❝ผมไม่จูบปากคู่นอนและไม่เคยให้ใครนอนค้างบนเตียงของผม แต่ตอนนี้ผมอยากจูบคุณไวน์และอยากนอนกอดคุณไวน์ทั้งคืน...❞

คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine] - Chapter 7 The marks he left on my skin 🔞 โดย THEMOONANDME @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ฟีลกู๊ด,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine]

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ฟีลกู๊ด,นิยายวาย,#BL

รายละเอียด

❝ผมไม่จูบปากคู่นอนและไม่เคยให้ใครนอนค้างบนเตียงของผม แต่ตอนนี้ผมอยากจูบคุณไวน์และอยากนอนกอดคุณไวน์ทั้งคืน...❞

ผู้แต่ง

THEMOONANDME

เรื่องย่อ

‘ไวน์’ พนักงานเสิร์ฟตัวเล็กๆ ที่บาร์แห่งหนึ่ง ต้องทำงานหาเงินใช้หนี้แทนพี่ชายที่สร้างหนี้ไม่รู้จักจบจักสิ้น สุดท้ายพี่ชายก็หนีหาย เหลือไว้ก็แต่หนี้ก้อนโต และที่แย่ไปกว่านั้นคือ เจ้าหนี้ดันเป็นเจ้าของบาร์ที่ไวน์ทำงานอยู่


‘แกมมา’ เจ้าของบาร์สุดหรู ได้ยื่นข้อเสนอให้ไวน์ในการใช้หนี้ด้วยการทำข้อตกลงและข้อผูกมัดเรื่องทางกาย (ไม่มีการบังคับขืนใจ ยินยอมด้วยความเต็มใจ) การที่ได้มีไวน์อยู่ข้างๆ ทำให้ฝันร้ายของเขาค่อยๆ จางหายไป ทำให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้งหลังจากที่ฝังใจกับเรื่องราวในอดีตมานานแสนนาน

แต่...ความรักของเขาทั้งคู่จะเป็นไปได้หรือไม่

ในเมื่อสถานะของเขาทั้งคู่คือเจ้านายกับลูกน้อง

มาลุ้นกันนะคะ

Trigger Warning❗️

Explicit sex scenes การบรรยายถึงฉากร่วมเพศอย่างตรงไปตรงมา/ Non-penetrative sex การร่วมเพศแบบไม่สอดใส่/ Abandonment issue ตัวละครมีปมการถูกทอดทิ้ง/ Emotional Hurt/ Comfort ตัวละครผ่านเรื่องที่สร้างความเจ็บปวดมาและได้ตัวละครอื่นช่วยเยียวยา รักษา หรือปลอบประโลมความเจ็บปวดนั้น

เนื้อหาในเรื่องเกิดขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่ใช่เหตุการณ์จริง มีการใช้คำพูดรุนแรง การพูดถึงปมในวัยเด็กที่อาจจะทำให้กระทบกระเทือนจิตใจของผู้อ่าน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ ไรต์อยากให้ทุกคนอ่านด้วยความเพลิดเพลินและมีความสุขกับเรื่องนี้นะคะ 

สารบัญ

คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine]-Intro บทนำ,คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine]-Chapter 1 Meet the creditor,คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine]-Chapter 2 His special offers and binding conditions,คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine]-Chapter 3 Day off and movie night,คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine]-Chapter 4 Neck kisses on a rainy day,คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine]-Chapter 5 A better way to make it less bitter,คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine]-Chapter 6 Bought the wrong size…,คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine]-Chapter 7 The marks he left on my skin 🔞,คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine]-Chapter 8 As pretty as 'YOU' 🔞,คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine]-Chapter 9 I’m sorry, baby Wine. Please...don’t cry,คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine]-Chapter 10 His kiss on my lips, warm cuddles, and the talk after sex 🔞,คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine]-Chapter 11 No need to explain cus I do believe you, baby. Part. 1,คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine]-Chapter 12 No need to explain cus I do believe you, baby. Part. 2,คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine]-Chapter 13 I wanna take you to my house

เนื้อหา

Chapter 7 The marks he left on my skin 🔞

คนตัวสูงจับมือที่สั่นไหวของผมให้สัมผัสแก่นกายที่ดุนดันอยู่ที่ต้นขา เขาจับมือผมให้รูดรั้งส่วนนั้นขึ้นลง ก่อนที่เขาจะปล่อยมือออกเพื่อให้ผมได้ทำความคุ้นเคยกับมันด้วยตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นมือเล็กเพียงหนึ่งข้างก็ไม่สามารถกอบกุมส่วนใหญ่โตเอาไว้ได้หมด ฝ่ามือร้อนที่ลูบไล้อยู่ที่ท้องน้อย เคลื่อนต่ำลงและต่ำลงเรื่อยๆ จนถึงส่วนสงวนของผม เขาสัมผัสมันด้วยความเชื่องช้า ค่อยๆ เล้าโลมผมด้วยการขยับข้อมือขึ้นลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป


“อือ...คุณแกมมาครับ...ไวน์...” ผมช้อนตามองเขาตามอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่าน และผมไม่สามารถควบคุมมันได้อีกต่อไป มือเล็กขยำผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่ หากฉีกมันออกมาได้ผมก็คงทำไปแล้ว “ไวน์...ไวน์ไม่ไหวแล้วครับ ไวน์กำลัง...” ร่างกายบิดเร่าตามแรงส่งจากข้อมือที่ขยับรัวๆ เร่งจังหวะ “คุณแกมมาครับ ไวน์...อืม...” ปลายเท้าและร่างกายของผมกระตุกเกร็งพร้อมกับน้ำใสๆ ที่เอ่อล้นอยู่รอบดวงตา


ปลดปล่อย...ผมปลดปล่อยของเหลวอุ่นๆ ออกมาจากร่างกายที่ร้อนดั่งไฟ น้ำสีขาวขุ่นพวยพุ่งจนเลอะเปรอะเปื้อนเต็มหน้าท้องของผมและมือ...ของเขา


คนที่อยู่ตรงหน้าจับต้นขาของผมให้อ้าออกกว้างขึ้น ก่อนจะสอดนิ้วเรียวเข้ามาทีละนิ้วๆ จนครบทั้งสามนิ้วเข้ามาเพื่อเบิกทางให้ช่องทางร้อนขยายกว้างขึ้น ริมฝีปากนุ่มเม้มเรียบเป็นเส้นตรงเมื่อเริ่มรู้สึกอึดอัดตรงส่วนนั้น ทั้งยังรู้สึกแปลกเมื่อเขาขยับนิ้วเข้าออกอย่างเนิบนาบ


“ถุงยางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงครับ...” ผมหันมองตามที่เขาบอก เขยิบตัวเล็กน้อยและเอื้อมมือหยิบมันให้กับเขา คุณแกมมาใช้ปากฉีกซองถุงยางในขณะที่เขายังคงสบตากับผม ก่อนจะสวมลงกลางกายที่ชูชันช้าๆ “I’ ll be gentle. I promise, baby Wine. (ผมจะอ่อนโยนกับคุณไวน์ ผมสัญญาครับ) ”


“อือ...” ผมหลุดครางออกมาอย่างหน้าไม่อายเมื่อแท่งร้อนถูไถขึ้นลงอยู่ตรงช่องทางหลัง มือหนากดส่วนปลายเข้าด้านในช้าๆ อย่างเบามือ เพียงแค่นั้นผมยังรู้สึกเจ็บจนน้ำตาคลอ ได้แต่กัดริมฝีปากตัวเองเอาไว้เพื่อข่มความเจ็บ


“คุณไวน์อย่าเกร็งครับ...ผมเข้าไม่ได้...”


คุณแกมมาโถมกายลงมาทาบทับตัวของผม เขาค่อยๆ พรมจูบทั่วบริเวณเนินอก ไล้ริมฝีปากซีดลงที่ยอดอกชมพู ลากไล้เรียวลิ้นร้อนโลมเลียและดูดเม้มยอดอกทั้งสองข้างจนเปียกชุ่มไปด้วยน้ำลาย ทำเอาผมหลุดครางอยู่หลายครั้ง และในจังหวะนั้นเองที่เขาดันส่วนใหญ่โตเข้ามาจนถึงครึ่ง


“อึก...เจ็บ ไวน์เจ็บครับ...ฮึก...” น้ำตาที่เอ่อคลอไหลอาบลงข้างแก้มในทันใด ทั้งรู้สึกเจ็บและจุกในคราเดียวกัน คุณแกมมายังคงไม่ขยับตัว เขากลับแช่มันอยู่อย่างนั้น อีกทั้งลูบไล้และบีบนวดที่ต้นขาให้ร่างกายที่เกร็งอยู่ได้ผ่อนคลายยิ่งขึ้น ผมพยักหน้าเบาๆ เป็นสัญญาณให้เขาได้รับรู้ว่าร่างกายของผมปรับสภาพกับสิ่งที่อยู่ภายในตัวของผมแล้ว


สะโพกหนาเริ่มขยับเข้าออกทีละนิด บดเบียดแก่นกายเข้ามาอย่างอ้อยอิ่ง ทว่าทุกๆ จังหวะกลับเน้นโดนจุดเสียวกระสันของผม แท่งร้อนที่ขนาดใหญ่เกินมาตรฐานอยู่หลายเท่า มันช่างคับแน่นทำเอาผมทั้งเจ็บและจุกจนน้ำตาไหล นอกจากความรู้สึกเจ็บแล้วยังมีอีกหนึ่งความรู้สึกที่แทรกเข้ามา นั่นคือความเสียวซ่าน เสียวมากเสียจนผมอยากจะปลดปล่อยมันออกมาอีกครั้ง ความต้องการของผมเริ่มเพิ่มทวีคูณเมื่อคุณแกมมากระแทกส่วนใหญ่โตเข้ามาถี่ขึ้นเรื่อยๆ


“อะ...อ๊า...” มือเล็กวางลงที่บ่าของคนตรงหน้าเพื่อยึดเหนี่ยวร่างกายไม่ให้โคลงไปตามแรงส่ง ริมฝีปากร้อนฝังจูบที่ลำคอ ทั้งยังขบเม้มให้ผมรู้สึกจักจี้เล็กๆ เรียวลิ้นร้อนลากไล้ลงมายังยอดอก ละเมียดดูดเลียขณะที่ขยับสะโพกเข้าออก ผมกอดรั้งร่างกำยำที่อยู่บนตัวผม จิกเล็บลงที่แผ่นหลังของเขาไปตามอารมณ์ที่ทั้งเจ็บและสุขจนล้นปรี่


“เจ็บมากไหมครับ...” เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยถามที่ข้างหู


ผมส่ายหน้าปฏิเสธ ไม่ได้เอ่ยคำใดพูดตอบคำถามนั้นเพราะกลัวว่าตัวเองจะหลุดครางเสียงดัง แต่ทว่า “อ๊ะ!” การที่ผมส่ายหน้าปฏิเสธเป็นนัยๆ บอกเขาว่าไม่เจ็บ ดูเหมือนจะทำให้เขาเร่งจังหวะเร็วขึ้นจากเดิม


เสียงครางในลำคอของอีกฝ่ายคล้ายจะทำให้อารมณ์ของผมพลุ่งพล่านอยู่กลายๆ ทุกๆ สัมผัสที่เขามอบให้ผมทำให้ผมเสียวเสียจนจะขาดใจ “อือ...คุณแกมมาครับ...ไวน์เสียว เสียวเหลือเกิน...อ๊ะ!”


นิ่วหน้าด้วยความจุกในฉับพลันที่เขาขยับส่วนแข็งขืนเข้ามาจนสุด ตาผมลอยค้างพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้มทั้งสองข้างลงมาไม่หยุด ร่างกายกระตุกเกร็งอีกครั้ง คุณแกมมาคว้าตัวผมเข้าไว้ในอ้อมกอดอุ่นและจูบเบาๆ ที่ข้างแก้มเป็นการปลอบโยน ผมโอบกอดเขาไว้แน่น ค่อยๆ เลื่อนริมฝีปากฝังจูบที่แก้มขาวเนียนของคนตรงหน้าอย่างแผ่วเบา ดวงตาสีเฮเซลคู่สวยจ้องมองนัยน์ตาของผมขณะที่ร่างกายสั่นไหวเพราะแรงสะอื้น ซ้ำยังหลุดครางต่อหน้าเขา เราสบตากันอยู่อย่างนั้น ดวงตาของเขาช่างสวยเหลือเกิน แล้วผมจะเพิกเฉยต่อความน่าลุ่มหลงนี้ได้ยังไง? ผมไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าร่างกายของผมต้องการเขามากแค่ไหน


ฟันขาวกัดริมฝีปากแน่นจนห้อเลือดเพื่อสกัดกั้นเสียงครางไม่ให้ดังมากกว่าเดิม สมองของผมขาวโพลนไปหมด ร่างกายกระตุกเกร็งเป็นช่วงๆ น้ำตาที่เอ่อคลอไหลลงข้างแก้มขาวเนียน ผมเสียวเจียนจะขาดใจเสียให้ได้ “อ๊ะ...อ๊า ไวน์ไม่ไหวแล้วครับ...คุณแกมมา ไวน์...อ๊า...” ไม่รู้ว่าเวลาล่วงเลยไปนานเท่าไรแล้วที่ผมกับเขายังคงร่วมรักกันอยู่บนเตียงนี้...


มือหนาจับที่สะโพกของผม ดันเข้าหาส่วนแข็งขืนที่อยู่ภายในช่องคับแน่น “อ๊ะ!” ผมร้องเสียงหลงมันจู่ๆ คุณแกมมาดันตัวผมให้นอนราบลงกับเตียง เขาจับต้นขาของผมไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง ก่อนจะกระแทกส่วนนั้นเข้ามาจนลึกสุดลำกาย หมุนควงสะโพกช้าๆ เป็นจังหวะ ทว่าเน้นหนักทุกครั้งที่เขาเคลื่อนตัวเข้าออก เขากดริมฝีปากลงที่เรียวขาขาว ลากไล้ริมฝีปากร้อน พรมจูบที่น่องขาและเลื่อนมายังต้นขาของผม ขบเม้มเบาๆ เพิ่มความรู้สึกให้เสียวซ่านยิ่งกว่าเดิม


“I’ m gonna cum, baby Wine... (ผมจะเสร็จแล้วครับคุณไวน์...) ” คนตัวสูงกระแทกกระทั้นแก่นกายเข้าออกถี่ๆ พร้อมกับเสียงหอบหายใจหนักๆ


มือเล็กขยำผ้าปูที่นอนจนแทบจะหลุดติดมือ สายตาจับจ้องอยู่ที่ร่างสูงที่ ณ เวลานี้ได้ถอนตัวออกจากตัวผมและเขยิบเข้ามาใกล้ เขาดึงถุงยางออกจากส่วนแข็งขืนในทันใด มือหนารูดรั้งแท่งร้อนขึ้นลงรัวๆ และปลดปล่อยน้ำคาวขุ่นให้พวยพุ่งลงบนท้องน้อย


คุณแกมมาจูบที่แก้มทั้งสองข้างและหน้าผากของผม ก่อนจะเดินออกไปจากห้องนอน สัมผัสอุ่นๆ ที่เขาฝากเอาไว้ที่หน้าผากช่วยให้ผมรู้สึกดีไม่น้อย…


ทำได้เพียงแค่มองตามเขาตาปริบๆ ผมเคลื่อนไหวร่างกายได้ช้าลง คล้ายกับว่าผมกำลังจะหมดแรงลงทุกที ทว่าการนอนร่วมเตียงกับเขาเห็นทีจะไม่ใช่เรื่องที่ผมควรทำสักเท่าไร ผมพยายามฝืนร่างกายให้พลิกตัวตะแคงและยันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง


กวาดสายตามองหาเสื้อผ้าที่อยู่ที่พื้น เอื้อมหยิบมันขึ้นมาใส่อย่างลวกๆ ค่อยๆ ดันตัวเองให้ลุกขึ้นยืน ขาของผมไม่มีแม้แต่แรงจะก้าวเดินเลยสักนิด กัดฟันฝืนตัวเองให้เดินกะเผลกๆ มาที่โซฟาที่อยู่ไม่ห่างจากเตียงมากนัก ทิ้งตัวลงนอนช้าๆ ทั้งที่ยังไม่ได้ทำความสะอาดร่างกายที่โชกไปด้วยเหงื่อและน้ำคาวคลักที่เลอะตามตัว ถ้าผมทำโซฟาของเขาเลอะ เขาจะหักเงินเดือนของผมไหมนะ


เปลือกตาของผมใกล้จะปิดลงทุกที...




[Special talk: Gamma]


ผมรีบลุกมาอาบน้ำเพราะตัวโชกไปด้วยเหงื่อ พอกลับมาอีกทีไวน์ก็หลับไปแล้ว ร่างบางนอนขดอยู่ที่โซฟาในห้องของผม เม็ดเหงื่อยังคงซึมอยู่ที่กรอบหน้าของคนตัวเล็ก ตามผิวกายขาวๆ ของคนตัวเล็กปรากฏร่องรอยที่ผมทำไว้อย่างเด่นชัด


ไวน์มักจะสร้างความประหลาดใจให้ผม เขาแตกต่างจากคนอื่นๆ ที่ผมเคยนอนด้วย ไวน์เป็นคนที่เจียมตัวและวางตัวดีมาเสมอ ตรงกันข้ามกับคู่นอนคนอื่นๆ ที่ผ่านมา พวกเขามักจะเรียกร้องขอนอนบนเตียงและร้องขอให้ผมจูบ ซึ่งทั้งสองอย่างนั้นเป็นสิ่งที่ผมไม่ทำกับคู่นอน ผมไม่จูบปากและไม่ให้ใครนอนค้างบนเตียงของผม ไม่ร่วมโต๊ะทานข้าวกับใคร และทั้งหมดทั้งมวลนั่นไวน์ทำโดยที่ผมไม่ต้องเอ่ยปากบอกเขาเลยด้วยซ้ำ


ผมทิ้งตัวนั่งข้างๆ คนตัวเล็กที่กำลังนอนหลับใหล เอื้อมมือลูบที่ศีรษะของไวน์เบาๆ และเช็ดเหงื่อตามกรอบหน้าให้เขา ข้างแก้มนุ่มยังคงชื้นไปด้วยน้ำตา สายตาพลันเหลือบมองที่ขาของคนตัวเล็ก เรียวขาขาวเนียนมีคราบเลือดจางๆ ผสมกับน้ำสีขุ่นที่ไหลลงมาตามหว่างขา ไวน์คงเจ็บมากจากการร่วมรักกับผมเมื่อครู่ ทันทีที่เห็นดังนั้นผมจึงรีบเตรียมผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ มาเช็ดคราบเลือดให้เขาอย่างเบามือ


ผมนึกถึงแววตาของไวน์เวลาที่เขามองผม มันคือแววตาที่ไร้เดียงสา ทั้งใสซื่อและบริสุทธิ์ ผมอยากทะนุถนอมเขา อยากโอบกอด อยากจูบแก้ม และนี่คงเป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึก…อยากจูบปากคู่นอนของตัวเอง


ยั้งตัวเองแทบไม่ไหว…ผมเกือบจะพลั้งทำรุนแรงกับเซ็กซ์ครั้งแรกของไวน์ ความหวานที่ผมได้ละเมียดชิมทำให้ผมคลั่งจนแทบบ้าเกือบทุกวัน ทุกครั้งที่ผมจูบแก้มไวน์ หรือกอดสัมผัสเนื้อตัวนิ่มๆ นั่น ยอมรับว่าผมมีอารมณ์อื่นร่วมด้วย พยายามข่มใจตัวเองก็หลายครั้ง แต่ยิ่งนานวันเข้าก็ยิ่งหนัก ผมสกัดกั้นความต้องการของตัวเองไม่ได้อีกแล้ว แต่ผมจะไม่บังคับไวน์ ต่อให้ผมเป็นคนที่เสนอข้อผูกมัดนั่นให้เขา


ยากที่จะห้ามใจ…เนื้อตัวของคนตัวเล็กมีแต่กลิ่นหอมๆ ของโลชั่นและแป้งเด็กเป็นกลิ่นที่ผมไม่เคยได้กลิ่นมาก่อน มันต่างจากน้ำหอมราคาแพงๆ ยิ่งพออยู่บนตัวของไวน์แล้ว ผมคิดว่ามันยิ่งหอมมากกว่าเดิม หอมเสียจนผมอยากจะขย้ำเขาซ้ำแล้วซ้ำอีก


“อือ…” ผมหยิบผ้าห่มมาห่มให้คนตัวเล็กที่นอนขดตัวราวกับเด็กน้อย ยืนมองร่างบางพร้อมกับนึกในใจว่า ถ้าผมได้นอนกอดเขามันก็คงดี ความรู้สึกเหล่านี้มันคืออะไร? ทำไมมันถึงเกิดขึ้น…


“ฝันดีครับคุณไวน์” ก้มจูบแก้มของคนที่กำลังหลับปุ๋ยด้วยความเอ็นดู




วันต่อมา...


นี่คงเป็นครั้งแรกที่ผมนอนหลับได้อย่างเต็มตา เสมือนว่าร่างกายได้ชาร์จแบตหลังจากที่ผมเผชิญกับปัญหานอนไม่ค่อยหลับมานานและผมเป็นแบบนี้มาตลอด บางครั้งก็ฝันถึงเรื่องเดิมๆ ที่ฝังใจผมมาตั้งแต่เด็กๆ เคยพึ่งยานอนหลับแต่มันก็ไม่ช่วยอะไร เพราะสุดท้ายพอหยุดกินผมก็กลับมาเป็นแบบเดิมอยู่ดี


ทว่า...กลับแปลกที่อาการของผมดีขึ้นหลังจากที่ได้เจอกับไวน์ การได้มีไวน์อยู่ใกล้ๆ ทำให้ผมรู้สึกสุขใจอย่างบอกไม่ถูก กลิ่นหอมๆ จากตัวเขาช่วยให้ผมผ่อนคลาย ไม่ว่าผมจะเดินไปทางไหนก็ตามแต่ ทุกที่ในเพนต์เฮาส์ก็จะมีแต่กลิ่นของไวน์ฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ ผมที่ไม่ชอบพูดกับใครแต่กลับอยากคุยกับไวน์ อยากให้เขาอยู่ใกล้ๆ ผมแบบนี้ อยากจูบแก้มนุ่มๆ ของเขาในทุกๆ วัน


น่าแปลกที่ผมไม่รู้สึกอยากตำหนิไวน์ตอนที่เห็นเขาเผลอหลับบนเตียงของผมในครั้งนั้น ผมกลับปล่อยให้เขานอนหลับสบายโดยไม่มีความรู้สึกโกรธเคืองหรือไม่พอใจเลยแม้แต่น้อย


แล้วทำไมความรู้สึกนี้ถึงเกิดขึ้นแค่กับไวน์…


คนตัวเล็กเตรียมมื้อกลางวันไว้ให้ผมก่อนที่จะออกไปข้างนอก น่าแปลกที่วันนี้ไม่มีโน๊ตหรือลูกอมรสเมลอนที่เขาชอบวางไว้ข้างๆ จานอาหารเช่นทุกครั้ง แถมตอนนี้ก็ยังไม่ถึงเวลาเข้างาน แทนที่จะนอนพักนานๆ แต่กลับออกไปเสียเร็ว


“คุณภัค ผมรบกวนแจ้งคุณซิปให้เปลี่ยนเวลาปิดบาร์วันนี้ด้วยครับ”


“ (ปิดกี่โมงครับคุณแกมมา?) ”


“สี่ทุ่มครับ”


“ (รับทราบครับคุณแกมมา) ”


ถ้าเลิกดึกตามปกติ คนตัวเล็กคงทนเดินไม่ไหว แค่เมื่อคืนหลังจากที่ผม...กวนเขา เขาก็แทบจะไม่มีแรงเหลือแล้ว ถ้าเดินเสิร์ฟมากๆ เข้าคงเป็นลมล้มพับกันพอดี




9:25 PM


ผมเดินลงมาที่ชั้นสองซึ่งเป็นโซน VIP พร้อมกับแก้วไวน์ที่อยู่ในมือ ยืนอยู่ที่ริมระเบียงชั้นและกวาดสายตามองลงไปด้านล่าง เพื่อดูความเรียบร้อยผ่านมุมมองตรงนี้ ทันใดนั้นสายตาของผมพลันเหลือบไปเห็นร่างบางที่ ณ เวลานี้กำลังคุยกับลูกค้าผู้ชายที่ดูอายุไล่ๆ กันอย่างสนิทสนม ผู้ชายคนนั้นเอามือพาดไหล่ของไวน์ ซ้ำยังก้มกระซิบที่ข้างหู


ผมรู้สึกไม่ชอบใจ...


และผม…โคตรหงุดหงิด


ในจังหวะที่ไวน์หันกลับมา สายตาของเราทั้งคู่พลันสบกัน ผมยังคงยืนอยู่ที่เดิมเพราะมองเขาคุยกับผู้ชายคนนั้นมาหลายนาทีแล้ว ท่าทางของไวน์ดูลุกลี้ลุกลนผิดปกติทันทีที่เห็นหน้าผม มิหนำซ้ำยังก้มหน้าก้มตารีบเดินไปอีกทาง ไวน์ตั้งใจหลบหน้าผมอย่างนั้นสินะ...




เวลาเลิกงาน


“อ๊ะ!”


หลังจากที่ไวน์แยกกับเพื่อนร่วมงาน ผมรีบเดินตรงไปหาเขา อาศัยความเร็วในจังหวะนั้นคว้าเอวของคนตัวเล็กเอาไว้ ก่อนจะอุ้มพาดบ่ามาที่รถของผม


“คะ... คุณแกมมา ปล่อยผมลงนะครับ”


ผมจัดการเปิดประตูและดันตัวไวน์ให้นั่งในรถ


“คุณแกมมา...” ร่างบางถลึงตามองผม ก่อนจะสอดส่ายสายตามองรอบๆ บริเวณว่ามีคนผ่านมาหรือไม่


ไวน์นั่งหันข้างมองนอกกระจกไม่หันมาสบตากลับผมเลยแม้แต่น้อย ขับรถไปพลันคิดไปต่างๆ นานาว่าผมทำอะไรให้เขาไม่พอใจหรือเปล่า หรือเป็นเพราะเรื่องเมื่อคืน?


ร่างบางเดินนำหน้าผมเข้าด้านในลิฟต์ แถมยังยืนห่างผมจนชิดมุม ถ้าคืนนี้ไม่คุยกันให้รู้เรื่องคงคาราคาซังอยู่อย่างนี้ แล้วผมจะทนได้ยังไง ในเมื่อผมอยากให้เขาคุยกับผมเหมือนกับทุกๆ วัน


ทันทีที่ลิฟต์เปิดออก ผมรีบคว้าตัวไวน์และอุ้มพาดบ่าเดินเข้ามาด้านในห้อง คนตัวเล็กส่งเสียงโวยวายให้ผมปล่อยตัวเขาลง แถมยังเอามือทุบหลังผมสองสามครั้ง หึ...น่าจับตีก้นจริงๆ


ผมจับตัวเขาให้นั่งบนตักผมและกอดรั้งเอวของเขาเอาไว้ไม่ให้ลุกหนี


“คุณไวน์จะหลบหน้าผมไปถึงเมื่อไรครับ?”


“ผม…ผมเปล่านะครับ” โกหกกันซึ่งๆ หน้า


“แล้วที่ทำอยู่คืออะไรครับ?” นิ้วเรียวเชยปลายคางของคนตรงหน้าให้สบตากับผม แก้มขาวเนียนอมชมพูของไวน์ทำให้ผมอยากจะฝังจูบลงไปอีกสักครั้ง “คุณไวน์จะตอบผมได้หรือยังครับ?”


“ผม…ผมไม่กล้าสู้หน้าคุณแกมมาครับ…” ดวงตากลมโตที่มองมายังผมเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา


“คุณไวน์ครับ…”


“ผมแค่รู้สึกสับสนครับ ผมขอโทษครับคุณแกมมา...ฮึก”


“คุณไวน์ไม่จำเป็นต้องขอโทษผมเลยครับ ผมเองที่เป็นคนผิด ถ้าผมไม่เป็นฝ่ายเริ่ม มันก็คงไม่เกิดขึ้น ผมไม่อยากเห็นคุณไวน์ร้องไห้ ไม่ร้องนะครับ...ผมขอโทษ”


“คุณแกมมาไม่ได้ผิดเลยครับ...ฮึก...ผมผิดเองครับ” ไวน์เอามือถูจมูกจนปลายจมูกเริ่มแดงระเรื่อ ผมเอื้อมมือเช็ดน้ำตาให้ร่างบางที่นั่งสะอึกสะอื้นอยู่บนตักของผม ทาบริมฝีปากอุ่นลงที่ข้างแก้มอย่างแผ่วเบา จูบครั้งที่หนึ่ง ครั้งที่สอง ครั้งที่สามและจูบซ้ำๆ อีกหลายๆ ครั้ง คนตัวเล็กคล้ายจะรู้สึกดีขึ้นมาหน่อยแล้วสิ ใบหน้าที่เปื้อนยิ้มหันมองมาทางผม เสียงหัวเราะเล็กๆ ของไวน์ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายอย่างน่าประหลาด เพราะเสียงหัวเราะเล็กๆ นั่น ผมถึงได้เผยรอยยิ้มออกมาโดยไม่ทันรู้ตัว


“ถ้าคุณไวน์ไม่โอเคกับเซ็กซ์ของผม ผมจะไม่ทำมันอีกครับ”


“เอ่อ...ผม...ผมโอเคกับมันครับ” ร่างบางงุดหน้าลงด้วยความเขินอาย


ยิ่งได้เห็นไวน์เขิน ผมก็ยิ่งอยากแกล้งเขา “ไซซ์ของผมทำให้คุณไวน์ผิดหวังหรือเปล่าครับ?”


“คุณแกมมา...”


ไวน์ยกมือปิดบังใบหน้าในทันใด ใบหน้าของคนตัวเล็กเริ่มแดงขึ้นจนเห็นได้ชัด ผมแกะมือของไวน์ออกเพื่อให้เขาสบตากับผม


“คุณไวน์หลบหน้าผมตอนอยู่ที่บาร์ แต่กลับคุยกับคนอื่น...” ไวน์เอียงคอมองหน้าผมตาแป๋ว


“คุยกับคนอื่น?” ร่างบางขมวดคิ้วครุ่นคิด “เขาชื่อพี่ไทม์ครับ เป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย เขาเห็นผมเลยเดินมาทักครับ”


“รู้ตัวไหมครับว่ามีความผิด? จะให้ผมทำโทษยังไงดี...หักเงินเดือนดีไหมครับ?” ผมเลิกคิ้วถามคนตรงหน้า


ไวน์ส่ายหน้าปฏิเสธในทันควัน “ไม่ดี...ไม่ดีครับ” ร่างบางเขยิบตัวเล็กน้อยเพื่อโอบกอดร่างของผมเอาไว้ และซุกใบหน้าลงที่อกแกร่ง


เขากำลัง...อ้อนผม


...แล้วผมจะไม่ใจอ่อนได้ยังไงกัน




[Special talk: End]




ดวงตาสีเฮเซลคู่สวยจับจ้องมาที่ผมไม่ลดละ นิ้วเรียวเกลี่ยแก้มของผมไปมา เขาพรมจูบที่แก้มของผมซ้ำๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่เขาทำแบบนั้น มันทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นไม่น้อยเลย


“ต่อไปอย่าหลบหน้าผมอีกนะครับ ผมอยากเห็นหน้าคุณไวน์ พอไม่ได้เห็นหน้าคุณแล้วผมหงุดหงิดครับ…” การที่เขาพูดแบบนี้กับผม มันยิ่งทำให้ใจของผมเต้นแรง เขาจะรู้บ้างไหมนะ...


คุณแกมมาจ้องริมฝีปากของผมไม่ละสายตา นี่เป็นครั้งแรกหรือเปล่านะที่เขาเอาแต่จ้องมันแบบนี้ เขาไม่เคยจูบปากของผมเลยสักครั้ง หรือเป็นเพราะว่าปากของผมมันไม่น่าจูบ? แล้วนี่ผมกำลังคิดอะไรอยู่...บ้าไปกันใหญ่แล้ว


“ยังเจ็บอยู่ไหมครับ?” เขาเอ่ยถาม ในจังหวะเดียวกันกับที่เขาเอามือบีบที่ขาของผม เหมือนเขาจะรู้ว่าผมกำลังปวดขาอยู่เลย แต่การที่จะให้เขานวดขาให้ผมแบบนี้มันเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง จะให้เจ้านายมานวดขาให้ได้ยังไงกันเล่า


ผมจับมือของเขาเอาไว้เพื่อให้เขาหยุดนวด “เอ่อ...เจ็บครับ...”


คุณแกมมายื่นบางอย่างให้กับผม อ่านตรงฉลากก็พบว่ามันคือยาทาเฉพาะจุด


“เดี๋ยวผมทาให้” ตาเบิกโพลงมองร่างสูงในทันใด ไม่ได้นะ...ผมจะให้เขามาทาส่วนนั้นให้ผมได้ยังไงกัน น่าอายชะมัดเลย


“ไม่ได้นะครับ ผมขอทาเองครับคุณแกมมา” เขายกยิ้มที่มุมปาก...แกล้งกันชัดๆ


“ผมไม่แกล้งคุณไวน์แล้วครับ ผมคิดว่าผมควรรีบไปอาบน้ำ...ก่อนที่ผมจะอดใจไม่ไหว”


คุณแกมมาจูบแก้มของผมทั้งสองข้างอีกครั้งและลูบศีรษะของผมอย่างเบามือ


“ฝันดีครับคุณไวน์”


เขาทำให้ผมพูดไม่ออก...และมักจะเป็นเช่นนี้เสมอ


ผมเริ่มรู้สึกว่าใจของตัวเองเริ่มแปลกไป มันไม่เหมือนเดิม แล้วผมจะทำยังไงดี กลัวเหลือเกินว่าผมจะคิดอะไรกับเขามากกว่าเจ้านายกับลูกน้อง มากกว่าเจ้าหนี้กับลูกหนี้ หรือมากกว่าผู้ที่มีข้อผูกมัดร่วมกัน


มือเล็กข้างหนึ่งลูบไล้ที่ผิวกายที่มีรอยแดงตามเรือนร่างหน้ากระจกบานใหญ่ในห้องอาบน้ำ หลังจากที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ ส่วนในมืออีกข้างมียาทาเฉพาะจุดที่เขาให้ผมไว้เมื่อครู่ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันไม่ใช่ความผิดพลาด...ผมเต็มใจและยินยอม


และร่องรอยที่ปรากฏอย่างเด่นชัดบนร่างกายของผม คือสิ่งที่เขาฝากเอาไว้ มันคือเครื่องย้ำเตือนว่าผม


…เป็นของเขาแล้ว