น้ำหยดลงหินทุกวัน หินบอกรำคาญ แต่ถามว่าจะหยุดไหม ก็...ไม่จ้ะ! //ฉันก็รักของฉันเข้าใจบ้างไหม~~
รัก,ตลก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,ไทย,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
คู่แข่งกลับมาแล้วนะคุณผู้ชม (1)
เช้านี้มีความสุข...
ตื่นมาเห็นเงินเดือนเข้าบัญชีแล้วดีใจ ได้มากกว่าตอนทำงานที่ร้านบะหมี่ของหม่าม้าซะอีก มากกว่าสามสี่เท่าเห็นจะได้
ระยะเวลาหนึ่งเดือนจะว่าช้าก็ช้าจะว่าเร็วก็เร็ว แต่สำหรับฉันรู้สึกทั้งสองอย่างเลย เวลาอยู่กับเขาเวลามักผ่านไปเร็วจนใจหายแถมยังไม่มีอะไรคืบหน้าอีกต่างหาก ขณะเดียวกันเวลาเรียนกับทำงานเวลามันช่างผ่านไปช้าจนเหนื่อยหน่ายใจ
เข้าเดือนใหม่ก็หวังว่าเขาจะเปิดใจให้เรามากขึ้น และที่สำคัญฉันได้ข่าวมาว่าจันทร์เจ้า เนตรนรินทร์ ดาวมหา'ลัยคนนั้นน่ะกลับมาแล้วนะจ๊ะ
เขาพูดถึงกันทั้งมหา'ลัย ขนาดคนไม่เล่นโซเชียลอย่างฉันยังรู้ คู่จิ้นคู่จริงกลับมาทวงบัลลังก์บลา ๆ น่าเบื่อ...
ช่างเถอะ! ฉันก็ทำในส่วนของตัวเองไป ถ้าเขาบอกว่าให้หยุดฉันถึงจะหยุด
เช้านี้ทำอะไรให้พ่อยอดรักยอดดวงใจทาน อืม... ก็มีเส้นหมี่ไก่ฉีก เกี๊ยวห่อไข่นกกระทาทอด แล้วก็ซุปไก่ รับรองความอร่อยโดยเชฟยัยน้องกุ๋งกิ๋งเช่นเคย
แว้นมอเตอร์ไซค์ฮ่างคู่ใจมายังคณะวิศวะเจ้าเก่าเจ้าเดิม มาจนคนทั้งคณะเขารู้กันหมดแล้วว่าอิฉันคนนี้ตามจีบ 'เตย์ ทมโภลี' อยู่
ใจจริงก็ไม่อยากให้พูดกันหรอก แต่ด้วยความที่พ่อยอดยาหยีเขามีดีกรีเป็นถึงลูกหลานตระกูลมหาเศรษฐี มีใครบ้างที่ไม่อยากรู้เรื่องชีวิตรักของเขา
เวลาดีเวลาเดิม ซุปเปอร์คาร์สีเงินคันหรูหราเลี้ยวเข้ามาจอด ฉันฉีกยิ้มให้กับความหล่อดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า
อุ๊ย! ตัดผมมาใหม่ด้วยล่ะ ทรงนี้ฉันรู้จักมันคือทรงมูเล็ต ซึ่งทรงผมเดิมก่อนหน้านี้ของเขาคือ Bro Flow เซอร์นิด ๆ ผมยาวหน่อย ๆ ที่มักจะมัดรวบครึ่งหัวหรือไม่ก็ปล่อยแล้วทัดหูเอา
แม่เจ้าโว้ยยยย ทรงนี้ทำเอาเขาแบดบอยจัด ๆ ใจอิฉันจะขาด กร้าวใจต้อนรับเดือนกรกฎาคมมากค่ะคุณผู้ชม
พอเห็นฉันไม่วิ่งไปหาอย่างทุกทีก็เหมือนจะหยุดรอและหันมองนะ อุ๊ยตาย...ขอโทษค่ะพอดีมัวแต่ตะลึงกับความหล่อเหลาที่ทำเอาตาพร่าเบลอ
"สวัสดีค่ะเตย์" คำทักทายเดิม ๆ ก็จริงแต่คนไม่เคยเบื่อเลยนะคะ
แล้วคนฟังล่ะ เบื่อหรือเปล่าาาา
"อืม"
เป็นไง เดี๋ยวนี้มีพัฒนาการนะ
"ตัดผมใหม่เหรอคะ หล่อมากเลย หล่อแบบหล๊อหล่อ" ว่าพลางยกนิ้วโป้งข้างนี้แล้วก็ข้างนี้ให้เลย
"....." แน่นอนว่าคำชมไม่สามารถกระตุกต่อมความรู้สึกของเขาได้เจ้าค่ะ
"แหม ยิ้มให้กันสักนิดสักหน่อยก็ไม่ได้ เอานี่...ทานให้อร่อยนะ"
เขารับไปถืออย่างไม่อิดออดหากแต่สายตายังคงจับจ้องมาที่ฉัน เข้าใจแหละเพราะเรามันคนหน้าแปลก ผมหยิกด้วยแล้วก็เตี้ยด้วย เฮอ~ มีอะไรดีบ้างเนี่ย
"มีอะไรหรือเปล่าคะ" เอียงหน้าถาม
"เปล่า ผมต้องไปแล้ว" เขาตอบพร้อมกับหันหน้าไปทางอื่น
"อ่อ งั้นก็ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดี บ๊ายบายยยยย" โบกมือลาเช่นทุกครั้ง
11 : 45 น.
อาจารย์ออกไปแล้วฮะ แต่ที่ยังไม่มีใครออกจากห้องเป็นเพราะต้องส่งแบบแพทเทิร์นก่อนเที่ยง ต่างคนก็ต่างตั้งใจในห้องจึงเงียบมาก
"กวาง ๆ แกเห็นรูปของจันทร์เจ้าที่เขาลงในเพจมหา'ลัยหรือยัง"
"เห็นแล้ว สวยมากเลยเนาะ ออร่ากระจาย รู้สึกว่าผมจะยาวขึ้นขาวขึ้นด้วยไหม"
"ใช่ ๆ แล้วแบบนี้ผู้ชายที่ไหนจะไม่มองอะ"
"โดยเฉพาะ 'เตย์ ทมโภลี' คนนั้นใช่ป่ะ เขาเหมาะกันมากเนาะแก"
"น่าอิจฉาชะมัดเลย คนนึงก็สวยคนนึงก็หล่อ เข้ากันสุด ๆ"
แต่มันก็มีเสียงนกเสียงกาคอยรบกวนสมาธิคนอื่น เหมาะกันแล้วยังไง เข้ากันสุด ๆ แล้วยังไง สุดท้ายก็ไม่ได้เป็นอะไรกันป่ะ
หงุดหงิด!
ไปคุยกันไกล ๆ หน่อยดิ๊
"กระดาษยับหมดแล้วกุ๋งกิ๋ง" ชะเอมที่นั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ เอ่ยทัก
ฉันสะดุ้งตัวด้วยความตกใจรีบปล่อยมือออกจากกระดาษที่ต้องส่ง นี่คือผลของการหึงหวงจนไม่ได้สติจ้ะคุณน้า
"โอเคไหม" ชะเอมถามย้ำ
"โอเค ๆ พอดีใช้สมองเยอะไปหน่อย" เป็นบ้ามากไปน่ะสิไม่ว่า
"ไม่ต้องซีเรียสเราพึ่งเริ่มเรียนกันเอง ผิดถูกตรงไหนเดี๋ยวอาจารย์ก็แก้ให้"
"อืม ขอบใจนะ"
"จ้า"
12 : 10 น.
ส่งงานเสร็จเรียบร้อย กึ่งเดินกึ่งวิ่งลงบันไดเพราะนัดแก๊งเพื่อนเอาไว้ใต้ตึก วันนี้เราจะไปกินข้าวกันที่โรงอาหารวิศวะค่ะ
"ให้ไวเลยยัยตัวดี รู้ไหมว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น" น้ำเงี้ยวพุ่งมาดึงฉันไปรวมกลุ่ม ใบหน้าของทุกคนตอนนี้ดูเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
"มีอะไรกันเหรอ" ถามพลางมองหน้าทุกคน
"ดูนี่สิ ตายแน่กุ๋งกิ๋งเอ๊ยยย คู่แข่งแกน่ากลัวมาก" พาสเทลยื่นโทรศัพท์มือถือรุ่นล่าสุดของเจ้าตัวมาให้ดู
ในหน้าจอเห็นเป็นเพจมหา'ลัยลงรูปถ่ายของพ่อยอดดวงใจกับแม่สาวดาวนิเทศคนสวยยืนคุยกันอยู่หน้าโรงอาหาร พร้อมข้อความอวยยศจิ้นระเบิดแตกตามประสา
อ่านไปคิ้วก็ขมวดไป
"แกโอเคไหมอ่ากิ๋ง~" ลูกเจี๊ยบถามเสียงอ่อย แววตาสงสารกันสุด ๆ
"ยังไม่แพ้ซะหน่อย ถึงความสวยจะสู้ไม่ได้ แต่ว่าความจริงใจน่ะเต็มเปี่ยมนะค้าบบบ"
พรึ่บ! ไฟแห่งความมุ่งมั่นลุกโชน
"เออ มันต้องอย่างงี้ดิวะ ไป! รีบไปทำคะแนนกันดีกว่า" น้ำเงี้ยวกอดคอฉันพลางชูมือขึ้นส่งกำลังใจ
"เอาไงก็เอา ไปให้สุดทาง ถ้าแพ้เดี๋ยวพวกเราหามแกกลับเอง" สามว่างั้น ทุกคนดูมุ่งมั่นและให้กำลังใจฉันดีมาก เพื่อนแท้มันต้องแบบนี้ดิ
ขอแวะร้องไห้ก่อนได้ไหม
ซึ้งจัด...
แก๊งคนดีมุ่งหน้าสู่โรงอาหารวิศวะ ต้องบอกว่าเขาเลือกทำเลดีมากนะฮะ เป็นแบบเปิดมีลมพัดโกรกตลอดเวลา จะเห็นได้ว่าที่นี่ไม่ติดพัดลมเลยสักตัว
วันนี้คนเยอะจนแทบไม่เหลือโต๊ะว่าง พอแม่สาวดาวมหา'ลัยคนสวยกลับมา ก็ทำให้ผู้หญิงจากคณะอื่น ๆ กล้าที่จะมาเยือนคณะนี้กันมากขึ้น
อย่างว่าผู้ชายคณะนี้คือแรร์ไอเทมของแทร่! มีแต่หล่อ ๆ ฐานะดีทั้งนั้น เพราะอย่าลืมสิคะว่ามหา'ลัยแห่งนี้เนี่ยเป็นของเอกชนที่ค่าเทอมไม่ต่ำกว่าหนึ่งแสนบาททุกคณะ
พริวิเลจฉ่ำ!
"พวกเราจะไปนั่งตรงโต๊ะนั้นนะ ส่วนแกก็รีบไปหาเขาซะ อย่าให้ยัยนั่นแย่งไปได้เด็ดขาด" สามสั่งการ
"รับทราบ ครับผม!" ตะเบ๊ะให้ผู้บัญชาการ
ดูสิดู... หน้าสิ่วหน้าขวานยังมีเวลามาเล่นตลก
โต๊ะของแก๊งพ่อเทพบุตรสุดหล่ออยู่ตรงกลางเลยค่ะ เข้าใจเลือกจุดนะ ทุกสายจับจ้องมองสังเกตการณ์ได้อย่างสะดวกโคตร ๆ
ที่โต๊ะนั่นนอกจากพวกหนุ่ม ๆ แล้วก็ยังมีจันทร์เจ้าคนสวยนั่งอยู่ด้วย นั่งอยู่ตรงข้ามกับ เตย์ ทมโภลี คนดีของใจยัยน้องกุ๋งกิ๋ง คุยจ้อไม่หยุดปาก เฮอ~ หงุดหงิดจริง ๆ
เธียรเป็นคนที่เห็นฉันก่อนคนแรก เขาร้องเรียกฉันทำให้ทุกคนหันมามองกันเป็นตาเดียว รวมถึงพวกชาวบ้าน 1 2 3 4... ที่ต่างก็สงสัยว่าฉันเป็นใคร
"ปกติไม่เห็นโผล่มานี่หว่า แสดงว่าข่าวเร็ว" เธียรว่า
"สวัสดีค่ะทุกคน" จิกตาใส่คนพูดก่อนเอ่ยทักทาย
"น่ารักขึ้นกว่าครั้งก่อนหรือเปล่า"
"เราจะถือว่าเป็นคำชมแล้วกันนะเป็นหนึ่ง" ส่งยิ้มให้เขา
"น่ารักจริงนะเว้ย ถ้ามึงไม่เอากูขอได้ป่ะ" นั่น! มีการหันไปขอจากเตย์ที่มองมานิ่ง ๆ ซึ่งเขาไม่พูดหรอก ไม่อะไรกับฉันทั้งนั้นแหละ
"อย่าทำตัวน่าเกลียดสิคะ เจอกันทีไรทำตัวแบบนี้ตลอดเลย"
"อุ๊บส์! ฮ่า ๆ ๆ ไอ้หนึ่งโดนด่า" พบพานหัวเราะขึ้นมาทันที ถูกใจถึงขนาดยกนิ้วให้
คนโดนด่าหน้าเหวอสิคะนาทีนี้ยิ่่งเรียกเสียงหัวเราะให้กับทุกคนได้เป็นอย่างดี ฉันเองก็หัวเราะพลางมองหน้าเตย์ที่ยังคงเรียบเฉย
"แล้วนี่จะนั่งด้วยกันหรือเปล่า" เธียรถาม เขานั่งอยู่ข้างพ่อยอดดวงใจเลยจะขยับออกให้ละมั้ง
"ได้ใช่ไหมคะ" ถามรวม ๆ ทุกคน
"ได้ดิ รู้กันอยู่แล้ว" คราวนี้ทิศเหนือคนพูดน้อยเป็นคนเอ่ย
"งั้นเราไปซื้อข้าวก่อน ฝากกระเป๋าหน่อยเธียร" ส่งกระเป๋าให้ชายหนุ่มแล้วสาวเท้าเดินไปทางร้านขายอาหาร
กินอะไรดี กินอะไรดี...
ก๋วยเตี๋ยวแล้วกันง่ายสุด
คนเยอะคิวก็เยอะตาม แต่ป้าเขาทำเร็วบวกกับมีผู้ช่วยแป๊บเดียวก็ถึงคิว ฉันจึงสั่งบะหมี่ต้มยำพิเศษลูกชิ้น
ซื้อเรียบร้อยก็ยกกลับมาที่โต๊ะ เห็นพวกเพื่อน ๆ ชูสองนิ้วให้กำลังใจก็ฉีกยิ้มกว้าง เรามันเลือดนักสู้อยู่แล้วเพื่อนเอ๋ย
---50%---