นางมีสัมผัสสวรรค์สามารถติดต่อกับวิญญาณได้ จึงเปิดสำนักดูดวงโดยมีบริวารผีเป็นหน่วยสอดแนม ในที่สุดสำนักดูดวงของนางก็มีชื่อเสียงขจรไปไกล
จีน,ชาย-หญิง,รัก,ย้อนยุค,นางเอกเก่ง,อนาคต,อดีต,จีนโบราณ,ทะลุมิติ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
นางมีสัมผัสสวรรค์สามารถติดต่อกับวิญญาณได้ จึงเปิดสำนักดูดวงโดยมีบริวารผีเป็นหน่วยสอดแนม ในที่สุดสำนักดูดวงของนางก็มีชื่อเสียงขจรไปไกล
ผู้แต่ง
หัตถ์หทัย
เรื่องย่อ
‘ไป๋อี้โยว’ หัวหน้าองครักษ์ประจำตัวฮ่องเต้แห่งราชวงศ์หลิน
ได้รับคำสั่งให้ออกตามหาชินอ๋องผู้เป็นอนุชาอันเป็นที่รักยิ่งของฮ่องเต้
“หากเจ้าดูดวงแม่นจริง เช่นนั้นเจ้าบอกได้หรือไม่เล่าว่าคนที่ข้าตามหาอยู่ที่ใด”
‘เยว่ซิน’ หมอดูที่ร่ำลือกันว่าแม่นอย่างกับตาเห็น แท้จริงแล้วนั้นนางไม่ได้ดูดวงเป็นแต่อย่างใด หากแต่นางมีสัมผัสสวรรค์ที่ผู้อื่นไม่มี ทั้งยังมีบริวารผีทั้งหลายที่คอยสอดแนมเรื่องราวชาวเมืองมาให้นางต่างหากล่ะ
“คิดมิถึงว่าท่านองครักษ์ผู้เกรียงไกรก็เป็นทาสแมวกับเขาด้วย”
°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°
นิยายเรื่องนี้เป็นจินตนาการของนักเขียน ไม่ได้อ้างอิงประวัติศาสตร์ใดๆ ทั้งตัวละครและสถานที่ต่างๆเกิดขึ้นจากจินตนาการของนักเขียน
ทุกครั้งที่นางเข้าไปภายในมิติมักจะถูกดึงดูดจากทะเลสาบอยู่เสมอ ราวกับมีสิ่งใดร่ายมนตร์ให้นางอยากสัมผัสน้ำนั้นอยู่ร่ำไป ยามที่ผิวกายได้สัมผัสน้ำเย็นสบายภายในทะเลสาบนางรู้สึกราวกับกำลังล่องลอยอยู่บนสรวงสวรรค์ก็มิปาน มิรู้ว่าคิดไปเองหรือไม่ว่านางเหมือนจะตัวสูงขึ้นมากทีเดียว สัดส่วนต่างๆ ก็ดูโตกว่าเด็กวัยเดียวกัน ผิวพรรณนั้นช่างราวกับได้รับการดูแลเป็นอย่างดีเฉกเช่นคุณหนูในห้องหอ บัดนี้นางจึงเหมือนผู้ใหญ่คนหนึ่งที่กำลังสวมชุดสีขาวบริสุทธิ์ ใบหน้าถูกหมวกที่มีผ้ามาบดบังความงามเอาไว้ ทั้งดูสง่างามและลึกลับไปในทีเดียวกัน
นางวางโต๊ะไม้เล็กๆที่หยิบติดออกมาจากในมิติตั้งบริเวณมุมหนึ่งของตลาดแห่งนี้ที่มีบรรดาพ่อค้าต่างเมืองเข้ามาทำการค้าขายมากมาย แม้ไม่ใช่เมืองใหญ่โตอะไรแต่การค้ากลับรุ่งเรืองเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นเส้นทางที่สามารถผ่านไปมาได้หลายเมือง บรรดานักเดินทางส่วนใหญ่ก็มักจะมาพักรถม้าที่เมืองนี้ก่อนออกเดินทางต่อไป เยว่ซินหยิบป้ายที่เขียนคำว่า ‘ทำนายดวงชะตา’ขึ้นวางเด่นหราบนโต๊ะไม้สไตล์วินเทจที่เธอคิดว่าใกล้เคียงกับยุคสมัยนี้มากที่สุด นางก็มิแน่ใจเช่นกันว่าจะมีผู้ใดเข้ามาทำนายดวงชะตากับนางหรือไม่ แต่อย่างน้อยนางก็ได้ลองในสิ่งที่อยากทำเต็มที่แล้ว จวบจนยามโหย่วจึงมีหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งเดินมานั่งลงบนเก้าอี้ด้านหน้านาง
“ท่านตรวจดูได้หรือไม่ว่าเหตุใดสะใภ้บ้านข้าจึงมิมีหลานชายให้ข้าเสียที”ฮูหยินวัยกลางคนผู้หนึ่งเอ่ยถามเสียงไม่ดังนัก
เยว่ซินดัดเสียงเล็กน้อยให้ดูน่าเกรงขามมากยิ่งขึ้น “ต้นเหตุมิได้อยู่ที่สะใภ้ ฮูหยินท่านนี้จงตรึกตรองดูให้ดีเถิด ที่ผ่านมาท่านรู้แจ้งดีมิใช่หรือว่าบุตรชายเป็นเช่นไร ทว่าฮูหยินมิต้องกังวลไป อีกมินานท่านจะได้ลาภลอยเป็นสัตว์สองขาจากบุตรชายคนรอง”
ฮูหยินวัยกลางคนมีสีหน้ายุ่งยาก เรื่องราวของบุตรชายคนโตนั้นมีเพียงนางผู้เดียวที่รู้ แม้แต่ผู้เป็นบิดาของบุตรชายยังมิเคยล่วงรู้ แล้วหมอดูตรงหน้านี้จะรู้ได้เช่นไรหากมิใช่เพราะมีญาณวิเศษ คราแรกนางคิดว่าจะลองดูไปอย่างนั้นไม่ได้คิดจริงจังอะไร แต่ทว่ากลับเจอผู้มีวิชาจริงเสียนี่
“ท่านผู้วิเศษโปรดเก็บเรื่องนี้เป็นความลับด้วยเถิด”ฮูหยินวัยกลางคนอ้อนวอน
เยว่ซินพยักหน้าเล็กน้อย “กฎของข้าคือมิเปิดเผยความลับผู้ที่ทำนายดวงชะตากับข้า”
ฮูหยินผู้นั้นหยิบเงินจำนวนสิบตำลึงทองส่งให้แก่นาง “ขอบพระคุณเจ้าค่ะท่านผู้วิเศษ”
“ข้ามิใช่ผู้วิเศษใดๆเจ้าจงเรียกข้าว่า ‘แม่หมอเยว่’”นางหยิบเงินสิบตำลึงทองโยนใส่เข้าไปในมิติ
**ยามโหย่ว= 17.00-19.00 น.**
เยว่ซินมองตามฮูหยินผู้นั้นไปจนลับสายตา ฮูหยินผู้นั้นรู้อยู่แก่ใจว่าบุตรชายคนโตนั้นนิยมตัดแขนเสื้อแต่ยังบังคับจิตใจบุตรชายให้แต่งสะใภ้ ช่างเป็นโชคร้ายของสะใภ้ผู้นั้นเสียจริง นางกลายเป็นแม่ไก่ที่ไม่สามารถออกไข่ได้ให้ผู้คนนินทาสนุกปาก ทั้งบุตรชายยังต้องแบกรับสิ่งที่ตนเองไม่ได้อยากเป็นเอาไว้บนบ่าทั้งชีวิตนี้มิอาจวางลงได้
“เหยียนเหยาเจ้าทำดีมาก”นางกระซิบแผ่วเบา
“ฮิฮิ อย่าลืมของเซ่นไหว้ของข้าล่ะ”วิญญาณเหยียนเหยาวนไปรอบๆ ตัวเยว่ซิน
วันนี้มีผู้คนมาดูดวงกับนางแค่ไม่กี่คนเท่านั้นแต่ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีมากเชียวล่ะ นางมิได้เรียกเงินจากพวกเขาสักอีแปะแต่พวกเขากลับวางเงินจำนวนไม่น้อยให้นางเสียเอง เดิมทีนางคิดว่าหากวันนี้มีผู้ใดมาดูดวงกับนาง นางจะคิดเพียงแค่ 5 อีแปะเท่านั้น แต่ผู้ใดจะรู้เล่าว่าลูกค้านางจะกระเป๋าหนักเพียงนั้น นางเป็นประเภทไม่ปฏิเสธเงินเสียด้วยสิ
ระหว่างเดินทางกลับนางไม่ลืมที่จะเปลี่ยนเส้นทางไปเรื่อยๆมิให้ผู้ใดสืบสาวหาตัวตนของนางได้ แม้จะยุ่งยากวุ่นวายไปเสียหน่อยแต่ถึงอย่างไรก็ดีกว่าให้ผู้อื่นค้นพบตัวตนนางได้ง่ายๆ มิเช่นนั้นหากภายภาคหน้าเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นนางอาจโดนศัตรูทำร้ายได้โดยง่าย ยามถึงบริเวณปลอดคนนางก็หายเข้าไปในมิติแล้วรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ซ่อมซ่อเช่นเดิม แล้วออกมาเดินด้วยเท้าจวบจนรู้สึกปลอดภัยจึงได้ปล่อยวาง ด้วยภพก่อนนางมีอาชีพที่อยู่ท่ามกลางอันตรายจึงทำให้นางระแวดระวังภัยอยู่เสมอ
วันนี้นางไม่ต้องไปรับสวี่หยางที่บ้านท่านยายหวังจึงไม่รีบร้อนอะไรนัก เมื่อครู่นางเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยความรีบร้อนจึงไม่ทันได้สังเกตุน้องชายตัวน้อยว่าทำสิ่งใดอยู่ แต่คาดว่าคงป่านนี้สวี่หยางคงนอนตีพุงสบายอยู่ในมิติตามประสาเด็กทั่วๆไป
แต่ทว่านางกลับคิดผิดมหันต์ เพราะขณะนี้สวี่หยางที่นางคิดว่ากำลังนอนสบายกลับเนื้อตัวมอมแมมไปด้วยฝุ่นดิน บริเวณทุ่งหญ้าเขียวขจีหน้าบ้านหลังเล็กบัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นแนวร่องยาวหลายแปลง เขาโรยเมล็ดบางอย่างที่หยิบมาจากภายในบ้านลงไปตามร่องดินที่ขุดไว้ จากนั้นหยิบฟางสีเหลืองทองโรยห่มกลบดินไว้จนมิด
เขาหยิบถังน้ำขนาดไม่ใหญ่มากตรงไปยังทะเลสาบจากนั้นก็ตักมันมารดแปลงผักจนชุ่ม เสี่ยวหยางมองดูความเปลี่ยนของเมล็ดผักด้วยความตื่นเต้น ยอดอ่อนค่อยๆแทงทะลุเมล็ดขึ้นมาทันทีที่เขารดน้ำเสร็จจนครบทุกแปลง จนกระทั่งชูช่อขึ้นมาถึง 1 จั้ง จึงทำให้ทราบว่ามันคือยอดของผักบุ้งนั่นเอง ‘นี่มันช่างอัศจรรย์ยิ่งนัก!’
“ทำอะไรอยู่หรือ”เยว่ซินมองเด็กชายก้มๆเงยๆอยู่หน้าแปลงผักบริเวณหน้าบ้าน นี่เป็นสิ่งที่นางไม่คาดคิดมาก่อนว่าสวี่หยางจะมีความสามารถเช่นนี้ หากเป็นเด็กคนอื่นคงเลือกที่จะนอนสบายอยู่ในบ้านที่มีทุกอย่างพร้อมสรรพมากกว่าจะออกมาทำตัวให้เป็นประโยชน์ นับว่าเขาเป็นคนที่ใช้ได้มากเลยทีเดียว
“ท่านพี่ดูนี่สิขอรับ”เขาชี้ยอดผักบุ้งที่ชูช่อแข่งกันจนเต็มแปลง
นางมองดูยอดผักบุ้งที่น้องชายชี้ให้ดูก็พลันคิดไปว่าสวี่หยางคงแค่ตื่นเต้นที่เห็นผักบุ้งงอกจนเต็มแปลงกระมัง จึงได้มีท่าทีแปลกพิกลเช่นนั้น ทันใดนั้นเองสวี่หยางก็เห็นท่าทีไม่เข้าใจของพี่สาวจึงได้เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้พี่สาวฟังจนแจ่มแจ้งว่าเหตุใดเขาจึงมีท่าทีพิกลเช่นนั้น
“เป็นไปได้อย่างไร”เยว่ซินมองผักใบเขียวอย่างตื่นเต้น นางนึกว่ามันจะมีคุณสมบัติเฉพาะกับคนที่ลงไปแช่ตัวเท่านั้น ไม่คิดว่าจะมีผลต่อพืชผักอีกด้วย หากเป็นเช่นนี้นางจะสามารถนำน้ำออกไปรดผักบุ้งที่โลกภายนอกได้หรือไม่ โดยปกติแล้วผักบุ้งก็เป็นพืชที่สามารถเก็บเกี่ยวได้เร็วอยู่แล้วยิ่งบำรุงด้วยน้ำทะเลสาบด้วยแล้วล่ะก็มันจะยิ่งโตได้เร็วดั่งเช่นภายในมิติหรือไม่นะ