นางมีสัมผัสสวรรค์สามารถติดต่อกับวิญญาณได้ จึงเปิดสำนักดูดวงโดยมีบริวารผีเป็นหน่วยสอดแนม ในที่สุดสำนักดูดวงของนางก็มีชื่อเสียงขจรไปไกล
จีน,ชาย-หญิง,รัก,ย้อนยุค,นางเอกเก่ง,อนาคต,อดีต,จีนโบราณ,ทะลุมิติ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
นางมีสัมผัสสวรรค์สามารถติดต่อกับวิญญาณได้ จึงเปิดสำนักดูดวงโดยมีบริวารผีเป็นหน่วยสอดแนม ในที่สุดสำนักดูดวงของนางก็มีชื่อเสียงขจรไปไกล
ผู้แต่ง
หัตถ์หทัย
เรื่องย่อ
‘ไป๋อี้โยว’ หัวหน้าองครักษ์ประจำตัวฮ่องเต้แห่งราชวงศ์หลิน
ได้รับคำสั่งให้ออกตามหาชินอ๋องผู้เป็นอนุชาอันเป็นที่รักยิ่งของฮ่องเต้
“หากเจ้าดูดวงแม่นจริง เช่นนั้นเจ้าบอกได้หรือไม่เล่าว่าคนที่ข้าตามหาอยู่ที่ใด”
‘เยว่ซิน’ หมอดูที่ร่ำลือกันว่าแม่นอย่างกับตาเห็น แท้จริงแล้วนั้นนางไม่ได้ดูดวงเป็นแต่อย่างใด หากแต่นางมีสัมผัสสวรรค์ที่ผู้อื่นไม่มี ทั้งยังมีบริวารผีทั้งหลายที่คอยสอดแนมเรื่องราวชาวเมืองมาให้นางต่างหากล่ะ
“คิดมิถึงว่าท่านองครักษ์ผู้เกรียงไกรก็เป็นทาสแมวกับเขาด้วย”
°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°
นิยายเรื่องนี้เป็นจินตนาการของนักเขียน ไม่ได้อ้างอิงประวัติศาสตร์ใดๆ ทั้งตัวละครและสถานที่ต่างๆเกิดขึ้นจากจินตนาการของนักเขียน
“ข้ามิได้เจตนามิดี เพียงแต่ข้าต้องการทำพันธสัญญากับเจ้า”เสียงเย็นเอ่ยใกล้ๆเยว่ซิน ทำให้นางขนลุกขนชันแม้จะได้ยินเสียงวิญญาณบ่อยเสียจนชิน แต่กับเสียงนี้นางกลับรู้สึกว่าน่าเกรงขามประหลาด
“เจ้าหมายถึงอะไร ข้ามิเข้าใจ”แม้จะรู้สึกกลัวแต่ทว่านางก็ทำใจสู้เอ่ยบ่ายเบี่ยงออกไป นางไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับวิญญาณมากนักหากมิจำเป็น
“ท่านคือผู้มีสัมผัสสวรรค์ และมิติที่ 3 นั้นจะเป็นผู้เลือกเจ้าของด้วยตนเอง ข้ารอคอยให้มีผู้ถูกเลือกถือกำเนิดมานานแสนนาน ในที่สุดท่านก็ปรากฏตัวเสียที” วิญญาณตนนี้เคยทำพันธสัญญากับใครผู้หนึ่งเมื่อนานมาแล้ว ก่อนที่เจ้านายคนเก่าจะดับสูญไปเขาได้บอกให้อยู่รอจนกว่าผู้ถูกเลือกคนใหม่จะปรากฏตัวขึ้น เมื่อนั้นจงให้เขาคอยชี้แนะสิ่งต่างๆให้แก่ผู้ถูกเลือก
“เจ้ารู้เรื่องมิติด้วยหรือ ”นางนั่งลงใต้ร่มไม้ใหญ่ที่บดบังร่างเล็กจนมิด
“แน่นอนสิ ข้ามีประสบการณ์มาหลายพันปีมีสิ่งใดบ้างที่ข้ามิรู้”วิญญาณตนนี้มีนิสัยคุยโวอยู่เป็นนิจ แต่ด้วยอำนาจปกครองในแดนหลังความตายของเขาจึงไม่มีวิญญาณภูติผีตนใดกล้าล่วงเกิน
“ท่านเร่ร่อนมานานขนาดนั้นเลยหรือ เหตุใดไม่ไปผุดไปเกิดเสียทีเล่าเจ้าคะ” เยว่ซินนางคงมรู้ว่านางได้ล่วงเกินวิญญาณผู้เป็นใหญ่เข้าให้แล้ว
“สามหาว! ข้ามิได้เร่ร่อนเช่นที่เจ้ากล่าวหา นั่นเป็นเพราะข้ารอเจ้าอย่างไรเล่า ข้าเพียงอยากเห็นมิติที่ 3 อีกครั้งเท่านั้น” มิติที่ 3 เปรียบเสมือนบ้านเก่าของเขา เมื่อเจ้านายคนเก่าได้ดับสูญ วิญญาณทุกตนที่มีพันธสัญญากับผู้เป็นเจ้าของจะถูกปลดปล่อยออกมาทั้งหมด และมิสามารถเข้าไปยังที่แห่งนั้นได้อีก เขาก็เป็นเช่นวิญญาณดวงอื่นที่ถูกปลดปล่อยออกมาเช่นกัน
“อีกครั้งอย่างนั้นหรือเจ้าคะ ถ้าเช่นนั้นแสดงว่าท่านเคยเห็นมาก่อนแล้วใช่หรือไม่”นางตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด ถ้าเป็นเช่นนั้นนั่นหมายความว่าเคยมีผู้ที่ถือครองมิติที่ 3 เช่นนางอยู่เหมือนกัน หากว่าผู้ถือครองมิติผู้อื่นข้ามภพมาเหมือนนางเช่นกันเล่า มิเช่นนั้นเหล่าผู้ข้ามภพจงมารวมตัวกันเถอะ
“ใช่แล้ว แต่ข้ามิบอกอะไรเจ้าหรอกนะ จนกว่าเจ้าจะทำพันธสัญญากับข้าเสียก่อน” เขาพูดราวกับเข้ามานั่งในใจนาง
เยว่ซินอยากรู้เกี่ยวกับมิติที่ 3 ให้มากขึ้น เพื่อนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ดูอย่างทะเลสาบนั่นนางคาดว่าน้ำในนั้นน่าจะมีคุณสมบัติทำให้เจริญงอกงามและสดชื่นไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ส่วนของใช้ภายในบ้านก็ไม่มีวันหมด แล้วยังมีอะไรอีกมายมายภายในมิติที่นางยังมิรู้คุณสมบัติแน่ชัด หากนางได้ผู้ชี้แนะคงดีไม่น้อย และที่สำคัญนางอยากรู้ถึงตัวตนผู้ที่ครองมิติที่ 3 เช่นนาง แต่ทว่านางกลับต้องผิดหวังเสียแล้ว เนื่องจากผู้ถือครองมิติที่นางต้องการพบนั้นได้ดับสูญไปนานแสนนานแล้ว ส่วนตัวนางนั้นคือผู้ถือครองมิติคนถัดมาอย่างไรเล่า
~วูบ~
เยว่ซินรู้สึกเจ็บแปลบที่ข้อมือเหมือนครั้งแรกที่ได้ทำพันธสัญญากับเหยียนเหยา นางลูบข้อมือเล็กที่ปรากฏปานคล้ายปีกผีเสื้อเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งปีก บัดนี้ปานนั้นดูเหมือนผีเสื้อครึ่งตัวอย่างชัดเจน เยว่ซินดึงชายแขนเสื้อลงมิให้ผู้ใดได้พบเห็นปานที่ข้อมือของนาง
“จากนี้ท่านคือเจ้านายของข้าอย่างสมบูรณ์ ท่านเรียกข้าว่าหานฉี ผู้มีประสบการณ์หนึ่งพันปีแห่งโลกวิญญาณ”เขาหายเข้าไปในปานที่ข้อมือนาง ก่อนจะออกมาปรากฏตัวตรงหน้าเยว่ซินอีกครั้ง
ร่างทั้งร่างนิ่งไปชั่วขณะราวกับว่ามีสิ่งใดมาตรึงไว้ นัยน์ตาดอกท้อสะท้อนชายร่างสูงชะลูดผู้หนึ่ง ผมนั่นขาวโพลนไปทั่วทั้งศีรษะแต่ทว่าเมื่อสะท้อนกลับแสงแดดกลับแปรเปลี่ยนเป็นสีเงินไปทั่วเส้นผมเงางาม มือเรียวขาวผ่องดั่งดรุณีน้อยก็มิปานโบกพัดแบบผู้ทรงภูมิปัญญาไปมาเบาๆ หากให้เปรียบเทียบเขามิได้รูปงามเยี่ยงบุรุษผู้น่าเกรงขาม แต่กลับงามเยี่ยงจิ้งจอกขาวเก้าหางเสียมากกว่า ยิ่มเผยรอยยิ้มเลอโฉมนั่นออกมาก็ยิ่งเหมือนปีศาจนางจิ้งจอกแปลงกายมาเสียจริง หากบุรุษใดได้ยลโฉมเข้าก็คงต้องหวั่นไหวอย่างแน่นอน เมื่อได้สติเยว่ซินจึงรู้ทันทีว่านั่นมิใช่คนมีเลือดเนื้อเช่นนางอย่างแน่นอน เพราะรอบกายของเขามีไอเย็นแผ่ออกมาตลอดเวลาจนเห็นเป็นหมอกขาว
“ข..ข้าเห็นท่านแล้ว”นางพูดติดขัด ทั้งสีหน้ายังแดงระเรื่อให้แก่ความงามเย้ายวนตรงหน้านี้
“เจ้าเห็นข้าแล้วหรือ”เขาลอยตัวเข้ามาใกล้เยว่ซิน มือเรียวโบกไปมาตรงหน้านาง ส่งผลให้ดรุณีน้อยต้องขยับถอยห่างไปหลายก้าวเดิน เนื่องจากรูปลักษณ์ที่เย้ายวนนั้นทำให้นางอดใจเต้นระรัวมิได้ ทั้งในภพก่อนและภพใหม่นี้นางมิเคยพบบุรุษใดที่งามจนน่าหวั่นใจขนาดนี้มาก่อน นางจึงต้องหลับตาลงตั้งสติให้มั่น มิใช่ว่าเพราะกลัววิญญาณใดๆ แต่นางเขินอายวิญญาณรูปงามนามว่าหานฉีต่างหากเล่า
“ข้าไม่ได้เห็นแค่เจ้านะแต่….” เยว่ซินมองเห็นวิญญาณดวงอื่นที่ล่องลอยไปมาอยู่อีกมากมายด้วย มีบางตนต้องการเข้ามาใกล้นาง แต่เหมือนกลัวอะไรสักอย่างจึงได้แอบหลบอยู่ห่างๆ