น้ำหยดลงหินทุกวัน หินบอกรำคาญ แต่ถามว่าจะหยุดไหม ก็...ไม่จ้ะ! //ฉันก็รักของฉันเข้าใจบ้างไหม~~
รัก,ตลก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,ไทย,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ใช่แน่ ศัตรูหัวใจของแทร่!! (2)
10 : 30 น.
แชทกลุ่ม 'มันจะมีอยู่คนหนึ่งที่บ้าผู้ชาย' (ชื่อห้องเปลี่ยนทุกอาทิตย์แล้วแต่ว่าใครจะคิดได้)
กุ๋งกิ๋งรักเตย์มาก : เที่ยงนี้มีใครเลิกตรงกันบ้าง เรื่องใหญ่แล้วววว เรื่องใหญ่!!! คุยในนี้ไม่แซ่บ! ต้องคุยต่อหน้าเท่านั้น
สามหวาดดีจ้า : ขอผ่าน
สีพาสเทล : ผ่านเหมือนกัน
ขอผ่านคือการบอกว่ามีเรียนถึงค่ำหรือไม่ว่างจนถึงดึก ต่างคนก็ต่างมีหน้าที่ เข้าใจได้ฮะ
ดาวลูกไก่ : เสียดายมาก แต่ผ่านเหมือนกัน ซอรี่น้าาาา
น้ำเงี้ยวอร่อย : ผ่านด้วยจ้าาา
แงงงงง สรุปไม่มีใครว่างเลยเหรอเนี่ย
สามหวาดดีจ้า : เรื่องด่วนไหม เจอกันวันเสาร์สิ
ดาวลูกไก่ : ถ้าเป็นวันเสาร์เราว่างนะ
สีพาสเทล : เหมือนกัน ๆ ด่วนไหมยัยกิ๋ง
น้ำเงี้ยวอร่อย : เสาร์อาทิตย์ไปได้ นัดมาเลย
กุ๋งกิ๋งรักเตย์มาก : โอเค ๆ งั้นเป็นวันเสาร์นะ เรื่องใหญ่จริงแต่ไม่ด่วน
สามหวาดดีจ้า : เกี่ยวกับเขา?
กุ๋งกิ๋งรักเตย์มาก : ไม่เชิง แต่เป็นเรื่องของดาวนิเทศคนนั้นมากกว่า
สีพาสเทล : โอ้ววว แสดงว่าลายออก
น้ำเงี้ยวอร่อย : คิดไว้ละว่าต้องไม่ใส
ดาวลูกไก่ : ของแทร่ใช่ไหมกิ๋ง
กุ๋งกิ๋งรักเตย์มาก : ของแทร่!!! ตาสว่างจ้า
สามหวาดดีจ้า : โอเค งั้นวันเสาร์เจอกัน
น้ำเงี้ยวอร่อย : จัดชุดใหญ่ไปเลย
สีพาสเทล : พร้อมเสมอเมื่อเจอปัญหา
ดาวลูกไก่ : ไว้เจอกันน้า
สรุปนัดรวมตัวกันวันเสาร์ ฉันที่คันปากอยากเม้าท์จำใจต้องเก็บเรื่องราวเอาไว้ก่อน
มีเรียนแค่ครึ่งวันเลยรีบกลับบ้านไปนอนพักเอาแรง ช่วงนี้พักผ่อนน้อยจนกลัวว่าตัวเองจะป่วยเข้าสักวัน ฝนก็ตกบ่อย สาธุท่วมหัวเลยว่าขออย่าป่วยนะคะตัวฉัน
กลับมาถึงบ้านก็พบว่าหม่าม้ากับพี่ชายมาถึงแล้ว บีบแตรให้มาช่วยเปิดประตูรั้วให้หน่อย รอไม่นานก็เห็นร่างสูงใหญ่สุดล่ำบึกเดินออกมาเปิดประตูรั้วให้
ฉันค่อย ๆ เลี้ยวรถเข้าไปจอดอย่างระมัดระวังเพราะข้างหนึ่งเป็นรถของหม้าม่าและอีกข้างหนึ่งเป็นรถกะบะของพี่ชาย ฉะนั้นจะเหลือช่องว่างแค่ตรงกลางที่เข้าไปจอดได้ ทำไมจอดกันแบบนี้ก็ไม่รู้
ทันทีที่จอดสนิทเจ้าคนตัวใหญ่ก็เปิดประตูรถพรวดออกจนกลัวว่ามันจะหลุดคามือ ไม่สนใจด้วยนะคว้าตัวฉันออกมาจากรถเพื่อที่จะกอดอย่างเต็มรัก
อะไรก็ไม่รู้ค่ะคุณผู้ชม ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมากฉันไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำ
"โอ๊ยยย พี่เกื้อ! กิ๋งหายใจไม่ออก"
ไอเราก็ตัวเท่านี้คุณพี่ จะกอดจะฟัดอะไรขนาดนั้น รู้แล้วว่าคิดถึงกันมาก
"หมู่นี้หม่าม้าบอกว่าไม่ค่อยเห็นหน้าเห็นตาเพราะทำงานพิเศษกะกลางคืนเหรอ"
ในที่สุดก็ปล่อยเราลงซะที
"ช่ายยยย เงินดีแถมเขาคนนั้นยังเป็นเจ้าของ"
"โอ้โห ใจมันสู้ว่ะ"
ไม่ต้องห่วง ทุกคนในครอบครัวรู้หมดว่าฉันรักใครกำลังตามจีบใครอยู่ นอกจากจะไม่ว่าแล้วยังสนับสนุนอีกต่างหาก
"แน่นอน รักจริงหวังแต่ง ทำงานเก็บเงินหาเลี้ยงเขา"
"ฮ่า ๆ ๆ อาจหาญจะไปเลี้ยงดูคนระดับนั้น เก็บเงินไว้เลี้ยงชีพตัวเองดีกว่ามั้งหนู"
"โหย ไม่ให้กำลังใจกันเล๊ย ความหวังริบหรี่สุด ๆ ทุกวันนี้ท้อมาก"
"โอ๋~ ไอ้เด็กขี้น้อยใจของพี่เกื้อเอ๊ย"
จากนั้นก็หอบหิ้วฉันเข้าบ้าน ย้ำว่าหิ้วเพราะขาแทบไม่ติดพื้น รักมากต้องตัวติดกันตลอดเวลา เป็นพี่ชายที่รักน้องมากแต่ไม่ยักกะหวงเลยฮะ
"มาแล้วม้า!" เจ้าคนตัวใหญ่ตะโกนบอกหม่าม้าที่อยู่ในครัว
"กินอะไรมาหรือยัง มีกับข้าวมาเยอะเลยนะ นี่ม้าก็กำลังจัดผลไม้แยกเป็นถุงไว้จะเอาไปฝากเขา"
ของเต็มครัวไปหมด แค่ลังที่ใส่ผลไม้ก็เต็มพื้นที่
"กินมาแล้วค่ะ กิ๋งว่าจะขึ้นไปนอน"
"จริงสิ แกต้องทำงาน ไป ๆ พี่เกื้อพาน้องขึ้นไปนอน แล้วอย่ากวนกันนักนะ"
ว่าแล้วก็หิ้วฉันขึ้นมาบนห้อง โยนลงเตียงพลางหัวเราะชอบใจ ไม่พอแค่นั้นยังตามลงมาทับโดยไม่สนว่าเตียงมันจะหักจะพัง นี่แหละค่ะคือพี่ชายที่แสนดี
"นอนด้วย ละตอนเย็นขอตามไปดูแกทำงานหน่อยนะ"
"ตามใจ แล้วนี่จะอยู่กี่วัน"
"สองอาทิตย์"
"อืม..."
"ป๋าเขาอยากกระจายผลไม้ที่สวนมาขายในเมือง มีตลาดเป็นของเราเองไม่ผ่านใครมันก็ดี หรือใครอยากเอามาลงขายก็ให้เช่าที่ได้ด้วย"
"ก็ดีเลยสิ"
นอนคุยกันไปกันมาหนังตาก็ตกลงเรื่อย ๆ กระทั่งหลับไปในที่สุด... zzZ
.
.
.
19 : 50 น.
เพื่อความสบายใจเราก็ให้พี่ชายตามติดชีวิตกลางคืนสักหนึ่งคืนก็แล้วกัน คงอยากรู้นั่นแหละและจะได้รายงานป๋าถูกว่ายัยลูกสาวมันทำงานอะไรยังไง
มาเปลี่ยนกะกับพนักงานอีกคน ด้วยความที่ยังไม่หมดเวลาเขาก็จะทำความสะอาดร้าน ส่วนฉันก็ทำหน้าที่ของฉันนั่นคือการดูเมนูของวันนี้แล้วจัดวัตถุดิบต่าง ๆ เทใส่ถาดเตรียมไว้เพื่อให้ง่ายต่อการหยิบตวง
เกื้อกูลพี่ชายคนดีที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องก็ทำทีเป็นลูกค้าเนียน ๆ ไป ช่วงสองถึงสี่ทุ่มลูกค้าที่เป็นนักศึกษาจะเยอะ นั่งกินในร้านบ้างสั่งกลับบ้าง พอช่วงนี้ผ่านไปถึงได้นั่งพักขา พี่เกื้อก็ถลามายืนตรงเคาน์เตอร์
"เก่งนี่หว่า" เปิดบทสนทนาด้วยการชม
"เพิ่งรู้หรอ กิ๋งน่ะทำได้ทุกอย่าง" อวดตัวเอง แต่ก็ทำได้ทุกอย่างจริง ๆ ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นอะไร
"เหนื่อยไหม ขอป๋าเพิ่มเงินเดือนยังง่ายกว่า"
"ไม่มีทาง เคยขอแล้วแต่ถูกไล่ให้ไปหางานทำไง พี่ก็ได้ยินหนิ"
เงินของป๋ากับหม่าม้าให้รวมกันหากเทียบกับค่าครองชีพทั่วไปก็ถือว่าเยอะ แต่ด้วยความที่เรียนแฟชั่นมันจะมีค่าใช้จ่ายยิบย่อยนั่นนี่ไปเรื่อยไม่มีจบสิ้น ตรงส่วนนี้ก็ต้องหาเงินมาจ่ายเอง
"พี่แอบโอนให้เอาไหม"
"อยากคอขาดหรือไง"
ถ้าเป็นเรื่องเงินป๋าสั่งห้ามพี่ชายช่วยน้องสาวเด็ดขาด ถ้าเป็นเรื่องอื่นน่ะช่วยได้ยกเว้นเรื่องเงินเรื่องเดียว
"ฮ่า ๆ ๆ ถ้าแอบป๋าไม่รู้หรอก เงินก็เงินพี่จะใช้ยังไงก็ได้" นี่คือหนึ่งในคนใจป้ำของฉันเอง
"คนให้ไม่เป็นไร แต่คนรับนี่สิจะโดนหนัก ไม่เอา ๆ กิ๋งโอเคกับการทำงานมากกว่า"
กริ๊ง~
"โอ๊ะ! ลูกค้าเข้า"
ฉันกับพี่ชายหันไปมองทางประตูร้านพร้อมกัน คนที่เปิดเข้ามาทำเอาดวงตาของฉันเบิกกว้าง
"นั่นมันพ่อยอดรักของเด็กแถวนี้นี่หว่า" พี่เกื้อว่าพลางหันมายิ้มเจ้าเล่ห์
ขณะที่เขาเดินตรงเข้ามา เจ้าพี่ชายบ้าก็ยื่นหน้ามาหอมแก้มกันฟอดใหญ่ เสียงดังฟังชัดยิ่งกว่าระดับ 4K
"ชื่นใจ" พูดพลางหันไปยิ้มเย้ยใส่เขาอย่างตั้งใจ ไอพี่คนนี้หนิเหลือเกินจริง ๆ
เขามองมาที่เราสองคน คิ้วได้รูปขมวดยุ่งจนเดินมาถึงหน้าเคาน์เตอร์
"สวัสดีค่ะเตย์ ไปไหนมาทำไมกลับดึกจัง" เอ่ยทักเขา
"สังสรรค์" ตอบเสียงเข้มเชียว
"อ่อ... วันนี้มีสุกี้ ไก่ทอด ขนมปังหน้าหมู รับสักหน่อยไหมคะ"
เขาไม่พอใจอะไรหรือเปล่า หน้านิ่วคิ้วขมวดไม่คลาย ...ได้ยินเสียงหัวเราะมาจากทางพี่เกื้อเบา ๆ
"ขอเป็นอเมริกาโน่เย็นแล้วกัน"
"ได้ค่ะ สักครู่นะคะ"
รีบทำเครื่องดื่มให้เขา ความเงียบคละเคล้าไปด้วยเสียงเครื่องทำกาแฟ เสียงตักน้ำแข็ง เสียงเทกาแฟลงแก้ว จบด้วยเสียงของเครื่องคิดเงิน
พอได้เครื่องดื่มแล้วฉันคิดว่าเขาจะเดินออกจากร้านไปเสียอีก ที่ไหนได้เขายังคงยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์เช่นเดิม มองมาที่ฉันโดยไม่พูดอะไร
"คนดี พี่จะไปร้านขายของ จะกินอะไรไหมเดี๋ยวซื้อมาให้" พี่ชายตัวแสบลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ดึงความสนใจด้วยเสียงเรียก
"ไม่เอาค่ะ"
"โอเคงั้นเดี๋ยวพี่มา" ว่าแล้วก็เดินออกจากร้านไป
บรรยากาศภายในร้านเงียบและอึดอัดมากกว่าเดิม อาจเพราะสายตาของอีกฝ่ายที่มองมาดูเย็นชาจนหน่วงในอก
"จะรับอะไรเพิ่มอีกไหมคะ" ฉันถามออกไป
"คนนั้นใคร" แทนที่จะตอบเขาดันถามกลับมาซะงั้น
"เป็น... อืม เป็นคนใจดีคนนึงค่ะ เห็นตัวใหญ่แบบนั้นนิสัยน่ารักมากเลย" แต่แทนที่ฉันจะตอบเขากลับไปตามตรง ก็นึกอยากลองใจจึงพูดให้มันดูคลุมเครือเข้าไว้
"เขาจีบเธอเหรอ" ถามเสียงขึ้นจมูกเล็กน้อย คิ้วขมวดมุ่นกว่าเดิม
หึง?
ไม่ใช่หรอกมั้ง
แต่ถ้าหึงจริง ๆ ล่ะ
ก็ดีน่ะสิ หมายความว่าเขารู้สึกบางอย่างกับเรา
พอ ๆ อย่าคิดไปไกลเลยเถอะ
"แหม ไอเราก็หน้าตาดีซะด้วย แฮะ ๆ จะมีคนแวะเวียนมาจีบบ้างก็ไม่แปลกนะคะ" แสร้งทำเป็นหัวเราะเขินกลบเกลื่อนความตื่นเต้น
"เหอะ!" เขากลอกตา ท่าทางไม่พอใจในคำตอบ
"ทำไมเหรอคะ หึงใช่ม๊า~" โยนหินถามทาง
"ผมไม่ได้ชอบเธอซะหน่อย จำเป็นต้องหึง?"
"แล้วถามเหมือนทำสนใจทำไมล่ะ ไอเราก็คิดว่าหึงกันน่ะสิ"
"แค่สงสัยครับ"
"อ่อ แค่สงสัยเนาะ ...ดึกแล้วกลับขึ้นไปพักไหมคะ" เป็นห่วงเพราะเขาต้องตื่นเช้าไปเรียน
"ไม่ ผมหิวแล้ว สั่งอาหารหน่อย"
อ้าว! เป็นงั้นไป
"รับเป็นอะไรบ้างคะ"
"ทั้งหมด แล้วก็น้ำเปล่ากับน้ำแข็งด้วย"
"ได้ค่ะ"
อเมริกาโน่เย็นนั่นเขาไม่แตะมันสักนิด ถือไปวางที่โต๊ะแล้วนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือรอ
ฉันงงงวยกับพฤติกรรมของเขา สรุปรู้สึกหรือไม่รู้สึกกันแน่ ทำเอาสับสนอยู่ไม่น้อย
ทำอาหารเสร็จก็ยกไปเสิร์ฟ เป็นเวลาเดียวกันกับที่พี่ชายตัวดีกลับมาจากร้านค้า มองมาแล้วแสยะยิ้มแววตามีเลศนัย จอมหาเรื่องจริงเชียว
"คนดีพี่กลับมาแล้ว" เสียงหวานหยดย้อย ร้อยวันพันปีไม่เคยหวานขนาดนี้มาก่อน
ฉันเผลอทำหน้าเหยเกสะท้านหูทำเอาขนลุกซู่ไปหมด พี่ชายจ๋าอย่าทำแบบนี้เลยนะน้องกลัวววว
รู้แหละว่าจะยั่วให้เขาอารมณ์ไม่ดีเพื่อดูว่าคิดยังไงกับฉันกันแน่ พี่น้องกันทำไมจะไม่รู้ทัน
ฉันเดินหน้างอไปหาคนตัวใหญ่กะจะไล่ให้กลับไป ที่ไหนได้โดนอีกฝ่ายกอดล็อกแล้วกดจูบหน้าผากย้ำ ๆ
"จุ๊บ ๆ ทำไมน่ารักขนาดนี้ ตอนเด็กยังขี้เหร่อยู่เลยเนี่ย อ้วนด้วย ดำด้วย ผมหยิกด้วย แล้วก็ใส่แว่นตาหนาเตอะด้วย เฉิ่มเชยซะไม่มี"
"แรงมาก ปากแซ่บแบบนี้ผู้หญิงที่ไหนจะแต่งงานด้วย"
"ฮ่า ๆ ๆ ไม่แต่งหรอกจะอยู่กับคนดีไปตลอดชีวิต"
"หวายยยย กิ๋งไม่เลี้ยงหรอกนะ"
ปึ้ง!
---100%---