ด้วยใบหน้าที่สวยงามไม่มีใครเทียบได้ เซียวเฟยจึงคู่ควรที่จะชนะใจผู้ชายทุกคนในใต้หล้า แต่เธอกลับตกหลุมรักเจ้าชายผู้ชั่วร้ายอย่างโง่เขลา จนในที่สุดเธอก็ต้องตายด้วยน้ำมือของคนรัก
ชาย-หญิง,ย้อนยุค,จีน,รัก,ดราม่า,จีนโบราณ,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ทันทีที่หลี่เซียวเฟยแต่งตัวเสร็จ นางและผู้ติดตามก็ออกไปที่เรือนด้านตะวันออกที่หลี่เซียวเหมิงอาศัยอยู่
ทางไปเรือนตะวันออกเต็มไปด้วยทางซับซ้อน จนทำให้เซียวเฟยปวดหัว
แม้แต่จวนของเจิ้งมู่เฉินก็ไม่ซับซ้อนขนาดนี้!
นายพลหลี่คิดเช่นไรกับที่อยู่อาศัยของเขา? ที่เหมือนเขาวงกต
หลังจากเดินไม่กี่หนึ่งถ้วยชา ในที่สุดพวกนางก็มาถึงลานหน้าเรือนด้านตะวันออก เมื่อกำลังจะเข้าไป ก็ได้ชนเข้ากับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง
“คุณหนู นั่นคือฮูหยินรอง” ไป๋ลู่กล่าวเบาๆ ใบหน้าของนางแสดงความกังวลออกมา
หลี่เซียวเฟยเหลือบมองกลุ่มคนข้างหน้า เมื่อนางได้ยินเสียงอินซูสายตาของหลี่เซียวเฟยก็จับจ้องไปที่สาวใช้ที่สวมชุดสีเขียวหลายคน ก่อนที่จะหยุดมองหญิงวัยกลางคนร่างอวบที่สวมเสื้อคลุมสีเหลืองอยู่ข้างหน้า
ฮูหยินรองของตระกูลหลี่ อู๋ซิงเยียน
นางสวมชุดผ้าไหมสีเขียวและเสื้อคลุมสุนัขจิ้งจอกสีเหลืองอยู่ด้านบน นางดูใจดีและมีเมตตาตั้งแต่แรกเห็น และแม้แต่หลี่เซียวเฟยก็คิดเช่นเดียวกัน ตามที่ไป่จูบอกเมื่อไม่กี่วันก่อน ฮูหยินรองคนนี้พยายามจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของนางและแอบรังแกหลี่เซียวเฟยอยู่เสมอ
แม้ว่าจะมีข่าวแพร่กระจายไปทั่วว่าหลี่เซียวเฟย เป็นหลานคนโปรดของตระกูลหลี่ แต่ความจริงอาจแตกต่างไปจากที่กล่าวไว้
ในความเป็นจริงหลี่เซียวเหมิงเป็นคนเดียวที่ให้ความสำคัญกับนาง
เมื่อหลี่เซียวเฟยคนก่อนล้มป่วยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีเพียง แค่หลี่เซียวเหมิงเท่านั้นที่มาเยี่ยมบ่อยๆ และเป็นห่วงนางอย่างแท้จริง สมาชิกในจวนหลี่บางคนก็แวะมาและส่งสมุนไพรมาบ้าง แต่เพียงเพราะพวกเขาถูกบังคับให้ไปเยี่ยมเพราะหลี่เซียวเหมิง และพวกเขาก็ไม่ต้องการเปิดเผยความเกลียดชังของพวกเขา
ตระกูลหลี่มีกิจการเพียงสองสาขาเท่านั้น สาขาแรกเป็นของลูกชายคนโตของหลี่ซางฉิน ในขณะที่อีกสาขาเป็นของลูกชายคนที่สองหลี่เข่อซิง แต่ในขณะนี้หลี่เซียวเฟยยังไม่เห็นปู่ของนางเลย
หลี่ฉิน และ หลี่ซิง ไม่ได้เดินตามรอยเท้าพ่อของพวกเขา แต่กลายเป็นขุนนางกรมพิธีการแทน และมักจะอยู่ในราชสำนักเพื่อลดความกังวลของฮ่องเต้ พวกเขาเริ่มสมคบกับกลุ่มองค์ชายเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต
ดวงตาของหลี่เซียวเฟย จ้องไปที่พวกเขาสองสามวินาทีก่อนที่นางจะตัดสินใจไม่สนใจพวกเขา
หลี่เซียวเฟยตัวจริงไม่ชอบฮูหยินรองคนนี้ และแน่นอนว่า ตอนนี้นางกลายเป็นหลี่เซียวเฟยแล้ว นางจึงไม่ต้องการที่จะสนิทสนมหรือแก้ไขความสัมพันธ์ในอดีตที่นางไม่รู้ และไม่มีเช่นกัน
"ไปกันเถอะ." หลี่เซียวเฟยพูดโดยไม่มองกลุ่มนั้น
เมื่อหลี่ เซียวเฟยและสาวใช้ของนางจากไป สาวใช้ของอู๋ซิงเยียนก็กระทืบเท้าและพูดด้วยความโกรธว่า "คุณหนูสี่เห็นฮูหยินแต่ยังไม่เขามาคารวะอีก นางหยาบคายเกินไปแล้ว!"
อู๋ซิงเยียนเพียงยิ้มอ่อนโยนให้แล้วพูดว่า "ไม่ต้องไปยุ่งเรื่องนี้ คุณหนูที่มีกิ่งก้านเพียงกิ่งเดียวให้ยึดไว้ มีอะไรให้น่าดูบ้าง เข้าไปข้างในพบท่านผู้เฒ่ากันเถอะ"
สิ่งที่นางพูดไม่มีใครไม่รู้ความหมายของมัน ในตระกูลหลี่ใครไม่รู้บ้างว่าหลี่เซียวเฟยมีเพียงท่านผู้เฒ่าหลี่เท่านั้นที่คอยหนุนหลังนาง?
หากกิ่งก้านใหญ่นั้นหักกะทันหัน นั่นก็แปลว่าจะไม่มีอะไรให้นางยึดเกาะเวลาล้มจริงหรือไม่?
อู๋ซิงเยียนเกลียดหลี่เซียวเฟยที่ทำตัวหยาบคายและหยิ่งผยอง พวกนางทั้งสองทำได้แค่พูดเสียดสีใส่กันเล็กน้อย แต่เนื่องจากหลี่เซียเฟย มีหลี่เซียวเหมิงหนุนหลังนาง นางจึงทำได้แค่แอบวางแผนลับหลังทุกคนและกลั่นแกล้งหลี่เซียเฟย
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีข่าวว่าอาการของหลี่ เซียวเฟยไม่สู้ดี ทุกคนในตระกูลหลี่ ยกเว้นหลี่เซียวเหมิง มีความสุขอย่างมากและสวดภาวนาในห้องสวดมนต์เพื่อให้นางตาย
แต่น่าเสียดายที่เซียวเฟยไม่ตายและรอดชีวิตมาได้ด้วยทำให้ทุกคนต้องความผิดหวัง
เมื่อหลี่เซียวเฟยมาถึงจวนหลี่เป็นครั้งแรก ทุกคนต่างสงสัยเกี่ยวกับนางที่มีข่าวลือว่ามีมารยาทไม่ดีที่สุดในเมืองหลวง ในตอนแรกพวกเขาก็ไม่เชื่อข่าวลือ แต่หลังจากได้พบกับนาง พวกเขาก็เกลียดนางทันทีและเริ่มทำตัวกับนางอย่างเย็นชา
ชื่อเสียงที่ไร้ค่าและความเย่อหยิ่งของนางไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น เพราะมันยิ่งเพิ่มความรังเกียจที่พวกเขามีต่อนาง และหวังว่าตระกูลซู จะมาพานางกลับไปที่จวนของพวกเขา
พวกเขาต้องประหลาดใจที่ตระกูลซู ไม่ได้แสดงความสนใจที่จะพานางกลับหรือพูดอะไรสักคำเมื่อหลี่เซียวเฟย พาหลานสาวของเขาไป ราวกับว่าตระกูลซูดีใจมากที่ขยะของตระกูลถูกเอาออกไป และพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับขยะชิ้นนี้อีกต่อไป
สิ่งนี้ทำให้ตระกูลหลี่ รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ความเกลียดชังของพวกเขากลับมุ่งไปที่หลี่เซียวเฟยแทน
อย่างไรก็ตาม เมื่อหลี่เซียวเฟยอยู่ด้วย พวกเขาก็ทำได้เพียงแสร้งยิ้มและแสร้งทำเป็นว่าพวกเขาห่วงใยนาง
หลี่เซียวเฟยก้าวเท้าเข้าไปในลานของเรือนตะวันออก
เรือนด้านตะวันออกเป็นที่ที่หลี่ เซียวเหมิงอาศัยอยู่ มันใหญ่มากแต่ก็ดูเรียบง่าย มีเพียงผนังสีขาวและกระเบื้องสีดำ ไม่มีสิ่งของตกแต่งมากนักที่ช่วยให้เรือนดูน่าดึงดูดใจสำหรับผู้มาเยือน แต่ละด้านของเรือนมีที่นั่งเพียงไม่กี่ที่นั่ง และตรงกลางมีที่นั่งสำหรับเจ้านายของเรือน
ที่นั่งก็เป็นสีดำเช่นกัน แต่การแกะสลักของเก้าอี้ทำให้มีลักษณะที่โดดเด่น หนังของเสือบนเก้าอี้ทำให้ดูแข็งแกร่งและเป็นการเตือนว่าแม้ว่าหลี่เซียวเหมิงจะเกษียณจากการเป็นแม่ทัพแล้ว แต่เขาก็ยังเป็นคนที่สามารถทำให้ศัตรูของเขาคุกเข่าและขอความเมตตาได้
หลี่ เซียวเฟย มองไปรอบ ๆ อีกครั้งและเห็นสาวใช้คนหนึ่งที่กำลังตื่นตระหนกอยู่ที่มุมห้องโถง หลี่เซียวเฟยก้าวเข้าไปใกล้นางแล้วถามว่า "ท่านปู่ของข้าอยู่ที่ไหน"
เดิมทีสาวใช้หันหน้าไปทางอื่นเมื่อเห็นหลี่ เซียวเฟย เมื่อนางได้ยินเสียงจากด้านหลัง นางก็มีทำหน้าด้วยความตกใจและใบหน้าของนางก็ขาวซีดลงราวกับผ้าปูที่นอน
"คารวะ - คุณหนูสี่!” สาวใช้พูดแล้วก้มศีรษะลง
หลี่ เซียวเฟยขมวดคิ้ว "ข้าถามว่าท่านปู่อยู่ที่ไหน"
ดวงตาของสาวใช้สั่นไหวและพูดว่า "... นายท่านผู้เฒ่าไม่อยู่ที่นี่เจ้าค่ะ"
“แล้วอยู่ที่ไหน?”
“นายท่านผู้เฒ่าอยู่ที่โถงรับแขกพร้อมกับแขกคนหนึ่งเจ้าค่ะ”