น้ำหยดลงหินทุกวัน หินบอกรำคาญ แต่ถามว่าจะหยุดไหม ก็...ไม่จ้ะ! //ฉันก็รักของฉันเข้าใจบ้างไหม~~
รัก,ตลก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,ไทย,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ในวันที่ฝนตกกับเธอ (1)
สงสัยต้องไปทำบุญเก้าวัดเพื่อเพิ่มระดับของแต้มบุญให้สูงยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพราะรู้สึกว่าวันนี้จะใช้หมดไปเป็นที่เรียบร้อย
"เราขอจ่ายให้เองนะคะ" ฉันชิงพูดก่อนทันทีที่ก้นแตะลงบนเก้าอี้นั่งภายในร้านอาหารแถวนอกเมือง
มาไกลมากค่ะ
"ทำไม" เขาถามเสียงเข้ม คิ้วขมวดนิด ๆ ทำให้รู้ว่าไม่พอใจ
อ่า...
"เราอยากจ่ายให้ ถึงจะไม่รวยเท่าแต่เราเลี้ยงเธอได้" สาบานหลังจากนี้จะตั้งใจทำงานเก็บเงินไว้ดูแลเธอคนเดียว
"พูดไปเรื่อย เก็บเงินไว้จ่ายค่าเทอมเถอะ เดี๋ยวผมจ่ายเอง" เขาว่า ก่อนคว้าเมนูมาเปิดดู
ฉันยิ้ม ๆ หยิบเมนูมาดูบ้าง
ก็นะ...ผู้ชายที่ไหนเขาให้ผู้หญิงเลี้ยงกันล่ะ ไอ้เราก็ป๋าไม่พอด้วย เอาเงินที่สามให้มาเปย์ต่ออีกที
แฮะ แฮะ น่าอายจัง
"เอางั้นก็ได้ เราแค่อยากดูแลเองค่ะเธอ ก็เรารักของเรามาตั้งนาน" ฉันเอ่ยบอกเสียงหวาน
เขาปรายตามองโดยไม่พูดอะไรแล้วหันไปสั่งอาหารกับพนักงาน สั่งหลายอย่างเสร็จสรรพโดยที่ฉันไม่ต้องสั่งเพิ่มจากนั้นก็นั่งรอ
เพื่อไม่ให้บรรยากาศเสียและเขาอึดอัด เราหาเรื่องคุยหน่อยดีกว่า
"มาทำอะไรแถวนี้เหรอคะ"
แถวนี้ไม่ค่อยมีอะไรเลยฮะ แต่มีที่ดินรกร้างเยอะมาก มีหมู่บ้าน มีร้านค้า ร้านอาหาร แล้วก็ย่านการค้าเล็ก ๆ ก่อนจะมาจบที่หาอะไรกินเขาขับรถวนสำรวจรอบ ๆ มาแล้วนั่นเองค่ะ
"ซื้อที่ดิน" เขาตอบ มือก็พิมพ์แชทคุยกับใครบางคน
"จะทำธุรกิจเพิ่มสินะ" เก่งจังเลยเนาะ อายุแค่นี้แต่รู้จักขยับขยายกิจการ ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีเงินทุนด้วย ก็คงหนีไม่พ้นท่านเจ้าสัวนั่นแหละ
"จะสร้างโรงงาน หอพัก แล้วก็อีกหลายอย่าง" เขาพูดด้วยท่าทางสบาย ๆ ทำให้ฉันยิ้มโล่งใจในทันที
"ว้าววว เก่งจัง แล้วถามได้ไหมว่าเป็นโรงงานอะไร" เรื่องของเขาตัวเราอยากรู้หมดทุกสิ่งทุกอย่าง
"ยังไม่ได้คิด แค่เตรียมทุกอย่างไว้ก่อนเฉย ๆ"
"อ๋าาา อย่างนี้นี่เอง ทำเกี่ยวกับของกินแน่นอนกว่าไหมเพราะยังไงก็ขายได้ เป็นเวชสำอางก็ดีนะหรือสกินแคร์ก็ไม่เลว" เห็นว่าสองอย่างนี้ตีตลาดได้แตกสุด ๆ
นั่งเท้าคางมองออกไปนอกร้าน เสื้อผ้าแฟชั่นก็ถือว่าตีตลาดด้วยไหมนะ แต่ก็ต้องเป็นแบบที่คนทั่วไปนิยมใส่กันถึงจะขายได้ เราเองก็ไม่ใช่แนวแฟชั่นจ๋าซะด้วย แค่ชอบในการตัดเย็บเสื้อผ้า ก็หวังว่าในอนาคตร้านที่จะเปิดจะดำเนินไปได้ด้วยดี
ไม่รู้ว่าคิดเรื่องของตัวเองนานแค่ไหนรู้ตัวอีกทีอาหารที่สั่งก็มาเสิร์ฟเป็นที่เรียบร้อย เขาเรียกให้ฉันลงมือทานได้แล้ว
"อร่อยดีนะคะ ไม่รู้ว่าหิวด้วยหรือเปล่า อืมมม ส่วนฝนนี่ก็คงตกปรอย ๆ จนถึงเย็น" ไม่มีทีท่าจะหยุดจริง ๆ นะ ผลพวงจากพายุที่เคลื่อนผ่านมานั่นแหละ
"ที่เธอแนะนำมาเมื่อกี้นี้..." หมายถึงเรื่องธุระกิจ
"ค่ะ น่าสนใจใช่ไหม"
"อืม อาจจะทำทั้งสอง"
"หืม? อย่างเดียวก่อนดีไหม สองอย่างมันจะหนักไปหรือเปล่าคะ เธอเองก็ยังต้องเรียนอยู่นะ" กลัวว่าเขาจะไม่มีเวลาจนเราอดเจอหน้าด้วยอะไรด้วย
"คงงั้น เอาไว้ตัดสินใจอีกที ยังต้องคุยกับอีกหลายฝ่ายถึงจะลงมือทำได้"
"เยี่ยมค่ะ" พยักหน้าพร้อมกับยกนิ้วโป้งให้เขาเป็นการชมเชย
แล้วเขาก็มองหน้าฉันนิ่ง ๆ ราวกับกำลังคิดอะไรอยู่ โธ่...คนอย่างกุ๋งกิ๋งก็จริงจังเป็นน้า ให้คำแนะนำได้ดีด้วย พึ่งพาได้สุด ๆ แบบนี้ต้องแต่งงานสร้างครอบครัวกันแล้วไหม
กร๊ากกกก ว่าไปนั่น
"ฮะ ฮะ ฮะ ๆ ๆ"
"หัวเราะอะไร"
เฮือก!
มัวแต่เพลิดเพลินกับความคิดของตัวเองจนเผลอทำตัวเด๋อด๋าบ้า ๆ บอ ๆ ให้เขาเอือมระอาอีกแล้ว
"แค่คิดว่าตัวเองก็มีประโยชน์เหมือนกัน"
"อืม" เขาพยักหน้าเห็นด้วย ฉันก็เลยฉีกยิ้มให้ด้วยความดีใจ
ทานอาหารเสร็จก็ตามเขาไปเดินดูที่ดินที่จะซื้อ เจ้าของเขามารออยู่ก่อนแล้วค่ะ ก็เลยปล่อยให้พ่อยอดรักนักธุรกิจคุยงานไปส่วนตัวเองขยับออกมาแอบถ่ายรูปเขาเก็บเอาไว้ เซลฟี่ตัวเองกับด้านหลังของเขา เอาให้คุ้มเพราะหลังจากนี้แต้มบุญน่าจะหยุดทำงาน
สรุปเขาตกลงซื้อขายกันนะคะ แต่น่าจะนัดเซ็นอะไรกันทีหลังเพราะคนดีของฉันต้องให้ทนายมาเป็นพยานด้วยนั่นเอง
ตอนนี้บ่ายสามโมงแล้วฮะ ไม่รู้สึกเบื่อเลยแม้แต่น้อย แค่ได้อยู่ใกล้ ๆ นั่งมองคนเก่งทำงานก็แสนสุขใจ
"ไป กลับกันได้แล้ว" เขาเดินกลับมาหลังจากแยกกับเจ้าของที่ดิน
"ทุกอย่างเรียบร้อยดีใช่ไหมคะ"
"อืม เป็นไปด้วยดี นัดอีกทีอาทิตย์หน้า" เขาตอบ
วันนี้เราคุยกันเยอะกว่าวันไหน ๆ ช่องว่างค่อย ๆ แคบเข้ามาทีละน้อย
"เตย์... สิ่งที่ทำอยู่มีความสุขดีใช่ไหม" อดไม่ได้ที่จะถามเขา
การเกิดมาในตระกูลระดับนั้นย่อมมีความกดดันในการดำเนินชีวิตอยู่แล้ว ร่ำรวยใช้เงินสบาย ๆ ก็จริง แต่ความสบายก็ย่อมแลกมาด้วยการงานที่หนักหน่วงเช่นกัน
เขานิ่งเงียบไม่รู้ว่าเพราะคำถามมันไปสะกิดต้อมอะไรเข้าหรือเปล่า ฉันแค่อยากให้เขาใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ทำในสิ่งที่อยากทำ ไม่กดดันตัวเองจนเกินไป
เตย์น่ะเก่งอยู่แล้ว
"เรารักเธอมากกว่าที่เธอคิด แค่พูดมาคำเดียวเราพร้อมทำให้ได้ทุกอย่าง ขอแค่เธอมีความสุข"
"......"
"ยกเว้นเรื่องที่จะให้เลิกยุ่งกับเธอไว้เรื่องนึงนะ เรายังไม่พร้อมที่จะทำแบบนั้น" ยิ้มแหย มีแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวเท่านั้นที่ยังทำใจไม่ได้
สายฝนลงมาหนักอีกครั้ง ฉันเลยชวนเขากลับไปที่รถ บทสนทนาเราลงเพียงแค่นี้ เขาไม่พูดอะไรออกมาอีก คิ้วได้รูปยังคงขมวดมุ้นครุ่นคิดเรื่องบางอย่าง
กระทั่งเดินทางกลับเข้าเมือง
"โอเคไหม ทำไมดูเครียดขนาดนั้น" ถือวิสาสะแตะเบา ๆ ที่แขนของเขา
"ไม่... ไม่มีอะไร เธอไม่จำเป็นต้องอุทิศตัวเองเพื่อใครทั้งนั้น เธอควรใช้ชีวิตเพื่อตัวของเธอเอง" เขาพูดด้วยน้ำเรียบนิ่ง ดูไม่ออกเลยเนาะว่ากำลังคิดอะไรอยู่ เข้าใจยากชะมัด
"เราก็กำลังทำอยู่นี่ไง ไม่มีวันไหนที่เราไม่มีสุขเลยนะคะ การได้เจอหน้าเธอก็คือความสุขอย่างนึง" หันไปยิ้มให้เขา
"งั้นเหรอ" เขาพูดเหมือนไม่เชื่อ ตามองถนนไม่วอกแวก ตั้งใจขับรถเพราะฝนตกหนัก
"ช่ายยยย ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว เตย์คือเหตุผลที่ทำให้เราอยากไปโรงเรียนนะรู้ไว้ด้วย ฮ่า ๆ ๆ"
ฉันหัวเราะปากกว้างเมื่อนึกถึงเรื่องสมัยมัธยมปลาย ยังมีอีกหลายเรื่องราวเลยนะที่ทำอะไรตลก ๆ เพื่อที่จะได้เจอหน้าเขาทุกวัน พวกเพื่อน ๆ เองก็คอยซัพพอร์ตกันสุดชีวิต
ตอนนั้นสนุกมากเลยล่ะ
"ขอป๋ากับหม่าม้าไปทำเลสิกเพื่อที่จะได้มองเห็นเธอแข่งฟุตบอลแบบชัด ๆ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เห็นเพราะดันเป็นอีสุกอีใส นอนซมตั้งหลายวัน" ว่าแล้วก็ขำตัวเอง ตอนนั้นงอแงเป็นเด็กสองขวบเลย
"ทำไมถึงไม่สารภาพรักตั้งแต่ตอนนั้นล่ะ" เตย์ถามกลับมา
"โหยยย ที่ถามเนี่ยเพราะไม่รู้จริง ๆ ใช่ป่ะ อยากจะบ้าตายรายวันเพราะตอนนั้นเธอกับเพื่อน ๆ ของเธอฮอตมาก ดังไปถึงโรงเรียนข้างเคียง แล้วตอนนั้นเราก็ไม่ได้น่ารักเท่าตอนนี้ด้วย"
"น่ารักเท่าตอนนี้งั้นเหรอ ฮึ ๆ"
หนะ นี่... นี่เขากำลังหัวเราะอยู่งั้นเหรอ แม้จะเป็นแค่การขบขำในลำคอ มุมปากยกขึ้นเพียงเล็กน้อยก็ตาม
โอย ให้ตายเถอะ หัวใจของฉันมันจะเอาอะไรมารับไหว
หล่อเท่เหลือเกินพ่อยอดรักยอดดวงใจของกุ๋งกิ๋ง อยากกระโจนไปจุ๊บ ๆ แก้มให้ช้ำซะจริง
เฮอ~ เราแพ้เธอมาตั้งนานแล้ว
รู้ไว้ด้วยตาตัวดี!
---50%---