสร็จแล้วจะรีบนำขึ้นไปส่งให้ค่ะ"
(ครับ ขอบคุณมากครับ)
อุ๊บ! พูดเพราะแถมยังมารยาทดีมากเลย ปกติคนมีเงินจะถือตัวกันไม่ใช่เหรอ คนประเภทเขานี่น่านับถือมากนะ
เอาล่ะ ๆ ไม่มีเวลามาสรรเสริญกัน เร่งทำออเดอร์แล้วเอาขึ้นไปส่งดีกว่า อยากเห็นว่าหน้าตาคุณเจ้าของคอนโดจะเป็นยังไง เดาว่าต้องงานดีแน่ ๆ เพราะเสียงเขาชวนให้หลงไหลมาก
ยี่สิบนาทีคือเวลาที่อาหารทุกอย่างลงกล่องพร้อมเอาขึ้นไปส่ง เปลี่ยนป้ายหน้าร้านเป็นคำว่าปิดชั่วคราว จากนั้นล็อคประตูแล้วเดินลัดเลาะไปยังทางเข้า
แลกบัตรพนักงานที่มีรูปหน้าเราติดอยู่กับคีย์การ์ดเพื่อใช้ขึ้นลงลิฟต์ ไม่พอแค่นั้นยังต้องยืนหน้ากล้องวงจรปิดเพื่อจับภาพเราไว้ และตรวจเช็คตามร่างกายเพื่อหาของอันตราย ทุกอย่างก็เพื่อความปลอดภัยของลูกบ้านทั้งหมด
สมกับเป็นคอนโดหรู
ติ๊ง!
ลิฟต์ขึ้นมาถึงยังชั้นบนสุด ทั้งชั้นเป็นของคุณเจ้าของคิดว่างั้นนะ เพราะมีประตูห้องบานใหญ่อยู่เพียงบานเดียว ฉันเดินตรงไปกดออด ยืนรอไม่นานก็ได้ยินเสียงประตูปลดล็อคแต่ไม่ยักกะเห็นใครมาเปิด เงียบกริบ...
"ต้องเดินเข้าไปอีกเหรอ?" พูดกับตัวเอง สองจิตสองใจว่าจะเข้าไปดีไหม คือมือน่ะจับที่เปิดประตูเตรียมเปิดเข้าไปแล้วนะ
สุดท้ายก็ถอนหายใจแล้วเปิดเข้าไป ค่อย ๆ ย่องมองสำรวจทางเข้าก่อนได้พบกับความกว้างขวางและการตกแต่งโทนสีน้ำตาลดำทั้งหมด ของที่ใช้เรียบหรูดูแพง ต้องยั้งสติไว้ไม่ให้ไปแตะต้องอะไร
กลางห้องเป็นโถงสูงประดับด้วยแชนเดอเลียร์ โซฟาหนังสีน้ำตาลเข้มชุดใหญ่ซึ่งไม่มีใครอยู่ตรงนั้น ด้านซ้ายเป็นบันไดขึ้นไปชั้นสอง ด้านขวาเป็นผนังและมีทางเดินเข้าไปด้านในอีก ฉันก็เลยเดินไปทางนั้น...
ปรากฎว่าทะลุไปยังอีกห้องหนึ่ง ห้องนี้น่าจะเป็นห้องนั่งเล่นเพราะเห็นทีวีเปิดอยู่ ส่วนด้านนอกก็คงเอาไว้โชว์หรือรับแขกนั่นแหละ และมีทางเดินให้เดินต่อไปได้อีก
ผู้จัดการบอกว่าต้องส่งให้ถึงมือ จะไม่มีการวางไว้แล้วกลับลงไปเพราะเราต้องเอาเงินค่าอาหารกลับไปด้วยนั่นเอง เหตุนี้ฉันถึงต้องเดินหาไงว่าคุณเจ้าของเขาอยู่ที่ไหน ไม่มีเจตนาจะรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวใด ๆ
เดินเลี้ยวมาตามทางก็เจอเข้ากับห้องครัวส่วนตรงข้ามเป็นห้องรับประทานอาหาร แน่นอนว่าไม่มีคนอยู่เช่นเดิม จะให้ขึ้นไปบนชั้นสองต่อฉันก็ไม่กล้าเลยกลับออกไปรอข้างนอกดีกว่า
รออยู่ประมาณสิบนาทีก็ได้ยินเสียงคนพูดคุยกันพร้อมกับเดินลงบันไดมา และในที่สุดก็ได้เห็นว่าเป็นใครเสียทีค่ะคุณผู้ชม
"อ้าว... เฮ้ย! เธอนั่นเอง"
"เธียรเหรอ?"
ต่างคนต่างตกใจเพราะไม่คิดว่าจะเจอกันในที่แบบนี้ ตามมาด้วยทิศเหนือคนพูดน้อย แล้วก็...
"เตย์!!!" ฉันร้องเรียกเขาเสียงดังอย่างลืมตัว
อีกฝ่ายเลิกคิ้วทำหน้าแปลกใจที่เห็นฉันมาอยู่ที่นี่ ถึงอย่างนั้นก็ยังคงคีพนิ่งน่าหมั่นไส้เล็กน้อยถึงปานกลางจนเผลอย่นจมูกใส่
"สวัสดีค่ะทุกคน เราเอาอาหารมาส่ง เราทำงานพิเศษที่ร้านกาแฟข้าง ๆ นี้เอง"
"อ่า ว่าแต่เธอชื่ออะไรนะ จำหน้าได้แต่ยังไม่รู้จักจักชื่อเลย ถามไอ้เตย์มันก็ไม่ยอมบอก" เธียรถาม
"อ๋อ เราชื่อกุ๋งกิ๋งน้า" ตบท้ายด้วยการฉีกยิ้มให้
"กุ๋งกิ๋ง..." เธียรเรียก
"อาฮะ เอานี่อาหารที่สั่ง"
ยื่นถุงให้เธียรไปถือต่อ
"เธอเป็นเจ้าของที่นี่ใช่ป่ะ" ถามสิ่งที่อยากรู้ต่อเลย
"ถ้าบอกว่าใช่จะเชื่อป่ะ?" คนจอมกวนยื่นหน้ามาใกล้
ฉันส่ายหน้าพลางขยับออกห่าง อย่ามาทำเจ้าชู้ไก่แจ้ได้ไหมไอ้คนหล่อนี่
"ออร่าไม่ได้" ก็ว่ากันตรง ๆ
"โอ้วเธอ... เจ็บจี๊ด"
ฉันหัวเราะท่าทางของเธียรที่เอามือกุมอกทำหน้าชอกช้ำเช่นเดียวกับที่เธียรก็หัวเราะออกมา
"หิวแล้ว" เสียงของเตย์ดังขัดจังหวะฉันเลยผละไปหาเจ้าตัวทันที
"ทานเลยไหมเดี๋ยวเราเปิดกล่องให้ เธียรเอามาสิ ถือไว้ทำไมเนี่ย" เดินกลับไปคว้าถุงอาหารมาถือไว้แล้วประกบพ่อยอดดวงใจทันที
"เอ้า! อะไรวะ" เธียรเกาหัวงง ๆ
"ทานที่ไหนดีคะสุดหล่อที่รัก" ก็ว่าไป พูดไปก่อนเดี๋ยวใจอ่อนเอง
"ไม่กลับไปทำงานหรือไง" เสียงทุ้มเอ่ยพลางมองหน้ากัน จริง ๆ เป็นคนที่ยิ้มเท่มากนะ อยากให้เขายิ้มให้สักครั้งจังเลย
"อุ๊ย! จริงด้วย งั้นใครเป็นเจ้าของคอนโดหรอ เราต้องเก็บเงินกับคนนั้น เตย์หรือว่าทิศเหนือ? ส่วนเธียรตัดทิ้งไปได้เลย"
"เหอ ๆ บ้านผมก็มีเงินพอตัวนะครับคุณผู้หญิง" หน้าของเธียรขมขื่นมาก คิคิ ตลกดี
"เอาไปสิ" เตย์หยิบเงินออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วยื่นให้ฉัน
"โอ๊ะ! สรุปว่าเตย์เป็นเจ้าของที่นี่... ไม่สิ! ทั้งย่านนี้เตย์เป็นเจ้าของหมดเลยใช่ไหม" น่าจะเป็นเขานั่นแหละ มาประติดประต่อกับตอนรับออเดอร์นี่มันเสียงของเขาชัด ๆ
เรื่องอะไรแบบนี้ทำไมฉันไม่รู้กันนะ แต่เรื่องส่วนตัวน่ะแบบชอบไม่ชอบอะไรอันนี้รู้... เรียกว่ารู้ใจเขาหมดทุกสิ่งทุกอย่าง
"อืม" เขาตอบแบบไม่ใส่ใจแล้วเดินไปทางห้องครัว ฉันก็เลยหิ้วถุงอาหารเดินตามไป มีเสียงของสองหนุ่มไล่หลังว่าไม่กลับลงไปทำงานหรือไง
เอาไว้ก่อนน่า มีโอกาสเต๊าะผู้ชายทั้งทีเอาให้คุ้มหน่อยซี่~
เตย์เดินเข้าไปนั่งในห้องทานอาหาร นี่ก็รีบหยิบกล่องอาหารออกมาเปิดให้
"เปลี่ยนเป็นใส่จานไหมคะ"
"ไม่เป็นไร" จากนั้นเขาก็ลงมือทาน
"อิจฉาจังโว้ยมีคนดูแลเนี่ย" เธียรเดินตามเข้ามานั่งพลางมองฉันสลับกับเพื่อนตัวเอง มองเหมือนจะพูดอะไรต่อแต่ก็ไม่พูด
ทิศเหนือเองก็มองราวกับรู้บางอย่าง ใช้วิธีสื่อสารทางสายตากับเธียร เรื่องอะไรกันหนอขอรู้ด้วยคนสิ
ฉันเลิกสนใจเปลี่ยนมานั่งเท้าคางมองสุดหล่อรับประทานอาหาร ท่าทางจะถูกปากนะกินใหญ่เลย
"เตย์เนี่ยทำให้ใจเราเต้นแรงตลอดเลยนะ" ว่าพลางฉีกยิ้มพร้อมกระพริบตาปิ๊ง ๆ
ทันทีที่พูดจบประโยคสองหนุ่มจอมช็อตฟีลก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น หัวเราะจนน้ำตาเล็ดอะคุณผู้ชม ฉันพูดอะไรผิดไปเหรอ?
"รู้แล้วว่าคลั่งรักหมอนี่มาก แต่ถึงกับพูดออกมาตรง ๆ เลยเหรอ" เธียรว่า
"แล้วต้องว่าไงอะ ก็เราใจเต้นแรงจริง ๆ หนิ พวกไม่เคยรักใครก็แบบนี้แหละ นิสัยเสีย..." ฉันหน้างอ เห็นความรู้สึกของคนอื่นเป็นเรื่องตลก
"ฮึ ๆ ไม่เอาน่า ที่หัวเราะเพราะเห็นว่าน่ารักดีต่างหาก ไม่เคยมีใครใจกล้าเท่าเธอ ว่าแต่...เผื่อใจไว้รองรับความเจ็บปวดแล้วใช่ไหม"
ทันใดนั้นทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบ บรรยากาศไม่ได้แย่ค่ะ แต่แค่ความจริงเป็นสิ่งที่เราทุกคนหนีไม่พ้น หันมองหน้าเตย์หากแต่เขาเอาแต่สนใจอาหารตรงหน้าไม่สนใจว่าฉันจะตอบอะไร
เอาเถอะ! คุยกันตรง ๆ ไม่ต้องไปคาดหวังอะไรจากใครทั้งนั้น เข้าหาเขาเอง อยากรักเขาเอง ก็ต้องยอมรับทุกอย่างที่เขาแสดงออกมาให้ได้
"แหมมม ก็ต้องเผื่อใจอยู่แล้วสิคะ แล้วเธอคิดว่ามีความเป็นไปได้ไหมที่ความรักของเราจะสมหวัง" เอียงหน้ามองชายหนุ่ม
ก่อนที่เธียรจะตอบได้ปลายตามองเตย์เล็กน้อย เพื่อนที่อยู่ด้วยกันมานานย่อมรู้ดีที่สุด
เตย์น่ะไม่เคยมีแฟนเลย ฉันเองก็ยังสงสัยทั้งที่มีผู้หญิงเข้าหาเขาเยอะแยะมากมาย เนื้อหอมเพราะหน้าตาดีแล้วก็มีชาติตระกูล นั่นแหละฉันไม่เห็นเขาคบใครเลยจริง ๆ นะ เดินควงก็ไม่เคยเห็น
"แปดสิบยี่สิบไปก่อนแล้วกัน" เธียรตอบ
"ก็ถือว่าเยอะนะ ทิศเหนือล่ะคิดว่าไง เรามีแววสมหวังไหมคะ"
"ให้แค่ห้าเปอร์เซ็นต์" ทิศเหนือตอบ
"อ๋าาาา น้อยจัง"
"ตามนั้น เตย์มันเป็นประเภทรักคือรัก ไม่รักคือไม่รัก ต่อให้พยายามแค่ไหนถ้าไม่รู้สึกรักก็จะไม่รักเด็ดขาด" คนพูดน้อยว่า
"ก็ชัดเจนดี ยังไงขอโอกาสให้เราหน่อยนะคะเตย์" หันไปปิ๊ง ๆ ทำตาเว้าวอนใส่คนเย็นชาที่ตอนนี้ทานข้าวหมดแล้ว เขาก็นั่งฟังโดยไม่ค้านนะดูสิ
"กลับไปทำงานได้แล้ว ไม่งั้นจะบอกผู้จัดการให้ไล่ออก" เขาหันมาสบตา
"อย่าทำแบบนั้นเชียวนะคะ ขอร้องเลย เงินเป็นสิ่งจำเป็นต่อเรามาก เด็กแฟชั่นค่าใช้จ่ายเยอะไม่ไหว"
"เรื่องของใคร" คุณเขาแรงมากฮะ
ฉันเบะปากแล้วลุกขึ้นยืน เขาไล่แล้วจะอยู่ต่อทำไม อยากตกงานหรือไง เขาเป็นถึงเจ้าของย่านนี้เลยนะ อายุน้อยร้อยล้านของแทร่!
"งั้นไปแล้วนะคะ ถ้าทำงานดึกก็รักษาสุขภาพด้วย" รักเขาเป็นห่วงเขาสุดหัวใจ
"เดี๋ยวผมลงไปด้วย จะไปหากาแฟดื่มสักแก้ว" เธียรลุกขึ้นยืน
"มีงานต้องคุยต่อนะเธียร" เสียงดุ ๆ ของเตย์เอ่ยบอกเพื่อน
"ไปเถอะ ก่อนหน้านี้ก็เพิ่งคุยไป" ทิศเหนือเอ่ยขัดพลางโบกมือไล่ให้ไปได้
"โอเค ไปเถอะ ขอกาแฟเข้ม ๆ สักแก้วนะกุ๋งกิ๋งจอมแก่น"
"จอมแก่น? ไม่ใช่ซะหน่อย"
"งั้นจอมยุ่ง"
"ไม่เอา ต้องกุ๋งกิ๋งคนสวยเท่านั้น"
"ไม่เห็นจะสวยเลย"
"ก็แกล้งชมหน่อยไม่ได้หรือไง"
"เรื่องอะไรล่ะ"
"แย่มาก"
.
.
.
---100%---