❝ผมไม่จูบปากคู่นอนและไม่เคยให้ใครนอนค้างบนเตียงของผม แต่ตอนนี้ผมอยากจูบคุณไวน์และอยากนอนกอดคุณไวน์ทั้งคืน...❞

คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine] - Chapter 13 I wanna take you to my house โดย THEMOONANDME @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ฟีลกู๊ด,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine]

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ฟีลกู๊ด,นิยายวาย,#BL

รายละเอียด

คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine] โดย THEMOONANDME @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

❝ผมไม่จูบปากคู่นอนและไม่เคยให้ใครนอนค้างบนเตียงของผม แต่ตอนนี้ผมอยากจูบคุณไวน์และอยากนอนกอดคุณไวน์ทั้งคืน...❞

ผู้แต่ง

THEMOONANDME

เรื่องย่อ

‘ไวน์’ พนักงานเสิร์ฟตัวเล็กๆ ที่บาร์แห่งหนึ่ง ต้องทำงานหาเงินใช้หนี้แทนพี่ชายที่สร้างหนี้ไม่รู้จักจบจักสิ้น สุดท้ายพี่ชายก็หนีหาย เหลือไว้ก็แต่หนี้ก้อนโต และที่แย่ไปกว่านั้นคือ เจ้าหนี้ดันเป็นเจ้าของบาร์ที่ไวน์ทำงานอยู่


‘แกมมา’ เจ้าของบาร์สุดหรู ได้ยื่นข้อเสนอให้ไวน์ในการใช้หนี้ด้วยการทำข้อตกลงและข้อผูกมัดเรื่องทางกาย (ไม่มีการบังคับขืนใจ ยินยอมด้วยความเต็มใจ) การที่ได้มีไวน์อยู่ข้างๆ ทำให้ฝันร้ายของเขาค่อยๆ จางหายไป ทำให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้งหลังจากที่ฝังใจกับเรื่องราวในอดีตมานานแสนนาน

แต่...ความรักของเขาทั้งคู่จะเป็นไปได้หรือไม่

ในเมื่อสถานะของเขาทั้งคู่คือเจ้านายกับลูกน้อง

มาลุ้นกันนะคะ

Trigger Warning❗️

Explicit sex scenes การบรรยายถึงฉากร่วมเพศอย่างตรงไปตรงมา/ Non-penetrative sex การร่วมเพศแบบไม่สอดใส่/ Abandonment issue ตัวละครมีปมการถูกทอดทิ้ง/ Emotional Hurt/ Comfort ตัวละครผ่านเรื่องที่สร้างความเจ็บปวดมาและได้ตัวละครอื่นช่วยเยียวยา รักษา หรือปลอบประโลมความเจ็บปวดนั้น

เนื้อหาในเรื่องเกิดขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่ใช่เหตุการณ์จริง มีการใช้คำพูดรุนแรง การพูดถึงปมในวัยเด็กที่อาจจะทำให้กระทบกระเทือนจิตใจของผู้อ่าน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ ไรต์อยากให้ทุกคนอ่านด้วยความเพลิดเพลินและมีความสุขกับเรื่องนี้นะคะ 

สารบัญ

คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine]-Intro บทนำ,คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine]-Chapter 1 Meet the creditor,คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine]-Chapter 2 His special offers and binding conditions,คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine]-Chapter 3 Day off and movie night,คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine]-Chapter 4 Neck kisses on a rainy day,คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine]-Chapter 5 A better way to make it less bitter,คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine]-Chapter 6 Bought the wrong size…,คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine]-Chapter 7 The marks he left on my skin 🔞,คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine]-Chapter 8 As pretty as 'YOU' 🔞,คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine]-Chapter 9 I’m sorry, baby Wine. Please...don’t cry,คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine]-Chapter 10 His kiss on my lips, warm cuddles, and the talk after sex 🔞,คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine]-Chapter 11 No need to explain cus I do believe you, baby. Part. 1,คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine]-Chapter 12 No need to explain cus I do believe you, baby. Part. 2,คุณไวน์ครับขอบคุณที่ทำให้ผมนอนหลับ [Taste of Velvety Wine]-Chapter 13 I wanna take you to my house

เนื้อหา

Chapter 13 I wanna take you to my house

“ผมไม่อยากได้คำขอบคุณ...ขอเป็นคุณไวน์จูบแก้มผมแทนได้ไหมครับ?” นิ้วเรียวจิ้มที่แก้ม พร้อมกับยื่นแก้มให้เขาจูบ คนตัวเล็กปาดน้ำตาลวกๆ ก่อนจะเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ผมขึ้นเรื่อยๆ ริมฝีปากนุ่มกดลงที่ข้างแก้มอย่างแผ่วเบาจนครบทั้งสามครั้ง ผมอาศัยความเร็วคว้าเข้าที่ท้ายทอยของไวน์และจูบที่แก้มนุ่มของไวน์ซ้ำๆ งับแก้มของเขาเบาๆ หลายๆ ครั้ง จนไวน์เริ่มยิ้มและหัวเราะเล็กๆ ด้วยความจักจี้


ตามจริงผมไม่ทานมื้อดึก แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปตั้งแต่มีไวน์เข้ามา แค่รู้สึกว่าผมต้องทานฝีมือของเขาให้ได้ ถ้าเขาชวนผมทานอะไรผมก็จะทาน ไม่ว่าจะเป็นขนมขบเคี้ยว เค้ก ลูกอม นอกจากนั้นผมยังติดใจฝีมือการทำอาหารของไวน์ อยากทานฝีมือเขาทุกวัน


“ป้อนผมได้ไหมครับ?” ไวน์พยักหน้าหงึกๆ พลางสูดน้ำมูกไปด้วย ผมเอื้อมมือเช็ดน้ำตาและน้ำมูกให้กับไวน์


“คุณแกมมา...นั่นน้ำมูกนะครับ มันสกปรก”


ร่างเล็กลุกพรวดพราดรีบวิ่งเขาในห้องโถงเพื่อหยิบทิชชูมาเช็ดที่มือของผม ผมไม่ได้รู้สึกรังเกียจหรือคิดว่ามันสกปรกเลยสักนิด ผมจูบที่แก้มของไวน์อีกครั้งในจังหวะเขาก้มหน้าก้มตาเช็ดมือให้ผม


“คุณแกมมาครับ...ผมขอหมูชิ้นนี้นะครับ?”


“ครับ แต่คุณไวน์ต้อง...” ทว่าไวกว่าความคิดเมื่อร่างบางจุมพิตที่ริมฝีปากของผมโดยไม่ทันตั้งตัว ไวน์มองผมตาแป๋วหลังจากที่เขาจูบปากผม ผมอมยิ้มเบาๆ ให้กับท่าทางน่ารักๆ ของเขา


ผมไม่ทันได้สงสัยว่าทำไมเขาถึงเลือกที่จะทานหมูชิ้นนั้น จนกระทั่งได้เห็นว่าหมูชิ้นที่เขาขอไปเป็นชิ้นที่เล็กที่สุดในถ้วยอุด้ง เขาเลือกที่จะทานมันแล้วเก็บชิ้นที่ใหญ่ที่สุดไว้ให้ผม


“คุณแกมมาไม่ทานแล้วเหรอครับ? เหลือตั้งเยอะเลยนะครับ” ไวน์เอ่ยถามเมื่อเขาเห็นว่าผมตั้งท่าจะลุกขึ้น


“ครับ ผมอิ่มแล้วครับ ฝากคุณไวน์ทานแทนผมทีนะครับ ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อน”


ห้องนอนของผมหอมฟุ้งไปด้วยกลิ่นครีมทาผิวและแป้งเด็กขวดสีแดงๆ กลิ่นหมากฝรั่งที่ไวน์ชอบใช้ ไวน์นอนหลับอยู่ที่โซฟาในห้องของผม เหมือนเขาจะลืมไปว่าผมให้เขามานอนบนเตียงกับผมไม่ใช่บนโซฟา ผมช้อนตัวร่างบางไว้ในอ้อมแขนและอุ้มเขาวางลงบนเตียงนอน เลื่อนผ้าห่มคลุมขาขาวเนียนที่ยั่วยวนผมเสียเหลือเกิน เขาจะรู้ไหมว่าการที่เขาใส่กางเกงขาสั้นนอนแบบนี้มันทำให้ผมแทบจะคลั่งตาย...


ผมนอนช้อนตัวเขาจากด้านหลัง โอบกอดคนตัวเล็กเอาไว้ในอ้อมแขน


ชักจะเป็นหนักขึ้นทุกวัน ถ้าวันไหนผมไม่ได้จูบเขาผมคงหงุดหงิดจนเป็นบ้า การที่ผมบอกเขาว่าผมเริ่มติดเขามากกว่าบุหรี่ ผมไม่ได้พูดเล่นเพราะนั่นมันคือเรื่องจริง


“อือ...” คนในอ้อมแขนขยับตัวเล็กน้อยเมื่อผมฝังริมฝีปากอุ่นลงที่แก้มนุ่ม


“ฝันดีครับคุณไวน์”




วันต่อมา...


วันนี้เป็นอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันที่บาร์ปิด โดยปกติแล้วทุกวันอาทิตย์ผมจะแวะไปหาคุณลุงที่บ้านเพื่อพูดคุยและทานข้าวกับคุณลุง แต่อาทิตย์ที่แล้วผมไม่ได้ไปเพราะผมไม่อยากเจอพ่อ ส่วนเขาเองก็ไม่ได้อยากเจอหน้าผมอยู่แล้ว สำหรับพ่อผมคือคนผิด คนที่เขาคิดว่าถ้าผมไม่เกิดมาก็คงดี ผมคือสิ่งเลวร้ายที่สุดในชีวิตของเขา...


ติ๊ดๆ


“ (Are you coming today?) หลานจะมาหรือเปล่าวันนี้”


“Certainly. I’ ll bring someone with me. (ครับ ผมจะพาใครบางคนไปด้วย) ”


“ (Who’ s that lucky person?) ใครคือผู้โชคดีคนนั้น?”


“Nah. It’ s me who’ s the lucky one to have him. (ผมต่างหากครับที่เป็นผู้โชคดีที่ได้มีเขา) ” สิ่งที่ผมพูดทำให้คนปลายสายหัวเราะเสียงดัง


ผมไม่เคยพาใครไปที่บ้าน นั่นคือเหตุผลว่าทำไมคุณลุงถึงถามแบบนั้น แม้ว่าความสัมพันธ์ของผมกับไวน์จะเริ่มต้นไม่ดีนัก เราได้มาอยู่ด้วยกันเพราะพี่ชายของเขาติดหนี้ผม เป็นเพราะข้อเสนอที่ผมยื่นให้เขา แต่ผมไม่อยากปล่อยให้โอกาสหลุดมือไป ในเมื่อผมเจอคนที่คิดว่าเขาใช่สำหรับผม ผมก็อยากจะทำอะไรให้มันถูกต้อง ผมรู้ว่าถ้าผมขอคบเขาตอนนี้ เขาคงปฏิเสธผม สิ่งแรกที่ไวน์จะคำนึงถึงคงเป็นเรื่องสถานะของเรา เขาย้ำเสมอว่าผมเป็นเจ้านายของเขา ส่วนเขาเป็นลูกน้องของผม...


“ไปกับผมนะครับ”


“ไม่ได้ครับคุณแกมมา...อ๊ะ! คุณแกมมา ปล่อยไวน์ลงนะ เดี๋ยวไวน์ตก ปล่อยไวน์ลงนะครับ…” ผมอุ้มไวน์พาดบ่าออกมาจากห้อง คนตัวเล็กดิ้นขลุกขลักไม่ยอมหยุด “คุณไวน์ครับ ถ้ายังดื้อกับผมแบบนี้ คืนนี้ผมจะไม่ปรานีคุณนะครับ”


“...”


นิ่ง...ไร้ซึ่งการเคลื่อนไหวใดๆ ผมค่อยๆ วางตัวเขาลงเมื่อถึงลิฟต์ ไวน์เดินหลบมุมอยู่ด้านหลังผม มิหนำซ้ำยังเอาแต่ทำหน้ามุ่ยเหมือนเด็ก “มานี่ครับ”


ผมเอื้อมมือคว้าแขนไวน์ให้เขยิบเข้ามาใกล้ ยืนซ้อนตัวเขาไว้จากทางด้านหลัง ก่อนจะจูบที่แก้มขาวเนียนของเขา แก้มของเขานั้นนุ่มเกินกว่าที่ผมจะจูบเพียงครั้งเดียวได้ พรมจูบย้ำๆ จากสองครั้งเป็นสามครั้งที่แก้มข้างขวา สงสัยว่าผมจะต้องซื้อยาแก้ฟกช้ำให้เขาเสียแล้วล่ะ


“ถ้าคนอื่นเห็นมันจะไม่ดีนะครับ”


“Who cares? (ใครสนล่ะครับ?) ”


แขนแกร่งตวัดโอบรอบเอวของคนตัวเล็กที่กำลังทำท่าจะเดินหนีไปอีกทางทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก ดวงตากลมโตมองผมเชิงตำหนิ แต่ใครสนกันครับ? ผมโอบเอวเขาและพามายังเฟอร์รารี่ที่จอดอยู่ จัดการเปิดประตูรถดันตัวเขาให้นั่งลงและคาดเข็มขัดให้เสร็จสรรพ


ผมหวังว่าผมจะรับมือกับความโกรธของเขาได้ เพราะวิธีที่ผมจะทำต่อไปจากนี้คงทำให้เขาโกรธผมไม่น้อย...




[Special talk: Gamma]




คุณแกมมาว่าผมดื้อ เขานั่นแหละที่ดื้อ!


ไว้กลับเพนต์เฮาส์เมื่อไรผมจะเอายาแก้ไข้มาขู่เขา คอยดูเถอะ!


ก้าวเท้าเดินให้ช้าลง...และช้าลงเรื่อยๆ เพื่อให้คนที่อยู่ด้านหน้าเดินเข้าด้านในไปก่อนผม ผมยอมรับว่าผมเครียดและผมเสียใจมากที่ผมต้องกลายเป็นผู้ที่กระทำผิดในสายตาของทุกคน ไม่รู้ว่าผลลัพธ์ของเรื่องนี้จะออกมาเป็นยังไง สุดแล้วแต่คุณแกมมาจะตัดสินใจ...


ภายในห้องทำงานของคุณแกมมาไม่ได้เงียบสงบอย่างที่ผ่านมา พี่ซิป มิกะและเพื่อนพนักงานอีกสามคนมาถึงก่อนผม ส่วนพลเมืองและถิงถิงเพิ่งเดินเข้ามาในห้องทำงาน ผมกวาดสายตามองหาคนตัวสูง จนกระทั่งเห็นว่าเขากำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ที่ระเบียงด้านนอก


คุณแกมมาเดินเข้ามาด้านในหลังจากที่เขาสูบบุหรี่จนหมดมวน คนตัวสูงนั่งลงที่ขอบโต๊ะทำงาน ดวงตาสีเฮเซลกำลังมองมาที่ผม เขายื่นมือมาตรงหน้าและแบมือราวกับต้องการอะไรบางอย่างจากผม อย่าบอกนะว่าเขา... “ผมอยากได้ลูกอมครับคุณไวน์”


ทุกสายตาจับจ้องมาที่ผมเป็นตาเดียว เมื่อเห็นว่าจู่ๆ คุณแกมมาแบมือขอลูกอมจากผมต่อหน้าต่อตาพวกเขา เขาคิดจะทำอะไรของเขากันแน่นะ


“อะ...เอ่อ...” เสียงหัวเราะคิกคักที่ดังอยู่ข้างๆ มาจากพลเมืองและถิงถิงนั่นเอง


ผมล้วงมือเข้าในกระเป๋าสะพายใบเล็กและหยิบสิ่งที่ผู้เป็นนายร้องขอและยื่นมันให้กับเขา ทว่าไวกว่าความคิด…คนตัวสูงไม่ได้หยิบลูกอมเมลอนที่ผมยื่นให้ แต่กลับเอื้อมมือมาคว้าเอวของผมให้ยืนข้างๆ เขาแทน


สายตาของมิกะและเพื่อนๆ ทั้งสามคนของเขามองมาที่ผมกับคุณแกมมาด้วยตาตาที่อึ้งไปตามๆ กัน ผมรีบแกะมือของเขาออกอย่างลุกลี้ลุกลน เขากำลังทำอะไรของเขาเนี่ย!


“เหล้าที่พวกคุณบอกว่าไวน์เป็นคนเอาไป ในชั้นโชว์เหล้าที่เพนต์เฮาส์ของผมมีทั้งหมดสิบสองขวด แต่ไม่มีขวดไหนหายไปเลยสักขวด ทั้งๆ ที่มันไม่ได้อยู่ในห้องเก็บเหล้าและง่ายต่อการหยิบมากกว่าที่บาร์ คุณคิดว่าเพราะอะไรครับ?”


“เพราะไวน์ไม่ใช่คนขโมยอย่างที่ถูกใส่ความครับ” เป็นพลเมืองที่ตอบคำถามของคุณแกมมาในระหว่างที่ทุกคนเงียบสนิท รวมถึงผมด้วย


“คุณแกมมากับไวน์...อยู่ด้วยกันเหรอครับ?” มิกะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ


“นั่นคือเรื่องส่วนตัวของผมครับ”


“ซิปได้ดูกล้องวงจรปิดตรงทางเข้าห้องเก็บเหล้าที่คุณแกมมาให้คุณภัคส่งมาให้ซิปดูแล้วค่ะ รวมถึงภายในห้อง แต่...เอ่อ...ซิปคิดว่าคงต้องขออนุญาตคุณแกมมากับน้องไวน์ก่อนว่าซิปสามารถเปิดให้คนอื่นๆ ในที่นี้ดูได้ไหม เนื่องจากมันค่อนข้างเป็นเรื่องส่วนตัวของคุณแกมมากับน้องไวน์ค่ะ” พี่ซิปพูดราวกับว่าเขารู้เรื่องระหว่างผมกับคุณแกมมาแล้ว อย่างไรอย่างนั้น


“คุณไวน์โอเคหรือเปล่าครับ?” ผมทำหน้าเหลอหลาเพราะไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ เขาถึงมาถามผมต่อหน้าคนอื่นๆ แบบนี้ แต่ผมก็ไม่ได้ติดอะไรอยู่แล้ว ว่าแต่มันคืออะไรกันนะ?


“เอ่อ...โอเคครับ”


พี่ซิปเปิดไฟล์นั้นให้ทุกคนภายในห้องได้ดู โดยเริ่มตั้งแต่ที่พวกเราเดินเข้าไปไปด้านใน ช่วยกันยกลังเหล้าและเบียร์ รวมถึงตอนที่มิกะบอกผมว่าเปิดปวดท้องและผมได้เข้าไปช่วยพยุงตัวเขา สิ่งที่ปรากฏอย่างเด่นชัดคือตอนที่มิกะล้วงเอากุญแจล็อกเกอร์ของผมไป


นัยน์ตาสีเฮเซลฉายวาบไปด้วยความไม่พอใจมองไปยังมิกะที่ในเวลานี้หน้าเริ่มถอดสี


เสียงหวีดของพลเมืองและถิงถิงดังขึ้น จึงทำให้ผมรีบหันกลับไปมองว่าทั้งสองคนกำลังกรี๊ดกร๊าดอะไรกัน ตาเบิกกว้างในฉับพลันให้กับภาพที่เห็น จะอะไรเสียอีกเล่า นั่นมันเป็นตอนที่เราจูบกันอยู่หน้าห้องเก็บเหล้าฮือ...ผมลืมไปเสียสนิทเลย มิน่าล่ะ เขาถึงถามว่าผมโอเคหรือเปล่า


อยากจะเอาหัวมุดใต้โต๊ะทำงานของเขาให้รู้แล้วรู้รอด ทว่าพอเหลือบมองคุณแกมมา เจ้าตัวดันอมยิ้มที่มุมปากเฉยเลย มันน่าดีใจตรงไหน เขารู้กันทั้งห้องแล้วนะ!


“คุณซิปครับ นี่เป็นอีกไฟล์ในโซนของห้องล็อกเกอร์ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะวางแผนและคิดได้ไม่รอบคอบเท่าไรนัก ถึงไม่เอะใจว่าตรงนั้นไม่ได้มีกล้องวงจรปิดเท่าที่เห็น... แต่ยังมีกล้องจากอีกมุมที่เห็นได้อย่างชัดเจน รบกวนคุณซิปเช็กดูอีกที” คุณแกมมาพูดพลางยื่นทรัมป์ไดร์ให้พี่ซิป


เป็นมิกะที่เอากุญแจผมให้เพื่อนอีกสามคนไป โดยที่เขาเป็นคนดูต้นทางและเอาเหล้าขวดนั้นยื่นให้หนึ่งในกลุ่มเพื่อนที่ไปด้วยกันตรงทางเข้าห้องล็อกเกอร์ เพียงเท่านี้ทุกอย่างก็ชัดเจนแจ่มแจ้งมากพอที่จะเอาผิดมิกะและกลุ่มเพื่อนของเขาที่ร่วมมือกันใส่ร้ายผมได้แล้ว


ผมรู้ว่าเขาเกลียดผม แต่ไม่คิดว่าเขาจะเกลียดผมมากถึงขนาดนี้วางแผนทำเรื่องใส่ความผม


“ผมเชื่อว่าพวกคุณทราบดีว่าสิ่งที่ทำมันผิด ผมไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของพวกคุณคืออะไรในการตัดสินใจทำแบบนี้ และผมคงไม่สนใจถ้านี่ไม่ใช่เรื่องที่ทำให้คนของผมต้องเดือดร้อนแต่ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพรุ่งนี้ผมจะไม่เห็นหน้าของพวกคุณที่บาร์ของผมอีก...”


“คุณแกมมาครับ ไม่นะครับ อย่าไล่ผมออกนะครับ...ฮึก” มิกะพูดพร่ำขอร้องทั้งน้ำตา


“ผมทำแบบนั้นเพราะมิกะเป็นคนสั่งนะครับ”


“ใช่ค่ะ มิกะบอกว่าเขาจะให้เงินพวกเรา ถ้าพวกเราช่วยเขา” กลับกลายเป็นว่าทุกคนเริ่มโยนความผิดให้กัน ผมรู้ว่ามิกะเกลียดผม แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะทำถึงขนาดนี้


“พวกมึงหุบปากไปเลย พวกมึงสะเหล่อช่วยเองเพราะอยากได้เงิน!”


“อ้าว! ทำไมพูดหมาๆ แบบนี้วะ! มึงนั่นแหละสะเหล่อ! หึ...คนนิสัยเสียอย่างมึงคุณแกมมาเขาไม่เอาหรอก ได้แต่หลอกตัวเองไปวันๆ เพ้อเจ้อ!”


“สาระแน!” มิกะทำท่าจะเข้าไปประชิดตัวเพื่อนพนักงานคนนั้น ทว่ากลับต้องหยุดในทันใดเมื่อพี่ๆ ฝ่ายซิเคียวริตี้ได้เข้ามาในห้องและลากตัวมิกะพร้อมกับเพื่อนพนักงานอีกสามคนออกไปจากห้อง


“รบกวนคุณซิปจัดการให้ผมทีนะครับ”


“ได้ค่ะคุณแกมมา”


พี่ซิปพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินตามหลังพวกพี่ๆ ซิเคียวริตีออกไปพร้อมกับถิงถิงและพลเมือง เมื่อเห็นดังนั้นผมจึงวิ่งตามทั้งสองคนไปติดๆ แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ก้าวเท้าออกจากห้อง มือหนาของคนที่อยู่ด้านหลังกลับคว้าเอวผมเอาไว้เสียก่อน


“จะไปไหนครับ?”


“ไวน์วันนี้เรายกเลิกนัดกันก่อนนะ ฮิๆ” อ้าว...ไหงเป็นอย่างนั้น


พลเมืองและถิงถิงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้ผมกับคุณแกมมาและรีบปิดประตูห้องทำงานทันที


“คุณแกมมาครับ ปล่อยผมนะ” ผมโกรธเขา...เขาไม่บอกอะไรกับผมเกี่ยวกับเรื่องที่เขาทำไปเมื่อครู่เลยแม้แต่นิดเดียว ไม่นัดกันก่อนด้วยซ้ำ แถมยังโอบเอวผมต่อหน้าคนในห้องอีก การที่เขาพูดโพล่งออกไปว่าผมเป็นคนของเขาต้องทำให้ทุกคนเข้าใจผิดว่าผมกับเขาเป็นอะไรกันอย่างแน่นอน เขาไม่กลัวว่าตัวเองจะเสียหายหรือไงกันนะถึงได้ทำอะไรแบบนั้น


“โกรธผมเหรอครับ?”


“ครับ...ผมโกรธ ทำไมคุณแกมมาไม่คุยเรื่องนี้กับผมก่อน แล้วคนอื่นเขาจะมองคุณยังไง คุณเสียหายนะครับ ผมเป็นพนักงานของคุณ แล้วคุณ...”


“แล้วผมก็เป็นเจ้านายของคุณไวน์ แล้วอะไรต่อครับ?”


เขากำลังกวนผมใช่ไหมเนี่ย ดี…ผมจะพูดให้หมดเลย “เป็นลูกหนี้ของคุณ เป็นพ่อครัว เป็นคนทำความสะอาดเพนต์เฮาส์ เป็นคนช่วยงานเอกสาร เป็นคนที่ดูหนังเป็นเพื่อน แล้วก็เป็นคู่นอนของคุณแกมมาด้วยครับ...”


เขามองผมนิ่ง ก่อนจะยกยิ้มเล็กๆ การที่เขาทำหน้าแบบนั้นมันหมายความว่ายังไงกัน


“อยากเป็นมากกว่านั้นไหมครับ?”


“คุณแกมมา...” คำพูดที่เขาพูดออกมานี่เขาเข้าใจความหมายหรือนัยแอบแฝงของมันหรือเปล่านะ


“เราค่อยกลับไปทะเลาะกันต่อที่เพนต์เฮาส์นะครับ ตอนนี้ผมอยากพาคุณไวน์ไปที่ที่หนึ่งกับผม”


“ไปที่ไหนครับ?”


คนตัวสูงสาวเท้าเข้ามาใกล้และกระซิบที่ข้างหูของผม


“I wanna take you to my house, baby Wine. (ผมอยากพาคุณไวน์ไปที่บ้านของผมครับ) ”


ยืนนิ่งไม่ไหวติง...เขามักจะทำให้ผมอึ้งกับคำพูดของเขาเสมอเลย




ผมยืนกล้าๆ กลัวๆ อยู่ข้างๆ เฟอร์รารี่คันเทาที่เขาเพิ่งจอดเมื่อครู่ กวาดสายตามองรอบๆ บ้านหลังใหญ่ ที่ใหญ่อย่างกับวังหรือคฤหาสน์อะไรทำนองนั้นเลย คุณแกมมาเดินเข้ามาใกล้ผม เขาจับมือผมให้เดินตามเขาเข้าด้านใน มือที่เย็นเฉียบถูกกุมไว้แน่นด้วยฝ่ามืออุ่นๆ ของเขา


“พี่แกมมา! คิดถึงจัง คิดว่าพี่จะไม่มาซะแล้ว” สาวน้อยลูกครึ่งหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มกระโดดกอดแกมมาจนตัวลอย เธอมองผมสลับกับแกมมาราวกับต้องการที่จะถามเขาว่าผมคือใคร


“น้องเกลกลับมานานหรือยังครับ?” คนตัวสูงลูบศีรษะของเธอเบาๆ


“เกลมาถึงเมื่อเช้าค่ะ พอดีคุณพ่อบอกว่าพี่แกมมาจะมา เกลเลยรีบโทรบอกให้คนของคุณพ่อไปรับโดยด่วนเลย กว่าเราจะว่างตรงกัน... แล้วพี่คนนี้คือใครเอ่ย? แฟนของพี่แกมมาใช่ไหมคะ?”


ผมส่ายหน้าปฏิเสธ ทำไม้ทำมือบอกปัดอย่างลุกลี้ลุกลน ส่วนคนตัวสูงที่ยืนข้างๆ เอาแต่อมยิ้มเล็กๆ ที่ข้างแก้ม แทนที่เขาจะช่วยกันปฏิเสธแต่กลับยืนอมยิ้มแบบนั้นเนี่ยนะ


คุณแกมมาสาวเท้าเข้าหาร่างเล็กที่ยืนอมยิ้มจนแก้มปริ เขากระซิบที่ข้างหูของเธอ ซึ่งผมไม่รู้ว่าเขาพูดอะไร แต่สิ่งที่แสดงออกทางสีหน้าและท่าทางคล้ายกับว่าเธอกำลังเขินอย่างไรอย่างนั้น มือเล็กยกขึ้นป้องปากพร้อมกับรอยยิ้มที่ผุดขึ้นข้างแก้ม เรียกได้ว่ายิ้มจนแก้มปริ


“เขินชะมัด!” เธอเอื้อมมือมากุมมือผม “ว่าแต่...พี่ชื่ออะไรเหรอคะ?”


“พี่ชื่อไวน์ครับ”


“หนูชื่อเกลเลนาค่ะ เรียกว่าเกลเฉยๆ ก็ได้ค่ะ”


“แกมมามาแล้วเหรอลูก มาทานข้าวกับป้าดีกว่า ป้าเตรียมมื้อกลางวันไว้ให้แล้ว แล้วนั่นพาใครมาด้วยน่ะ?” หญิงสาววัยกลางคนเอ่ยถามคุณแกมมา เธอมีรูปหน้าคล้ายน้องเกลอยู่หลายส่วน ผมคิดว่าน่าจะเป็นแม่ของน้อง เธอมีใบหน้าและรูปลักษณ์ที่สวยสง่าแบบไทยแท้ อีกทั้งยังมีน้ำเสียงหวานๆ ที่น่าฟัง เธอเดินมากอดคุณแกมมาและหันหน้ามองผมที่ยืนอยู่ข้างๆ เขา ผมยกมือประนมไหว้ก่อนจะเอ่ยคำทักทาย


“สวัสดีครับ ผมชื่อไวน์ เป็นเอ่อ...ผู้ช่วย เอ่อ...ผู้ช่วยของคุณแกมมาครับ ใช่ไหมครับคุณแกมมา...คุณแกมมาครับ” ผมกระตุกชายเสื้อของคนตัวสูงให้ช่วยพูด แต่เขากับนิ่งเฉยเสียอย่างนั้น เอาแต่อมยิ้มอยู่นั่น ทำไมถึงไม่ตอบเขาไปเล่า แล้วทำไมทุกคนถึงเอาแต่ผมยิ้มให้กับท่าทางของผม ฮือ...


เธอรับไหว้พร้อมกับเดินมาโอบไหล่ “ทานข้าวด้วยกันนะลูก แกมมาบอกลุงของเขาเอาไว้แล้วล่ะ ว่าจะพาหนูมาเมื่อเช้านี้ นิดหน่อยตั้งโต๊ะเลย คุณแกมมากับแฟนเขามากันแล้ว”


“ค่ะ คุณผู้หญิง”


แฟน? นี่เขาไปพูดอิท่าไหนเนี่ย ทุกคนถึงคิดว่าผมเป็นแฟนของเขา ไม่นัดกันก่อนเลย ปล่อยให้ผมพูดตะกุกตะกักแก้ตัวอยู่คนเดียว คุณแกมมานี่จริงๆ เลย!


ความรู้สึกเกร็งในคราแรกกลับหายเป็นปลิดทิ้งเมื่อทุกคนต่างพากันชวนผมคุยและคอยตักอาหารมาใส่จานให้ผม คุณลุงและคุณป้าของคุณแกมมาคอยเลื่อนจานอาหารให้ผม รวมถึงน้องเกลที่คอยถามตลอดว่าผมอยากได้อะไรเพิ่มเติมไหม เพิ่งเข้าใจว่าการมีครอบครัวที่อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตามันให้ความรู้สึกที่อบอุ่นแบบนี้นี่เอง ส่วนคุณแกมมาก็คอยตักอาหารให้ผม คอยมองผมเป็นระยะ เขายื่นทิชชูให้ผมตอนที่กินเลอะ แถมยังเช็ดปากให้ผมต่อหน้าทุกคนบนโต๊ะอาหารอีก


อย่าทำแบบนี้ต่อหน้าทุกคนจะได้ไหม....เขาเข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้วนะ!


“อาหารถูกปากไหมหนูไวน์?”


“ครับ อร่อยมากครับ” ผมยิ้มให้คุณป้าของคุณแกมมาจนตาหยี ถึงจะเป็นอาหารตะวันตกที่ผมไม่เคยได้กินมาก่อน แต่ยอมรับเลยว่าอาหารมื้อนี้อร่อยมาก ไวน์ขอยกนิ้วโป้งให้สองนิ้วเลย!


“คุณไวน์ทำอาหารไทยเก่งมากครับ อร่อยมากๆ ด้วยครับ”


“จริงเหรอหนูไวน์ ไว้วันหลังมาทำให้พวกเราทานที่บ้านบ้างนะ แกมมาไว้อาทิตย์หน้าพาหนูไวน์มาอีกสิลูก จะได้มาทำอาหารกับป้า มาค้างคืนที่นี่ด้วยก็ได้”


“เราทำงานอยู่กับแกมมาใช่ไหม?”


คุณลีออนคุณลุงของคุณแกมมาเอ่ยถาม เขาจะรังเกียจผมหรือเปล่าถ้าผมบอกพวกเขาว่าผมเป็นพนักงานเสิร์ฟธรรมดาๆ เท่านั้น “ครับ ผมเป็นพนักงานเสิร์ฟที่บาร์ของคุณแกมมาครับ...”


เขามองผมนิ่ง ก่อนจะค่อยๆ คลี่ยิ้มที่มุมปาก


“ถ้าแกมมาดุหนู มาฟ้องฉันได้นะ” เมื่อสิ้นเสียงนั่นทุกคนบนโต๊ะอาหารต่างก็พากันหัวเราะให้กับคำพูดของคุณลีออน “เราทานอาหารกันต่อดีกว่า น้องเกลตักลาซานญาให้พี่เขาหน่อยลูก”


ภาพที่เห็นทำให้ผมน้ำตาคลอ ทุกคนชวนผมคุยอย่างเป็นกันเอง แม้ว่าเขาจะรู้ว่าผมเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟธรรมดาๆ แต่พวกเขาก็ปฏิบัติกับผมเช่นเดิม ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณแกมมาถึงเป็นคนที่อบอุ่นและอ่อนโยนมากขนาดนี้


“คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้เจอลูกชาย...”