นางมีสัมผัสสวรรค์สามารถติดต่อกับวิญญาณได้ จึงเปิดสำนักดูดวงโดยมีบริวารผีเป็นหน่วยสอดแนม ในที่สุดสำนักดูดวงของนางก็มีชื่อเสียงขจรไปไกล
จีน,ชาย-หญิง,รัก,ย้อนยุค,นางเอกเก่ง,อนาคต,อดีต,จีนโบราณ,ทะลุมิติ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
นางมีสัมผัสสวรรค์สามารถติดต่อกับวิญญาณได้ จึงเปิดสำนักดูดวงโดยมีบริวารผีเป็นหน่วยสอดแนม ในที่สุดสำนักดูดวงของนางก็มีชื่อเสียงขจรไปไกล
ผู้แต่ง
หัตถ์หทัย
เรื่องย่อ
‘ไป๋อี้โยว’ หัวหน้าองครักษ์ประจำตัวฮ่องเต้แห่งราชวงศ์หลิน
ได้รับคำสั่งให้ออกตามหาชินอ๋องผู้เป็นอนุชาอันเป็นที่รักยิ่งของฮ่องเต้
“หากเจ้าดูดวงแม่นจริง เช่นนั้นเจ้าบอกได้หรือไม่เล่าว่าคนที่ข้าตามหาอยู่ที่ใด”
‘เยว่ซิน’ หมอดูที่ร่ำลือกันว่าแม่นอย่างกับตาเห็น แท้จริงแล้วนั้นนางไม่ได้ดูดวงเป็นแต่อย่างใด หากแต่นางมีสัมผัสสวรรค์ที่ผู้อื่นไม่มี ทั้งยังมีบริวารผีทั้งหลายที่คอยสอดแนมเรื่องราวชาวเมืองมาให้นางต่างหากล่ะ
“คิดมิถึงว่าท่านองครักษ์ผู้เกรียงไกรก็เป็นทาสแมวกับเขาด้วย”
°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°
นิยายเรื่องนี้เป็นจินตนาการของนักเขียน ไม่ได้อ้างอิงประวัติศาสตร์ใดๆ ทั้งตัวละครและสถานที่ต่างๆเกิดขึ้นจากจินตนาการของนักเขียน
เมื่อไม่มีมารดาคอยจับตาดูแล้ว เยว่ซินจึงเปลี่ยนเครื่องแต่งกายให้คนในบ้านใหม่เสียหมด นางเลือกใช้ผ้าเนื้อปานกลางที่ซื้อสำเร็จรูปจากร้านผ้าในตลาด หากนางใช้ผ้าเนื้อดีอาจกลายเป็นที่จับตามองได้และอาจจะเป็นอันตรายแก่นางและครอบครัว นางตั้งใจว่าจะแวะไปร้านผ้าในตลาดอีกครั้งเพื่อเลือกซื้อผ้าสำหรับใช้ในฤดูหนาวที่กำลังจะมาเยือน ร่างเล็กจึงมาหยุดอยู่ที่ร้านผ้าร้านหนึ่ง
“เถ้าแก่เจ้าคะข้าต้องการผ้าสำหรับฤดูหนาว….”นางยังพูดมิทันจบก็ถูกผลักให้หลบทาง
“เจ้ามิเห็นรึว่าคุณหนูของข้าต้องการเลือกผ้า หลบไปสิ”สาวใช้นางหนึ่งกล่าวเสียงดัง
เยว่ซินปรายตามองเล็กน้อย “ข้าก็จะเลือกผ้าเช่นกันเจ้าค่ะ”
“เจ้ามิรู้หรือว่าข้าเป็นใคร”หญิงสาวคนหนึ่งมองนางด้วยสายตารังเกียจ
“ขออภัยด้วยเจ้าค่ะ ข้ามิมีเวลาว่างจนต้องรู้ไปหมดว่าใครเป็นใคร”
“อวดดี!”หญิงงามใช้พัดในมือตบหน้านางเบาๆ
“จงจำใส่หัวเจ้าไว้ซะ! ข้าตงหว่านถิงแห่งกระกูลตง ในเมืองนี้ใครบ้างที่มิรู้จักบิดาข้า”
เยว่ซินค้อมตัวลงเล็กน้อย “ขออภัยเจ้าค่ะ ข้าน้อยมีตาหามีแววไม่”
“หึ! อย่างเจ้ามีสิทธิ์อะไรมาเข้าร้านผ้าชื่อดังเช่นนี้ได้ เจ้ามีปัญญาซื้อหรือ มิสู้รอรับบริจาคเสียดีกว่า”ตงหว่านถิงหัวเราะเยาะ
“ท่านจะบริจาคหรือเจ้าคะ ดียิ่งนัก ข้าจะไปป่าวประกาศให้เดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ”นางวิ่งออกไปหน้าร้านพร้อมกับป่าวประกาศเสียงดัง
“ท่านที่ผ่านไปผ่านมาโปรดฟังทางนี้ คุณหนูหว่านถิงแห่งตระกูลตงได้จัดเตรียมผ้าห่มหลายพันพับทั้งยังมีชุดคลุมกันหนาวอีกหลายร้อยตัวไว้แล้ว นางตั้งใจจะบริจาคให้แก่ชาวเมืองเพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงนี้ และอีกไม่นานนางจะนำมาตั้งโต๊ะบริจาคที่ศูนย์รวมกลางเมือง ท่านทั้งหลายโปรดกระจายข่าวไปให้รับรู้กันโดยทั่วด้วยเจ้าค่ะ” เยว่ซินประกาศจบก็หายไปในฝูงชนที่มามุงอยู่หน้าร้านผ้า
“นี่เจ้า….”หญิงสาวมองหาเยว่ซินแต่ก็ไม่พบแล้ว
ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วเมืองโดยการพูดปากต่อปากของชาวบ้าน ผู้ที่ยากลำบากดีใจเป็นอย่างมากที่มิต้องทนหนาวเย็นเช่นปีที่ผ่านมา ชาวเมืองต่างพากันสรรเสริญเยินยอคุณหนูตงหว่านถิงไปทั่วเมือง
หากแต่คนที่เป็นเจ้าชื่อของกลับไม่ได้ดีใจไปด้วย นางกลับกลุ้มใจยิ่งกว่าเดิม หากเรื่องรู้ถึงหูบิดาเข้านางคงถูกตำหนิอีกเป็นแน่ นางเป็นเพียงบุตรอนุเท่านั้น เพียงแต่เป็นบุตรีคนแรกจึงกลายเป็นคุณหนูใหญ่ของจวน ไม่ว่าจะย่างกรายไปที่ใดบ่าวรับใช้ก็ยำเกรงนางในฐานะคุณหนูใหญ่เสมอ
“ข้านับถือน้ำใจพี่หญิงใหญ่เสียจริง ชาวเมืองต่างสรรเสริญท่านพี่กันเสียทั่ว ข้าคงต้องเรียนรู้จากท่านพี่ให้มากเสียแล้ว”เด็กหญิงผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น
“ผิงเออร์เองหรอกหรือ ข้ามิกล้าสั่งสอนเจ้าหรอก เจ้าอย่าเยินยอพี่นักเลย”
“นี่หากท่านพ่อรู้เรื่องเข้าคงต้องภาคภูมิใจเป็นแน่ เดี๋ยวข้าจะรีบนำความไปบอกท่านพ่อให้ดีหรือไม่เจ้าคะ”
“เจ้า! มิต้องหรอก เดี๋ยวข้าบอกกล่าวกับท่านพ่อเอง เจ้าก็รู้ว่าท่านพ่อโปรดปรานข้ามากเพียงใด”
“จริงสิข้าก็ลืมไปเสียสนิทว่าท่านพี่เป็นบุตรอนุที่ท่านพ่อโปรดปรานที่สุด”
เมื่อไม่ได้ดั่งใจสิ่งใดตงหว่านถิงก็มักนำชื่อเสียงของบิดามากล่าวอ้างเสมอ นอกจากคนในจวนก็ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่านางเป็นเพียงบุตรอนุเท่านั้น เนื่องจากมารดานางเสียไปตั้งแต่นางยังแบเบาะ ฮูหยินเอกของจวนจึงรับเลี้ยงนางเป็นเสมือนบุตรแท้ๆ แต่ทว่าไม่นานนักตงฮูหยินก็ตั้งครรภ์ขึ้น เริ่มแรกบิดาก็ยังคงใส่ใจนางมิเคยเปลี่ยนแปลง แต่เมื่อคุณหนูรองของจวน ‘ตงซูผิง’ ถือกำเนิดขึ้นนางก็มิเคยได้รับความรักเฉกเช่นเดิมอีกเลย
ทว่าเมื่อเติบใหญ่ขึ้นความโปรดปรานก็หันกลับมาหานางอีกครั้ง เนื่องจากนางนั้นมีรูปโฉมที่งดงามทั้งชื่อเสียงยังเต็มไปด้วยเรื่องดีงาม แตกต่างกับตงซูผิงบุตรีคนรองเสียสิ้นเชิง
“เถ้าแก่เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ”นางนั่งลงที่โต๊ะ
เถ้าแก่เฉียนดึงสายตากลับมามองนางเล็กน้อย “มิมีลูกค้าเลย แถวนี้คนมิพลุกพล่านเช่นบริเวณใจกลางตลาด”
“ถ้าเช่นนั้นเราคงต้องหาวิธีให้คนได้ชิมก๋วยเตี๋ยวของเราเสียก่อน”นางเสนอ
“ข้ามีวิธี”คนมาใหม่กล่าวขึ้น
เยว่ซินมองเด็กหญิงอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับนาง เพียงแต่ดูเหมือนว่าส่วนสูงจะต่างกันพอสมควร นางล่วงรู้แต่แรกแล้วว่าเด็กหญิงคนนี้ตามนางมาตั้งแต่ในตลาด เพียงแต่นางไม่รู้เจตนาที่ชัดเจน จึงทำทีเป็นแวะมาร้านก๋วยเตี๋ยวเพื่อความปลอดภัย คาดไม่ถึงว่านางจะปรากฏตัวออกมาง่ายดาย
“เจ้าเป็นใครอีกเล่า”เถ้าแก่เฉียนขมวดคิ้ว
“ข้าอยากพูดกับเจ้า”นางชี้มาที่เยว่ซิน
เยว่ซินรู้ดีว่าเหตุใดเด็กหญิงต้องการเจรจากับนาง เหยียนเหยาบอกกับนางว่าเด็กหญิงคนนี้คือตงซูผิง บุตรสาวคนรองของจวนพ่อค้าวานิชที่มีอิทธิพลในเมืองนี้ “เจ้าว่ามาสิ มีสิ่งใดจะพูดกับข้า”
“ข้ามีนามว่าตงซูผิงอยากเป็นสหายกับเจ้าได้หรือไม่”