นางมีสัมผัสสวรรค์สามารถติดต่อกับวิญญาณได้ จึงเปิดสำนักดูดวงโดยมีบริวารผีเป็นหน่วยสอดแนม ในที่สุดสำนักดูดวงของนางก็มีชื่อเสียงขจรไปไกล
จีน,ชาย-หญิง,รัก,ย้อนยุค,นางเอกเก่ง,อนาคต,อดีต,จีนโบราณ,ทะลุมิติ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
นางมีสัมผัสสวรรค์สามารถติดต่อกับวิญญาณได้ จึงเปิดสำนักดูดวงโดยมีบริวารผีเป็นหน่วยสอดแนม ในที่สุดสำนักดูดวงของนางก็มีชื่อเสียงขจรไปไกล
ผู้แต่ง
หัตถ์หทัย
เรื่องย่อ
‘ไป๋อี้โยว’ หัวหน้าองครักษ์ประจำตัวฮ่องเต้แห่งราชวงศ์หลิน
ได้รับคำสั่งให้ออกตามหาชินอ๋องผู้เป็นอนุชาอันเป็นที่รักยิ่งของฮ่องเต้
“หากเจ้าดูดวงแม่นจริง เช่นนั้นเจ้าบอกได้หรือไม่เล่าว่าคนที่ข้าตามหาอยู่ที่ใด”
‘เยว่ซิน’ หมอดูที่ร่ำลือกันว่าแม่นอย่างกับตาเห็น แท้จริงแล้วนั้นนางไม่ได้ดูดวงเป็นแต่อย่างใด หากแต่นางมีสัมผัสสวรรค์ที่ผู้อื่นไม่มี ทั้งยังมีบริวารผีทั้งหลายที่คอยสอดแนมเรื่องราวชาวเมืองมาให้นางต่างหากล่ะ
“คิดมิถึงว่าท่านองครักษ์ผู้เกรียงไกรก็เป็นทาสแมวกับเขาด้วย”
°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°
นิยายเรื่องนี้เป็นจินตนาการของนักเขียน ไม่ได้อ้างอิงประวัติศาสตร์ใดๆ ทั้งตัวละครและสถานที่ต่างๆเกิดขึ้นจากจินตนาการของนักเขียน
กาลเวลาแปรผัน จิตมนุษย์แปรเปลี่ยนตามจิตวิสัย เหมันต์ฤดูปีที่15 ของร่างเดิม แต่ทว่าเป็นเพียงฤดูเหมันต์ครั้งที่2 ของจิตวิญญาณ
ทุกพื้นที่ในเรือนถูกประดับประดาด้วยผ้าสีมงคล บ่าวไพร่ที่ซื้อตัวมาจากโรงทาสผ่านการแนะนำของสหายทำงานอย่างขยันขันแข็ง ดอกไม้แปลกตานานาชนิดถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบตามที่เจ้าของงานต้องการ
ที่ด้านหน้ามีบ่าวไพร่จากตระกูลตงทยอยนำขนมมงคลเลิศรสที่มีชื่อเสียงขจรไปไกลจนถึงวังหลวงลงมาจัดวางจนเต็มโต๊ะ ก๋วยเตี๋ยวชื่อดังถูกส่งมาจากร้านฟางฝูส่งกลิ่นคละคลุ้งไปทั่วทั้งเรือน ทั้งยังมีอาหารแปลกตามากมายที่ถูกจัดทำขึ้นจากฝีมือของเยว่ซินและตงซูผิง
พิธีปักปิ่นในวันนี้จัดขึ้นเป็นงานเล็กๆ นางไม่ต้องการพิธีการใหญ่โต ไม่ต้องการให้มีคนอื่นมาเป็นแขกเพื่อร่วมอวยพร ขอเพียงมีครอบครัวของนางและคนสนิทเท่านี้นางก็พึงพอใจมากแล้ว
ยามนี้ถึงเวลาฤกษ์งามยามดี พิธีการเริ่มขึ้นท่ามกลางความยินดีของคนในครอบครัว เจ้าของงานวันนี้ นางงามสพรั่งเสียยิ่งกว่า 2ปีก่อนเป็นเท่าตัว ร่างเพรียวสวมชุดสีฟ้าครามปักลายผีเสื้อบินวนด้วยดิ้นเงินราวกับมีชีวิต ด้านนอกนางสวมชุดคลุมกันหนาวที่เข้าชุดกันมองดูแล้วทำให้รู้สึกสงบและเย็นสบายตา ใบหน้างามมิได้ถูกปกปิดความงามดั่งเช่นยามที่นางอยู่ด้านนอก
“ซินเออร์...บิดาขอให้เจ้าได้มีชีวิตครอบครัวดั่งที่เจ้าใฝ่ฝัน ขอให้เจ้าสมปรารถนาทุกประการ” นัยน์ตาคนที่ผ่านโลกมาพอสมควรคลอหน่วยไปด้วยหยาดน้ำตา แต่เขาจำต้องฝืนกลั้นไว้ไม่อาจให้ไหลออกมาได้ เขามองบุตรสาวด้วยความชื่นชมระคนสงสารที่นางไม่มีมารดาปักปิ่นลงบนผมให้เช่นบุตรสาวบ้านอื่นน
“แม้ข้าเยว่ซินจะมิมีมารดาปักปิ่นให้เช่นบุตรีบ้านอื่น แต่ท่านพ่อดูสิเจ้าคะ ข้ายังมีท่าน มีเสี่ยวหยาง ตงซูผิง ทั้งยังมีท่านแม่เพิ่มมาอีกหนึ่งคนอย่างตงฮูหยิน เช่นนี้ข้าก็มิจำเป็นต้องโหยหาสิ่งใดอีกแล้วเจ้าค่ะ” นางกวาดตามองไปรอบๆ ลานบ้าน
“เจ้าคือครอบครัวของข้าซินเออร์ ท่านลุงมิต้องกังวลสิ่งใด ที่ผ่านมาก็คงพิสูจน์ได้แล้วกระมังว่าข้าจริงใจกับนางมากเพียงไร ข้าของให้ซินเออร์ร่ำรวยๆ ทั้งวันหน้าได้พบบุรุษที่เพียบพร้อมเหมาะสมกับเจ้า”
“ซินเออร์...ปีนี้เจ้างามขึ้นเป็นเท่าทวี วันหน้าต้องกลายเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งเป็นแน่” ตงฮูหยินมองด้วยสายตาชื่นชม
“พี่สาว วันหน้าท่านต้องมีพี่เขยที่ยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน”
เสียงหัวเราะสลวนเฮฮาดังออกมาจากเรือนเดี๋ยวบนพื้นที่กว้างขวางเป็นระยะ รวมไปถึงด้านข้างกันเป็นพื้นที่ที่เยว่ซินได้จัดเตรียมงานรื่นเริงสำหรับบรรดาวิญญาณไว้เช่นกัน
สำนักดูดวงที่ถูกสร้างขึ้นมีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย วันนี้ก็เช่นกันนางได้รับสารว่าจะมีคนผู้หนึ่งเดินทางมาจากที่ห่างไกล ทั้งยังต้องการปกปิดตัวตนมิให้ผู้ใดรู้
“เจ้าว่าเป็นผู้ใดกัน เหตุใดจึงทำตัวลึกลับเช่นนี้”
“พวกที่ทำตัวลึกลับส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นผู้ดีมีอันจะกิน มิแน่ว่าอาจจะเป็นพวกภรรยาขุนนางที่ชื่นชอบการดูดวง” หานฉีเอ่ยขึ้นพลางโบกพัดประจำกายไปมา
“แต่ข้ารู้สึกมีลางสังหรณ์แปลกๆ เกรงว่าผู้มาเยือนครั้งนี้จะไม่ธรรมดา” นางขมวดคิ้วยุ่ง
“เอาเถอะๆ ประเดี๋ยวเหยียนเหยาก็กลับมาแล้ว เจ้าอย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้”
เจ้าของสำนักพยักหน้าอย่างเห็นด้วย แต่ก็อดกังวลไม่ได้ เนื่องจากปกติแล้วเหยียนเหยาไม่เคยไปสืบข่าวนานขนาดนี้ แต่สิ่งที่นางเป็นห่วงยิ่งกว่าข่าวของคนผู้นั้น ก็คือความปลอดภัยของเหยียนเหยาต่างหาก
“มาแล้วเจ้าค่ะ”
“เหยียนเหยา! เป็นอย่างไรบ้าง เกิดเหตุร้ายกับเจ้าหรือไม่” นางรีบเดินเข้าไปใกล้วิญญาณของคนสนิท
“ขอบคุณท่านที่เป็นห่วงข้าเจ้าค่ะ มิได้เกิดเหตุใดกับข้าเพียงแต่....ข้ามัวแต่รำลึกความหลังกับเพื่อนเก่าเจ้าค่ะ” เหยียนเหยาหลบสายตาเจ้านายตน
“เพื่อนเก่าหรือ”
“เจ้าค่ะ นางเกี่ยวพันกับคนที่กำลังเดินทางมาพบท่าน”
“อย่างไรหรือ”
“ผู้ที่กำลังมาพบท่านเป็นหลานสาวของสหายข้า นางแต่งเป็นฮูหยินเอกให้กับขุนนางตำแหน่งสูงผู้หนึ่ง ช่วงไม่กี่เดือนก่อนเขาได้รับมอบหมายให้ไปทำงานที่อำเภอเฉียว ทั้งที่ทำงานสำเร็จลุล่วงแล้ว แต่ทว่านางรอเขากลับมาวันแล้ววันเล่าเขาก็มิกลับมา จนสุดท้ายนางทนมิไหวจึงส่งให้คนไปสืบข่าวคราว จึงได้รู้ว่าสามีติดพันสาวงามผู้หนึ่ง และที่สำคัญสาวงามผู้นั้นเป็นถึงบุตรเจ้าเมืองเชียวนะเจ้าคะ เมื่อได้รับข่าวเช่นนี้นางจึงกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก ใจร้อนเดินทางไปเมืองเฉียวด้วยตนเอง เมื่อไปถึงที่นั่นแล้วนางกลับต้องช้ำใจยิ่งกว่าเดิมเพราะสามีวางแผนจะขอพระราชทานสมรสกับหญิงงามผู้นั้นแทนของรางวัลอื่นๆ เจ้าค่ะ” เหยียนเหยาเล่าไปก็โมโหแทนหลานสาวสหายไป
“ขอพระราชทานสมรสเป็นรางวัลหรือ! เช่นนั้นนางก็จะมีตำแหน่งอยู่สูงกว่าหลานสาวสหายของเจ้าน่ะสิ”
“ใช่เจ้าค่ะ แต่หลานสาวสหายข้าพบสิ่งผิดปกติเจ้าค่ะ สามีนางมีท่าทีที่แปลกไปราวกับคนละคนเลยเจ้าค่ะ นางรู้สึกราวกับเขาไม่ใช่สามีที่ร่วมเรียงเคียงหมอนกับตนเอง แต่ทว่าหน้าตาหรือกระทั่งน้ำเสียงก็ยังคงเหมือนเดิม เขาเอาแต่เรียกหาหญิงงามผู้นั้นทั้งวันทั้งคืน นี่แปลกมากเลยเจ้าค่ะ เพราะนางและสามีรักใคร่ชอบพอกันตั้งแต่ก่อนแต่งงานเสียอีก ภายในช่วงเวลาสั้นๆ คนเราจะเปลี่ยนใจไปได้ไวขนาดนี้เลยหรือเจ้าคะ”
“นั่นน่ะสิ ข้าว่าต้องมีอะไรผิดปกติเป็นแน่ เช่นนั้นเจ้าไปสืบที่เมืองเฉียวหน่อยดีหรือไม่”
“มิได้หรอกเจ้าค่ะ ข้ามิอาจข้ามเขตแดนนออกไปได้ ท่านคงต้องหาทางอื่นแล้ว” นางเสียใจเล็กน้อยที่ไม่ได้ทำงานนี้ด้วยตนเอง
ในที่สุดหานฉีที่นั่งฟังพวกนางคุยกันอยู่นานราวกับไม่มีตัวตนเอ่ยขึ้น “พวกเจ้าลืมข้าไปได้เช่นไร”
“จริงสิ! เจ้ามีตำแหน่งใหญ่โตในโลกวิญญาณนี่ แต่....มันข้ามเขตแดนเจ้าจะไม่เดือดร้อนหรือ” เยว่ซินลังเลใจ
“ไม่เชื่อมั่นข้าหรือ! ด้วยประสบการณ์พันปีของข้าหานฉีมิมีสิ่งใดที่ข้าไม่รู้และทำไม่ได้...” ร่างสูงที่มีไอเย็นลอยออกมาจากตัวตลอดเวลายืนขึ้น ทั้งโบกพัดไปมาราวกับผุ้ทรงภูมิ
“ไปกันเถอะหลัวอัน”
หนึ่งมนุษย์หนึ่งวิญญาณมองไอเย็นยะเยือกและไอร้อนราวกับพร้อมแผดเผาทุกสิ่งอยู่ตลอดเวลา ที่พักนี้ทั้งคู่มักจะตัวติดกันเสมอ หากแต่พวกนางก็ไม่กล้าคิดเป็นอื่น แม้ภายในใจจะรู้สึกแปลกๆ อยู่บ้างก็ตาม
เส้นทางด้านหลังของสำนักดูดวงที่เยว่ซินทำขึ้นไว้เพื่อลูกค้าที่ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนได้ใช้เป็นทางเข้า บัดนี้กำลังมีรถม้าคันเก่ากลางใหม่กำลังวิ่งอยู่อย่างระมัดระวัง ด้วยคนภายในรถม้าเคยนั่งเพียงแค่รถม้าหรูหราที่ถูกบุนวมอย่างดี ทำให้ไม่รู้สึกถึงแรงกระแทกจากด้านนอก
“จะช่วยได้จริงหรือจางมามา”
“มิลองก็มิรู้นะเจ้าคะ” คนสนิทร่างท้วมด้านข้างรินน้ำชาให้นายตน
“แต่ข้าว่าเราอาจจะมาเสียเที่ยวเสียมากกว่า มิสู้ให้ท่านพ่อส่งคนไปจัดการจะไม่ดีกว่าหรือ”
“แต่นางเป็นบุตรเจ้าเมืองเลยนะเจ้าคะ”
“หึ! ข้าก็มีชาติกำเนิดที่ดีเช่นกัน เหตุใดต้องกลัวนาง”