นางมีสัมผัสสวรรค์สามารถติดต่อกับวิญญาณได้ จึงเปิดสำนักดูดวงโดยมีบริวารผีเป็นหน่วยสอดแนม ในที่สุดสำนักดูดวงของนางก็มีชื่อเสียงขจรไปไกล

สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง - ตอนที่26 ก่อกวน(ตอนปลาย) โดย หัตถ์หทัย @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

จีน,ชาย-หญิง,รัก,ย้อนยุค,นางเอกเก่ง,อนาคต,อดีต,จีนโบราณ,ทะลุมิติ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

จีน,ชาย-หญิง,รัก,ย้อนยุค

แท็คที่เกี่ยวข้อง

นางเอกเก่ง,อนาคต,อดีต,จีนโบราณ,ทะลุมิติ

รายละเอียด

นางมีสัมผัสสวรรค์สามารถติดต่อกับวิญญาณได้ จึงเปิดสำนักดูดวงโดยมีบริวารผีเป็นหน่วยสอดแนม ในที่สุดสำนักดูดวงของนางก็มีชื่อเสียงขจรไปไกล

ผู้แต่ง

หัตถ์หทัย

เรื่องย่อ

‘ไป๋อี้โยว’ หัวหน้าองครักษ์ประจำตัวฮ่องเต้แห่งราชวงศ์หลิน


 ได้รับคำสั่งให้ออกตามหาชินอ๋องผู้เป็นอนุชาอันเป็นที่รักยิ่งของฮ่องเต้

“หากเจ้าดูดวงแม่นจริง เช่นนั้นเจ้าบอกได้หรือไม่เล่าว่าคนที่ข้าตามหาอยู่ที่ใด”

‘เยว่ซิน’ หมอดูที่ร่ำลือกันว่าแม่นอย่างกับตาเห็น แท้จริงแล้วนั้นนางไม่ได้ดูดวงเป็นแต่อย่างใด หากแต่นางมีสัมผัสสวรรค์ที่ผู้อื่นไม่มี ทั้งยังมีบริวารผีทั้งหลายที่คอยสอดแนมเรื่องราวชาวเมืองมาให้นางต่างหากล่ะ

“คิดมิถึงว่าท่านองครักษ์ผู้เกรียงไกรก็เป็นทาสแมวกับเขาด้วย”

°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°

นิยายเรื่องนี้เป็นจินตนาการของนักเขียน ไม่ได้อ้างอิงประวัติศาสตร์ใดๆ ทั้งตัวละครและสถานที่ต่างๆเกิดขึ้นจากจินตนาการของนักเขียน

สารบัญ

สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่1 ข้ามภพ(ตอนต้น),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่2 ข้ามภพ(ตอนปลาย),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่3 เยว่ซิน(ตอนต้น),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่4 เยว่ซิน(ตอนปลาย),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่5 สัมผัสพิเศษ(ตอนต้น),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่6 สัมผัสพิเศษ(ตอนปลาย),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่7 มิติที่3(ตอนต้น),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่8 มิติที่3(ตอนปลาย),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่9 ดูดวง(ตอนต้น),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่10 ดูดวง(ตอนปลาย),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่11 หมาป่าโฉดชั่ว(ตอนต้น),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่12 หมาป่าโฉดชั่ว(ตอนปลาย),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่13 มารดาตัดขาด(ตอนต้น),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่14 มารดาตัดขาด(ตอนปลาย),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่15 อาชีพเสริม(ตอนต้น),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่16 อาชีพเสริม(ตอนปลาย),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่17 ตงซูผิง(ตอนต้น),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่18 ตงซูผิง(ตอนปลาย),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่19 ทำพันธสัญญากับวิญญาณรูปงาม(ตอนต้น),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่20 ทำพันธสัญญากับวิญญาณรูปงาม(ตอนปลาย),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่21 ซื้อที่ดิน(ตอนต้น),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่22 ซื้อที่ดิน(ตอนปลาย),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่23 สำรวจที่ดิน+ดูดวงคนชั่ว(ตอนต้น),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่24 สำรวจที่ดิน+ดูดวงคนชั่ว(ตอนปลาย),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่25 ก่อกวน(ตอนต้น),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่26 ก่อกวน(ตอนปลาย),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่27 สหายใหม่(ตอนต้น),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่28 สหายใหม่(ตอนปลาย),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่29 ช่วยเหลือสหาย(ตอนต้น),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่30 ช่วยเหลือสหาย(ตอนปลาย),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่31 มนต์เรียกผัว(ตอนต้น),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่32 มนต์เรียกผัว(ตอนปลาย),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่33 ท้าทาย(ตอนต้น),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่34 ท้าทาย(ตอนปลาย),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่35 ออกเดินทาง(ตอนต้น),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่36 ออกเดินทาง(ตอนปลาย),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่37 กลิ่นประหลาด(ตอนต้น),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่38 กลิ่นประหลาด(ตอนปลาย),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่39 จับฆาตกร(ตอนต้น),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่40 จับฆาตกร(ตอนปลาย),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่41 ถึงเสียที(ตอนต้น),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่42 ถึงเสียที(ตอนปลาย),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่43 คนคุ้นเคย(ตอนต้น),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่44 คนคุ้นเคย(ตอนปลาย),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่45 ตระกูลโจว(ตอนต้น),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่46 ตระกูลโจว(ตอนปลาย),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่47 ยืนยันตัวตน(ตอนต้น),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่48 ยืนยันตัวตน(ตอนปลาย),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่49 ทำตามสัญญา(ตอนต้น),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่50 ทำตามสัญญา(ตอนปลาย),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่51 กลับบ้านเกิด(ตอนต้น),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่52 กลับบ้านเกิด(ตอนปลาย),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่53 ฝันประหลาด(ตอนต้น),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่54 ฝันประหลาด(ตอนปลาย),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่55 ท้องพระโรง(ตอนต้น),สำนักดูดวงอันดับหนึ่ง-ตอนที่56 ท้องพระโรง(ตอนปลาย)

เนื้อหา

ตอนที่26 ก่อกวน(ตอนปลาย)

ยามดึกสงัดท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยเมฆดำ ทั่วทั้งเรือนนอนของชายผู้นั้นถูกปกคลุมไปด้วยไอเย็น แต่ทว่าด้านในตัวเรือนกลับรู้สึกร้อนราวกับถูกแผดเผาด้วยไฟโลกันตร์ กรอบหน้าคมมีเม็ดเหงื่อผุดพลายไปทั่วใบหน้า เขานอนพลิกไปมาด้วยความกระสับกระส่าย สุดท้ายทนความร้อนที่ผิดปกตินี้ไม่ไหวจึงลุกขึ้นมานั่งด้วยความโมโห

“ใครอยู่ข้างนอก! เข้ามาพัดให้ข้าหน่อย” เขาเอ่ยสั่งเสียงเข้ม

โดยไม่คาดคิดอากาศรอบด้านกลับเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันราวกับเล่นกล จากความร้อนระอุเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นหนาวเย็นยะเยือกราวกับยืนอยู่ท่ามกลางพายุหิมะ ชายหนุ่มได้ยินเสียงกุกกักที่หน้าประตูห้อง พลันหน้าซีดลง แต่เมื่อนึกได้ว่าคงเป็นบ่าวไพร่จึงมีสีหน้าที่ดีขึ้นเล็กน้อย

แอ๊ดด...

“มาแล้วเจ้าค่ะ..” บ่าวรับใช้หญิงท่าทางเรียบร้อย เดินก้มหน้าเข้าไปใกล้ชายหนุ่มในห้อง

“เจ้ารู้สึกว่าวันนี้อากาศผิดปกติหรือไม่ เมื่อครู่ข้ายังรู้สึกร้อน แต่ทว่าตอนนี้ข้ากลับรู้สึกหนาว” ชายหนุ่มตัวสั่นเล็กน้อย เขาหยิบผ้าห่มขึ้นมาห่อหุ้มกายเอาไว้

“ข้าก็รู้สึกหนาวเจ้าค่ะ ข้าหนาวววว..หนาวเหลือเกิน....” สาวใช้เงยหน้าขึ้นช้าๆ เผยให้เห็นโฉมหน้าที่มีบาดแผลเหวอะหวะ น้ำหนองสีเหลืองไหลเยิ้มออกจากบาดแผลจนเปื้อนไปทั่วหน้าของนาง

“เฮ้ยยยย! ผีหลอกๆ ใครก็ได้ช่วยข้าด้วยยย!” ชายหนุ่มผงะตกใจสุดขีด เขาถอยกรูดออกไปจนตกจากเตียงลงไปอยู่บนพื้นเย็น

วี๊ดดด วี๊ดดด....

เสียงร้องของบางสิ่งดังขึ้นท่ามกลางความมืดด้านนอก มันดังเข้ามาใกล้เรือนนอนของชายหนุ่มขึ้นเรื่อยๆ หน้าต่างที่เคยปิดสนิทถูกลมพายุพัดเข้ามาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยจึงทำให้เปิดอ้าออกราวกับกำลังต้อนรับบางสิ่ง

ชายหนุ่มตัวสั่นเทางันงก เขาไม่กล้าวิ่งหนีออกไปทางด้านประตูทางเข้า เพราะผีสาวใช้นางนั้นยังคงนั่งอยู่ไม่จากไปไหนทั้งนางยังพูดตลอดเวลาว่า 'หนาววว หนาวเหลือเกิน’ เขามองไปทางหน้าต่างเห็นเงาดำทะมึนคล้ายกับเงาของสัตว์ร้ายมันกำลังคืบคลานเข้ามาจวนจะถึงเรือนนอนของเขาอยู่รอมร่อ มือหนาตัดสินใจเอื้อมไปหมายจะปิดหน้าต่างไว้ให้สนิท แม้มือนั้นจะสั่นเทาจนมิอาจควบคุมได้แต่ทว่าเขาก็พยายามอย่างสุดความสามารถ จนในที่สุดเขาก็สามารถปิดหน้าต่างบานนั้นลงได้ ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เขากวาดตามองไปรอบห้อง ไม่เห็นผีสาวใช้อีกแล้ว เขายันตัวลุกขึ้นด้วยขาที่สั่นเทาจนมิอาจเดินได้เฉกเช่นคนปกติ สองขาเดินย่องช้าๆ ไปเกือบถึงประตูทางออก แต่เหมือนสวรรค์จะมิเข้าข้าง

“มืดค่ำเช่นนี้ จะไปไหนหรืออออ ท่านพี่...” เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากบนเตียงนอนของเขา

เสียงที่คุ้นหูนั้นดังขึ้นทำให้เขา ‘ซุนไห่’ ตัดสินใจหันกลับไปมองที่มาของเสียง คนบนเตียงนั้นช่างเหมือนกับฮูหยินผู้ล่วงลับของเขาไม่มีผิดเพี้ยน เพียงแต่ว่านางได้สิ้นใจไปแล้ว นางจะมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร

“ซูซู...” เขาราวกับละเมอออกมา

“ท่านพี่...มาหาน้องสิเจ้าคะ” มือเรียวตบลงบริเวณว่างข้างกาย

“ไม่...ไม่ ไม่!เจ้าตายไปแล้ว อย่ามาหลอกหลอนข้า” เขาถอยหลังหนี

“ท่านพี่ไม่รักน้องแล้วหรือเจ้าคะ” นางปาดน้ำตา ร่างบางเดินออกจากเตียงนอนช้าๆ นางเดินตรงไปยังซุนไห่ ระหว่างนั้นใบหน้าก็นางก็แปรเปลี่ยนเป็นแผลพุพอง ไม่เหลือเคล้าความงามดั่งเช่นตอนมีชีวิตอยู่

“เจ้าอย่าเข้ามานะ ออกไปนะ ข้ากลัวแล้วๆ ข้าขอโทษ” เขาก้มหัวคารวะโขลกพื้นจนหน้าผากปูนแดง

ทันใดนั้นวิญญาณฮูหยินของเขาก็จางหายไป เขาคิดว่าฮูหยินของตนคงจะยกโทษให้แล้ว ในคราที่นางยังมีชีวิตอยู่ เขาทุบตีนางทุกวัน ซ้ำยังรับอนุมานับไม่ถ้วนสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้นาง วันนั้นเขาลงมือทำร้ายนางดั่งเช่นทุกวัน คาดไม่ถึงว่านางจะถึงขั้นปลิดชีวิตตนหนีความทรมานนี้ไปเสียวันนั้น

เมื่อได้สติแล้วเขาก็วิ่งหนีออกมาจากเรือนไม่คิดชีวิต แม้แต่รองเท้าก็ยังไม่เวลาใส่ เขารู้สึกราวกับทั่วทั้งเรือนมีเพียงเขาผู้เดียว ทุกอย่างเงียบสงบราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น ไม่ว่าเขาจะตะโกนเรียกบ่าวไพร่หรือคนในเรือนเช่นไรก็ไม่มีผู้ใดออกมาแม้แต่ผู้เดียว ครั้นวิ่งไปเรือนนอนของท่านแม่ก็ปรากฏว่ามันเปิดไม่ออก ไม่ว่าเขาจะวิ่งไปเปิดประตูที่เรือนใดของไม่สามารถเปิดออกได้แม้แต่เรือนเดียว

นั่นก็เป็นเพราะว่าเยว่ซินได้ให้หานฉีสะกดคนทั่วทั้งเรือนให้หลับใหลไม่ตื่นขึ้นมา ส่วนที่ประตูเปิดไม่ออกนั่นก็เพราะว่าไป๋ซื่อและไป๋อู๋ดึงประตูไว้นั่นเอง แรงมนุษย์หรือจะมาสู้แรงวิญญาณ

“จะไปไหนหรือออ.... ข้าหิววว หิวเหลือเกินนน...” วิญญาณหลายตนเริ่มเข้ามามุงล้อมตัวชายหนุ่มเอาไว้ ให้เขาหมดหนทางวิ่งหนี

โฮกกกก! โฮกกก!

ซุนไห่ได้ยินเสียงสัตว์ร้ายคำรามก็ยิ่งเพิ่มความกลัวเข้าไปจนแทบเสียสติ “ปล่อยข้าไปเถิด ข้ากลัวแล้วๆ”

วิญญาณตนหนึ่งทำหัวหลุดออกจากบ่าอย่างจงใจ มันกลิ้งหลุนตรงไปยังชายหนุ่มพอดิบพอดี “อ๊าาาาาาาา”

 เขาภาพตัดไปท่ามกลางเสียงหัวเราะของวิญญาณร้าย เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหายนะที่แท้จริงกำลังมาเยือน.....



ยามฟ้าสางบริเวณโดยรอบยังคงมองเห็นได้ไม่ชัดเจนนัก ชายหนุ่มผู้โชคดีเริ่มได้สติขึ้นมาบ้างแล้ว เขาขยับตัวเล็กน้อยไล่ความขบเมื่อยออกไป ไม่นานเขาก็นึกขึ้นได้ว่าเกิดอะไรขึ้น คราแรกเขานึกว่านั่นอาจจะเป็นความฝัน แต่เมื่อมองไปบริเวณโดยรอบขนแขนก็พลันลุกตั้งขึ้นมาพร้อมเพรียงกัน สถานที่เขาอยู่ขณะนี้ เป็นสถานที่ที่เขามิคุ้นเคย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร เขาลุกขึ้นยืนด้วยขาสั่นเทาแล้วเดินไปเรื่อยๆ เพื่อหาทางออก

แต่ไม่ว่าจะหาอย่างไร เขาก็หาทางออกไม่เจอ บางคราเขาก็เดินชนบางสิ่งที่ไม่รู้ว่าคือสิ่งใด เนื่องจากด้านในนี้มืดสนิทเสียยิ่งกว่าด้านนอกมากนัก

ทันใดนั้นเขาก็เดินตกลงไปในหลุมขนาดใหญ่ แต่ไม่ว่าจะปืนป่ายขึ้นมาอย่างไรก็ไม่สามารถทำได้เขา มือหนาสัมผัสถูกบางสิ่งที่มีลักษณะเหนียวหนืดแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เพราะคิดว่าคงเป็นโคลนดินตามปกติทั่วไป เขานั่งรออยู่ภายในนั้นจนกว่าจะมีแสงสว่างมากว่านี้เสียก่อนจึงค่อยหาทางออกไป “โอ๊ยย! อะไรกันนี่ เหตุใดข้าถึงซวยขนาดนี้”

ซุนไห่นั่งรออยู่ครู่หนึ่งจึงเริ่มเห็นบริเวณรอบด้านอย่างชัดเจน เขาจึงพยายามปืนออกจากหลุมนั้นออกไป แต่ทว่าเขากลับไม่เข้าใจว่าหลุมลึกไม่มากนัก เหตุใดก่อนหน้านี้เขาจึงปืนออกมาไม่ได้ เมื่อออกมาอยู่ด้านบนแล้วเขาจะต้องผงะตกใจจนล้มลงกับพื้นดิน เมื่อพบว่าบริเวณนี้เต็มไปด้วยหลุมศพ เพราะมันคือป่าช้าสำหรับฝังศพไร้ญาตินั่นเอง

เขาทอดมองลงไปภายในหลุมเมื่อครู่ จึงมองเห็นศพหญิงสาวนางหนึ่งเริ่มมีน้ำเลือดน้ำหนองไหลออกมาจนเต็มพื้นไปหมด ดวงตาคู่นั้นของนางมีหนอนมากมายกำลังชอนไชกัดกินอย่างเอร็ดอร่อย ชายหนุ่มมองอาภรณ์ตนเองที่เปื้อนไปด้วยน้ำสีเหลืองเป็นบางแห่ง บางจุดก็มีสีแดงคล้ำคล้ายเลือดเสีย ก็พลันอาเจียนออกมาทันที ยิ่งได้กลิ่นเน่าของศพลอยมาปะทะจมูกเขาก็ยิ่งคลื่นไส้ไปยิ่งกว่าเดิม



เวลาไล่เลี่ยกันก็มีข่าวออกมาว่าหลุมศพในป่าช้าถูกลื้อค้น โดยเฉพาะศพของหญิงสาว แต่ทว่าซากศพพวกนั้นมิได้หายไป เมื่อทางการตรวจสอบแล้วจึงพบว่าหญิงสาวทั้งหมดมีความเกี่ยวข้องกับซุนไห่

ชายผู้หนึ่งเล่าว่าเขาเคยเห็นซุนไห่ผู้นั้นออกมาจากป่าช้า ซ้ำเนื้อตัวยังเปื้อนไปด้วยน้ำเลือดน้ำหนอง ยามที่เข้าไปใกล้เขาก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยมา ผู้คนจึงร่ำลือกันว่า ‘ซุนไห่ร่วมเสพสุขกับศพอนุของตนในป่าช้า’



อีกด้านหนึ่งในบ้านหลังพอเหมาะบนพื้นที่กว้างขวาง เยว่ซินกำลังลิ้มรสสุราผลไม้ที่ตนหมักขึ้นมา พร้อมกับรับฟังความบรรเทิงจากเหยียนเหยาด้วยความเพลิดเพลิน

“ก็สมควรแล้ว ทั้งสามีและอนุต่างก็ทารุณกรรมนาง แม้แต่ตอนที่นางได้จากไปพวกมันก็ยังคงไม่สำนึก”นางยิ้มอย่างพอใจในบทเรียนของคนที่กล้ามาก่อกวนนาง