เธอถูกจ้างมาเป็นเจ้าสาวแค่เพียงในคืนแรก ตามสัญญาจากชายหนุ่มทายาทของบริษัทที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ด้วยสัญญาที่ให้ไว้เธอจึงจากลาด้วยรอยอาลัยให้เขาถวิลหา ทั้งที่หัวใจอยากสลัดรักออกไปนับแต่คืนแรกนั้น
รัก,ชาย-หญิง,ครอบครัว,ไทย,ดราม่า,อีโรติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เจ้าสาวคืนแรกเธอถูกจ้างมาเป็นเจ้าสาวแค่เพียงในคืนแรก ตามสัญญาจากชายหนุ่มทายาทของบริษัทที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ด้วยสัญญาที่ให้ไว้เธอจึงจากลาด้วยรอยอาลัยให้เขาถวิลหา ทั้งที่หัวใจอยากสลัดรักออกไปนับแต่คืนแรกนั้น
‘กังสดาล’ สาวน้อยฝึกงานในบริษัทของประธานพ่อหม้ายในเครือสหพันธ์กรุ๊ป เธอรับจ้างวิวาห์ให้กับชายนิรนามผู้หนึ่งที่บังเอิญเจอกันที่สตูดิโอชุดแต่งงาน
‘วิชพันธ์’ ชายหนุ่มทายาทของประธานบริษัทในเครือสหพันธ์กรุ๊ป ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศมารับช่วงธุรกิจต่อของบริษัท
เขาตกลงว่าจ้างสาวน้อยนางหนึ่ง ขณะที่เธอไปเป็นเพื่อนว่าที่เจ้าสาวซึ่งเป็นญาติในสตูดิโอแห่งนั้น เขากำลังวุ่นวายใจที่พ่อของเขาบังคับให้หาเจ้าสาวแต่งงานอย่างรวดเร็ว เพราะพินัยกรรมระบุถึงกำหนดว่าทายาทจะต้องแต่งงานให้ทันเวลา ไม่เช่นนั้นกิจการทั้งหมดจะตกไปอยู่กับคุณอาของเขา ซึ่งคุณย่าได้ระบุเอาไว้อย่างจงใจแกล้งคุณพ่อของเขาตั้งแต่แรก
กังสดาลตกลงเซ็นสัญญาแต่งงานกับชายหนุ่มเพียงแค่วันเดียว โดยสัญญามีข้อกำหนดหากหากเธอผิดสัญญาจะถูกริบเงินคืนพร้อมดอกเบี้ย
แต่แล้วด้วยใจซื่อบริสุทธิ์ของหญิงสาวที่ทำหน้าที่ภรรยาในนามให้กับชายหนุ่มตลอดเวลาตามข้อตกลง ได้กลายมาเป็นความรักที่มีต่อเธออย่างไร้เงื่อนไข และเรื่องราวเริ่มซับซ้อนจากพ่อของชายหนุมที่ต้องการให้เขาเลิกกับเธอเพื่อไปแต่งงานกับคนที่เตรียมไว้ให้
เขาพยายามสลัดเธอออกไปจากหัวใจของเขา แต่ทำได้ยากยิ่งทั้งที่เขามีอีกคนที่ถือว่าหมาะสมซึ่งครอบครัวกำลังจับคู่ให้ก็ตาม
กังสดาลไม่เคยคิดว่าชายหนุ่มจะเข้ามาจับจองหัวใจเธอได้ เธอแค่รับจ้างเป็นเจ้าสาวให้เขาเพียงในนาม แต่หัวใจเธอกลับร่ำร้องทั้งที่อยากไปให้ไกลแสนไกล
การหาตัวตึงไว้สำรอง จะช่วยให้วันเวลาที่รอสัญญาสิ้นสุดลง มีความหมาย
--------------------------------
เช้ารุ่งขึ้นเป็นวันอาทิตย์ วิชพันธ์คงออกไปยิมแต่เช้าเพื่อซ้อมมวยอย่างที่เขาได้บอกไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว กังสดาลยังนอนพลิกตัวมองเพดานห้องคิดว่า ถ้าเขาจริงจังกับดิษยาขึ้นมาจริงๆ เธอจะทำอย่างไร
“นางเป็นตัวตึงของคุณย่าศรีนวลด้วยสิ” เธอพึมพำเบาๆ กับตนเอง
“หรือว่าลองคุยกับริน ให้หาฝรั่งที่นั่นสำรองไว้ เผื่อเขาฉีกสัญญาเร็วกว่ากำหนด เธอจะได้อยู่ที่นั่นต่อ โดยไม่ต้องพึ่งพาคุณพ่อของเขา” เธอพูดกับตนเอง
เสียงเคาะประตูเบาๆ ดังขึ้น
“ย่าหรือคะ...” เธอตะโกนถาม
“ผมเอง...”
เธอได้ยินเสียงกลอนประตูหมุนดังกริ๊ก เขาเดินเข้ามาพร้อมกางเกงขาสั้นตัวเดียว
“นึกว่าไปยิมแล้ว...”
“รอคุณไปด้วย...”
“ลุกไปอาบน้ำ...จะได้ลงไปกินข้าว สายมากแล้ว”
เธอเห็นเขาแต่งตัวกำลังเปิดประตูลงไป กังสดาลส่งเสียงจากในห้องน้ำ
“เอ่อ...ขอไม่ไปได้ไหมคะ อยากไปเดินห้าง”
“ตามใจ...ผมอยากไปคลายเครียด”
“เชิญตามสบายนะคะ...” หญิงสาวยินดีที่วันนี้เธอจะมีเวลาว่าง
หลังจากทานข้าวเช้าแบบเบาๆ กังสดาลขออนุญาตกับย่าด้วยว่าจะออกไปเดินห้าง แท้จริงเธออยากกินข้าวเช้าให้อิ่มท้อง แต่ไม่อยากให้สามีมองเธอแบบเมื่อวานอีก เธอเดินเรื่อยเปื่อยไปจนถึงสถานีรถไฟฟ้า เดินขึ้นสะพานลอยแล้วตรงเข้าห้างไปที่ชั้นห้าศูนย์อาหาร น่าจะมีหลายร้านให้เลือกพอสมควร เธอมาเดินที่นี่เป็นครั้งที่สอง ครั้งแรกวันนั้นที่มาลองชุดเจ้าสาวกับรินญา
กังสดาลกำลังเดินขึ้นบันไดเลื่อน คิดในใจว่าต้องมองหาเสื้อผ้าไว้ไปใส่ที่ซิดนีย์ อากาศน่าจะหนาวเย็น จึงอยากได้เสื้อโค้ตไว้ใส่คลุมกันหนาว เธอเดินผ่านร้านอาหารจีนที่เคยมากินกับรินญา บังเอิญสายตามองเข้าไปเห็นคู่หนุ่มสาวคุ้นๆ กำลังคุยกันอย่างเพลิดเพลิน พร้อมอีกคู่หนึ่งนั่นรินญากับโอลี่ แล้วที่เห็นหลังของคนทั้งคู่ คือสามีเธอและอีกคนเป็นใครไม่ได้นอกจากดิษยา
หญิงสาวเดินผ่านไปขึ้นบันไดเลื่อนถึงชั้นห้าหาอะไรกินรองท้องก่อน แล้วจะลงมามองหาร้านเสื้อผ้า ซึ่งได้เล็งไว้หนึ่งร้านแล้วที่ชั้นล่าง
กังสดาลเข้ามาลองเสื้ออยู่ห้องด้านใน เป็นร้านเสื้อไม่ใหญ่มาก แต่เสื้อโค้ตที่นี่สวยเฉียบขาด เธอใจหายวาบเมื่อได้ยินเสียงสาวน้อยคุ้นๆ เรียกชื่อสามีในนามของเธอ
“วิชคะ...โค้ตตัวนี้สวยมาก อยากได้จัง ลืมเอาบัตรเครดิตมา”
“เท่าไหร่...ผมออกให้ก่อน ค่อยคืนทีหลังล่ะกัน” เสียงสามีเธอดังขึ้นตามหลังนาง
กังสดาลหลบอยู่ข้างในนานจนไม่ได้ยินสองคนนั้นแล้ว จึงค่อยย่องออกมา เสียงหายใจโล่งอกดังขึ้น เธอเป็นภรรยาที่ถูกต้องแม้จะเป็นในนาม แต่ดูตลกสิ้นดีที่แอบไม่ให้สามีและสาวนางนั้นเห็น เล่าให้ใครฟังคงว่าเธอ กินหญ้าหรือกินข้าวกันแน่
เธอไม่อาจเข้าใจสามีในนามคนนี้เช่นกัน ทำไมถึงมาเลือกเธอให้แต่งงานกับเขาแต่ในนาม มันมีอะไรอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ดิษยาคนนี้ดูดีกว่าเธอหลายเท่า ทั้งน่ารักอ่อนหวาน เก่งแสนเก่ง กีฬาต่อสู้แบบหมัดมวยที่เธอฝึกอยู่สามารถคว่ำคู่ต่อสู้ได้ไม่อายใคร เมื่อเปรียบเทียบกับกังสดาล เธอต้องถูกมองว่าเหนือชั้นกว่าด้วยต้นทุนเดิมซึ่งเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะเช่นเดียวกับชายหนุ่มสามีของเธอ
เธอเดินใจลอยกลับมาถึงบ้านพบว่าย่ากำลังทำกับข้าวอยู่ เธอจึงอาสาเข้าไปช่วยป้าแจ่มล้างผัก
“ย่าคะ วันนี้ทำอะไร หนูหิวมากเลย ตอนเช้ากินนิดเดียว มื้อเที่ยงอาหารในห้างไม่ค่อยอร่อย” เธอบ่นทันทีที่เห็นหน้าหญิงชรากำลังมองมาที่เธออย่างเอ็นดู
“ฉันนึกแล้วว่า คงหิวโซ...ย่าทำกะปิหลนกับผักต้ม และแกงส้มดอกแคที่แกชอบ”
เธอช่วยล้างผักเห็นผักบุ้งต้นเล็กๆ กรอบเขียว ชะอมน่าจะเอามาทอดกับไข่และใส่ลงในน้ำแกงส้มด้วย
“มีสองอย่างหรือคะ”
“มีปลาสลิดทอด กับไก่ผัดซีอิ้ว ให้ผัวแก”
“ฝีมือย่านี่กุ๊กอาย...เลยทำให้หนูไม่อยากกินข้าวนอกบ้าน”
“ทำไมไม่ลงมือทำ...จะได้เรียนรู้” เสียงดังของเขาโผล่มาจากประตูห้องครัว คงแอบย่องเข้ามาเงียบๆ
“เกือบนินทาแล้วเชียว...” กังสดาลหัวเราะเบาๆ
หญิงสาวเดินเลี่ยงไปที่ซิงค์ล้างผัก ก้มหน้าช่วยป้าแจ่มไม่อยากคุยด้วย ในใจยังงอนชายหนุ่มกับดิษยาที่ร้านเสื้อนั้น เธอได้ยินเขามองอาหารที่ย่ากำลังทำและพูดอะไรสองสามคำ จากนั้นจึงเดินขึ้นบันไดไปห้องนอน
เธออยู่ห้องครัวจนอาหารเรียบร้อยพร้อมเสิร์ฟ จึงได้บอกป้าแจ่มให้ไปเชิญคุณผู้ชาย ย่าหันมาดุทันใด
“แกเป็นเมียภาษาอะไร ต้องขึ้นไปเชิญเขาลงมา”
“ค่ะ...” เธอรีบเดินไปทันที กลัวโดนบ่นอีก
เธอขึ้นมาเคาะประตูอยู่หน้าห้อง จังหวะเขาเปิดประตูออกมาพอดี
“ผมยังอิ่มอยู่เลย” เขารู้ว่าเธอขึ้นมาตามลงไปกินข้าว
“คุณทานกับคุณย่าเลยนะ” เสียงของเขานิ่มมากจนเธอคิดว่าผิดปกติ
“ค่ะ...” กังสดาลก้มหน้าเดินลงไปอย่างเซื่องซึม
ย่ามองหน้าหลานเพื่อจับพิรุธ
“แกไปทะเลาะอะไรกับเขา...ฮึ” ย่าเปิดฉากโจมตีหลานสาวทันที
“มา...นั่งข้างย่านี่ จะสอนวิธีเอาใจผัว” ย่าทำหน้าดุ แต่จริงๆ ท่านใจดีที่สุด
“อย่าไปทำตัวเป็นม้าดีดกะโหลก นอนกับเขาก็อย่าดีดดิ้นจนผัวเบื่อ สาวๆ เดี๋ยวนี้มันแย่งผัวชาวบ้านกันออกนอกหน้า แกเห็นไหม คบซ้ำคบซ้อน” ย่าถอนหายใจกับเธอ ที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้อยู่แล้ว เธอเลี้ยงหลานสาวมากับมือรู้นิสัยเธอดี
“ย่ากินข้าวเถอะ หนูหิวมาก เจอบ่นแบบนี้ หนูแทบกินอะไรไม่ลง” กะปิหลนและแกงส้มดอกแคเป็นเมนูโปรดของเธอ กลายเป็นว่าเธอกินข้าวเพียงกำมือแล้วอิ่ม ดื่มน้ำแล้วขอตัวปล่อยย่าไว้กับป้าแจ่มสองคน บ้านนี้พอคุณพ่อเขาไม่อยู่ บรรยากาศเลยดูเงียบเหงา
เธอเดินขึ้นบันไดไปหยุดที่หน้าห้องนอนของเขา ลังเลว่าจะเข้าไปดีไหม เพราะไม่แน่ใจว่าอารมณ์ของเขาเบิกบานหรือเปล่า เขาเปิดประตูออกมาเห็นหน้าเธอหงอยๆ เขาสั่งเธอนั่งบนเตียงของเขา
“มา...คุยกันให้รู้เรื่อง” เสียงเข้มนี้ดูกังวล
“รินญาถามผมว่า...คุณแต่งงานกับผมแต่ในนามรึ”
“เธอรู้ได้ยังไง...เบล” เขาขึ้นเสียงกับเธอ
“คุณไปนัดพบกันที่ร้านอาหารจีนนั่นใช่ไหม...แล้วเอาเรื่องมาจับผิดกัน” น้ำเสียงของกังสดาลขุ่นขึ้นทันที
“ผมบังเอิญเจอพวกเขา...คุณสะกดรอยตามผมไปล่ะสิ” เขาจ้องหน้าเธอปะทะสายตา
“เปล่า...ใครจะไปสนใจเรื่องส่วนตัวคนอื่น” เธอเหลืออดเหมือนกัน
“ผมไม่อยากเสียอารมณ์กับเรื่องนี้อีก...”
“เชิญด่ามาเลย...เรื่องส่วนตัวพวกนี้ใครจะเอาไปพูด ถามใจคุณดูว่า คนที่น่าอับอายคือใคร ถ้าไม่ใช่ผู้หญิงอย่างฉัน”
“ทนายตอบคุณว่ายังไงล่ะคะ” เธอจ้องหน้าเขาขอคำตอบ
“เขาไม่รู้เรื่องเหมือนกัน”
“สาวที่ยิมคนนี้แหละ น่าจะรู้เรื่องของเรา”
“ทำไม...ก็คุณเป็นคนบอกเองว่าอาคุณและกิ๊ก รู้เรื่องนี้ไม่ใช่หรือ” เขาทำหน้าเหมือนนึกได้
“ดิษยา...เป็นใคร ลูกแม่กัน มีหรือจะไม่รู้เรื่องนี้”
“ปวดหัวกับผู้หญิงจริงๆ”
“รินรู้จักดิษยา เพราะเธอเรียนมัธยมห้องเดียวกัน” คำพูดของเธอทำเขายกมือกุมขมับ นึกในใจว่าเรื่องมันเลยเถิดไปแล้ว ข่าวรั่วไหลจากพวกผู้หญิง
“ไม่ต้องปวดหัวเลย...คุณจ่ายค่าเสื้อโค้ตปิดปากเธอไปแล้ว”
“เฮ้ย...รู้อีก...”
“ฉันไม่โง่เง่าอย่างที่ใครบางคนกำลังทำเรื่องตบตา” เธอพูดอย่างเหลืออด
“เรามีอิสระต่อกัน...ในเรื่องพวกนี้ไม่ใช่หรือ คุณคบกับเธอได้เลย ไม่ได้ผิดอะไรในเรื่องศีลธรรม เพราะสัญญาไม่ได้ระบุว่าคุณจะไม่ต้องทำอะไรบ้างที่ผิดต่อกัน ระบุกว้างๆ ว่าคบชู้และบอกเลิกก่อน” เสียงหญิงสาวสั่นๆ เหมือนสะอื้นอยู่ข้างใน
“คำว่า ชู้ ...นี่มันยังไง ผม งง กับคำนี้มาก” คิ้วของเขาขมวดกันอย่างสงสัย
“ตราบใดที่คุณยังไม่มีอะไรกับเธอ แค่ไปกินข้าว จ่ายค่าโน่นนี่ให้ครั้งคราวหรือจะประจำก็แล้วแต่ ถือว่าเธอแค่เพื่อนใจ หรือ กิ๊กทางใจ ก็ไม่ได้ผิดสัญญา”
“แต่ถ้าเกิดคุณมีความสัมพันธ์จนเธอพิสูจน์ได้ว่า เธอไม่บริสุทธิ์แล้วนั่นล่ะ เธอคือกิ๊กโดยพฤตินัย”
“โห...รู้ขนาดนี้...ผมจะทำอะไรได้นี่” เขาอมยิ้มขยับมาดึงเธอเข้าไปกอด
“ฉันไม่เคยอยากพูดเรื่องพวกนี้เลยนะ คุณวิช”
“ทำไม...!” เขายังกอดเธออยู่ ถามกระซิบ
“ผู้ชายมีนิสัยเหมือนกันเกือบทุกคน ชอบแอบกินขนม เพราะคงสนุกตื่นเต้นละมั้ง”
“รู้ขนาดนี้ มีแฟนกี่คน ถามจริงๆ” เขาพูดอย่างทีเล่นทีจริง
“จะบอกทำไม...เรื่องพวกนี้มันส่วนตัวนะคะ ท่านรองประธาน” เธอขึ้นเสียงยั่วอีกตามเคย
“รินญา...เป็นญาติของฉันที่รู้ว่า หน้าอย่างฉันนี่ จะหาผัวได้ไหม”
“เอ้า...ขนาดนั้น” เขาทำเสียงตกใจ
“ใช่...เธอกับฉันผิดกันมาก เธอชอบไซส์ฝรั่ง และไม่เคยคิดว่าจะมีใครอยากคบฉันหรอก”
“โอ...โอ...ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เสียงหัวเราะของเขาดังจนตัวโยน
“นี่อย่าลามก...เธอชอบคนตัวโตกอดแล้วอบอุ่น...โอลี่น่ากอดออก”
กังสดาลอาบน้ำเข้าห้องนอนของเธอ ซึ่งเป็นโลกส่วนตัวที่แสนอบอุ่นใจอย่างที่สุด เธออยากให้วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ความสัมพันธ์จอมปลอมระหว่างเขากับเธอจะได้จบสิ้นลง หนึ่งปีกับการได้ไปเรียนต่อและได้ค่าจ้างตามสัญญาก็ไม่เลวนัก เธอบอกกับตนเองว่า
“ฉันจะหาตัวตึงไว้สำรองที่นั่นแหละ ไม่ต้องไปหาไกล”
จะช่วยให้วันเวลาที่รอสัญญาสิ้นสุดลง มีความหมาย