นางมีสัมผัสสวรรค์สามารถติดต่อกับวิญญาณได้ จึงเปิดสำนักดูดวงโดยมีบริวารผีเป็นหน่วยสอดแนม ในที่สุดสำนักดูดวงของนางก็มีชื่อเสียงขจรไปไกล
จีน,ชาย-หญิง,รัก,ย้อนยุค,นางเอกเก่ง,อนาคต,อดีต,จีนโบราณ,ทะลุมิติ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
นางมีสัมผัสสวรรค์สามารถติดต่อกับวิญญาณได้ จึงเปิดสำนักดูดวงโดยมีบริวารผีเป็นหน่วยสอดแนม ในที่สุดสำนักดูดวงของนางก็มีชื่อเสียงขจรไปไกล
ผู้แต่ง
หัตถ์หทัย
เรื่องย่อ
‘ไป๋อี้โยว’ หัวหน้าองครักษ์ประจำตัวฮ่องเต้แห่งราชวงศ์หลิน
ได้รับคำสั่งให้ออกตามหาชินอ๋องผู้เป็นอนุชาอันเป็นที่รักยิ่งของฮ่องเต้
“หากเจ้าดูดวงแม่นจริง เช่นนั้นเจ้าบอกได้หรือไม่เล่าว่าคนที่ข้าตามหาอยู่ที่ใด”
‘เยว่ซิน’ หมอดูที่ร่ำลือกันว่าแม่นอย่างกับตาเห็น แท้จริงแล้วนั้นนางไม่ได้ดูดวงเป็นแต่อย่างใด หากแต่นางมีสัมผัสสวรรค์ที่ผู้อื่นไม่มี ทั้งยังมีบริวารผีทั้งหลายที่คอยสอดแนมเรื่องราวชาวเมืองมาให้นางต่างหากล่ะ
“คิดมิถึงว่าท่านองครักษ์ผู้เกรียงไกรก็เป็นทาสแมวกับเขาด้วย”
°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°
นิยายเรื่องนี้เป็นจินตนาการของนักเขียน ไม่ได้อ้างอิงประวัติศาสตร์ใดๆ ทั้งตัวละครและสถานที่ต่างๆเกิดขึ้นจากจินตนาการของนักเขียน
เยว่ซินแวะไปสำรวจที่ดินผืนใหม่ของนาง ที่ดินนี้เป็นพื้นที่ติดกัน 100 หมู่ ยาวไปจนถึงตีนเขาที่ดูอุดมสมบูรณ์ ด้านหน้ามีถนนที่รถสัญจรได้สะดวกสบาย ท่านเจ้าเมืองเล่าว่าบางคราก็มีรถพ่อค้าต่างถิ่นสัญจรไปมาอยู่บ้างเนื่องจากเส้นทางนี้สามารถใช้เดินทางไปยังเมืองที่ติดต่อกันนี้ได้
นางพบว่ามีวิญญาณมากมายอยู่ที่นี่จริงๆ แสดงให้เห็นว่าคำเล่าลือนั่นเป็นความจริงมิได้มีผู้ใดใส่ความ แต่นางมิเข้าใจว่าทำไมบริเวณนี้จึงมีภูติผีเยอะนัก ทั้งที่บริเวณอื่นไม่ได้มีหนาตาเช่นนี้ เช่นนั้นนางคงต้องสอบถามหานฉีเสียหน่อยแล้ว “หานฉีเจ้ารู้หรือไม่เหตุใดที่นี่จึงมีวิญญาณเยอะเช่นนี้”
“ด้วยประสบการณ์พันปีของข้าหานฉี ข้าจะบอกเจ้าให้ว่าที่แห่งนี้คือประตูเชื่อมระหว่างนรกสวรรค์อย่างไรล่ะ แต่เจ้ามิต้องห่วงวิญญาณที่เจ้าเห็นบางตนพวกเขาไปผุดไปเกิดมิได้เพราะยังติดห่วงบางอย่าง แต่บางตนแค่ต้องมาผ่านทางเท่านั้น”หานฉีโบกพัดในมือไปมา
“แล้วหากข้าสร้างบ้านที่นี่ พวกเขาจะโกรธแค้นข้าหรือไม่” นางเห็นวิญญาณบางตนมีไออาฆาตแค้นรุนแรงอย่างมาก ที่ไปผุดไปเกิดมิได้เพราะห่วงที่ว่านั่นคือการแก้เเค้นหรือเปล่าก็ไม่รู้ หากมาพาลโกรธนางที่มาสร้างบ้านที่นี่จะไม่อาละวาดเอาหรือ
หานฉียกพัดในมือตีหัวเยว่ซินเบาๆ “เจ้าลืมไปเเล้วหรือว่าข้าเป็นใคร”
นางมองหานฉีเดินเข้าไปใกล้วิญญาณตนนั้นด้วยท่าทางน่าเกรงขามผิดกับหน้าตาที่ออกจะงามเยี่ยงสตรีผนวกกับไอเย็นที่แผ่ออกมาจากร่างนั้นจนเห็นเป็นขาวโพลนไปทั่วจึงทำให้กลายเป็นความงามที่น่าขนลุกยิ่งนัก เพียงชั่วอึดใจบรรดาวิญญาณภูติผีเหล่านี้ยอมสยบให้แก่หานฉีอย่างง่ายดายทั้งที่เขายังมิได้เอ่ยสิ่งใดแม้เพียงครึ่งคำ นางยอมรับในความเก่งกาจนี้ของหานฉียิ่งนัก เสียแต่ว่าเขานั้นช่างขี้อวดอย่างที่เหยียนเหยาบอกไว้จริงๆ
นางมิได้อยากไล่ภูติผีตนใดออกไปจากที่นี่ถึงอย่างไรตนก็เป็นผู้มาทีหลัง หากจะให้ไล่พวกนั้นไปก็ดูจะไม่ยุติธรรมกับพวกเขา แต่หากทำพันธสัญญาเล่านางก็จะได้บริวารผีมาเพิ่มอีก นางมิต้องกลัวว่าจะมีมีเงินมาทำของเส้นไหว้ภูติผีอีกแล้ว ทั้งยังมีหานฉีคอยควบคุมภูติผีอยู่อีกตนนางก็มิต้องกังวลสิ่งใด
ด้านหานฉีนั้นเห็นตรงกันกับนางที่จะทำพันธสัญญาเพราะถึงอย่างไรวิญญาณพวกนี้ก็มิสามารถออกไปจากผืนดินแห่งนี้ได้จนกว่าจะมีผู้มาปลดปล่อยหรือสามารถปล่อยวางด้วยตนเองได้ มิสู้รวบรวมให้มาเป็นพรรคพวกเดียวกันไปเลยเสียจะดีกว่า
วูบ~ ~
เยว่ซินลูบสัมผัสปานผีเสื้อบนข้อมือเล็กแผ่วเบา ดูเหมือนว่าทุกครั้งที่ทำพันธสัญญากับภูติผี ภาพผีเสื้อนั้นก็จะปรากฎส่วนประกอบใหม่ขึ้นมาทุกครา “พวกเจ้ามีนามว่าอะไรกันบ้างล่ะ”
วิญญาณสตรีหน้าตางดงามนางหนึ่งเป็นตัวแทนเอ่ยขึ้นท่ามกลางวิญญาณทั้งหมด 7 ตนที่ได้ทำพันธสัญญากับนางเมื่อครู่ “พวกข้าอยากให้ท่านตั้งชื่อใหม่ให้เจ้าค่ะ”
“ได้สิ เช่นนั้นเจ้าชื่อถิงอี ถิงเออร์ ถิงซาน พวกเจ้าจงไปเป็นผู้ช่วยเหยียนเหยา ส่วนทางนั้นเจ้าไป๋ซื่อ ไป๋อู่ และไป๋ลิ่ว พวกเจ้าทำหน้าที่ปกปักษ์รักษาห้ามมิให้ผู้ที่ข้ามิอนุญาตเข้ามาได้โดยเด็ดขาด”นางตั้งชื่ออย่างง่ายให้วิญญาณทีละดวงพร้อมทั้งมอบหมายหน้าที่ให้เรียบร้อย ก่อนจะผินหน้าไปมองวิญญาณอีกดวงที่มีไอร้อนแผ่ออกมาผสมปนเปกับไอเย็นของหานฉี
“เรียกข้าว่าหลัวอัน”
“หลัวอัน…ไพเราะยิ่งนัก” นางพยายามสะกดกลั้นมิให้ตนเองเผลอทำสิ่งใดให้เขาขุ่นเคือง แม้ยามนี้ดวงตาของนางจะมีน้ำปริ่มอยู่ก็ตามที ด้วยชื่อของเขาช่างแตกต่างกับภาพลักษณ์ของเขาที่นางเห็นอยู่ขณะนี้อย่างสิ้นเชิง
จิตใจสงบหรือผิดกับจิตอาฆาตอันร้อนแรงของเขายิ่งนัก
“เช่นนั้นท่านก็อยู่กับหานฉีเถอะ”นางมองบุรุษที่งามเยี่ยงอิสตรีและบุรุษที่หล่อเหลาเยี่ยงวีรบุรุษยืนเคียงคู่กันอยู่ด้านหน้านาง ผู้หนึ่งแผ่ไอเย็นยะเยือกเช่นเหมันต์ฤดู ผู้หนึ่งแผ่ไอร้อนดั่งเปลวเพลิงในฤดูคิมหันต์ช่างเป็นความงามที่ยากจะบรรยาย
เมื่อสำรวจที่ดินจนพอใจแล้วนางจึงเข้าไปรวบรวมเครื่องประดับที่ได้มาจากจวนเจ้าเมืองในครานั้นอีกเช่นกัน นางสำรวจเครื่องประดับถี่ถ้วนแล้วว่ามิมีตราประทับใดๆดั่งเช่นเครื่องประดับที่โจวอิงอินมอบให้หมิงฉี นางจึงนำออกไปแลกเป็นตั๋วเงินอย่างสบายใจ แต่ละชิ้นนั้นล้วนมีราคาค่างวดมากยิ่งนัก แม้เตรียมไว้สำหรับสร้างบ้านแล้วยังเหลือเพียงพอสำหรับใช้สอยในชีวิตประจำวันได้อีกสักระยะ
ทางด้านเหยียนเหยานั้นนางพบว่าวิญญาณตนนี้หน้าตาดีมากทีเดียว นางเล่าว่าในอดีตตัวนางเป็นถึงหญิงงามอันดับหนึ่งในเมืองเฉินซาน แม่สื่อต่างชักแถวกันมาไม่ว่างเว้น แต่อนิจจาด้วยความงามเพียบพร้อมของนางเลื่องชื่อไปจนถึงในวัง จึงได้ถูกเกณฑ์ให้เข้าไปคัดเลือกเป็นสนมในวังหลัง หญิงสูงศักดิ์ผู้หนึ่งริษยาที่นางจะได้รับคัดเลือกไปอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่านางจึงวางแผนกำจัดนางทิ้งแล้วโยนความผิดให้กับเพื่อนรักของนาง นางมิได้มีอำนาจใดๆหนุนหลังจึงทำให้ต้องตายอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม
ในช่วงแรกนางอาฆาตแค้นคนพวกนั้นยิ่งนัก นางได้แต่เฝ้ารอให้พวกมันและลูกหลานค่อยๆล่มจมลงไป แต่ก็ยังมิถึงวันนั้นเสียที พวกมันกลับยิ่งสูงขึ้น สุดท้ายจึงมีเพียงนางเท่านั้นที่ยังคงเป็นทุกข์อยู่ผู้เดียว นางจึงหากิจกรรมอย่างอื่นที่จะได้คลายความแค้นลงไปบ้างนั่นก็คือหาเรื่องชาวบ้านมานินทาให้บรรดาวิญญาณด้วยกันฟัง จนได้มาพบกับเยว่ซิน
และแน่นอนว่านางทำงานของตนได้อย่างคล่องแคล่วสมกับเป็นผู้รอบรู้เรื่องชาวบ้านเสียจริงๆ อย่างตอนนี้นางก็กำลังสาธยายความชั่วของชายตรงหน้าที่นางกำลังทำทีว่าตรวจดวงชะตาเขาอยู่