เธอถูกจ้างมาเป็นเจ้าสาวแค่เพียงในคืนแรก ตามสัญญาจากชายหนุ่มทายาทของบริษัทที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ด้วยสัญญาที่ให้ไว้เธอจึงจากลาด้วยรอยอาลัยให้เขาถวิลหา ทั้งที่หัวใจอยากสลัดรักออกไปนับแต่คืนแรกนั้น

เจ้าสาวคืนแรก - ตอน 15 ต้องคำสาป โดย ซูซี่แคท @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ครอบครัว,ไทย,ดราม่า,อีโรติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เจ้าสาวคืนแรก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ครอบครัว,ไทย,ดราม่า

แท็คที่เกี่ยวข้อง

อีโรติก

รายละเอียด

เธอถูกจ้างมาเป็นเจ้าสาวแค่เพียงในคืนแรก ตามสัญญาจากชายหนุ่มทายาทของบริษัทที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ด้วยสัญญาที่ให้ไว้เธอจึงจากลาด้วยรอยอาลัยให้เขาถวิลหา ทั้งที่หัวใจอยากสลัดรักออกไปนับแต่คืนแรกนั้น

ผู้แต่ง

ซูซี่แคท

เรื่องย่อ

‘กังสดาล’ สาวน้อยฝึกงานในบริษัทของประธานพ่อหม้ายในเครือสหพันธ์กรุ๊ป เธอรับจ้างวิวาห์ให้กับชายนิรนามผู้หนึ่งที่บังเอิญเจอกันที่สตูดิโอชุดแต่งงาน


‘วิชพันธ์’ ชายหนุ่มทายาทของประธานบริษัทในเครือสหพันธ์กรุ๊ป ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศมารับช่วงธุรกิจต่อของบริษัท


เขาตกลงว่าจ้างสาวน้อยนางหนึ่ง ขณะที่เธอไปเป็นเพื่อนว่าที่เจ้าสาวซึ่งเป็นญาติในสตูดิโอแห่งนั้น เขากำลังวุ่นวายใจที่พ่อของเขาบังคับให้หาเจ้าสาวแต่งงานอย่างรวดเร็ว เพราะพินัยกรรมระบุถึงกำหนดว่าทายาทจะต้องแต่งงานให้ทันเวลา ไม่เช่นนั้นกิจการทั้งหมดจะตกไปอยู่กับคุณอาของเขา ซึ่งคุณย่าได้ระบุเอาไว้อย่างจงใจแกล้งคุณพ่อของเขาตั้งแต่แรก


กังสดาลตกลงเซ็นสัญญาแต่งงานกับชายหนุ่มเพียงแค่วันเดียว โดยสัญญามีข้อกำหนดหากหากเธอผิดสัญญาจะถูกริบเงินคืนพร้อมดอกเบี้ย


แต่แล้วด้วยใจซื่อบริสุทธิ์ของหญิงสาวที่ทำหน้าที่ภรรยาในนามให้กับชายหนุ่มตลอดเวลาตามข้อตกลง ได้กลายมาเป็นความรักที่มีต่อเธออย่างไร้เงื่อนไข และเรื่องราวเริ่มซับซ้อนจากพ่อของชายหนุมที่ต้องการให้เขาเลิกกับเธอเพื่อไปแต่งงานกับคนที่เตรียมไว้ให้


เขาพยายามสลัดเธอออกไปจากหัวใจของเขา แต่ทำได้ยากยิ่งทั้งที่เขามีอีกคนที่ถือว่าหมาะสมซึ่งครอบครัวกำลังจับคู่ให้ก็ตาม


กังสดาลไม่เคยคิดว่าชายหนุ่มจะเข้ามาจับจองหัวใจเธอได้ เธอแค่รับจ้างเป็นเจ้าสาวให้เขาเพียงในนาม แต่หัวใจเธอกลับร่ำร้องทั้งที่อยากไปให้ไกลแสนไกล

สารบัญ

เจ้าสาวคืนแรก-ตอน 1 ชายนิรนาม,เจ้าสาวคืนแรก-ตอน 2 ภารกิจเหลือเชื่อ,เจ้าสาวคืนแรก-ตอน 3 รักจำลอง,เจ้าสาวคืนแรก-ตอน 4 ค่าตัวแพง,เจ้าสาวคืนแรก-ตอน 5 ความซับซ้อนในชีวิต,เจ้าสาวคืนแรก-ตอน 6 เจ้าสาวคืนแรก,เจ้าสาวคืนแรก-ตอน 7 ภาพตกใจ,เจ้าสาวคืนแรก-ตอน 8 หน้าที่ (ในนาม),เจ้าสาวคืนแรก-ตอน 9 จำได้ไหม,เจ้าสาวคืนแรก-ตอน 10 เหมือนฝัน,เจ้าสาวคืนแรก-ตอน 11 ขอเว้นระยะ,เจ้าสาวคืนแรก-ตอน 12 ตัวตึง (สำรอง),เจ้าสาวคืนแรก-ตอน 13 ดูแลใจ,เจ้าสาวคืนแรก-ตอน 14 พบคนสำคัญ,เจ้าสาวคืนแรก-ตอน 15 ต้องคำสาป,เจ้าสาวคืนแรก-ตอน 16 บอกสักคำ ,เจ้าสาวคืนแรก-ตอน 17 เข้าใจไปเอง,เจ้าสาวคืนแรก-ตอน 18 หัวใจเกเร,เจ้าสาวคืนแรก-ตอน 19 ระรานใจ,เจ้าสาวคืนแรก-ตอน 20 เจ็บกลางใจ,เจ้าสาวคืนแรก-ตอน 21 ต้องตาดลใจ

เนื้อหา

ตอน 15 ต้องคำสาป

ต้องคำสาปเกิดจากใจที่วิบัติของคนเราที่เข้าไปสู่วังวน ถ้าไม่สร้างเหตุปัจจัยเข้าไปเอื้อให้เกิดขึ้น

--------------------------------

ต้นสัปดาห์ต่อมาอาอนุพันธ์กับอาระพีเดินทางมาถึงที่ซิดนีย์ไล่หลังวิชพันธ์และกังสดาล ทั้งสองจะมาพบคุณประพันธ์ที่บ้าน ส่วนอาอุมาเดินทางกลับไปก่อนหน้าแล้วหนึ่งวัน

“แก...ช่วยอยู่ต้อนรับอาแกด้วย เขาโทรมาเมื่อวานว่ามาถึงแล้ว จะมาหาพ่อบ่ายนี้” คุณพ่อนึกขึ้นได้ระหว่างมื้อเช้า

“หนูเบล ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไร”

“ค่ะ...ขอโทษนะคะ รินญานัดจะพาไปกินข้าวเที่ยงค่ะ” กังสดาลมองหน้าพ่อสามีอย่างเกรงใจ

“ไปเถอะ...บอกสองคนด้วยว่าผมไม่ว่าง” เขากะพริบตาส่งสัญญาณว่าโอเค

กังสดาลขอตัวขึ้นไปเตรียมตัวก่อน ปล่อยให้คุณพ่อและสามีปรึกษากัน เธอรู้จากวิชพันธ์ว่าอาสองคนน่าจะมาติดต่อธุรกิจ ซึ่งดิษยาบอกเขาไว้ก่อนหน้าแล้วว่าจะบินตามมาทีหลัง

เธอเอ่ยเปรยๆ เรื่องนี้ให้รินญาและโอลี่

“วันนี้คุณวิชเขาอยู่คุยกับคุณอาเขาน่ะ ฝากขอโทษโอลี่ด้วย...Sorry จริงๆ” เธอหันหน้าไปพูดไทยปนอังกฤษกับสามีของญาติสาว

“เราได้ยินเพื่อนกลุ่มนาง...ซุบซิบกันดังจนมาถึงเรา...” เธอทำหน้าแบบสงสัยกับกังสดาล ราวกับว่าทำไมเธอถึงไม่รู้

“เรื่องอะไร...ฉันงง” กังสดาลมองหน้ารินญาขอคำตอบ

“เอ่อ...แม่ของนางกับอาของคุณวิช...จะมาเปิดร้านอาหาร ส่วนนางขอมาเปิดร้านนวด จะมาหาทำเลที่เปิดติดกันได้” รินญารู้มาเท่านี้

“ดีสิ...เราจะได้ขอทำงานทั้งสองที่เลย” กังสดาลทำหน้าดีใจ

“เฮ้ย...เบล เราว่ามันแปลกอยู่นะ”

“อะไรเหรอ...” เธอทำหน้าไม่เข้าใจ

“แล้วทำไมต้องมาเปิดตอนพวกเราอยู่ที่นี่...ระวังพวกนี้ไว้ด้วยล่ะ” รินญาไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับครอบครัวสามีของเธอมากนัก

“เบล...อย่าไว้ใจนางเดซี่...ตั้งแต่เรียนมัธยมแล้ว นางนิสัยชอบกินแฟนเพื่อน” คำพูดของญาติสาวทำเธอกังวล แต่ในใจคิดว่าเธอคงถูกจ้างมาเป็นหนังหน้าไฟ ไม่รู้ว่าเขาแต่งงานกับเธอไปเพื่ออะไร ยังไม่เข้าใจอยู่เลย

“กรรม...ช่างมันเถอะ พวกเขาอยากทำอะไรก็เชิญ... อย่าทำบาปให้กับฉันละกัน” กังสดาลพูดอย่างห่อเหี่ยวใจ

“ได้ไงวะ...ถ้ามันแย่งคุณวิช...จะตบมันให้เสียโฉมเลย”

“เฮ้ย...ห้ามสร้างวีรกรรม จะมีปัญหากับวีซ่าถ้ามีเรื่องทะเลาะกันต่างแดน” กังสดาลเตือน

“เอางี้...เราไปสมัครทำงานที่ร้านคุณอาด้วย...ไม่อยากอยู่เฉยๆ” รินญาเสนอ

“อย่าลืมว่า นางไม่ใช่แนวบ้านๆ นะ...หัวสูงไฮโซ แนวตลาดลูกทุ่งอย่างพวกเราเสียเปรียบ” กังสดาลเตือนรินญา วิชพันธ์สามีเธอเป็นคนนิ่งลุ่มลึก

“คุณวิช...ดูทรงแล้ว...เขาไม่ชอบคนโวยวาย เราเองไม่ชอบไปทะเลาะออกนอกหน้า นอกจากเล่นเราก่อน เจอดีดกลับแน่” กังสดาลพูดแล้วยังนึกขำวันนั้นที่ยิม นางถูกเธอดีดใส่ลงไปกองกับพื้น

ตกค่ำโอลี่กับรินญามาส่งเธอถึงบ้าน สองคนขออนุญาตครอบครัวสามีเธอกลับทันที เพราะเห็นว่าอยู่กันพร้อมหน้า และอีกหนึ่งคนที่ปรากฏตัวอยู่ด้วยนั้นทำกังสดาลแปลกใจ

“สวัสดีครับ...เบล” เสียงชายหนุ่มทักทายราวกับรู้จักเธอมาก่อน

“...สวัสดีค่ะ...เอ่อ” กังสดาลตะกุกตะกักไม่รู้จักชื่อของเขา

“ผม...วีระพันธ์ ครับ” เขาทำหน้ายิ้มกริ่มแนะนำตนเอง...มองเธออย่างชื่นชอบ

“ค่ะ...คุณวีระพันธ์...เชิญตามสบายนะคะ ขอตัวก่อนค่ะ” เธอทำหน้างุดไม่สบตา เห็นแล้วว่าชายหนุ่มคนนี้ท่าทางไม่เบา

“พี่วิช...เป็นพี่ชายผมครับ...คุณพี่สะใภ้” น้ำเสียงเกรงใจ

“ไปเถอะ...พ่อวิชอยู่ข้างบน เห็นว่าจะเตรียมงานวันพรุ่งนี้มีประชุมออนไลน์” คุณพ่อพูดขัดจังหวะหนุ่มคนนี้ เขาเลยเงียบทันที


กังสดาลเคาะประตูหน้าห้องก่อนหมุนลูกบิดประตู พอเปิดเข้าไปไม่เห็นเขาในห้อง เธอคิดว่าเขาคงอยู่ในห้องน้ำ เธอถอนหายใจหดหู่เมื่อนึกถึงเรื่องที่คุยกัน แม้กระทั่งโอลี่สามีของรินญายังรำคาญว่าสองสาวคุยอะไรกันยืดยาวได้ตลอดเวลา

“เข้ามาซิ น้ำอุ่นพอดี ไม่ลวกผิวสวยหรอก” เขาส่งเสียงออกมา เมื่อได้ยินเสียงเธอ

“อาบก่อนเลยนะคะ...เอาผ้าเช็ดตัวเข้าไปรึยัง” เธอนึกขำกับเขาในเรื่องนี้ เธอคุ้นชินกับมันแล้ว

“หยิบเข้ามาด้วย...รอคุณอยู่น่ะ” เธอคาดไม่ผิดจริงๆ หญิงสาวแกล้งเดินไปที่ตู้เปิดหาทั่วเพื่อถ่วงเวลา เธอเหลือบเห็นผ้าขนหนูอยู่ปลายเตียงตั้งแต่เดินเข้ามาแล้ว

“ทำอะไรอยู่นานจัง...หาไม่เจอรึไง อยู่ที่เตียง!!!” เขาส่งเสียงหงุดหงิด

“กลิ่นลาเวนเดอร์จะทำให้หลับปุ๋ยเลยคืนนี้” เขาสาธยายสรรพคุณน้ำหอมที่ผสมลงในอ่างน้ำ

“ค่ะ...อาบก่อนเลยค่ะ ขอพักสักครู่นะคะ” เธอเอาผ้าเช็ดตัววางพาดไว้ที่ราว หันหลังเดินออกมา ถูกเขาดึงรั้งข้อมือทันที

“ขอโทษนะคะ เพิ่งทานข้าวมาอิ่มๆ ไม่ควรอาบน้ำทันที” เธอพูดความจริง

“แล้วแต่เลย...น้ำกำลังอุ่นอยู่อยากให้แช่ตัวจะได้หลับสบาย”

“ค่ะ...รับทราบ” กังสดาลเดินออกไป จิตใจเธอวันนี้ไม่อยู่กับตัว สมาธิหลุดลอยไปกับเรื่องที่สนทนากับรินญา แต่พยายามสลัดความคิดเหล่านั้นออกไปตลอดแต่มันก็วนเวียนจนเธอหงุดหงิด

เขาเดินออกมาหน้าตาแช่มชื่น กลิ่นสปาหอมฟุ้งโชยเข้าจมูกเธอ เป็นกลิ่นที่เธอชอบมาก เขามองหน้าเธอแล้วพูดขึ้นทันที

“ทำไม...สีหน้าเนือย แบบเนิร์ดๆ เป็นอะไรหรือเปล่า” เขาเป็นคนอ่อนไหวกับท่าทีของอีกฝ่าย

“ไม่มีอะไร...เหนื่อยค่ะ”

“ไปแช่น้ำอุ่นๆ อากาศหนาวคงทำให้คุณเนือยๆ” เขาสั่งเธอเบาๆ

กังสดาลหลับตาแช่อยู่ในอ่างจนรู้สึกง่วงนอน นานผิดปกติจนวิชพันธ์ต้องเข้ามาดู

“เอ้า...หลับแล้วหรือ”

“อืม...จะหลับในนี้แล้วน่ะ...กลิ่นหอมจนง่วงเลยค่ะ” เธอสะลึมสะลือพูดงัวเงีย

“มา...ผมอุ้มไปที่เตียงเอง” เขาอุ้มเธอน้ำเปียกชุ่มกางเกงของเขา จนมาถึงที่เตียง เขาช่วยเอาผ้าเช็ดตัวมาห่อตัวให้เธอ และเอาผ้าห่มคลุมให้ทั้งลูบผมเบาๆ

“หลับเถอะ...พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน” เขากระซิบข้างหู

“ขอโทษนะคะ...จะคุยก็ได้...ฟังอยู่” เธอพูดงัวเงียจนเขาหัวเราะเบาๆ

“เออ...เจอนายวี...แล้วล่ะสิ”

“ใช่ค่ะ...น้องชายคุณ หนุ่มแน่นอยู่เลย”

“เพิ่งเรียนจบ...ที่สิงคโปร์ ว่าจะมาช่วยคุณอาเปิดร้านอาหาร ช่วยเดซี่เรื่องร้านนวด”

“โห...ดีจังเลย” เขาจูบหน้าผากหญิงสาวเบาๆ ก่อนที่เธอจะหลับไปในห้วงแห่งความฝัน


รุ่งขึ้นกังสดาลตื่นมาไม่เห็นวิชพันธ์อยู่ในห้อง เธอเข้าไปอาบน้ำอย่างเร่งรีบเพื่อลงไปสมทบที่โต๊ะอาหาร

“สวัสดีค่ะ...คุณพ่อ คุณวี” เธอทำเสียงเบาๆ ตัวลีบ

“มากินข้าว วิชออกไปข้างนอกกับดิษยาแล้ว” คุณพ่อพูดเรียบๆ

“ขอบคุณค่ะ” เธอกินข้าวมองหน้าสองคนเงียบไม่พูดอะไร

“วันนี้ว่างไหม ผมจะพาไปเที่ยว” วีระพันธ์เสนอตัว

“พาคุณพ่อไปด้วยสิคะ ท่านจะเหงา” เธอมองหน้าพ่อสามีอย่างเกรงใจ

“ไม่ต้อง...เบลไปกับวีเถอะลูก สักครู่อาเขาคงกลับมาพร้อมวิช” คุณพ่อพยักหน้าให้เธอ

“งั้นหนูรอคุณวิชกลับมาแล้วค่อยไปเที่ยวกับคุณวี...นะคะ” เธอหันไปสบตาหนุ่มน้องชายของสามีเธอ

“คุณพ่อไลน์มาบอกแล้วว่า กำลังมา...” เขารีบรายงานทันที

“ค่ะ...หนูรอคุณอามาถึงก่อนนะคะ...” ในใจเธอไม่อยากทิ้งคุณพ่อสามีไว้คนเดียว


เธอขออนุญาตขึ้นไปที่ห้อง ทิ้งให้หนุ่มคนนี้อยู่กับลุงของเขา เธอคาดไว้แล้วว่าเขาต้องไม่ใช่น้องชายของวิชพันธ์ เป็นแค่ลูกพี่ลูกน้องกัน


เธอได้ยินเสียงปิดประตูรถดังที่หน้าบ้าน คุณอาน่าจะมาถึงแล้ว แต่เธอแอบมองลงไปไม่เห็นสามีของเธอ แสดงว่าเขายังคงไม่กลับมาตลอดช่วงบ่าย อาจจะตระเวณไปทัวร์กับดิษยาอยู่


เธอลงไปทักทายคุณอาและกิ๊กของท่าน คุณระพีปรายตามองกังสดาลอย่างเย้ยหยัน แววตาวาวของนางเหยียดหญิงสาวอย่างจงใจ

“สวัสดีค่ะคุณอา และอาระพี” เธอพนมมือไหว้ส่งยิ้มให้ สายตาของกังสดาลมองสาวใหญ่ที่มองเธออย่างเย็นชา

“เอ้า...จะออกไปข้างนอกกันรึ...แล้วคุณวิชไปไหนล่ะ” เธอทำเสียงสูงถามทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเขาออกไปกับลูกสาวเธอ

“ผมว่าจะพาเบลไปเที่ยวบอนไดบีช...” วีระพันธ์พูดแล้วขอตัวทันที


เขาดึงมือกังสดาลออกไปจากบ้าน แล้วพาเธอเดินไปขึ้นรถบัส

“อยู่ที่นี่มาก่อนหรือคะ ถึงรู้ที่เที่ยว” เขามองหน้าเธอยิ้มๆ

“ผมมาหาพี่วิชตั้งแต่เขาเรียนที่นี่” กังสดาลฟังเขาเล่า ระหว่างนั่งอยู่บนรถบัส

“เบลมาเรียนที่นี่...ต่อโทเหรอ” เขาถามเธอและจับมือหญิงสาวทำเธอสะดุ้งปัดมือเขาออก

“ทำไม...พี่สะใภ้ถือตัวมากขนาดนี้” เขาจ้องหน้ากังสดาล

“ขอบอกไว้ก่อน ฉันเป็นสาวไทยไม่ใช่ฝรั่ง” เธอดุเขาเลย

“ขอโทษครับ...อายุเราคงไม่ห่างกัน ลืมไป”


ตอนไปถึงที่หาด เขาพาเดินบนทางเดินริมหาด มองลงไปเห็นคล้ายสระว่ายน้ำสีฟ้าครามจากแสงสะท้อนของดวงอาทิตย์ต้องผิวน้ำ

“สวยมากเลย ตรงนั้นเป็นสระด้วยหรือ” กังสดาลถามเขา

“เรียกว่า Iceberg Bath”


เขาพาเดินไปเรื่อยๆ จนสุดหาดเห็นโขดหินโตมาก เสียงคลื่นกระทบหาดที่เป็นโขดหินสูงเหมือนขึ้นเนินเขา

“หอบ...เหนื่อยเลยซิ” เขาถามเสียงหอบ

“ไม่ได้ออกกำลังกายบ่อยเหมือนตอนเด็กๆ” หญิงสาวตอบเขาขณะมองไปทะเล คลื่นซัดสาดกระทบฝั่งดังซ่าซ่าแทรกเสียงหวีดหวิวของสายลม


เขาพาเธอเดินกลับไปเพื่อขึ้นรถบัส กลับถึงบ้านกันเกือบค่ำ เดินสิบกิโลกว่าแต่ดีที่เหงื่อไม่ค่อยออกมากเท่าไหร่เพราะอากาศเย็น พอถึงบ้านคุณพ่อถามทันที

“เหนื่อยขึ้นไปที่ห้อง...อาบน้ำก่อน แล้วลงมากินข้าวเย็น อาเขาซื้ออาหารไทยจากในเมืองมาหลายอย่าง” กังสดาลมีบิ๊กกี้ TIMTAM ซึ่งเธอซื้อมาไว้ที่ห้องเมื่อวาน เลยขออนุญาตไม่ทานข้าว


เธอรีบอาบน้ำ แล้วโทรหาย่า เวลาน่าจะประมาณสามโมงเย็นที่เมืองไทย วันนี้น่าจะได้คุยกับย่านานหน่อยเพราะวิชพันธ์ยังไม่กลับมา

“ย่าคะ...เป็นไงบ้าง เหงาไหม”

“ที่นั่นคงน่าจะมืดแล้วสิ...” ย่าหัวเราะเบาๆ

“ค่ะ...หนูกำลังจะกินขนมเล่น”

“เอ่อ ย่าคะ...คุณอาอนุพันธ์เขามีลูกชายคนหนึ่งค่ะ ชื่อวีระพันธ์”

“ใช่...นางแจ่มเล่าว่า พ่อคนนี้เป็นลูกของเขากับผู้หญิงที่คบกันตั้งแต่ยังหนุ่ม ศรีนวลไม่เห็นด้วย นางทิ้งลูกไว้ให้ครอบครัวนี้เลี้ยงและเอาเมียแต่งสวมเป็นแม่แทน”

“เรื่องมันยุ่งเหยิงอย่างย่าพูดจริงๆ เขาอายุไล่เลี่ยหนู...”

“นังแจ่มบอกว่า แม่เด็กคนนี้เจ็บใจขนาดแช่งชักหักกระดูกทั้งครอบครัวให้วิบัติเพราะศรีนวลแย่งลูกมา

“ยังไงคะ...หนูไม่เข้าใจ”

“ให้มีแต่เรื่องแบบนี้ไม่รู้จบ แย่งผัวแย่งเมียกันอีรุงตุงนัง”

“โห...แล้วมันจะลามถึงลูกหลานเลยหรือคะ”

“ใช่...แกระวังไว้...ผัวแก...ก็อยู่ในข้องเดียวกัน” กังสดาลฟังย่าเล่า ดูน่าตกใจ

“หมายความว่าไงคะ”

“จะอะไรล่ะ...มันจะคบชู้นะสิ...เห็นไหม ทั้งพ่อสามี อาของเขา และมันจะลามทั้งบ้าน”

“โห...ฟังดูน่ากลัว”

“คนโบราณ...เรียก ต้องคำสาป…ระวังไว้ดีกว่า”

“ไม่มีทางแก้หรือคะ”

“มีสิ...รู้แล้วก็อย่าไปทำตัวให้มัน...ต้องคำสาป...แค่นั้น”

“ย่าว่า...มันเป็นที่สันดานคน...ตั้งแต่นางศรีนวลแล้ว ไปคบกับนายประสานทั้งที่เขายังมีเมียอยู่ และดันมีลูกกับเขาอีก ถ้าเมียเขาไม่ตาย อนุพันธ์มันเข้าบ้านใหญ่พร้อมแม่มันไม่ได้หรอก แถมถูกเรียก ลูกชู้...อีก”

“ฟังย่าพูดแล้ว...หนูถึงได้รู้ว่า ทุกคนคบคนอื่นหน้าตาชื่นบาน ไม่รู้สึกผิดอะไรเลย”

“นั่นล่ะ...มันต้องคำสาปเพราะสันดานที่เห็นตัวอย่างไม่ดี” ย่าบ่นเหมือนสั่งสอน

“แก...อย่าไปทำตัวเหลวไหลแบบนั้นล่ะ”

เธอได้ยินย่าแล้วนึกถึงเรื่องราวเมื่อบ่ายนี้ วีระพันธ์นี่ก็คงเห็นพ่อเป็นตัวอย่าง และยังทำท่าปากพูดมือถึงตัวกับเธอตลอดเวลา นิสัยแย่อย่างไม่น่าให้อภัย หรือว่าการไปอยู่คลุกคลีกับฝรั่งต่างชาติทำให้พวกเขาคิดว่าเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เหมือนสามีในนามเธอเช่นกัน


กังสดาลตอบย่าอย่างมีเหตุผล

“ต้องคำสาปเกิดจากใจที่วิบัติของคนเราที่เข้าไปสู่วังวน ถ้าไม่สร้างเหตุปัจจัยเข้าไปเอื้อให้เกิดขึ้น”