นางมีสัมผัสสวรรค์สามารถติดต่อกับวิญญาณได้ จึงเปิดสำนักดูดวงโดยมีบริวารผีเป็นหน่วยสอดแนม ในที่สุดสำนักดูดวงของนางก็มีชื่อเสียงขจรไปไกล
จีน,ชาย-หญิง,รัก,ย้อนยุค,นางเอกเก่ง,อนาคต,อดีต,จีนโบราณ,ทะลุมิติ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
นางมีสัมผัสสวรรค์สามารถติดต่อกับวิญญาณได้ จึงเปิดสำนักดูดวงโดยมีบริวารผีเป็นหน่วยสอดแนม ในที่สุดสำนักดูดวงของนางก็มีชื่อเสียงขจรไปไกล
ผู้แต่ง
หัตถ์หทัย
เรื่องย่อ
‘ไป๋อี้โยว’ หัวหน้าองครักษ์ประจำตัวฮ่องเต้แห่งราชวงศ์หลิน
ได้รับคำสั่งให้ออกตามหาชินอ๋องผู้เป็นอนุชาอันเป็นที่รักยิ่งของฮ่องเต้
“หากเจ้าดูดวงแม่นจริง เช่นนั้นเจ้าบอกได้หรือไม่เล่าว่าคนที่ข้าตามหาอยู่ที่ใด”
‘เยว่ซิน’ หมอดูที่ร่ำลือกันว่าแม่นอย่างกับตาเห็น แท้จริงแล้วนั้นนางไม่ได้ดูดวงเป็นแต่อย่างใด หากแต่นางมีสัมผัสสวรรค์ที่ผู้อื่นไม่มี ทั้งยังมีบริวารผีทั้งหลายที่คอยสอดแนมเรื่องราวชาวเมืองมาให้นางต่างหากล่ะ
“คิดมิถึงว่าท่านองครักษ์ผู้เกรียงไกรก็เป็นทาสแมวกับเขาด้วย”
°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°
นิยายเรื่องนี้เป็นจินตนาการของนักเขียน ไม่ได้อ้างอิงประวัติศาสตร์ใดๆ ทั้งตัวละครและสถานที่ต่างๆเกิดขึ้นจากจินตนาการของนักเขียน
ทว่าคนที่เด็กชายคิดว่าอยู่ในห้วงนิทรากลับลืมตาขึ้นช้าๆยามที่แน่ใจว่าเด็กชายจากไปแล้ว ร่างผอมจึงพยายามยันตัวลุกขึ้น แม้จะซวนเซไปบ้างเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็ตั้งตัวนั่งอยู่บนฟูกเก่าๆจนคงที่ นางทบทวนความทรงจำมากมายของร่างเดิมที่หลังไหลเข้ามามากมาย จึงได้รู้ว่าที่แห่งนี้ไม่มีบันทึกในประวัติศาสตร์ เธอคิดว่าอาจจะเป็นโลกคู่ขนานแบบในนิยายที่เธอเคยอ่านก็ได้
ร่างนี้มีชื่อเหมือนกับเธอในโลกเก่านามว่า ‘เยว่ซิน’ เด็กหญิงเพิ่งจะอายุเพียงแค่ 13 หนาวเท่านั้นต้องออกรับจ้างหาเงินเพื่อมาดูแลตัวเองและน้องชาย ทั้งที่คนเป็นบิดานั้นเข้าป่าลึกนำของดีๆออกมาขายได้เงินเยอะ ลูกก็ควรจะได้อยู่อย่างสุขสบาย
แต่กลับกันเด็กทั้งสองต้องอดอยาก เพราะมารดาผู้ให้กำเนิดนามว่า ‘อี้เหยา’ นอกจากจะไม่ใยดีลูกในไส้แล้ว ยังชอบทุบตี ท่าทอเด็กทั้งสองอีกด้วย โดยเฉพาะบุตรสาวมักถูกทุบตีบ่อยเป็นพิเศษ โดยที่คนเป็นบิดาไม่เอะใจเลยสักนิด
“เป็นแม่ประสาอะไรวะ ทำกับลูกในไส้ได้ขนาดนี้”หญิงสาวบ่นอุบ
“ไม่ต้องห่วงนะเยว่ซินพี่จะใช้ชีวิตให้ดี จะดูแลครอบครัวนี้แทนเธอเองนะ”
สายลมเย็นยะเยือกพัดมาวูบผ่านเข้ามาทางหน้าต่างบานเล็กทั้งที่ยามนี้ควรจะเป็นลมร้อนเสียมากกว่า ร่างเล็กลูบแขนที่กำลังขนลุกซู่เบาๆ
เยว่ซินในร่างเด็กหญิงวัย 13 หนาวสำรวจร่างกายที่ผอมแห้งจนกระดูกแทบจะทิ่มแทงเนื้อนุ่ม ฝ่ามือหยาบกร้านจากการทำงานหนักลูบสัมผัสเสื้อผ้าเนื้อหยาบที่ถูกปะชุนหลายแห่ง เนื้อผ้าสากเสียยิ่งกว่าผ้าขี้ริ้วในโลกเก่าของเธอ บ้านเรือนหรือก็เริ่มผุพัง แม้จะหากระจกสักบานเพื่อส่องดูโฉมหน้าร่างนี้ยังทำไม่ได้ ข้าวของวางกระจัดกระจายไม่เป็นระเบียบ คงเป็นเพราะมีเยว่ซินและน้องชายเท่านั้นที่คอยทำความสะอาด แต่เด็กก็คือเด็กจะทำได้ดีเช่นผู้ใหญ่ได้อย่างไร
ชีวิตเด็กหญิงยากลำบากไม่น้อย มารดามีความรักให้เธอเฉพาะเวลาที่บิดาอยู่เท่านั้น อาจจะเรียกว่าเป็นการเสแสร้งก็คงจะเหมาะสมกว่า เมื่อถึงเวลาที่บิดาต้องเข้าป่าลึกหลายวัน เด็กหญิงก็กลายร่างเป็นทาสของมารดาทันที
“นี่นังเด็กเหลือขอ! เจ้าหายป่วยแล้วก็ลุกขึ้นมาทำงานเสียสิ มัวนอนโอ้เอ้อยู่นั่น” หญิงงามผู้เป็นมารดาหน้าบูดบึ้งตึง
แค่ก แค่ก..
“แต่ข้ายังไม่หายดีเลยนะเจ้าคะท่านแม่”
“เจ้ามันไร้ประโยชน์สิ้นดี! ถ้าเจ้าไม่ลุกขึ้นมาข้าก็จะให้น้องชายเจ้าทำแล้วกัน”นางข่มขู่เพราะรู้ดีว่าบุตรสาวรักน้องชายเพียงไร
“งั้นข้าจะไปแล้วเจ้าค่ะท่านแม่”นางจำต้องลุกจากฟูกนอนเก่าๆ กระทั่งแสร้งว่ายังไม่หายดีมารดาเจ้าของร่างยังไม่สนใจ หญิงสาวในร่างเด็กบ่นอุบ
นางลอบสำรวจมารดาเจ้าของร่างที่แม้จะมีบุตรถึงสองคนแล้วก็ยังคงดูสวยเหมือนสาวแรกรุ่น เสื้อผ้าเนื้อปานกลางไม่ถือว่าดีมากถูกสวมใส่อยู่บนร่างกายที่สมบูรณ์แบบ แล้วดูเสื้อผ้าบุตรทั้งสองของนางสิมองแล้วก็เหมือนขอทานดีๆนี่เอง ใบหน้านั่นงดงามหมดจด แต่แล้วอย่างไรเล่าความงามไม่สามารถบดบังจิตใจที่โสมมของนางได้เลย
เยว่ซินเข้าไปในครัวเล็กหลังเรือน มันไม่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นครัวสักเท่าไร เตาปูนเก่าๆดูผุพังไปตามกาลเวลาโดยมิได้มีการซ่อมแซมหรือรักษาสภาพใดๆ นางมองไม่เห็นวัตถุดิบสำหรับปรุงอาหารวางอยู่เลยสักชนิด มีเพียงถังที่ใส่ข้าวสารไว้ตั้งอยู่มุมห้อง นางเปิดออกดูทันทีแต่กลับต้องอึ้งงันเพราะด้านในมีเพียงข้าวสารที่กองอยู่ติดก้นถังเท่านั้น นางคาดว่าคงจะทำได้แค่ข้าวต้มสักชามเท่านั้น
“อะไรกันมีแค่ข้าวต้มจืดๆได้อย่างไรกัน ไหนเนื้อสัตว์ แม้แต่ผักเจ้าก็ไม่มีอย่างนั้นหรือ หรือว่าเจ้าแอบกินไปใช่ไหม! นังเด็กเหลือขอ!”
“โอ๊ยย! ท่านแม่ฟังข้าก่อนสิเจ้าคะ ในครัวมันไม่มีอะไรเลยนี่เจ้าคะ จะให้ข้าทำเช่นไรเล่า”
เล็บยาวจิกลงบนศรีษะเด็กน้อย ตามด้วยคำด่าทอมากมายที่ออกจากปากมารดาแท้ๆของเธอ หากเป็นเยว่ซินคนเก่าคงได้แต่ร้องไห้ฟูมฟาย แต่กับเธอมันไม่ใช่หรอกนะ รอให้เธอแข็งแรงกว่านี้ก่อนเถอะ นังแม่ใจมาร!
“ข้าไม่สน! เจ้ามีหน้าที่สนองความต้องการของข้าเท่านั้น ไม่อย่างนั้นหากท่านพ่อเจ้ากลับมา! ข้าจะทำให้เจ้าได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดยิ่งกว่านี้”
“ท่านไม่รักข้าบ้างเลยหรือ” ความเสียใจหลั่งไหลออกมาผ่านดวงตาดอกท้อ นางตกใจที่ตัวเองมีความรู้สึกเช่นนี้ออกมา คาดว่าน่าจะเป็นความรู้สึกตกค้างของเจ้าของร่างเดิม นางจำต้องสกัดกลั้นเอาไว้เสียก่อนที่หยาดน้ำตาจะไหลริน
“ข้าเกลียดเจ้า ไสหัวของเจ้าไปให้พ้นหน้าข้า!”มารดาเจ้าของร่างมีสีหน้าบิดเบียว
เยว่ซินจงใจจิกเล็บลงไปบนมือที่ดึงทึ้งผมนางแน่น ถึงแม้จะมีแรงอันน้อยนิด แต่นางก็ทุ่มสุดแรง ทำให้มือขาวผ่องที่ดูแลอย่างดีขึ้นเป็นรอยเล็บของนาง
“โอ๊ยย! นี่เจ้ากล้าทำร้ายข้าอย่างนั้นรึ เจ้ามันสาระเลว!”
ระหว่างที่มารดากำลังพ่นคำด่าทอพร้อมกับลูบรอยแผลที่นางฝากฝังไว้ ขาเล็กรีบวิ่งออกจากบ้านโดนไม่ลืมคว้าเจ้าตัวเล็กที่กำลังแอบมองติดมือมาด้วย